NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 263

ตอนที่ 263

บทที่ 263 ฉินวี่เฟยจะแต่งงานกับหลี่ฝาง!

หลังจากวางสาย สีหน้าของหม่าเทียนก็เครียดขึ้นมาทันที เรียกได้ว่าตึงเครียดมาก

มือของเขามีเหงื่อไหลเต็ม

คนใหญ่คนโตแบบนี้ ใช่ว่าชีวิตนี้เขาจะได้มีโอกาสเจอสักกี่ครั้ง

หลี่ฝางมองออกว่าสีหน้าของหม่าเทียนไม่ดีนัก จึงถามขึ้นว่า “ลุงหม่า เป็นอะไรไป”

หม่าเทียนถึงได้มีสติกลับมา

อันตราย!

เกือบจะล่วงเกินไปแล้ว

ดีที่ยังไม่เอาเด็กผู้หญิงคนนี้จับไป ไม่งั้นล่ะก็ผลสุดท้ายคงไม่อยากคิดแน่นอน

“ฉันไม่ได้เป็นอะไร…” หม่าเทียนพูดกับหลี่ฝาง “เสี่ยวฝาง ในเมื่อเธอเป็นเพื่อนของนาย ก็พาเธอกลับไปเถอะ”

หลี่ฝางงงงันไปสักพัก มองไปที่หม่าเทียน “ทำไมเหรอ ลุงไม่จับเธอแล้วเหรอ”

“เรื่องนี้ ส้งเสียงเป็นคนทำผิด เป็นเพราะส้งเสียงเห็นว่าเธอน่ารักเลยคิดมิดีมิร้ายด้วย พร้อมเรียกพวกเสี่ยวซานกับพวกมาก่อกวนเธอ จะทำเรื่องมิดีมิร้ายกับเธอ”

“ที่เธอชนคน ก็เพราะว่าป้องกันตัวเอง” หม่าเทียนพูดอย่างจริงจัง

หม่าเทียนอยู่ดีๆ ก็เปลี่ยนสีหน้าไปเร็วขนาดนี้ เร็วยิ่งกว่าเปิดหนังสือเสียอีก

หลี่ฝางไม่ใช่คนโง่ เขาสังเกตได้ว่าท่าทางของหม่าเทียนเปลี่ยนไปเยอะมาก คงจะเกี่ยวข้องกับโทรศัพท์ที่โทรเข้าเมื่อกี้แน่นอน

เพราะเมื่อกี้เขาตกใจมาก

หลี่ฝางคิดในใจว่า คนที่โทรหม่าเทียนเมื่อกี้ คงจะเป็นคนใหญ่คนโตสักคนแน่ๆ

นี่แสดงว่า ผู้หญิงชุดยีนส์คนนี้คงมีคนหนุนหลังใหญ่แน่นอน

“ฉันไปได้แล้ว ใช่ไหม” ผู้หญิงชุดยีนส์เดินมาข้างหน้าหม่าเทียนพร้อมถามด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

หม่าเทียนพยักหน้า “คุณกลับไปตลอดเวลาครับ”

หลี่ฝางขมวดคิ้ว หม่าเทียนใช้คำว่า “คุณ”

ผู้หญิงคนนี้เป็นใครมาจากไหนกันแน่ ทำไมถึงทำให้หม่าเทียนกลัวได้ขนาดนี้

เธอพูดขอบคุณด้วยมารยาท แล้วก็ออกไปจากสถานีตำรวจนั้น

หลังจากที่เธอเพิ่งออกมา ผู้ชายที่สวมเสื้อสีแดงก็เดินเข้ามาทันที

เขาวิ่งมาข้างหน้าหม่าเทียน พร้อมถามว่า “ลุง ทำไมปล่อยผู้หญิงคนนั้นไปแล้วล่ะ”

“ส้งกงหมิงพ่อของส้งเสียงให้ผมมาบอกว่า อย่าให้ลุงปล่อยผู้หญิงคนนั้นเด็ดขาก” เขาพูดด้วยความรีบร้อน

“ทำไมลุงปล่อยมันไปแล้วล่ะ”

หม่าเทียบมองหลานตัวเองอย่างไม่แยแส “ถ้าฉันจับผู้หญิงคนนั้น ตำแหน่งนี้ของฉันคงรักษาไว้ยากแล้วล่ะ”

“ส้งเสียงเป็นคนยังไง ฉันจะไม่รู้เหรอ”

“อีกอย่าง พวกแกลักพาตัวนักข่าว กล้ามากเลยนะ”

เขาจ้องมองผู้ชายที่สวมเสื้อสีแดงอย่างแรง หม่าเทียนพูดต่อว่า “ฉันจะโทรหาพ่อแก บอกว่าไม่ให้แกออกไหนช่วงนี้ เดี๋ยวหาเรื่องเข้ามาอีก”

“ฉันจะบอกให้ ผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดา ถ้าส้งกงหมิงอยากไปมีเรื่อง ก็ไปมีเรื่องกันเองเลย”

“แต่ฉันจะบอกอะไรไว้ก่อนนะ ถ้าส้งกงหมิงยังอยากทำธุรกิจต่อ ทางมที่ดีอย่าไปหาเรื่องเธอดีกว่า”

ผู้ชายที่สวมเสื้อสีแดงกลืนน้ำลายอึก เขามองหม่าเทียน “งั้นส้งเสียง…ก็โดนชนฟรีแล้วสิ”

“ถือว่าโชคร้ายแล้วกัน” หม่าเทียนพูด

เดินออกจากสถานทีตำรวจพร้อมกัน

ผู้หญิงชุดยีนส์ถามหลี่ฝางว่า “ทำไมนายถึงได้มาด้วย”

หลี่ฝางหัวเราะ พร้อมพูดว่า “ฉันเห็นว่าทะเบียนรถเธอเป็นป้ายของเมืองอื่น ไม่คุ้นเคยที่นี่ กลัวว่าจะโดนคนอื่นรังแก ก็เลยตามมา”

“มาดูว่าถ้าช่วยได้ก็ช่วย…แต่ว่าก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย” หลี่ฝางพูดด้วยความเก้อเขิน

เธอเหลือบมามองเขา “จะจีบฉันเหรอ”

หลี่ฝางรีบส่ายหน้า พร้อมปฏิเสธว่า “ไม่อยาก”

“นายไม่อยากจีบฉัน ทำไมต้องมาที่สถานีตำรวจเพื่อช่วยฉันล่ะ”

“นายนี่ยุ่งเรื่องชาวบ้านแล้วนะแบบนี้” เธอมองเขาด้วยความไม่แยแส

หลี่ฝางหัวเราะ เหมือนว่าตัวเองก็ยุ่งเรื่องคนอื่นจริงๆ

ในเมื่อตัวเองก็ไม่ได้ชอบเธอ ทำไมต้องมาช่วยเธอด้วยล่ะ

โดนเข้าใจผิด ก็เป็นเรื่องธรรมดา

หลี่ฝางอธิบายว่า “ก็เห็นเธอมีสไตล์เป็นของตัวเองดี เลยอยากเป็นเพื่อนกับเธอ ฉันชื่อหลี่ฝาง เธอล่ะ”

พูดจบ เขาก็ยื่นมือไปจับกับเธอ

“นายเรียกฉันว่าโก่เอ๋อก็ได้” เธอยิ้มแล้วยื่นจนมือไปจับกับเขา โดนแค่นิดเดียวก็รีบดึงมือกลับคืนไป

“ผู้หญิงผู้ชายไม่ได้สนิทกัน ฉันจับจับมือกับนายไม่ได้ ใครจะไปรู้ว่าตอนกลางคืนนายแอบไปทำอะไรบ้าง” โก่เอ๋อหัวเราะพร้อมตอบเขา

หลี่ฝางงุนงงไปสักพัก ต่อมาก็เข้าใจแล้ว

โก่เอ๋อคนนี้ ชำนาญเหลือเกิน

โก่เอ๋อขึ้นมาในรถของตัวเอง พร้อมมองไปที่หลี่ฝาง “นายมายังไง ให้ฉันส่งนายไหม”

“ไม่ต้อง ฉันเองก็ขับรถมา” หลี่ฝางตอบ

โก่เอ๋อพยักหน้า พร้อมพูดกับเขาว่า “ถ้ามีโอกาสก็เจอกัน”

“ถ้ามีโอกาสก็เจอกัน” หลี่ฝางอยากที่จะขอวิธีติดต่อกับเธอ แต่คิดไปคิดมาก็รู้สึกว่าไม่ดีกว่า

ในเมื่อเธอบอกเองว่าถ้ามีโอกาสก็เจอกัน นี่แสดงว่า…เธอไม่ได้อยากเป็นเพื่อนด้วย เขาเองก็ไม่ควรไปบังคับ

ต่อให้เธอมีเบื้องหลังเป็นคนใหญ่คนโตขนาดไหน เขาเองก็ไม่สมควรที่จะไปประจบสอพลอเธอเลย

พอได้กลับมาที่บาร์อีกครั้ง หลี่ฝางพบว่าพวกหวางเสี่ยวโก๋ หลี่ซ่วยซ่วยไม่อยู่แล้ว

เหลือแค่ฉินวี่เฟยคนเดียว

“พวกเขาล่ะ” หลี่ฝางนั่งลงก็ถามเธอขึ้น

“พวกเขาดื่มไปเยอะ พนักงานพาขึ้นไปพักข้างบนแล้ว” ฉินวี่เฟยตอบ

มองไปที่ฉินวี่เฟย หลี่ฝางก็หัวเราะขึ้น “เธอไม่ได้ดื่มเหรอ”

“ฉันดื่มไปแค่นิดเดียว ได้เมาเลย”

เธอมองไปที่หลี่ฝาง เธอยิ้มด้วยสายตาแล้วพูดว่า “ความจริง ฉันรอนายอยู่”

“รอฉันทำไม” หลี่ฝางหัวเราะพร้อมถาม

ฉินวี่เฟยพ่นควันขุ่นออกมา พร้อมนอนลงไปบนโซฟาของบาร์

นี่เป็นครั้งแรกที่ฉินวี่เฟยเสียการควบคุมตัวเองขนาดนี้

ปกติเธอจะหนังหลังตรง ท่าทางสวยเพียบพร้อม ไม่เคยเลยที่จะปรากฏภาพที่ดูเหมือนคนขี้เกียจแบบนี้ออกมา

“หลี่ฝาง นางยังจำได้ไหม นายเคยรับปากฉันไว้เรื่องนึง” ฉินวี่เฟยเอียงหน้าพร้อมถามหลี่ฝาง

หลี่ฝางพยักหน้า พร้อมพูดว่า “จำได้”

“ทำไม เธอคิดได้แล้วเหรอว่าจะให้ฉันทำอะไร” หลี่ฝางยกแก้วขึ้นมาดื่มไปอึกใหญ่

เวลานั้น เขารู้สึกกระหายขึ้นมา

ฉินวี่เฟยมองไปที่หลี่ฝางสักพัก ก็พูดขึ้นว่า “ฉันอยากให้นายแต่งงานกับฉัน!”

ผั่ว! พอได้ยินประโยคนี้ เหล้าที่ดื่มเข้าไปก็ถูกหลี่ฝางพ่นออกมาทันที

เหล้าที่อยู่ในปากของเขา พ่นเข้าใส่ตัวฉินวี่เฟยเต็มๆ

รวมทั้งหน้าของฉินวี่เฟยก็โดนเช่นกัน

ฉินวี่เฟยขมวดคิ้ว แน่นอนว่าเธอโมโห

หลี่ฝางรีบวางแก้วเหล้าลง พร้อมกับหยิบทิชชูมาเช็ดให้เธอ

“เช็ดหน้าก่อนสิ” ฉินวี่เฟยพูดด้วยความไม่พอใจ

หลี่ฝางเริ่มคิดได้ รีบยกแขนขึ้นแล้วเช็ดหน้าให้เธอ

เวลานั้นหน้าของหลี่ฝางและฉินวี่เฟยใกล้กันมาก

ฉินวี่เฟยเป็นผู้หญิงที่สวยมาก ใบหน้าของเธองดงาม แทบจะบอกว่าสมบูรณ์แบบเลยก็ได้

แล้วผิวก็ดีมาก ทั้งขาวทั้งนุ่ม

หลี่ฝางรู้สึกว่าต่อให้เป็นดารา ก็อาจจะไม่ได้สวยเท่าเธอก็ได้

ฉินวี่เฟยไม่ต้องพึ่งการแต่งหน้า หน้าสดของเธอก็มัดใจเขาได้แล้ว

ในฐานะของผู้ชาย หลี่ฝางตกหลุมรักเธอไปแล้ว

แต่ความรักแบบนี้ ไม่ใช่ความชอบความรัก แต่เป็นความต้องการที่ผู้ชายทุกคนมี

หลังจากช่วยฉินวี่เฟยเช็ดเสร็จ เขาก็กลืนน้ำลาย พร้อมมองเธอด้วยความตื่นเต้น “ฉินวี่เฟย เธอล้อเล่นใช่ไหม”

“ฉันไม่ได้ล้อเล่น ฉันจริงจัง” ฉินวี่เฟยมองเขาด้วยความจริงจัง

หลี่ฝางขมวดคิ้ว

ฉินวี่เฟยเจอเขาไม่กี่ครั้งเอง

หลี่ฝางรู้ดี ฉินวี่เฟยไม่มีทางที่จะรักเขาแน่นอน นี่เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด

ตัวเองไม่ได้มีเสน่ห์อะไรขนาดนั้น

หลี่ฝางหัวเราะ มองไปที่ฉินวี่เฟย “เพราะว่าฐานะฉัน?”

หลี่ฝางคิดได้แค่เหตุผลนี้เหตุผลเดียว

“ใช่”

ฉินวี่เฟยไม่ปฏิเสธ เธอพยักหน้ายอมรับตรงๆ “เพราะว่าฐานะของนายจริงๆ นั่นแหละ”

“นายรู้แล้วนี่ว่าฉันกับมู่เสี่ยวไป๋หมั้นกันไว้”

ฉินวี่เฟยมองเขาแล้วพูดต่อว่า “ฉันไม่อยากแต่งงานกับมู่เสี่ยวไป๋ ฉันไม่ได้ชอบเขา ถ้าแต่งงานกับเขา ฉันว่าฉันเหมือนตายทั้งเป็นแน่นอน”

“งั้นเธอชอบฉันเหรอ” หลี่ฝางหัวเราะพร้อมมองไปที่เธอ

“แน่นอน ฉันเองก็ไม่ได้ชอบนาย แต่ถ้าให้เลือกระหว่างนายกับมู่เสี่ยวไป๋ ฉันยอมเลือกนายดีกว่า อย่างน้อยดูแล้วนายไม่ได้น่ารังเกียจขนาดนั้น”

“ไม่กี่วันมานี้ฉันได้บินว่ามู่เสี่ยวไป๋โดนคนเล่นงานบาดเจ็บหนักเลย เป็นฝีมือเธอใช่ไหม” ฉินวี่เฟยถามขึ้น

“ฉันเอง” หลี่ฝางพยักหน้า

“ใช่ไง นอกจากนาย ฉันคิดว่าเป็นใครไม่ได้แล้ว ตระกูลมู่มีชื่อในพื้นที่มาก ถ้าเป็นคนอื่นคงไม่กล้าลงมือกับเขาขนาดนั้น”

ฉินวี่เฟยมองหลี่ฝาง พร้อมพูดว่า “มีแค่นายนั่นแหละ”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท