NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 247

ตอนที่ 247

บทที่ 247 ราชาหลี่ฝางกลับมาแล้ว!

“พวกคุณเข้าไปก่อน เดี๋ยวผมค่อยเข้าไปทีหลัง” หลี่ฝางพูด

เหยนเสี่ยวน่าทำตาเหลือกใส่หลี่ฝาง “นายจองที่นั่งไว้ ถ้านายไม่เข้าไป พวกเราเข้าไปจะมีประโยชน์อะไร?”

หลี่ฝางก็คิดเช่นนั้น เขาจึงโทรหาลุงเฉียนอีกครั้ง และให้เขาออกมาต้อนรับเหยนเสี่ยวน่าและคนอื่นๆ

ไม่นาน ลุงเฉียนก็ออกมา

“ทุกท่าน เชิญมากับฉัน” ลุงเฉียนออกมา พูดกับเหยนเสี่ยวน่าและคนอื่นๆด้วยความเคารพ

ทันใดนั้น ทำให้เหยนเสี่ยวน่าหวางเสี่ยวโก๋และคนอื่นๆก็ตกใจ

มีคนมาต้อนรับเป็นพิเศษ?

ให้เกียรติหลี่ฝางมากเกินไป

แต่อายุของบริกรคนนี้ ดูเหมือนจะอายุมากไปหน่อย

“หลี่ฝาง พวกเราเข้าไปก่อนนะ นายทำธุระเสร็จรีบเข้ามาหาพวกเรา” หวางเสี่ยวโก๋รีบบอกหลี่ฝาง และเข้าไปในบาร์

หลี่ฝางพยักหน้า

ทันทีที่หวางเสี่ยวโก๋และคนอื่นๆเข้าไปในบาร์ พวกเขาก็ตกตะลึงกับมังกรทองยักษ์ตัวนั้น

มังกรยักษ์สูงมากกว่าสิบเมตร และวางตรงไปจนสุดบาร์

มังกรทองยักษ์ตัวนี้ ไม่เพียงแต่เป็นจุดเด่นของRecalling the pastเท่านั้น แต่ตอนนี้มันกลายเป็นสัญลักษณ์ของตงไห่

“พี่(ลูกพี่ลูกน้อง) ถ่ายรูปผมกับมังกรยักษ์ตัวนี้หน่อย ผมจะโพสต์ลงในกลุ่มเพื่อน” หวางเสี่ยวโก๋ยื่นโทรศัพท์มือถือของตัวเองให้เหยนเสี่ยวน่า

เหยนเสี่ยวน่าส่ายหัวของเธอ ความรู้สึกที่มีต่อน้องชาย(ลูกพี่ลูกน้อง)ของเธอนั้น หมดคำจะบรรยายจริงๆ

เลี่ยวข่ายก็ให้หลี่ซ่วยซ่วยช่วยถ่ายรูปให้เขา และโพสต์ลงในกลุ่มเพื่อน

มีเพียงลุงเฉียนที่ยืนอยู่ข้างๆ รอพวกเขาถ่ายรูปเสร็จ จึงพาพวกเขาไปหาที่นั่ง

“ที่นั่งบัตรวีไอพีเหรอ? หลี่ฝางคนนี้ ไม่คาดคิดว่าจะเป็นวีไอพีที่นี่ ไม่น่าแปลกใจที่สามารถจองที่นั่งได้!”

ลุงเฉียนยิ้ม และยื่นเมนูให้ “ทุกท่าน ดื่มอะไรดี?”

“พวกเรารอหลี่ฝางมาก่อนดีกว่า” หวางเสี่ยวโก๋ดูราคาแล้ว ก็รู้สึกตกใจเล็กน้อย

แต่เหยนเสี่ยวน่าบอกว่า “ช่างเถอะ ฉันสั่งเอง”

แม้ว่าการบริโภคในRecalling the pastจะสูง แต่เหยนเสี่ยวน่าก็ยังจ่ายไหว

หลังจากสั่งเบียร์หลายขวด ไวน์แดงสองขวด ผลไม้อย่างหนึ่ง และอาหารสองสามอย่าง เหยนเสี่ยวน่ารู้สึกแบกรับไม่ไหวแล้ว

หลังจากที่ลุงเฉียนหยิบเมนูจากไป หวางเสี่ยวโก๋ก็เม้มริมฝีปาก “นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นบริกรบาร์ที่อายุมากขนาดนี้”

“ดูอายุเขา น่าจะสี่สิบปีแล้วมั้ง”

เหยนเสี่ยวน่าก็รู้สึกแปลกใจๆเล็กน้อย “นี่มันก็อายุมากไปหน่อย”

“ใครบอกว่าเขาเป็นบริกรที่นี่” หลี่เสี่ยวเสี่ยวตอนนี้ยิ้มจางๆ “ลุงเฉียนอยู่ฝ่ายการเงินและผู้จัดการของบาร์”

“ฝ่ายการเงินและผู้จัดการ?”

ทุกคนตะลึงเมื่อได้ยินคำพูดของหลี่เสี่ยวเสี่ยว

“แล้วทำไมเขาถึงออกไปต้อนรับพวกเราด้วยตัวเอง และส่งเมนูให้พวกเราด้วย? นี่คือสิ่งที่บริกรควรทำไม่ใช่เหรอ?”

“หรือเป็นเพราะบาร์ยุ่งมาก และบริกรไม่เพียงพอหรือเปล่า?”

หลี่เสี่ยวเสี่ยวส่ายหัว และไม่พูดอะไรอีก

แม้ว่าบาร์จะยุ่งขนาดไหน แต่ในฐานะผู้จัดการ จะมาทำงานบริกรหรือ?

มีสมองหรือเปล่า?

ถ้าบาร์ยุ่ง ผู้จัดการก็จะยิ่งยุ่ง!

เหตุผลที่ลุงเฉียนทำด้วยตัวเอง ไม่ใช่เพราะเหยนเสี่ยวน่าและคนอื่นๆ เป็นเพื่อนของหลี่ฝาง?

ความจริง ตัวตนของลุงเฉียน ไม่ธรรมดาอย่างที่คิด

ฉินวี่เฟยขมวดคิ้วเล็กน้อย เธอรู้จักตัวตนที่แท้จริงของลุงเฉียน

นายท่านรองตระกูลเฉียนแห่งเมืองเอก พ่อบ้านของสถานตากอากาศ… …

อัตลักษณ์ทั้งสองนี้ ไม่ว่าอันไหน อยู่ในเมืองเอก ก็คือตำแหน่งที่สูงกว่าคนอื่น

แต่เพราะหลี่ฝาง เขาเต็มใจที่จะทำหน้าที่เป็นคนรับใช้ และรับใช้เด็กนักศึกษาไม่กี่คน… …

สิ่งนี้ทำให้ฉินวี่เฟยรู้สึกมันเชื่อไม่ได้เลย

ฉินวี่เฟยในฐานะลูกสาวคนโตของตระกูลฉิน ลุงเฉียนมาต้อนรับเป็นการส่วนตัว ต้อนรับดูแล ได้รับการเอาใจใส่เป็นอย่างดีจนตกตะลึง กระสับกระส่ายเล็กน้อย นับประสาอะไรกับพวกเหยนเสี่ยวน่า?

ถ้าเหยนเสี่ยวน่าและคนในวงรู้จักตัวตนที่แท้จริงของลุงเฉียน เกรงว่า พวกเขาจะตกใจสุดขีด?

ในตอนนี้ ลุงเฉียนเดินออกจากบาร์ และมาที่รถของหลี่ฝาง

“ลุงเฉียน ตรวจพบเจ้าของหมายเลขโทรศัพท์หรือยัง?” หลี่ฝางถามอย่างกังวล

ตอนนี้ในห้องไลน์สด คนที่กำลังเยินยอหมาป่าใหญ่ และกำลังพูดใส่หลี่ฝาง

“เสี่ยวฝาง คนที่คุณต้องการตรวจสอบ เสียชีวิตเมื่อสามปีที่แล้ว” ลุงเฉียนเดินเข้ามาบอก

“เขาอายุแปดสิบกว่าปีแล้ว นี่คือข้อมูลของเขา”

ลุงเฉียนนำกระดาษแผ่นหนึ่ง ยื่นให้หลี่ฝาง

หลี่ฝางขมวดคิ้ว “ตายแล้ว เป็นไปได้ยังไง?”

“คนตายจะส่งข้อความมาหาผมได้ไง?” หลี่ฝางไม่เข้าใจ

หมาป่าใหญ่ ใช้บัญชีปลอมจริงๆ!

แต่ว่า หลี่ฝางพึ่งรู้ว่าลุงเฉียนมีความสามารถมาก และในช่วงเวลาสั้นๆ ก็สามารถได้ข้อมูลทั้งหมดของอีกฝ่าย

“เอาล่ะ ลุงเฉียน คุณกลับไปก่อน”

“ใช่สิ อย่าลืมต้อนรับเพื่อนกลุ่มนั้นของผมให้ดีๆ”

หลี่ฝางโบกมือ และให้ลุงเฉียนกลับไปที่บาร์

จากนั้น หลี่ฝางก็เหลือบไปที่ข้อความส่วนตัว

แน่นอนว่า หลังจากหมาป่าใหญ่เห็นว่าตัวเองหยุดเปย์ ก็เริ่มยั่วยุขึ้นมา “หลานชาย นายยังไหวไหม?”

“ไม่มีเงินแล้วหรือ? ถ้าไม่มีเงินก็รีบเรียกคุณปู่!”

“กระจอกงอกง่อย ไม่มีเงินแล้วยังกล้ามาอวดเก่งกับกู!”

หมาป่าใหญ่ส่งข้อความส่วนตัวติดต่อกันสิบกว่าข้อความ ซึ่งทั้งหมดเป็นคำพูดเยาะเย้ย

หลี่ฝางยิ้มอย่างดูถูกเหยียดหยาม และเปิดห้องไลน์สดของลู่หลุ่ย

“หมาป่าใหญ่เป็นหลานชายของฉัน ให้รางวัลวีเจด้วยเรือยอร์ชหนึ่งลำ”

“หมาป่าใหญ่เป็นลูกชายของฉัน ให้รางวัลวีเจด้วยเรือยอชต์หนึ่งลำ”

หลี่ฝางหยิบโทรศัพท์มือถือสองเครื่องออกมา พร้อมกันล็อกอินสองบัญชี ในห้องไลน์สดลู่หลุ่ย เข้าไปเปย์เต็มที่

เรือยอชต์หนึ่งลำ!

เรือยอชต์อีกหนึ่งลำ!

สองบัญชี แต่ละบัญชีเปย์เรือยอชต์ออกไปสิบลำ

เรือยอชต์ลำหนึ่ง ราคาหนึ่งหมื่น

ขณะนี้ ห้องไลน์สดเหมือนจะระเบิดอีกครั้ง

“ราชากลับมาแล้ว!”

“นี่เขาเรียกว่ามหาเศรษฐีขั้นเทพ เข้ามาบัญชีคู่เพื่อเปย์ของขวัญจริงๆ คนเดียวครอบครองอันดับแรกและสองในบอร์ด หมาป่าตัวใหญ่ นายไปอยู่อันดับสามแล้ว”

“พี่หมาป่า พวกเรานิ่งเฉยไม่ได้แล้ว ต้องรีบแล้ว!”

ใบหน้าของหมาป่าใหญ่หดหู่เล็กน้อย

เมื่อกี้เขาคิดว่าหลี่ฝางตกตะลึงกับความยิ่งใหญ่ของตัวเองจนอึ้ง!

ผลลัพธ์ตอนนี้ ชั่วขณะหลี่ฝางเปิดบัญชีสองบัญชี พร้อมเปย์ออกมาสองแสน!

หมาป่าใหญ่หายใจเข้าลึกๆ และกัดฟัน “นายเปย์เรือยอชต์ กูก็เปย์เรือยอชต์ด้วย!”

ทันใดนั้น บนหน้าจอไลน์สดของลู่หลุ่ย มีเรือยอชต์ลอยขึ้นมาเรื่อยๆ

เปย์ไปสิบลำ

“หมาป่าใหญ่ แม้ว่าคุณจะครองตำแหน่งสูงสุด แต่ตัวเลขสองบัญชีรวมกันได้สองแสนกว่า!”

“แม่ง ใครบอกว่าพวกเขาเป็นคนเดียวกัน?” หมาป่าใหญ่ด่าอย่างโกรธเกรี้ยว

หลี่ฝางยิ้มอย่างเหยียดหยาม ทั้งสองบัญชีต่างก็มีเรือลอยออกไปอีกคนละสิบลำ

เปย๋ออกไปอีกสองแสน

“มาสิ ทำตามฝีเท้าของปู่ เปย์เข้ามา!” หลี่ฝางใช้บัญชีนำ

“มาสิ ตามฝีเท้าของพ่อ เปย์เข้ามา!” หลี่ฝางใช้บัญชีรอง

“แม่งเอ้ย ไอ้นี่มันเปย์ไปสี่แสนแล้ว!”

หลี่ฝางและหมาป่าแข่งขันด้วยของขวัญ ชั่วพริบตาดึงดูดผู้คนนับหมื่นมาดู

สำหรับลู่หลุ่ย เธอยังคงร้องเพลงของเธอต่อไป ราวกับว่าเธอไม่เห็นอะไรเลย

“วีเจก็นิ่งเกินไป ไม่เคยมีวีเจที่ไม่สนใจเศรษฐีท้องถิ่น หนักแน่นจริง ฉันชอบ”

“เศรษฐีท้องถิ่นทั้งสองนี้ชั่วร้ายพอๆกัน เปย์ไปหลายแสน วีเจไม่ขอบคุณสักคำ ก็ยังเปย์ต่อไป!”

หลี่ฝางโห่ร้องในห้องไลน์สด “มาสิ หลานชาย!”

“หมาป่าใหญ่ ขึ้นมา จัดการกับเด็กเมื่อวานซืนคนนี้เร็ว!”

“พี่หมาป่า ไหนบอกว่าคุณเตรียมเงินไว้เป็นล้านไม่ใช่เหรอ? เอาออกมาให้หมด ทุ่มจนให้เขาเรียกว่าพ่อ!”

สีหน้าของหมาป่าใหญ่ หดหู่มาก

เขาเตรียมเงินไว้เป็นล้าน แต่เขาไม่ต้องการใช้ให้หมด!”

มองไปฝั่งหลี่ฝาง เปิดสองบัญชีเพื่อโจมตีเขา เห็นได้ชัดว่ามันไม่ได้ขาดแคลนเงิน!

หมาป่าใหญ่คิดว่าตัวเองรวยพอแล้ว แต่ไม่คาดคิด หลี่ฝางจะมีเงินมากกว่าเขา!

“ถ้านายไม่เปย์ ฉันเปย์แล้วนะ!”

หลี่ฝางพูดเสร็จ พร้อมเปย์อีกหนึ่งแสนออกไป

“ดูเหมือนว่าพี่หมาป่าจะกลายเป็นเต่าหัวหดแล้ว!”

“พี่หมาป่า หรือว่าวงเงินบัตรเครดิตที่กำหนดหมดแล้ว?”

“หมาป่าใหญ่วิ่งหางจุกตูด พวกนายหยุดเรียกเขาได้แล้ว”

ในห้องไลน์สด ยูสเยาะเย้ยหมาป่าใหญ่

หมาป่าใหญ่จ้องที่หน้าจอโทรศัพท์ กำลังครุ่นคิด

“นายเป็นใครกันแน่?” หมาป่าใหญ่ส่งข้อความส่วนตัวถึงหลี่ฝาง

“ผมเป็นปู่ของคุณไง!” หลี่ฝางรีบตอบกลับไปทันที

“นายยังไหวหรือเปล่า? ไม่ถ้าไม่ไหว รีบไปที่ห้องไลน์สดเรียกคุณปู่ พวกเราพูดกันไว้แล้วนี่!” หลี่ฝางส่งข้อความส่วนตัวให้หมาป่าใหญ่

หมาป่าใหญ่ยิ้มเย้ยหยัน “นายอยากเล่นใช่ไหม? ถ้างั้นฉันจะทำให้ครอบครัวนายล้มละลาย!”

เมื่อเห็นคำพูดของหมาป่าใหญ่ หลี่ฝางก็รู้ว่า หมาป่าใหญ่กำลังจะออกมา

หลี่ฝางหัวเราะเยาะ คิดว่าตัวเองเป็นหวางซือชงเหรอ? แม้จะเป็นหวางซือชง แต่กูก็สู้เต็มที่!

หลี่ฝางกลับไปที่ห้องไลน์สด และเห็นบอร์ดจัดอันดับคนที่สูงสุด ได้เปลี่ยนเป็นหมาป่าใหญ่

เมื่อดูรายชื่อบอร์ดแล้ว รายการของหมาป่าใหญ่ สูงถึงหนึ่งล้าน!

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท