NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 242

ตอนที่ 242

บทที่ 242 ส้าวส้วย ถึงตานายลงมือแล้ว

“ฆ่าฉันเหรอ? นายเนี่ยนะ กับคนข้างหลังไม่กี่คน?”

เมื่อมองหวางเห้า เสือพูดอย่างเหยียดหยาม “นายดูถูกฉันเกินไปแล้วมั้ง?”

ถ้าเสือรับมือได้ง่ายขนาดนี้จริงๆ ก็คงไม่มีชีวิตอยู่จนถึงทุกวันนี้

นอกจากต้าเป่าและเสี่ยวเป่า เสือคนนี้ เป็นคนที่แข็งแกร่งมาก

ฝีมือของเขา น่าจะเท่ากับหวางเห้า

เสือส่ายหัว และไม่เห็นหวางเห้าอยู่ในสายตา

สำหรับเสือ สามารถกำจัดหวางเห้าได้ทุกเมื่อ เขาแค่กลัวการแก้แค้นของชางสู่

เสือหันหัวมามองจางกงหมิง “ฉันรับปากนาย”

เป้าหมายหลักของเสือ ยังคงเป็นจางกงหมิง

เนื่องจากมีจางกงหมิง ส่งผลกระทบอย่างมากต่อตำแหน่งคนที่จะอยู่ข้างกายของมู่เสี่ยวไป๋

“ฉันจะปล่อยพี่น้องนายไปก่อน” เสือพูดด้วยรอยยิ้ม

พวกนี้เป็นคนไร้ค่า ทำไมฉันต้องใส่ใจด้วย?

หากปราศจากผู้นำอย่างจางกงหมิง คนเหล่านี้ ก็เป็นเพียงแมลงวันไร้สมอง ไร้ประโยชน์

เสือโบกมือ และให้ลูกน้องตัวเอง ปล่อยคนของจางกงหมิงออกมาให้หมด

จางกงหมิงมองพี่น้องของตัวเอง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด “พวกนายยังเดินไหวไหม?”

“พี่ใหญ่ พวกเราไม่ไป พวกเราจะอยู่เป็นเพื่อนคุณ”

ต้องบอกเลยว่า พี่น้องของจางกงหมิงมีความภักดีมาก

จางกงหมิงทำสีหน้าเคร่งขรึมและพูดว่า “พอได้แล้ว อย่ามาไม้นี้กับฉัน รีบไสหัวไปจากที่นี่”

“แม้ว่าพวกนายจะอยู่ ก็จะช่วยอะไรฉันไม่ได้ แต่ในทางกลับกัน พวกนายอาจทำให้ฉันเดือดร้อน”

“ไม่ต้องกังวล คนอย่างฉันปัญหาเล็กใหญ่ขนาดไหนก็เจอมาแล้ว และตอนนั้นก็ผ่านมาได้อย่างปลอดภัยไม่ใช่หรือ?”

จางกงหมิงเหลือบมองไปที่หลี่ฝาง ก่อนจะเอื้อมมือไปขอกุญแจรถ

“ออกไปจากที่นี่ ไปยังที่ปลอดภัย แล้วโทรหาฉัน” จางกงหมิงพูด

“ตกลง”

ทุกคนพยักหน้า และพูดว่า “พี่หมิง ถ้าคุณตายแล้ว พวกเราจะล้างแค้นให้คุณ”

จางกงหมิงพูดไม่ออก “รีบๆไสหัวไป”

พี่น้องของจางกงหมิง ช่วยกันพยุงลงจากบันได

ผ่านไปประมาณสิบนาที เสือก็พูดอย่างเย็นชา “จางกงหมิง พี่น้องของนายก็ไปแล้ว ตอนนี้ คงส่งมอบต้าเป่าและเสี่ยวเป่าให้ฉันได้แล้ว!”

“ได้!”

จางกงหมิงพยักหน้า หิ้วต้าเป่า ใช้มีดบาดที่คอทันที

จากนั้น จางกงหมิงดึงจากมือของหวางเห้า แย่งเสี่ยวเป่ามา มองตรงที่หัวใจ และแทงเข้าไป

ทุกคนตกตะลึง

จางกงหมิงเหมือนแทงหุ่นเชิดจริงๆ ต้าเป่าและเสี่ยวเป่า ถูกฆ่าตาย

หลี่ฝางกลืนน้ำลายเล็กน้อย อย่างเหลือเชื่อ

จางกงหมิงคนนี้ โหดเหี้ยมเกินไปแล้วมั้ง?

ใบหน้าของหลินชิงชิง ก็ซีดเซียวเช่นกัน

มีเพียงหวางเห้าเท่านั้น ใบหน้าของเขา สะดุ้งก่อน จากนั้นก็ยิ้ม

เพราะยังไง หวางเห้าต้องการกำจัดเสืออยู่แล้ว ตอนนี้ต้าเป่าและเสี่ยวเป่าก็ตายแล้ว สำหรับหวางเห้า มันเป็นเรื่องดี

“ขอบใจ น้องชาย” หวางเห้าตบไหล่จางกงหมิง และพูดขอบคุณ

“ยังสงสัยฉันหรือไม่? จางกงหมิงยิ้ม และถาม

หวางเห้าส่ายหัว

จางกงหมิงฆ่าคนสนิททั้งสองคนของเสือ ตอนนี้ ใครจะสงสัยล่ะ!

แต่ว่าหวางเห้าไม่คาดคิด ครั้งนี้จางกงหมิง จะลงมือโหดเหี้ยมขนาดนี้!

ในขณะนี้ ใบหน้าของเสือ ดูน่าเกลียดมาก

ต้าเป่ากับเสี่ยวเป่า นอกจากจะมีฝีมือดีแล้ว ยังเป็นพี่น้องร่วมเป็นร่วมตายกับเสืออีกด้วย

“นาย… …” เสือกัดฟัน โกรธจนพูดอะไรไม่ออก

“ฉันจางกงหมิง ทั้งชีวิตนี้ทนเห็นพี่น้องลำบากไม่ได้ นายไอ้บ้า กล้าที่จะใช้เชือกแขวนคอพี่น้องของฉัน… …”

จางกงหมิงยิ้มอย่างเย็นชา สีหน้าก็โกรธมากเช่นกัน

เหตุผลที่จางกงหมิงฆ่าต้าเป่ากับเสี่ยวเป่า ก็เพื่อแก้แค้นให้พี่น้องของตัวเอง

“นายไม่กลัวตายเหรอ?” เสือถามอย่างเย็นชา

“ตราบใดที่ยังเป็นมนุษย์ ใครจะไม่กลัวตายล่ะ? แต่เสือ นายตั้งใจจะฆ่าฉันอยู่แล้ว ถ้าฉันปล่อยต้าเป่ากับเสี่ยวเป่าไป แล้วนายจะปล่อยฉันไปเหรอ? เป็นไปไม่ได้”

“และกลุ่มคนที่อยู่ข้างหลังของนาย พวกเขาเป็นคนของห้าวหนานและพวกเขาทั้งหมดต้องการให้ฉันตาย”

จางกงหมิงพูดอย่างตรงไปตรงมา “ที่จริงที่ฉันมา ก็เตรียมพร้อมที่จะตายแล้ว”

“ใช้ชีวิตของฉัน เพื่อแลกกับชีวิตพี่น้องของฉัน มันคุ้มแล้ว”

จางกงหมิงยิ้ม และพูดว่า “ฉันพาพวกเขาเข้าวงการ เพื่อต้องการให้พวกเขามีชีวิตที่ดีขึ้น และไม่อยากให้พวกเขามีจุดจบที่น่าสมเพช”

ดวงตาของเสือเย็นชา และวิ่งเข้ามาทันที

แม้ดูแล้วจะรู้สึกว่าเสืออ้วนเทอะทะ แต่ความเร็วนั้น เร็วมาก

จางกงหมิงกัดฟัน และตอบโต้ทันที

หวางเห้าขมวดคิ้ว และมองคนของ ห้าวหนานและลูกน้องของเสือ

พวกเขาไม่ลงมือ และหวางเห้าก็ไม่ลงมือเช่นกัน

สิ่งนี้แสดงให้เห็นชัดเจนว่า เป็นการต่อสู้ตัวต่อตัวของลูกพี่ใหญ่

เพียงสามกระบวนท่าเท่านั้น จางกงหมิงก็ถูกเสือทำร้ายจนอาเจียนเป็นเลือด และล้มลงกับพื้น

“จางกงหมิง ฉันจะส่งนายไปลงนรกเดี๋ยวนี้ ให้นายไปอยู่เป็นเพื่อนกับพี่น้องทั้งสองของฉัน” จากนั้น เสือก็ยกเท้าขึ้น มุ่งไปทางคอของจางกงหมิง และเหยียบมันลงไป

ในเวลาเดียวกัน หวางเห้าได้เตรียมพร้อมสำหรับการช่วยเหลือแล้ว

“นี่จางกงหมิง ทำไมอ่อนหัดขนาดนี้!” หวางเห้าส่ายหัว พุ่งตรงไป ยกเท้าสูง พุ่งไปที่หัวเสือ แล้วเตะเข้าไป

เมื่อเสือเห็นเหตุการณ์ ก็รีบยกแขนขึ้น และบังไว้

เสือถูกถีบจนถอยหลังไปหลายก้าว แสดงสีหน้าไม่พอใจ “พวกนายสองคนสู้หนึ่งคน หมายความว่ายังไง?”

“เสือ นายเคยต่อยอยู่วงการมวยเถื่อน มารังแกคนที่ไม่เคยฝึก แล้วหมายความว่าอะไร?”

“หวางเห้ายิ้มอย่างไม่แยแส “ถ้านายจะสู้ สู้กับฉัน”

“หวางเห้า เห็นแก่หน้าชางสู่ ฉันไม่อยากลงมือกับนาย ทางที่ดีนายอย่ามายุ่งเรื่องคนอื่น” เสือพูดด้วยความโมโห

“ที่แท้นายก็กลัวชางสู่เหรอ”

“นายเป็นเสือไม่ใช่หรือ? ทำไมถึงกลัวหนู?” หวางเห้ามองไปที่เสือ และยิ้มเยาะ

เสือกัดฟัน และมองหวางเห้า “เอาล่ะ ในเมื่อนายมาโดนหาที่เอง ฉันจะสู้กับนายสองกระบวนท่า”

“อย่างมาก ฉันก็ไว้ชีวิตนาย”

หลังจากเสือพูดจบ ก็ลงมือทันที

หวางเห้ารีบตอบโต้ทันที เมื่อทั้งสองเผชิญหน้ากัน หลี่ฝางก็แอบขึ้นไป และดึงจางกงหมิงกลับไป

“พี่หมิง ไม่เป็นไรใช่ไหม?” หลี่ฝางถามอย่างเป็นห่วง

“ไม่เป็นไร” จางกงหมิงส่ายหัวและพูด

ในความเป็นจริงถ้าเมื่อคืนนี้จางกงหมิงไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัส ในวันนี้จางกงหมิง คงไม่แพ้เร็วขนาดนี้

ในเวลานี้ส้าวส้วยได้เอ่ยขึ้นมา “เจ้านาย คนของเราอาจเสียเปรียบ”

“นายเห็นอะไรหรือ?” หลี่ฝางถามอย่างรีบร้อน

“คนที่กำลังเผชิญ แม้ปากเขาบอกว่าไม่ต้องการชีวิตของหวางเห้า ในความเป็นจริงแล้ว ในใจเขาต้องการฆ่าแน่นอน”

“เหตุผลที่เขาพูดเช่นนั้น ก็เพราะว่าเขาต้องการให้ส่วนลึกในใจหวางเห้า ไม่ทันระวัง”

ส้าวส้วยส่ายหัว และพูดว่า “ผู้ชายตรงข้าม ค่อนข้างฉลาด”

“ถ้างั้นต้องรีบเตือนหวางเห้าเร็วๆ” หลี่ฝางขมวดคิ้ว และพูดด้วยสีหน้ากังวล

“อันที่จริงมันไม่มีประโยชน์ แม้ว่าจะบอกหวางเห้า หวางเห้าก็แพ้แน่นอน แม้ว่าชายคนนั้นจะใช้เล่ห์เหลี่ยมเล็กน้อย แต่ความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเขา ก็ยังสูงกว่าหวางเห้า” ส้าวส้วยวิเคราะห์

“พูดเรื่องไร้สาระอะไร?”

“ไม่เห็นพี่เห้าตีจนเสือถอยหลังหลายครั้งเหรอ?”

“คนอย่างนายชมแต่คนอื่นและดูถูกตัวเอง เอาไปอยู่ในช่วงสงครามต่อต้านญี่ปุ่น ต้องเป็นคนทรยศแน่นอน” คนของหวางเห้าได้ยินการวิเคราะห์ของส้าวส้วย และพูดอย่างโกรธเกรี้ยว

ในเวลานี้หวางเห้าสู้จนเสือต้องถอยไปข้างหลัง ไม่ว่าใครดูแล้ว ก็คิดว่าหวางเห้าได้เปรียบ

หวางเห้าเป็นคนจู่โจมตลอด

สำหรับเสือ ก็ป้องกันตลอด

“ความพ่ายแพ้ถูกกำหนด” ส้าวส้วยถอนหายใจ และพูดว่า

หลังจากที่ส้าวส้วยพูดจบ มุมปากของเสือ ก็ปรากฏรอยยิ้มที่น่ากลัว

ในขณะนี้ เสือก็ออกแรงทันที และต่อยหวางเห้าจนถอยไปหลายก้าว

ไม่รู้เมื่อไหร่ สถานที่ที่หวางเห้าและเสือกำลังต่อสู้กันนั้น อยู่ฝั่งตรงข้ามแล้ว

ระยะห่างจากหลี่ฝาง ไกลเกินไป

“เสือคนนี้ กำลังหลอกล่อลูกพี่ของเราเหรอ?”

“เขาหลอกล่อลูกพี่พวกเราไปทางฝั่งลูกน้องของเขา แม้พวกเราอยากช่วย ก็คงไม่ทันแล้ว”

คนของหวางเห้า พึ่งจะรู้จุดประสงค์ของเสือ

“นาย นาย… …นายเก่งกว่าที่ฉันคิดไว้” หมัดของเสือ หนักมาก

ชกเข้าไปที่อกของหวางเห้า หวางเห้ารู้สึกว่า ซี่โครงบนอกของตัวเอง กำลังจะแตกหัก

“ดูเหมือนว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา นายไม่ได้ฝึกซ้อมดีๆ”

“วันสุขสบายของนาย มีมากเกินไป”

เสือยิ้มเยาะเย้ย

เสือและหวางเห้า เคยฝึกฝนทักษะมวยเถื่อน แต่หลังจากที่เสือออกมาแล้ว ก็ยิ่งฝึกซ้อมอย่างหนัก

สำหรับหวางเห้านั้น เฝ้าอยู่ในถิ่นฐานของตัวเอง ใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย

หลังจากผ่านไปนานๆ ฝีมือฝีเท้าของหวางเห้า ก็ไม่มีประสิทธิภาพขึ้นเรื่อยๆ

หลี่ฝางตบไหล่ของส้าวส้วย “ส้าวส้วย ถึงเวลาลงมือแล้ว!

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน