NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 259

ตอนที่ 259

บทที่259 คุณอย่าทำเสียงหมาเห่าเลย ทำท่าหมาคลานดีกว่า

หลี่ฝางผลักส้งเสียง ให้เขาเข้าไปกลางฟลอร์

กลางฟลอร์ของผับ มีเวทีที่ยื่นออกมา สูงประมาณร้อยเมตรกว่า บนเวที มีเสาอันหนึ่ง

ปกติแล้ว มักจะมีผู้หญิงเซ็กซี่ ขึ้นไปเต้นรูดเสา

บางครั้ง ก็เป็นนักเต้นที่ผับจ้างมาโดยเฉพาะ

แล้วก็บางครั้ง ก็เป็นแขกที่ผับจ้างมา

คนที่กล้าขึ้นไปเวทีกลมนั้น มักจะเป็นนักเต้นที่เก่งทั้งนั้น ……แน่นอนว่า ก็มีที่ดื่มเยอะ แล้วขึ้นไปปล่อยไก่

ตอนที่ส้งเสียงปีนขึ้นเวทีกลมๆ ทั้งผับ ก็เงียบลง

เงียบไปประมาณไม่กี่วินาที จากนั้น ทั้งผับก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา

“พระเจ้า……เขาเอาความกล้ามาจากไหน?”

“คุณชายคนหนึ่ง สวมบิกินี่ แล้วยังยืนที่เสาบนฟลอร์ด้วย?”

“อ่าฮ่า ตลกจริงๆเลย”

คนจำนวนมาก ต่างหัวเราะจนเหล้าพุ่งออกมา จากการกระทำของส้งเสียง

“นี่ใช้คุณชายตระกูลส้งคนนั้นหรือเปล่า?”

“ฮ่าฮ่า รีบถ่ายเอาลงเน็ต ให้ทุกคนมาดูสิ คุณชายที่สง่างามแห่งบริษัทส้งซื่อ ผันตัวมาเป็นนักเต้นในผับได้”

“ฉันจะโทรหาเพื่อนฉันที่เป็นสื่อ นี่มันน่าทึ่งไปแล้ว ลูกชายมหาเศรษฐีพันล้าน มาสวมบิกินี่เต้นรูดเสา ถือเป็นข่าวใหญ่ได้เลย”

ที่น่าตื่นเต้นที่สุด ก็เป็นหลิวเฉียวเฉียวเนี่ยแหละ

หลิวเฉียวเฉียวที่เพิ่งถูกส้งเสียงตบตีอย่างแรง ตอนนี้ เห็นเขาขึ้นไปบนเวทีสวมบิกินี่ เธอก็หัวเราะจนน้ำตาไหล

ส้งเสียงคือคนที่ต้องการหน้ามาก

ตอนนี้ กลับถูกบังคับให้สวมบิกินี่ขึ้นไปเต้นรูดเสาที่ฟลอร์

ยากที่จะเชื่อ ส้งเสียงได้รับการบีบบังคับมากมาย

เวลานี้ จู่ๆหลิวเฉียวเฉียวก็รู้สึกหวาดกลัวหลี่ฝาง อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

เธอรู้สึกว่า หลี่ฝางน่ากลัวมาก บีบบังคับคุณชายคนหนึ่ง ให้ทิ้งความน่านับถือ……ไปเต้นรูดเสา?

หลิวเฉียวเฉียวคิดในใจ ถ้าเป็นตัวเอง ตัวเองจะทำได้ไหม?

สวมโป๊แบบนี้ เต้นรูดเสา ต่อหน้าคนจำนวนมาก?

แค่หลิวเฉียวเฉียวคิด ก็รู้สึกสั่นเย็นไปทั้งตัวแล้ว

ถึงเวลานั้นจริงๆ ยอมตายซะดีกว่า

ถ้าถูกคนถ่ายลงเน็ต ต่อไปตัวเองจะใช้ชีวิตอยู่อย่างไร?

พอส้งเสียงปีนขึ้นไปบนเวทีกลม สองมือก็จับเสาไว้

เขากัดฟันแน่น ได้ยินคำเยาะเย้ยและเสียงหัวเราะเยาะจากรอบๆ

เขาเป็นคุณชายที่สง่างาม จะรับคำดูถูกแบบนี้ได้อย่างไร?

ปกติแล้ว มีแต่เขาขำคนอื่น ยังไม่เคยถูกใครหัวเราะใส่ก่อนเลย!

ส้งเสียงอยากกระโดดลงไป ไม่ทำแล้ว แต่พอคิดว่าถ้าแบบนั้น จะถูกหลี่ฝางเอาคืนได้ ……

ทันใดนั้นส้งเสียงก็หยุดคิดความคิดที่จะกระโดดลงไป

จุดจบของตู้ต้าไห่ ส้งเสียงมีภาพค่อยๆเข้ามา เขาติดตระกูลส้งตั้งยี่สิบกว่าล้าน ตอนนี้ อยู่ในห้องใต้ดิน ใช้ชีวิตแบบให้หมดๆวันไป ……

ถ้าไม่ใช่ว่าคนรักเขามีความรักความชอบธรรม ออกมานั่งป้อนข้าวป้อนน้ำให้เขา อย่างนั้น เขาก็น่าจะตายไปนานแล้วสินะ?

ส้งเสียงไม่อยากเห็นพ่อของตัวเองมีจุดจบแบบตู้ต้าไห่

แบบนั้น ตัวเองก็จะลงเอยด้วยการใช้ชีวิตข้างถนน

ส้งเสียงได้แต่แบกหน้าฝีนทำไป สองมือจับเสา แล้วเริ่มเต้นรูดเสา

ส้งเสียงไม่ได้เรียนเต้นอะไร จึงเต้นรูดเสาอะไรไม่เป็น

แต่เขาเคยดู จึงทำตามออกมาได้บ้าง

ตอนที่ส้งเสียงเริ่มเต้น คนทั้งผับ ก็อลหม่านกันขึ้นมา

ทุกคนต่างยืนขึ้น เข้าไปใกล้ฟลอร์……

เวลานี้ หลี่ฝางก็เดินไปตรงหน้าพวกเหยนเสี่ยวน่า หัวเราะ แล้วถาม:“เล่นเป็นไงบ้าง?”

“หลี่ฝาง ผับนี้เด็ดจริงๆ?มีผู้ชายมาเต้นรูดเสาด้วย?ฮ่าฮ่า ฉันโตมาขนาดนี้ เป็นครั้งแรกเลยที่เห็นผู้ชายเต้นรูดเสา แล้วยังสวมบิกินี่อีก”

“ใช่ ผมก็เห็นเป็นครั้งแรก”หวางเสี่ยวโก๋หัวเราะเจ้าเล่ห์ รู้สึกผิดปกติอย่างมาก

“นี่ไม่ใช่รายการของผับ เป็นลูกค้าคนหนึ่งของผับน่ะ”หลี่ฝางอธิบาย

“เขาคือลูกค้า?งั้นเขาคงดื่มไปเยอะ”เหยนเสี่ยวน่าพูดไม่ออก

หลี่เสี่ยวเสี่ยวยกแก้วเหล้าขึ้นมา ดื่มไป เก็บความตกตะลึงในใจ

ส่วนตัวตนของส้งเสียง เหยนเสี่ยวน่าและคนอื่นๆไม่รู้จัก แต่หลี่เสี่ยวเสี่ยวรู้

เขาเป็นถึงคุณชายแห่งบริษัทส้งซื่อ มูลค่ามากกว่าพันล้าน……

เขาวิ่งไปเต้นรูดเสาที่ฟลอร์ ทำให้คนยากที่จะเชื่อจริงๆ

“ใช่สิ หลี่ฝาง ไวน์ของผับนี้ ไม่ว่าจะไวน์แดงหรือไวน์ขาว รสชาติบริสุทธิ์มากๆ ไม่มีเจือปนเลย ไม่น่าล่ะผับนี้ถึงได้ดังขนาดนั้น ดูสิเมืองเอกมีผับตั้งมากมาย ไม่มีสักที่ ที่ทำได้แบบ Recalling the pastนี้เลย เปิดผับไม่ขายเหล้าปลอม”เหยนเสี่ยวน่าลงความเห็นนิ่งๆ

เหยนเสี่ยวน่าเกิดจากครอบครัวที่ทำแอลกอฮอล์ จึงมีความรู้อย่างลึกซึ้งในด้านแอลกอฮอล์

“ในเมื่อไม่ใช่เหล้าปลอม งั้นทุกคนก็ดื่มเยอะๆเลย ถ้าดื่มเยอะแล้ว บนผับนี้มีห้องรับแขก ก็นอนได้เลย”

หลี่ฝางหัวเราะ พูดไปว่า:“รอพรุ่งนี้เช้า ผมพาทุกคนไปเที่ยวที่สถานตากอากาศ”

“สถานตากอากาศ สถานตากอากาศอะไรเหรอ?”หวางเสี่ยวโก๋ถาม

“ก็สถานตากอากาศหลงเหมิงที่เพิ่งเปิดไง ไม่ใช่ว่าพรุ่งนี้เพิ่งเปิดเหรอ?ผมมีบัตรอยู่หลายใบ”หลี่ฝางหยิบบัตรมากำหนึ่ง จากในกระเป๋ากางเกง แล้วแบ่งให้ทุกคน

“ห่าเอ๊ย หลี่ฝาง คุณเอามาได้ไง?นี่คือตั๋ววีไอพีของสถานตากอากาศ เมื่อกี๊ผมเห็นในเน็ตใบหนึ่งก็ใบละล้านเข้าไปแล้ว แล้วก็ขายหมดแล้วด้วย”หวางเสี่ยวโก๋มองหลี่ฝาง อ้าปากกว้างอย่างตกใจ

“คือแบบนี้ ผมมีเพื่อน เป็นคนของสถานตากอากาศ พวกเราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน หลายวันก่อนผมไปหาเขา เขาเลยให้บัตรมาสิบใบ”หลี่ฝางพูด

“หลี่ฝาง ผมรักคุณจริงๆเลย”

หวางเสี่ยวโก๋พุ่งเข้าไป จะจูบไปที่หลี่ฝาง ดีที่หลี่ฝางดันเขาออกทัน จึงเขยิบออก

ตอนที่ให้ฉินวี่เฟย ฉินวี่เฟยก็ลังเลเล็กน้อยกว่าจะรับ ในกระเป๋าของฉินวี่เฟย ที่จริงมีแล้วหนึ่งใบ

ในฐานะคนตระกูลฉินแห่งเมืองเอก เธอจะไม่ได้รับคำเชิญจากสถานตากอากาศได้ไงล่ะ?

“ผับนี้ เป็นของคุณ ใช่ไหม?”

เวลานี้ ฉินวี่เฟยก็ย้ายก้น ไปตรงหน้าหลี่ฝาง ถามเบาๆ

หลี่ฝางพยักหน้า ไม่ได้ปิดบัง

“วิลล่ากลางภูเขาหมายเลข1ที่อยู่กลางภูเขานั่นล่ะ ใช่ของคุณซื้อด้วยไหม?”มองหลี่ฝาง ฉินวี่เฟยจึงถามต่อ

หลี่ฝางตะลึง มองฉินวี่เฟย:“วิลล่ากลางภูเขาหมายเลข1ที่อยู่กลางภูเขาอะไร?ทำไมผมไม่เข้าใจ”

“คุณแกล้งโง่กับฉันหรือไง ยังจะกล้าบอกว่าวิลล่ากลางภูเขาหมายเลข1ไม่ใช่ของคุณซื้อ?”ฉินวี่เฟยกลอกตาใส่หลี่ฝาง

หลี่ฝางส่ายหน้า พูด:“ไม่ใช่”

“งั้นแพลตฟอร์มถู่โต้วล่ะ?ก็ไม่ใช่ของคุณ?”มองหลี่ฝาง ฉินวี่เฟยหัวเราะขึ้นมา:“ทั้งเมืองเอก นอกจากคุณแล้ว ใครจะไปซื้อวิลล่ากลางภูเขาหมายเลข1กับแพลตฟอร์มถู่โต้วได้?”

“เงินเป็นพันล้านนี้ กลัวว่ามีแค่พวกคุณตระกูลหลี่ ที่จะเอาออกมาได้น่ะสิ?”ฉินวี่เฟยมองหลี่ฝางอย่างแน่วแน่

หลี่ฝางไม่พูดอะไร แล้วยังไม่มองฉินวี่เฟยด้วย

“หลี่ฝาง คุณยอมรับเถอะน่ะ วางใจได้ ฉันไม่เอาเรื่องนี้ไปบอกคนอื่นหรอก”

ถึงแม้ ทั้งหมดนี้ต่างเป็นการเดาของฉินวี่เฟย แต่เขาก็แทบจะมั่นใจได้

“คนมีงเนตั้งมากมาย ทำไมคุณต้องมายืนยันที่ผมด้วย?”หลี่ฝางหันไปมองที่ฉินวี่เฟย หัวเราะออกมา

“เดิมที ก็แค่เดา ไม่ได้มีหลักฐาน”

ฉินวี่เฟยหัวเราะ ตามองไปที่โจวหยาง:“แต่ตอนนี้ หลักฐานมาอยู่ตรงหน้าฉันแล้ว”

“เขานอกจากจะเป็นเพื่อนของคุณแล้ว ยังเป็นผู้จัดการคนใหม่ของถู่โต้วด้วย?”

ฉินวี่เฟยส่ายหน้า พูด:“ชื่อใหม่ของคุณ ไม่เพราะจริงๆ”

หลี่ฝางตั้งชื่อตัวเองใหม่ ว่าหนีเตีย

ไม่ว่าจะซื้อวิลล่ากลางภูเขาหมายเลข1 หรือว่าซื้อแพลตฟอร์มถู่โต้ว ด้านบน ก็เขียนเป็นหนีเตียชื่อนี้

รวมทั้งRecalling the past ตอนนี้ก็เปลี่ยนเป็นหนีเตีย

ตอนนี้ ทั้งเมืองเอกต่างกำลังตามสอบถามว่า……หนีเตียนั้นเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาจากที่ใด

หลี่ฝางหัวเราะ ในเมื่อถูกฉินวี่เฟยเดาได้แล้ว หลี่ฝางก็ไม่มีอะไรจะพูด

เวลานี้ หลี่ฝางก็ยืนขึ้น เดินไปที่ฟลอร์

ตอนนี้ ส้งเสียงเต้นรูดเสาเสร็จ เตรียมจะลงมา หลี่ฝางรีบเดินเข้าไป มาตรงหน้าของส้งเสียง:“ใช่สิ ส้งเสียง ไม่ใช่ว่าคุณอยากให้ผมไลฟ์สด แล้วกดของขวัญให้ผม ให้ผมเห่าเสียงหมาเหรอ?”

“คุณชายหลี่ คุณอย่าฟังยัยแพศยานั่นพูดจาไร้สาระเลย เธอใส่ร้ายผม”ส้งเสียงพูดอย่างกังวล

“เหรอ?แต่ ทำไมผมคิดว่าหลิวเฉียวเฉียวจริงล่ะ”

หลี่ฝางมองส้งเสียง มุมปากมีรอยยิ้มชั่วร้าย:“ให้คุณเห่าแบบหมา ผมคิดว่าคุณทำไม่ได้แน่”

“ยังไงคุณก็เป็นถึงคุณชายแห่งบริษัทส้งซื่อ คนตั้งมากมายรู้จักคุณ ถ้าคุณเห่าเหมือนหมา จะน่าอายแค่ไหน”หลี่ฝางมองส้งเสียง แล้วถามขำๆ:“คุณว่าใช่ไหม คุณชายส้ง?”

“คุณชายหลี่ คุณดูสิ ผมถือว่าเป็นคนมีชื่อเสียงในตงไห่นะ ถ้าเห่าเหมือนหมาจริงๆ แล้วต่อไปจะอยู่ในตงไห่ได้ไง?”ส้งเสียงได้ยินคำนี้ ก็ถอนหายใจแล้วพยักหน้าให้หลี่ฝาง

“คุณไม่ต้องเห่าเหมือนหมาแล้ว ผับนี้เสียงดังมาก ถึงคุณแหกปากเสียงดัง ก็ไม่มีใครได้ยินหรอก”

หลี่ฝางตบไหล่ของส้งเสียง พูด:“ไม่งั้น คุณคลานเหมือนหมาไหมล่ะ?”

เวลานี้ สีหน้าของส้งเสียง หม่นลงทันที

“หลี่ฝาง คุณแกล้งกันเกินไปหรือเปล่าเนี่ย?”ส้งเสียงกัดฟันแน่ มองหลี่ฝางแล้วถาม

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท