NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 235

ตอนที่ 235

บทที่ 235 ลู่หลุ่ยโมโห

“เธอเล่ารายละเอียดมา ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?” หลี่ฝางเอ่ยถามขึ้น

เฉียนเป่าเอ๋อจึงค่อยๆ เล่าออกมา

ที่แท้หลี่ต๋าคางจะซื้อที่ดินผืนหนึ่งในเมือง เพื่อเตรียมสร้างศูนย์อาหาร

คือที่ของร้านปิ้งย่างของเจ้าพานนั้น

หลี่ต๋าคางนำโครงการนี้ มอบให้ตระกูลเฉียนรับผิดชอบ

แต่เฉียนเฟิง พี่ชายของเฉียนเป่าเอ๋อ ตอนที่กว้านซื้อที่ดิน กลับแอบอมเงินไปครึ่งหนึ่ง

ในเงินที่กว้านซื้อที่ดิน เจ็ดส่วนตกอยู่ในกระเป๋าส่วนตัวของเฉียนเฟิง

เมื่อคืนหลี่ต๋าคางไปที่ร้านปิ้งย่างของเจ้าพานพอดี จึงได้รู้ความจริง และย่อมซักถามไล่เลียงความรับผิดชอบของเฉียนเฟิง

ตอนนี้ผู้อาวุโสตระกูลเฉียน กำลังสืบเสาะหาเบาะแสของเฉียนเฟิงไปทุกที่

และหากตามเฉียนเฟิงพบ เพียงเจอจะตัดขาสองข้างของเขา

เฉียนเฟิงคือพี่ชายแท้ๆ ของเฉียนเป่าเอ๋อ เวลานี้เฉียนเป่าเอ๋อจะไม่ร้อนใจได้อย่างไร?

หลังฟังที่มาที่ไปของเรื่องจบ หลี่ฝางร้องฮึอย่างเย็นชาคำหนึ่ง “ทำไมฉันต้องช่วยเขา?”

“ช่วยเหลือคนอื่น มักต้องมีเหตุผลสักข้อสิ?”

“พี่ชายเธอยักยอกเงินค่ารื้อถอนของคนจน ความจริงไม่ใช่คนดีอะไร คนเช่นนี้ ทำไมฉันต้องช่วยเขา?” หลี่ฝางหัวเราะเฮอะเฮอะ พร้อมเอ่ยถาม

ทันใดนั้น เฉียนเป่าเอ๋อตะลึงงัน

ถูกต้อง ทำไมหลี่ฝางต้องช่วยตน?

ตนและหลี่ฝาง ความจริงไม่ได้สนิทสนมกัน

หลี่ฝางหัวเราะเสียงเย็น “ทั้งหมดนี้เป็นเพราะพี่ชายเธอหาเรื่องใส่ตัว โทษคนอื่นไม่ได้ ยิ่งกว่านั้นคนที่จะตัดขาพี่ชายเธอ คือปู่เธอ ไม่ใช่พ่อฉัน”

“เธอมาหาฉันทำไม ควรไปหาปู่เธอคงจะดีกว่า!”

หลี่ฝางกลอกตามองเฉียนเป่าเอ๋อ ก่อนจากไป

เฉียนเป่าเอ๋อขมวดคิ้ว ชายคนนี้ ทำไมไม่ให้เกียรติกันแบบนี้?

อีกอย่างจะพูดอย่างไร ตนก็ถือเป็นผู้หญิงสวยคนหนึ่ง?

ท่าทางแบบนี้?

แต่เฉียนเป่าเอ๋อพลันนึกขึ้นได้ หลี่ฝางมีสถานะเป็นถึงคุณชายใหญ่แสนล้าน ทำไมถึงเหมือนกับผู้ชายธรรมดาทั่วไป และวนเวียนอยู่รอบตัวตนกัน?

ปกติผู้ชายรอบกายเฉียนเป่าเอ๋อ เพียงเธออ้าปาก พวกเขาจะตอบตกลงอย่างเชื่อฟัง แต่หลี่ฝางกลับเห็นเธอไร้ตัวตน

“ไม่ได้ ต้องให้เขาเอ่ยปากช่วยให้ได้ ไม่งั้นพี่ชายต้องตายแน่”

เมื่อมองแผ่นหลังของหลี่ฝางจากไป เฉียนเป่าเอ๋อเอ่ยด้วยสีหน้ามุ่งมั่น

หลายวันหลังจากนั้น

หลี่ฝางเพราะเรื่องของบริษัท จึงวิ่งวุ่นไปมา

ห้องนอนในบ้านพักต่างอากาศ หลี่ฝางได้เปลี่ยนแปลงทั้งหมดเป็นห้องถ่ายทอดสด

ยังมีห้องเต้นรำ ทำเพื่อให้พวกพิธีกรซ้อมเต้นโดยเฉพาะ

อุปกรณ์ขายออนไลน์ต่างๆ ทั้งหมด

ส่วนทางลุงเฉียนนั้น จะเข้าซื้อซอฟต์แวร์ทำวิดีโอสั้น ที่ชื่อถู่โต้ว

หลี่ฝางไปพบหลี่เสี่ยวเสี่ยวรอบหนึ่ง

หลี่เสี่ยวเสี่ยวเห็นหลี่ฝาง เอ่ยด้วยสีหน้าไม่พอใจ “ยังจำเพื่อนอย่างฉันคนนี้ได้เหรอ นานขนาดนี้ ไม่รู้จักโทรมาซะบ้าง”

“เพราะยุ่งไม่ใช่เหรอ” หลี่ฝางยิ้มอย่างอึดอัด พลางเอ่ยขึ้น

หลังคุยกันสักพัก หลี่ฝางเข้าสู่ประเด็น “ฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอ”

“เกี่ยวกับลู่หลุ่ยเหรอ?” หลี่เสี่ยวเสี่ยวพลันคาดเดาออก

“วันนั้นฉันและลู่หลุ่ยเจอกัน ยังพูดถึงนาย ความหมายของเธอชัดเจนมาก ไม่ใช่ไม่คืนเงินนาย แต่ไม่คิดอยู่ร่วมกับนาย”

หลี่เสี่ยวเสี่ยวเบ้ปากพลางเอ่ย “นี่ไม่ใช่แค่ความคิดของลู่หลุ่ย ยังเป็นความคิดของลุงลู่ด้วย”

หลี่ฝางพยักหน้าอย่างคาดเดาไว้อยู่แล้ว

หลายวันนี้ลู่หลุ่ยไม่รับสายเขาตลอด ไม่ตอบข้อความตน หลี่ฝางเข้าใจถึงจุดนี้

“นายคิดทำยังไงต่อไป ปล่อยลู่หลุ่ยไป หรือว่า?”

หลี่เสี่ยวเสี่ยวเอ่ยว่า “นิสัยของลู่หลุ่ยค่อนข้างดื้อรั้น เรื่องที่เธอตัดสินใจ ยากที่เปลี่ยนแปลงอย่างมาก”

“ฉันปล่อยเธอไปไม่ได้” หลี่ฝางเอ่ยอย่างหนักแน่น

“หลงใหลเสียจริง” หลี่เสี่ยวเสี่ยวหัวเราะเฮอะเฮอะ ก่อนเอ่ยขึ้น “แต่นายอย่าเพิ่งท้อใจ ลู่หลุ่ยได้งานทำแล้ว และยังทำเงินได้เยอะด้วย”

“งานอะไร?”

“ขายออนไลน์” หลี่เสี่ยวเสี่ยวมองหลี่ฝาง ก่อนถามกลับว่า “นายไม่รู้เหรอ ลู่หลุ่ยดังจะตาย”

“ดังยังไง?” หลี่ฝางเอ่ยอย่างแปลกใจ

“พวกนายเรียนที่เดียวกันไม่ใช่เหรอ ในงานเลี้ยงปีใหม่ ลู่หลุ่ยร้องเพลง 《ขอเป็นหูเป็นตาให้นะ》ถูกคนบันทึกไว้ ก่อนจะโพสต์ลงบนTik Tok แป๊บเดียวดึงดูดผู้ชมเข้ามาดูกว่าล้านคน”

“เดิมทีลู่หลุ่ยเป็นนักศึกษาคณะวารสารศาสตร์ เสียงอ่อนหวาน หน้าตาโดดเด่น ทั้งหมดนี้สามารถเป็นเน็ตไอดอลได้ ขาดเพียงบรรจุภัณฑ์เท่านั้น”

“ตอนนี้ลู่หลุ่ยเองเปิดบัญชีใน Tik Tok แล้ว มีแฟนคลับหลายล้านคนทีเดียว”

“สองวันนี้เธอเปิดไลฟ์ ทำเงินได้หลายพันเชียว”

หลี่เสี่ยวเสี่ยวกล่าวยิ้มๆ ว่า “หากเป็นแบบนี้ต่อไป ไม่ถึงปี เธอจะคืนเงินนายได้แล้ว”

หลี่ฝางขมวดคิ้ว ราวกับไม่ค่อยสบอารมณ์

ช่วงนี้หลี่ฝางมักดูไลฟ์สด การถ่ายทอดสดส่วนมาก ไม่เปิดหน้าอก แต่งตัวยั่วยวน ไม่งั้นก็สมคบคิดกับพวกสายเปย์

การหยอกล้อกับสายเปย์ในไลฟ์รูปแบบต่างๆ

มิฉะนั้น แทบไม่มีคนกดมอบของขวัญให้

ดังนั้นหลี่ฝางเมื่อได้ยินว่าเพียงไม่กี่วันหาเงินได้หลายพัน ย่อมรู้สึกไม่พอใจ

หรือลู่หลุ่ยก็กลายเป็นผู้หญิงแบบนี้ไปแล้ว?

“ลู่หลุ่ยปกติไลฟ์ที่ไหน และไลฟ์กี่โมง?” หลี่ฝางรีบถามขึ้น

“ในTik Tokเธอดังมาก ย่อมต้องไลฟ์ในTik Tok แต่ฉันเองก็สมัครเหมือนกัน เตรียมตัวไลฟ์สด” หลี่เสี่ยวเสี่ยวเห็นลู่หลุ่ยหาเงินได้ พลันสนใจการไลฟ์สดขึ้นมาทันที

“เธอก็เล่นTik Tokเหรอ?” หลี่ฝางถามขึ้น

“ฉันไม่เล่น ไลฟ์สดในTik Tokมีมากเกินไป และระเบียบเคร่งครัด แค่เปิดหน้าอก ถูกบล็อกบัญชีทันที”

“ฉันเปิดของถู่โต้ว แอพถู่โต้วสร้างขึ้นมาประมาณปีกว่าแล้ว ระเบียบไม่ค่อยเยอะ และคนมีมากทีเดียว อย่างน้อยมีคนดูหลายร้อยคน”

หลี่ฝางหัวเราะเฮอะเฮอะ โดยไม่ได้บอกกับลู่หลุ่ยว่าถู่โต้วตอนนี้เป็นของเขาแล้ว

“ลู่หลุ่ยไลฟ์แล้ว”

ทันใดนั้น มือถือของหลี่เสี่ยวเสี่ยว มีข้อความเด้งขึ้นมา

บนข้อความเขียนว่าหนุ่มน้อยอันดับที่หนึ่งแอดวีแชท

หลี่ฝางเห็นข้อมูลที่ส่งมานี้ พลันโมโหขึ้นทันที

ทำไมลู่หลุ่ยถึงน่ารังเกียจแบบนี้!

“รีบส่งลิงก์ไลฟ์สดให้ฉัน” หลี่ฝางขมวดคิ้วเอ่ยขึ้น

หลังลู่หลุ่ยส่งไป หลี่ฝางรีบกดเข้าไปทันที

เพียงเข้าไป หลี่ฝางเห็นบัญชีหนึ่งที่ชื่อว่า ‘หมาป่าใหญ่’ กำลังกด ‘แฟนสาว’ อยู่ในไลฟ์ขึ้นมา

‘แฟนสาว’ คือของขวัญประเภทหนึ่งในไลฟ์สดของTik Tok ยี่สิบสามหยวนต่อครั้ง

ลู่หลุ่ยเพิ่งไลฟ์เพียงไม่กี่นาที ผู้ชายคนนี้กดกว่าหนึ่งพันหยวน จึงครอบครองอยู่ในลำดับที่หนึ่ง

“หมาป่าใหญ่คนนี้ ติดอันดับที่หนึ่งของลู่หลุ่ยตลอด ลู่หลุ่ยบอกว่า ใครครองอันดับหนึ่งของเธอได้หนึ่งสัปดาห์ติดกัน เธอจะเลี้ยงข้าวคนนั้น ฉันว่าหมาป่าใหญ่นี่ ต้องอยากให้ลู่หลุ่ยเลี้ยงข้าวเขาแน่” หลี่เสี่ยวเสี่ยวที่อยู่ด้านข้างเอ่ยขึ้น

“เลี้ยงขี้มันยังดีกว่า” หลี่ฝางได้ยิน เอ่ยอย่างโมโห

“หึงเหรอ?” หลี่เสี่ยวเสี่ยวเห็นหลี่ฝาง หัวเราะฮิฮิขึ้นมา

หลี่ฝางไม่ปฏิเสธ ตนโมโหขนาดนี้ ไม่ใช่หึงหรืออย่างไร?

หลี่ฝางสมัครบัญชีขึ้นมาอันหนึ่ง ใช้ชื่อว่าหมาป่าใหญ่คือคนโง่!

“แม่งเอ้ย โดนปฏิเสธ คำว่าโง่นี้ใช้ไม่ได้!” หลี่ฝางด่าทออย่างโมโห

“งั้นนายใช้หมาป่าใหญ่คือลูกชายฉันสิ” หลี่เสี่ยวเสี่ยวเอ่ยขึ้น

หลี่ฝางใช้ชื่อหมาป่าใหญ่คือลูกชายฉันนี้จริงๆ!

ในไลฟ์มีคนกว่าพันคน หลี่ฝางเข้าไปย่อมไม่ถูกคนเห็น

แต่หลี่ฝางเติมเงินเข้าไปหนึ่งหมื่นหยวน เพื่อกดส่งของขวัญ และยังกดส่ง ‘แฟนสาว’ อีกด้วย

ทันใดนั้น ในไลฟ์วุ่นวายทันที

“พี่หมาป่าใหญ่มีคนเตะพี่แล้ว!”

“หมาป่าใหญ่ ดูเขาจะมือเร็วกว่านายหลายเท่า นายไม่มีฝีมือเหรอ ทำไมส่งชักช้านัก?”

มือของหลี่ฝางรวดเร็วกว่าหมาป่าใหญ่อย่างมาก ไม่ถึงหนึ่งนาที หลี่ฝางกดส่งไปกว่าสองพันหยวน

เพื่อไม่ให้ถูกลู่หลุ่ยสงสัย หลี่ฝางจึงหยุดมือลง

ส่วนลู่หลุ่ยนั้น เพียงร้องเพลงอยู่ในนั้นอย่างสงบเงียบ ราวไม่รับรู้การมาถึงของหลี่ฝาง

หลี่ฝางกดส่งของขวัญ ลู่หลุ่ยไม่ได้ร้องตะโกนตื่นเต้น

หลังร้องเพลง《ความทรงจำอันเจ็บปวด》จบ ลู่หลุ่ยจึงมองในไลฟ์แวบหนึ่ง ก่อนเริ่มขอบคุณ

“ขอบคุณหมาป่าใหญ่คือลูกชายฉันที่ส่งของขวัญให้นะคะ” หลังลู่หลุ่ยขอบคุณประโยคหนึ่ง สีหน้าพลันเปลี่ยนไป

เธอเพิ่งรู้สึกตัวว่าตนพูดผิดไป

“คนสวย หมายความว่าอะไร หมาป่าใหญ่กดส่งของขวัญให้เธอตั้งมากมาย นี้เธอกำลังด่าเขาเหรอ”

“ดุคนสวยทำไม ชื่อของเขาคือหมาป่าใหญ่คือลูกชายฉัน”

“หมาป่าใหญ่คือลูกชายฉันคืออันดับหนึ่ง คนสวยย่อมขอบคุณอันดับที่หนึ่ง”

ทันใดนั้น ในไลฟ์วุ่นวายอลวน

และทันใดนั้นหมาป่าใหญ่ลงมือ เขากดส่ง ‘แฟนสาว’ รัวเป็นชุด จนรายการสูงถึงสามพันหยวน แย่งชิงอันดับที่หนึ่งจากหลี่ฝางไป

“ไอ้โง่อันดับสอง ลงมือสิ?” หลังกดส่งเสร็จ หมาป่าใหญ่เอ่ยยั่วยุหลี่ฝาง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท