NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 234

ตอนที่ 234

บทที่ 234 ช่วยชีวิตเฉียนเป่าเอ๋อ

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ หลี่ฝางยิ้มแย้ม

“เช่นนั้นผมจัดการแล้วนะ”

ครั้งนี้หลี่ฝางเป็นฝ่ายเริ่มรุกก่อน

เพราะเรื่องพรรค์นี้ จะให้ผู้หญิงเป็นฝ่ายเริ่มได้อย่างไร?

ผ่านไปครึ่งชั่วโมง สีหน้าของหลี่ฝางขวยเขินบางส่วน

“พี่ มีบุหรี่ไหม?” หลี่ฝางเอ่ยถามเสียงไม่ดังมากนัก

“ในลิ้นชัก” เวลานี้หลินชิงกลับรู้สึกเขินอายเล็กน้อย

เธอนอนตะแคงอยู่บนเตียง หันหลังให้กับหลี่ฝาง

เมื่อเห็นรอยเลือดจางๆ บนเตียง อารมณ์ของหลี่ฝางสับสนบางส่วน

“พี่ชิงชิง นี้คือ…?” หลี่ฝางลังเลครู่หนึ่ง ก่อนเอ่ยปากถาม

หลินชิงชิงไม่พูดจา หลังผ่านไปหลายนาที กลับอืมตอบรับขึ้นมาคำหนึ่ง

หลี่ฝางไม่กล้าหัวเราะออกมา ไม่คาดคิดจริงๆ ว่าหลินชิงชิงจะมีมุมที่น่ารักและเขินอายเช่นนี้

เรื่องของหลินชิงชิง ความจริงทำให้หลี่ฝางคาดไม่ถึง…

เพราะหลินชิงชิงอายุมากกว่าตนขนาดนั้น และวันๆ เที่ยวเตร่อยู่บนถนน แต่กลับยังรักษาสิ่งนี้ไว้ได้ นี่ถือว่ายากที่จะพบพานสิน่ะ?

ครั้งก่อนหลินชิงชิงเอ่ยว่าตนคือสาวบริสุทธิ์ หลี่ฝางยังคิดว่าเธอล้อเล่นกับตน

คิดไม่ถึง กลับคือความจริง!

หลี่ฝางสูบบุหรี่ม้วนหนึ่ง รู้สึกว่าตนควรรับผิดชอบหลินชิงชิงถึงจะถูกต้อง

แน่นอนว่าหากหลินชิงชิงยินยอม

หลังสูบบุหรี่ม้วนหนึ่งหมด หลี่ฝางก็นอนลงกอดหลินชิงชิงไว้ “พี่ การกระทำของผมเมื่อครู่ คงแย่มากสินะ?”

“ใช่แย่มากเลย”

“แต่ไม่เป็นไร ยังไงฉันก็ไม่เคยเจอการกระทำที่ยอดเยี่ยมมาก่อน” หลินชิงชิงกลับไม่ได้รังเกียจ

หลี่ฝางพลิกกาย ก่อนพายุจะโหมกระหน่ำอีกครั้ง

ครั้งนี้หลี่ฝางกระทำได้ดีกว่าครั้งก่อนอย่างมาก

หลินชิงชิงและหลี่ฝางสองคนล้วนเหนื่อยหอบ

“ก่อนนี้ได้ยินเพียงว่าทำเรื่องพรรค์นี้สามารถช่วยลดความกดดัน ที่แท้เป็นความจริง” หลินชิงชิงเอียงศีรษะ ยิ้มให้กับหลี่ฝาง “ตอนนี้ฉันไม่กลัวแม้แต่นิดเดียว”

หลี่ฝางยิ้มอย่างขมขื่น “พี่กังวลว่าพ่อผมจะฆ่าคนปิดปากจริงๆ เหรอ?”

“ฉันเห็นเขาฆ่าคนกับตา หรือเขาไม่กลัวฉันจะแจ้งตำรวจ หรือบอกสิ่งที่เห็นทุกอย่างกับคนอื่น?” หลินชิงชิงเอ่ย

“พี่ แล้วพี่จะแจ้งตำรวจหรือบอกคนอื่นไหม?” หลี่ฝางเอ่ยถาม

“แน่นอนว่าไม่”

“งั้นก็เยี่ยมไปเลย” หลี่ฝางยิ้มแย้ม

“แต่ในสายตาของฆาตกร มีเพียงคนตายที่เก็บงำความลับไว้ได้” หลินชิงชิงเอ่ยขึ้นอีกครั้ง

หลี่ฝางลูบใบหน้าของหลินชิงชิง ก่อนเอ่ยอย่างหลงใหล “พี่วางใจเถอะ ผมไม่ให้พ่อทำร้ายพี่แน่”

“พรุ่งนี้ผมจะไปพบพ่อ บอกเรื่องความสัมพันธ์ของเราสองคน หากเขากล้าลงมือกับพี่ ผมจะตัดความสัมพันธ์พ่อลูกกับเขา!” หลี่ฝางเอ่ยปลอบโยน

หลินชิงชิงซาบซึ้งเล็กน้อย แต่กลับไม่เอ่ยสิ่งใดออกมา

หลังผ่านไปนาน หลินชิงชิงจึงเอ่ยว่า “พ่อแม่นายดูแล้วเป็นคนดี หากไม่เห็นกับตาเอง ฉันไม่เชื่อเด็ดขาดว่าพ่อนายจะฆ่าคนได้”

“และแม่นาย ตอนพ่อนายฆ่าคน เธอยืนอยู่ข้างๆ ด้วยสีหน้าสงบนิ่ง”

ขณะเอ่ย หลินชิงชิงนึกถึงมารดาตนขึ้นมา ก่อนหน้านี้ทุกครั้งที่ลูกพี่หลินออกไปต่อสู้ มารดาตนล้วนเข้าไปห้ามปราม จากนั้นทะเลาะกันอย่างหนัก

หลังผ่านไปสองชั่วโมง หลี่ฝางเกิดอารมณ์ขึ้น จึงเกาะกุมพัวพันกลับหลินชิงชิงอีกครั้ง

จากนั้น หลี่ฝางเหนื่อยล้าจนผล็อยหลับไป

เมื่อหลี่ฝางตื่นขึ้น พระอาทิตย์สาดส่องแสงขึ้นมาแล้ว

“พี่ กี่โมงแล้ว?” เมื่อลืมตา หลี่ฝางเอ่ยถามขึ้น

“พี่…”

หลี่ฝางเห็นหลินชิงชิงไม่อยู่ ตะโกนเรียกขึ้น

ทันใดนั้น เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ก่อนหลินชิงชิงถือน้ำเต้าหู้ ปาท่องโก๋ เดินเข้ามาในห้อง

“ตื่นแล้วเหรอ ลุกมาทานอาหารเช้าเร็ว” หลินชิงชิงเอ่ยยิ้มๆ

หลี่ฝางหยิบกางเกง เสื้อขึ้นมาสวมให้เรียบร้อย

ขณะทานอาหาร หลินชิงชิงก้มหน้าลง ไม่กล้ามองหลี่ฝาง

“ฉันจะไปทอดไข่ดาวให้นายสักสองฟอง”

“พี่ ไม่ต้องยุ่งยากหรอก” หลี่ฝางเอ่ยห้าม

แต่หลินชิงชิงยังไปทอดไข่สาวสองฟองมาให้หลี่ฝาง

“เมื่อคืนคงเหนื่อยมากสินะ ทานไข่บำรุงร่างกายสิ” หลินชิงชิงกล่าวยิ้มๆ

หลี่ฝางคิดในใจ ไข่สาวสองฟองจะบำรุงอะไรได้?

ขณะกำลังทานจะหมด หลี่ฝางอดเอ่ยถามไม่ได้ “พี่ ต่อไปพวกเราเป็นพี่น้องกัน หรือว่า…”

“พี่น้อง!”

หลี่ฝางยังเอ่ยไม่จบ หลินชิงชิงตัดบทหลี่ฝางขึ้น “อย่าคิดไปไกล เมื่อคืนฉันกลัวมากเกินไป ดังนั้นจึงให้นายควรคลายความกังวลให้ฉัน”

“อีกอย่าง นายมีแฟนแล้ว ฉันไม่คิดเป็นมือที่สาม” หลินชิงชิงกลอกตาใส่หลี่ฝางพลางเอ่ย

หลี่ฝางร้องอ้อคำหนึ่ง ก่อนก้มหน้ายัดปาท่องโก๋ในมือเข้าปาก

ไม่รู้เพราะอะไร เมื่อเห็นหลินชิงชิงรีบร้อนตัดความสัมพันธ์เช่นนี้ ในใจของหลี่ฝางจึงรู้สึกผิดหวัง

เธอไม่ได้ชอบเขาหรือ?

ทำไมต้องเป็นพี่น้อง?

หากหลินชิงชิงเอ่ยว่าเป็นคนรัก หลี่ฝางคิดว่าอาจตกลง

หรือสาเหตุจะมาจากลู่หลุ่ย?

หลี่ฝางคิดในใจ หากมีภรรยาสองคนได้คงดี

หลังออกมาจากห้องของหลินชิงชิง หลี่ฝางมักรู้สึกในใจว่างเปล่า

หลี่ฝางรู้สึกอาลัยอาวรณ์หลินชิงชิง

เพิ่งขึ้นรถ คิดถึงเธอทันที

ตนไม่ได้ชอบลู่หลุ่ยเหรอ? ทำไมจึงกลายมาเป็นหลินชิงชิง?

หลี่ฝางส่ายหน้า ไม่อยากคิดสิ่งใดทั้งนั้น ก่อนกลับถึงโรงเรียน

หลายวันนี้ หลี่ฝางขอลากับครูฝึก ยุ่งอยู่กับการก่อตั้งบริษัท

วันแรกหลี่ฝางไปที่บ้านพักต่างอากาศกลางหุบเขา

เมื่อหลี่ฝางมาถึง จ้าวเสี่ยวตาวและถิงถิงที่ขอบตาดำคล้ำเดินออกมา

ส้าวส้วยที่อยู่ด้านข้างพลางเล่นเกม Honor of Kings พลางจ้องมองพวกเขา

หลี่ฝางจึงเดินเข้าไป เอ่ยถามขึ้น “ไม่ได้นอนทั้งคืนเลยเหรอ?”

“เล่นเกม Honor of Kingsนะ” ส้าวส้วยตอบอย่างไม่สนใจ โดยไม่เงยหน้าขึ้น

“นี่แฮมเบอร์เกอร์ของแก” หลี่ฝางยื่นออกไป

ส้าวส้วยเห็นแฮมเบอร์เกอร์ รีบทิ้งโทรศัพท์มือถือไว้ด้านข้าง

ไม่ถึงสิบวินาที แฮมเบอร์เกอร์หนึ่งชิ้นถูกส้าวส้วยทานจานหมดเกลี้ยง

“ซื้อมาอันเดียวเหรอ?” ส้าวส้วยไม่พอใจ

“ในรถยังมีอีก รับรองมีให้แกกินจนพุงแตกตาย” หลี่ฝางเอ่ยกับส้าวส้วย

ส้าวส้วยได้ยิน วิ่งปรูดเข้าไปในรถของหลี่ฝาง

หลี่ฝางมองจ้าวเสี่ยวตาวแวบหนึ่ง ก่อนเอ่ยว่า “เอาล่ะ อย่ามัวโอ้เอ้อยู่เลย รีบไสหัวกลับบ้านซะ”

จ้าวเสี่ยวตาวเงยหน้าขึ้นอย่างซาบซึ้ง

“อย่าลืมเรียกพ่อกับแม่นายมาด้วย” หลี่ฝางเอ่ยขึ้นต่อ

สีหน้าของจ้าวเสี่ยวตาว พลันเคร่งเครียดลงทันที

“ยังคงเป็นคำนั้น แพ้ก็คือแพ้ หากพ่อแม่นายไม่มา ให้ตระกูลจ้าวของพวกแก รองรับความโกรธของตระกูลหลี่ของเราได้เลย” หลี่ฝางเอ่ยเสียงเย็น

จ้าวเสี่ยวตาวกำลังจะพูดบางอย่าง แต่ทันใดนั้นเฉียนเป่าเอ๋อก็มาถึง

ความจริงจ้าวเสี่ยวตาวยังคิดขอร้อง แต่สุดท้ายเมื่อเฉียนเป่าเอ๋อมาถึง เขารีบสลัดความคิดนี้ไปทันที

ต่อหน้าว่าที่คู่หมั้นของตน จะก้มหัวขอโทษชายอื่นไม่ได้ จ้าวเสี่ยวตาวทำใจไม่ได้

“เป่าเอ๋อ เธอมาได้ยังไง?” จ้าวเสี่ยวตาวเดินเข้าไปรับด้วยสีหน้าดีใจ

“ฉันไม่ได้มาหานาย” เฉียนเป่าเอ๋อมองจ้าวเสี่ยวตาวแวบหนึ่ง ก่อนรีบวิ่งเข้าไปหาหลี่ฝาง

เฉียนเป่าเอ๋อหลังเดินมาถึงหน้าหลี่ฝาง จึงเอ่ยว่า “หลี่ฝาง นายว่างหรือเปล่า ฉันอยากเลี้ยงข้าวนายสักมื้อ”

“เลี้ยงข้าว?” หลี่ฝางขมวดคิ้ว ก่อนเอ่ยขึ้น “ช่างมันเถอะ ฉันไม่ว่าง ยังต้องทำสัญญาซื้อบ้านนะ”

“งั้นฉันจะรอนาย” เฉียนเป่าเอ๋อเอ่ย

“แต่อาจต้องใช้เวลานาน” หลี่ฝางเอ่ย

เฉียนเป่าเอ๋อเอ่ยอย่างมีน้ำอดน้ำทนว่า “ไม่เป็นไร ฉันว่าง”

หลี่ฝางหัวเราะเฮอะเฮอะ แล้วไม่ได้พูดอะไร ก่อนเดินเข้าที่ฝ่ายขายพร้อมหวางจุน

หลี่ฝางพาพนักงานธนาคารมาด้วยสี่คน เพื่อนับเงินให้กับพวกเขาโดยเฉพาะ

ร้อยแปดสิบล้าน หากใช้พนักงานเช่นนี้ของจ้าวเสี่ยวตาวและถิงถิง เกรงว่าหนึ่งเดือนก็นับไม่หมด!

กลัวว่านับได้ไม่ถึงครึ่งหนึ่ง สองคนนี้อาจเสียสติไปก่อน

หลังซื้อบ้าน จัดการทำสัญญาเสร็จ ฟ้ามืดมิดแล้ว

เมื่อหลี่ฝางออกมาจากฝ่ายขาย ไม่คิดว่าเฉียนเป่าเอ๋อจะยังไม่จากไป

หลี่ฝางเห็นเฉียนเป่าเอ๋อ จึงขมวดคิ้วขึ้น “เธอคงไม่ได้อยากเลี้ยงข้าวฉัน แต่มีธุระกับฉันสินะ?”

เฉียนเป่าเอ๋อทราบถึงสถานะของตนแล้ว การเข้ามาใกล้ชิดของเธอ จึงต้องมีจุดประสงค์แอบแฝง

หลี่ฝางรังเกียจการเข้ามาใกล้ชิดประเภทนี้ที่สุด ดังนั้นหลี่ฝางจึงเอ่ยอย่างไม่พอใจ “พูดมา มีธุระอะไรกับฉัน?”

เฉียนเป่าเอ๋อลังเลครู่หนึ่ง ก่อนเอ่ยว่า “พี่ชายฉันเกิดเรื่อง”

“พี่ชายเธอเกิดเรื่องแล้วเกี่ยวอะไรกับฉัน?” หลี่ฝางตะลึงครู่หนึ่ง ก่อนเอ่ยอย่างจนใจ “ฉันเองก็ช่วยอะไรไม่ได้”

“เกี่ยวสิ และเรื่องนี้มีเพียงนายที่ช่วยฉันได้”

เฉียนเป่าเอ๋อเอ่ยด้วยสีหน้าร้อนใจ “พี่ชายฉัน โกงเงินตระกูลหลี่ของพวกนาย และถูกพวกนายเจอเข้า”

“หลี่ฝาง ช่วยขอร้องพ่อนาย ให้เขาปล่อยพี่ชายฉันสักครั้งได้ไหม?”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท