NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 255

ตอนที่ 255

บทที่225 ทำเอาทุกคนช็อก

หลี่ฝางพยักหน้า มองหวางจุน “มีปัญหาอะไรหรือเปล่า ”

“แต่คุณเป็นลูกค้าของพี่ถิงถิงไม่ใช่เหรอ”หวางจุนพูดอย่างขี้ขลาดอยู่บ้าง พูดจบก็มองไปยังถิงถิง

ถิงถิงเป็นถึงหัวหน้าของแผนกขาย ส่วนหวางจุนแค่เด็กใหม่ จะกล้าทำผิดต่อเธอได้ไง

หลี่ฝางหัวเราะ รู้สึกว่าหวางจุนขี้ขลาดไปหน่อย

ราคาของบ้านหมายเลขหนึ่งมูลค่าหลายร้อยล้าน หากหวางจุนขายได้ อย่างน้อยก็คงจะได้ค่าคอมไม่ต่ำกว่าล้าน

สามารถหาเงินล้านได้ในเวลาสั้นๆ อย่าว่าแต่จะทำผิดแต่คนเก่าแก่อย่างถิงถิงเลย แม้แต่ทำผิดต่อผู้จัดการแผนกขายแล้วยังไง

“ใครบอกว่าผมเป็นลูกค้าของเขา ”หลี่ฝางปฏิเสธ บ้านหมายเลขหนึ่งราคาสองร้อยล้าน หากให้ถิงถิงช่วยจัดการซื้อให้ นั้นไม่เท่ากับให้เธอได้เงินล้านไปเปล่าๆเหรอ

ผู้หญิงคนนี้ คอยแต่จะดูถูกเหยียดหยามกันตลอดทาง ตั้งแต่ต้นจนจบไม่ได้ปฏิบัติกับตนเหมือนคนอื่น แล้วจะให้เธอมาชุบมือเปิบได้ยังไง

จะให้ถิงถิงได้เอาเปรียบ ไม่สู้ให้หวางจุนคนนี้ดีกว่า

ถิงถิงเองก็ไม่ได้คิดว่าหลี่ฝางจะซื้อบ้านหมายเลขหนึ่งได้จริง

ถิงถิงรู้สึกว่า แบล็กการ์ดนี้ น่าจะเป็นอย่างที่จ้าวเสี่ยวตาวเดา หลี่ฝางทำก็อปขึ้นมา

“ถูกต้อง เขาไม่ใช่ลูกค้าของฉัน”

ถิงถิงพูดอย่างดูถูก “เสี่ยวหวาง ลูกค้าคนนี้ฉันยกให้นายดูแลแล้วกัน”

พูดจบ ถิงถิงก็พูดขึ้นกับเฉียนเป่าเอ๋อและจ้าวเสี่ยวตาว “คุณหนูเฉียน คุณชายจ้าว ฉันจะส่งพวกคุณลงเขานะคะ”

ได้ยินอย่างนี้ หวางจุนก็อึ้งไป

หากเขาขายบ้านหมายเลขหนึ่งนี้ได้จริง ตัวเองจะได้รับค่าคอมหนึ่งล้านกว่า

เนื้อหวานชิ้นใหญ่ขนาดนี้ ทำไมถิงถิงจึงส่งให้เขานะ

หวางจุนไม่อยากจะเชื่อ

เฉียนเป่าเอ๋อพูดว่า “รออีกเดี๋ยว หลี่ฝางจะซื้อบ้านไม่ใช่เหรอ พวกเรารอเขารูดการ์ดแล้ว ค่อยลงไปพร้อมกัน ”

ถิงถิงขมวดคิ้ว คิดในใจ คุณหนูเฉียนคนนี้โง่หรือไง ถึงกับเชื่อว่านายคนนี้จะซื้อบ้านหมายเลขหนึ่งได้จริงๆ

แบล็กการ์ดนี้มันของปลอมชัดๆ

แน่นอน ถิงถิงย่อมไม่กล้าพูดคำเหล่านี้ออกไป

จ้าวเสี่ยวตาวก็ไม่รีบจะไป เขาจะรอดูสารรูปอันน่าขันของหลี่ฝาง

จ้าวเสี่ยวตาวมองไปทางหลี่ฝาง หัวเราะและพูดว่า “หลี่ฝาง นายอย่าโอ้เอ้อยู่เลย เครื่องposก็เอามาแล้ว นายรีบรูดบัตรให้เราดูหน่อยเถอะ”

“พวกเรายังไม่เคยเห็นแบล็กการ์ดจริงๆเลย”จ้าวเสี่ยวตาวหัวเราะเสียงเย็น

หลี่ฝางพูดว่า “คุณจะใจร้อนทำไม”

หลี่ฝางมองหวางจุน พูดว่า “หวางจุน ช่วยฉันคำนวณราคาบ้านหน่อย จากนั้น ก็ช่วยคำนวณด้วยว่าต้องจ่ายเงินดาวน์เท่าไหร่ ”

“ราคาขายบ้านหมายเลขหนึ่งคือหนึ่งแสนแปดหมื่นแปดพัน เนื้อที่คือหนึ่งพันสองร้อยสามสิบสี่ตารางเมตร ”

หวางจุนเอาโทรศัพท์ออกมา คำนวณอยู่สักครู่ แล้วพูดว่า “ราคารวมทั้งหมดคือสองร้อยสามสิบกว่าล้าน”

“คุณผู้ชาย คุณมีทรัพย์สินจำนองหรือเปล่า หากคุณมีทรัพย์สินที่มีมูลค่าเท่ากันมาจำนอง เช่นนั้นก็จ่ายเงินดาวน์แค่ร้อยละยี่สิบเท่านั้น นั้นก็เท่ากับสี่สิบหกล้าน”

“แต่ถ้าหากไม่มีสินทรัพย์จำนอง เกรงว่าคุณต้องจ่ายเงินทั้งหมด หรือว่า จ่ายเงินดาวน์ครึ่งหนึ่ง”หวางจุนพูดกับหลี่ฝาง

“ผมมีบาร์แห่งหนึ่ง มูลค่ากว่าสองพันล้าน น่าจะจำนองได้”

หลี่ฝางพูดอย่างเรียบเฉย

“ในเมื่อเป็นอย่างนี้ ถ้าอย่างนั้นเงินดาวน์ของคุณ อย่างน้อยก็จ่ายสี่สิบหกล้านก็พอแล้ว”หวางจุนหัวเราะ พูดขึ้นว่า “คุณผู้ชาย เอาอย่างนี้ผมจะโทรหาเถ้าแก่ให้ ขอราคาส่วนลดให้คุณ”

“ไม่ต้องแล้ว รูดบัตรเถอะ”หลี่ฝางพูดอย่างไม่เห็นความสำคัญ

“รูดบัตรเลย คุณไม่ต้องการส่วนลด หรือต้องการสอบถามอย่างอื่นเพิ่มเติมเลยเหรอครับ อย่างเช่น หนังสือโฉนดจะได้เมื่อไหร่อะไรอย่างงี้”หวางจุนแม้จะเป็นเด็กใหม่ แต่ก็ไม่เคยเห็นใครซื้อบ้านอย่างรวดเร็วได้ใจเช่นนี้

นี่มันบ้านราคาสองร้อยกว่าล้านนะ

บอกจะซื้อก็ซื้อเลย ไม่ถามอะไรสักอย่าง ยิ่งไม่ต้องการสิทธิพิเศษอะไรเลย

หวางจุนอดไม่ได้ที่จะคิดในใจ นี่เขากำลังล้อตนเล่นอยู่หรือเปล่า

ถึงว่าพี่ถิงถิงถึงส่งลูกค้าคนนี้ให้เขา ที่แท้ก็ต้องการแกล้งกันนี่เอง

“สี่สิบหกล้าน ใช่หรือเปล่า รูดบัตรเลย ส่วนเรื่องเอกสาร ผมเชื่อว่าพวกคุณต้องทำให้ผมอย่างเร็วที่สุดแน่นอน”หลี่ฝางพูดอย่างไม่ยี่หระ

สำหรับเรื่องเอกสารบ้านต่างๆ หลี่ฝางไม่รีบร้อน

อีกอย่าง ยิ่งเป็นหมู่บ้านระดับสูง เอกสารเกี่ยวกับบ้าน หรือค่าส่วนกลางต่างๆ ย่อมเป็นไปตามกฎถูกต้อง

อีกทั้งบริการก็ดีเลิศ

มีเพียงหมู่บ้านถูกๆ ที่ผู้รับเหมาโครงการจะร่วมมือกับส่วนกลาง ปิดหูปิดตาคนอื่น เอาเปรียบเจ้าบ้าน คอยแต่จะแทะเล็มเจ้าบ้าน เพื่อหวังผลกำไรเล็กๆน้อยๆ

ส่วนเจ้าของคฤหาสน์บ้านซานเป็นตระกูลเก่าแก่ ผู้รับเหมาจะกล้ารังแกง่ายๆได้ยังไง

“ครับ”

หวางจุนก็ไม่ได้คาดหวังอะไร หลังจากใส่ตัวเลขราคาแล้ว ก็ยื่นเครื่องรูดบัตรให้กับหลี่ฝาง ให้หลี่ฝางกดรหัส

จ้าวเสี่ยวตาวมองถึงตรงนี้ ก็หัวเราะ “เป่าเอ๋อ ดูนะ ไอ้นี่มันจะเปิดเผยตัวตนแล้ว”

เฉียนเป่าเอ๋อจ้องหลี่ฝาง ไม่เห็นว่าหลี่ฝางจะมีท่าทีลนลานเลยสักนิด

เฉียนเป่าเอ๋อคิดในใจ หลี่ฝางทำได้ยังไง คำโกหกทั้งหมดใกล้จะมาถึงจุดสิ้นสุดแล้ว แต่ทำไม่ยังรักษาความสงบไว้ได้นะ

หรือว่า เหมือนกับที่จ้าวเสี่ยวตาวพูดไว้ คนไม่เอาหน้า ไร้ยางอายที่สุดในโลก

หลี่ฝางไม่มีความอายสักนิดเลยเหรอ

ตอนนี้เอง นิ้วมือของหลี่ฝาง กดเบาๆลงบนแป้นของเครื่องรูดบัตร จากนั้น เขาก็ยิ้มเบาๆ พูดกับหวางจุนว่า “เรียบร้อยแล้ว ผมจ่ายเงินแล้วนะ”

หวางจุนก้มหน้ามอง ดูหน้าจอของเครื่องรูดบัตร

เพียงชั่วครู่ สีหน้าของหวางจุน ก็นิ่งอึ้งไปทันที

รูดบัตรสำเร็จแล้ว

ตอนนี้ในใจของหวางจุน รู้สึกซาบซึ้งอย่างบอกไม่ถูก

ถ้าอย่างนั้น ตัวเองก็เท่ากับขายบ้านหมายเลขหนึ่งได้สำเร็จแล้วสิ

ตนแค่ขึ้นมาส่งเครื่องรูดการ์ดเท่านั้น ไหนเลยจะคิดว่าจะหาเงินล้านกว่าให้ตัวเองได้

ล้านกว่า นี่เป็นจำนวนเงิน ที่เด็กฝึกงานไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ต้องลำบากทำงานกี่ปีกัน

มือที่ถือเครื่องรูดบัตร สั่นระริก

“คืนบัตรให้ผมด้วย”หลี่ฝางพูดเสียงเรียบ

ตอนที่หวางจุนยื่นบัตรคืนให้หลี่ฝาง เกือบจะคุกเข่าให้หลี่ฝางแล้ว

ให้ตนเองได้มีรายได้เป็นล้านในชั่วพริบตา นี่มันยิ่งกว่าพ่อแม่บังเกิดเกล้า ยิ่งกว่าเทพแห่งโชคลาภเสียอีก

“ขอบคุณครับ ขอบคุณ ”หวางจุนมองหลี่ฝาง พูดอย่างซาบซึ้งใจ

หลังจากขอบคุณหลี่ฝางแล้ว หวางจุนก็วิ่งไปตรงหน้าถิงถิง กอดถิงถิงไว้ทันที

“พี่ถิงถิง ขอบคุณมาก ขอบคุณพี่มากจริงๆ ขอบคุณที่ยกลูกค้าใหญ่ขนาดนี้ให้ผม”หวางจุนกอดถิงถิงไว้แน่น ซาบซึ้งจนน้ำตาไหล

เขาเพิ่งรู้จักถิงถิงได้ไม่กี่วัน แต่ไม่คิดว่าถิงถิงจะดีกับตนเช่นนี้

ถิงถิงขมวดคิ้ว ผลักหวางจุนออกไป “เธอทำอะไรเนี่ย”

“นายจะมาขอบคุณฉันทำไม”ถิงถิงมองหวางจุน ขมวดคิ้วถาม

จากนั้น ถิงถิงก็เหมือนจะนึกขึ้นได้ เธอมองหวางจุน “หวางจุน เมื่อกี้นายว่าอะไร ขอบคุณที่ฉันมอบลูกค้ารายใหญ่ให้เธอ”

หลี่ฝางก็แค่ยาจกที่ทำตัวไฮโซเท่านั้น จะเป็นลูกค้าใหญ่ได้ยังไง

หวางจุนกล่าวอย่างตื่นเต้น “พี่ถิงถิง พี่ดูนี่ เมื่อกี้คุณผู้ชายเขารูดบัตรสำเร็จแล้วนะ”

“บัตรใบนั้น เป็นของจริงเหรอ”สีหน้าของถิงถิง เปลี่ยนเป็นซีดขาวในทันที

เธอแย่งเอาเครื่องรูดบัตรจากมือหวางจุนไป มองหน้าจอของเครื่องรูดบัตร

ทำรายการสำเร็จ ทำเอาถิงถิงเกือบจะเป็นลมล้มพับไป

ตอนนี้เอง ใจของถิงถิงรู้สึกจะเต้นเร็วขึ้น

บ้านหมายเลขหนึ่ง มีค่าคอมมากว่าล้านนะ แต่ตนเอง กลับเอาเงินล้านให้คนอื่นไป

จ้าวเสี่ยวตาวคว้าหมับไปที่เสื้อของหวางจุน พูดว่า “เมื่อกี้นายกดเลขสี่สิบหกล้านหรือเปล่า นายแน่ใจนะว่าไม่ได้กดผิด ”

“ไม่ผิดแน่ นี่มันเป็นการค้าขายที่จำนวนเงินสูงมาก เมื่อกี้ผมตรวจสอบหลายรอบแล้วด้วย”หวางจุนพูด

“ถ้างั้นเครื่องรูดบัตรเสียหรือเปล่า ”จ้าวเสี่ยวตาวขมวดคิ้วมุ่น ยังไม่อยากจะเชื่อ

“เครื่องรูดบัตรจะเสียได้ยังไง ”หวางจุนหัวเราะ

สีหน้าของจ้าวเสี่ยวตาว ไม่น่าดู เขามองไปทางหลี่ฝาง ดวงตาฉายแววอึ้งๆ

นายคนนี้ เป็นใครกันแน่

ถึงได้มีบัตรแบล็กการ์ดได้

เฉียนเป่าเอ๋อเดินไปหลายก้าว หยุดอยู่ตรงหน้าหลี่ฝาง พูดว่า “บัตรของคุณใบนี้ เป็นของจริง”

“เป็นของจริงแน่นอน”หลี่ฝางพูดเรียบๆ

เฉียนเป่าเอ๋อมองหลี่ฝาง สีหน้าเต็มไปด้วยความตกตะลึง “คุณ มีแบล็กการ์ด ถ้างั้นพ่อของคุณคือ”

คนที่ครอบครองแบล็กการ์ด ต้องมีรายชื่ออยู่ในนิตยสารฟอร์บส์ เฉียนเป่าเอ๋อรู้สึกว่า เธอคงเคยได้ยินชื่อของพ่อหลี่ฝางบ้าง

อย่างน้อยก็ต้องคุ้นหูอยู่บ้าง

“พ่อผมชื่อหลี่ต๋าคาง”หลี่ฝางเพิ่งพูดจบ

“หลี่ต๋าคาง”เฉียนเป่าเอ๋อขมวดคิ้ว ไม่คุ้นกับชื่อนี้เลย

“พ่อคุณทำอะไร”เฉียนเป่าเอ๋อถาม

“จ้าวเสี่ยวตาวบอกแล้วนี่นา พ่อผมเป็นแค่ชาวไร่ธรรมดา”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท