NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 273

ตอนที่ 273

บทที่ 273 จะกำจัดหญ้า ต้องถอนรากถอนโคน

ตอนที่หลี่ฝางพูดประโยคนี้ ไม่ต้องพูดถึงชุนเซิงและพรรคพวก แม้แต่เสี่ยวจางยังช็อก

สำหรับชุนเซิงและพรรคพวกแล้ว สามล้าน เป็นตัวเลขมูลค่าไม่อาจเอื้อม ทั้งชีวิตนี้ของเขายากที่จะหาเงินได้สามล้าน

ดังนั้น พวกเขาโดนตัวเลขของเงินทำให้ช็อกเลย

ส่วนเสี่ยวจาง เขาก็ตกใจกับการตัดสินใจของหลี่ฝาง

ถึงยังไง คือนักฆ่าที่ต้องการฆ่าหลี่ฝาง แต่วันนี้ หลี่ฝางกับซื้อตัวนักฆ่าที่จะมาฆ่าเขา แล้วให้กลับไปลอบฆ่าคนบงการ!

นี่……นี่มันไร้สาระไปหน่อยมั้ยเหนี่ย?

เสี่ยวจางเดินไปข้างหน้าหลี่ฝางทันที แล้วพูด: “คุณชาย แบบนี้ไม่ได้เด็ดขาดเลยครับ คุณจะเชื่อใจคนที่ต้องการฆ่าคุณได้ยังไง?”

“ทำไมจะเชื่อไม่ได้ล่ะ?”

หลี่ฝางหัวเราะเหอๆ แล้วพูด: “เรียกหมอมา แล้วรักษาเขา”

“ถ้าหากไม่รักษาเขา เขาก็ใกล้จะตายแล้วนะ” หลี่ฝางตบไปที่บ่าของเสี่ยวจาง แล้วพูด: “รีบไปเร็ว”

“คือ……” เสี่ยวจางดูไม่ค่อยเต็มใจ

“ทำไม ทำตามที่ฉันพูดไม่ได้หรือไง?” น้ำเสียงของหลี่ฝางเย็นชาลง

“ผมจะไปเดี๋ยวนี้ครับ คุณชาย” เสี่ยวจางพยักหน้าทันที แล้วเตรียมตัวออกไป

“นายรอเดี๋ยว”

หลังจากที่หลี่ฝางเรียกเสี่ยวจางไว้ ก็หันไปหาชุนเซิง: “คุณย่านายพักอยู่ที่ไหน?”

ชุนเซิงไม่ได้ตอบ แล้วทำสีหน้าซับซ้อน

“ถึงนายไม่พูด ไม่ช้าก็เร็วฉันก็หาเจอ……” หลี่ฝางหัวเราะ แล้วพูด

ชุนเซิงจึงยอมพูด: “อยู่ที่บ้านป้าฉัน บ้านป้าฉันอยู่ที่……”

ชุนเซิงพูดที่อยู่ออกมา

หลี่ฝางหันไปพูดกับเสี่ยวจาง: “นายเข้าใจความหมายของฉันใช่มั้ย?”

“เข้าใจครับ คุณชาย” เสี่ยวจางพยักหน้า แล้วเข้าใจในทันที

ชุนเซิงตื่นตระหนกสุดขีด เขาใช้แรงเฮือกสุดท้าย คลานขึ้นมา: “อย่าทำอะไรคุณย่าฉัน อย่าทำอะไรท่าน”

“นายไม่ต้องตกใจ ขอแค่นายเชื่อฟัง แล้วทำงานให้ฉัน ฉันรับประกันชีวิตย่านายเอง” หลี่ฝางหัวเราะ แล้วพูด: “ฉันจะส่งย่านายไปโรงพยาบาลที่ดีที่สุด แล้วไปรักษา กับหมอที่ดีที่สุด”

“จริงเหรอ?” ชุนเซิงมองหลี่ฝางอย่างไม่กล้าไว้ใจ

“จริง”

หลี่ฝางพยักหน้า: “ขอแค่นายไม่หักหลังฉัน คุณย่าของนาย ก็จะไม่เป็นอะไร”

ไม่นาน หมอก็มาถึงห้องใต้ดิน

แล้วทำแผลให้ชุนเซิง แถมยังให้เลือดเขาอีก……

แต่ว่าคุณหมอพูดขึ้น: “บาดแผลของเขาร้ายแรงมาก ผมแนะนำให้พาเขาไปโรงพยาบาล……ไม่งั้น เขาจะไม่ดีขึ้น”

“ถ้าพาไปโรงพยาบาล นานมั้ยกว่าเขาจะหาย” หลี่ฝางถามขึ้น

“หนึ่งสัปดาห์ก็สามารถลุกจากเตียงเดินได้แล้ว แต่ถ้าจะให้หายสนิท เกรงว่าจะต้องใช้เวลามากกว่าสองสัปดาห์ หรืออาจจะเป็นเดือน เวลาที่ใช้รักษา ก็ต้องดูจากการฟื้นตัวของร่างกายผู้ป่วยด้วย” คุณหมอพูดขึ้น

หลี่ฝางพยักหน้า

เมื่อเสี่ยวจางกลับมา หลี่ฝางก็เอ่ยถาม:“ตรวจสอบหรือยัง? ที่เขาพูดเป็นความจริงมั้ย?”

“เป็นความจริงทั้งหมดครับ คุณย่าเขาเพิ่งจะออกจากโรงพยาบาลวันนี้จริงๆ ครับ เป็นเนื้อหงอก แต่ว่ายังไม่ร้ายแรง แค่ผ่าออก ก็น่าจะไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรครับ……นอกจากนี้ คนของพวกเราไปรับคุณย่าเขาออกมาแล้วครับ”

“คุณชาย ต่อจากนี้ให้ทำไงครับ?” เสี่ยวจางถามขึ้น

“พาคุณย่าของชุนเซิงไปส่งโรงพยาบาล แล้วให้การรักษาอย่างดีที่สุด……แล้วเอาชุนเซิงไปส่งโรงพยาบาลด้วย”

หลี่ฝางมองคนที่เหลืออยู่ครู่ แล้วพูด: “ส่วนคนที่เหลือ ก็ขังไว้ที่นี่ก่อน”

จะกำจัดหญ้า มันต้องถอนรากถอนโคน

ฆ่าสวีเถิงเฟย นั้นเป็นเรื่องง่าย

แต่การฆ่าสวีเถิงเฟย ก็จะเป็นการนำมาซึ่งความแค้นของตระกูลสวี

ถึงยังไง สวีเถิงเฟยก็เป็นผู้สืบทอดบริษัทสวีซื่อ ฆ่าเขา คนทั้งตระกูลสวีคงเป็นบ้า

ครั้งนี้ หลี่ฝางต้องใช้ประโยชน์จากสิ่งที่ตระกูลตนมี ทำให้ตระกูลสวี ถูกลบหายไปจากเมืองเอก……

หลี่ฝางจะทำให้สวีเถิงเฟยสิ้นหวังทีละนิดละนิด……สิ้นหวังจนอยากตาย

ออกมาจากห้องใต้ดิน หลี่ฝางก็กลับมาอยู่ข้างกายฉินวี่เฟย

“ยังเจ็บอยู่มั้ย?” หลี่ฝางมองฉินวี่เฟยอย่างเป็นห่วง

ฉินวี่เฟยส่ายหน้า:”ไม่เจ็บแล้ว”

“พอแล้ว ไม่ต้องมาโกหกเลย……แผลใหญ่ขนาดนี้ แถมไม่ได้ฉีดยาชา เธอบอกว่าไม่เจ็บ ใครจะเชื่อ?” หลี่ฝางพูดพลางส่ายหน้า

“รู้ว่าฉันเจ็บนายยังจะถาม” ฉินวี่เฟยมองบนใส่หลี่ฝาง

“ฉันแค่อยากรู้ว่าเธอจะพูดความจริงมั้ย แต่เธอก็ยังอดกลั้นไว้อยู่ ตั้งแต่ตอนถูกแทง มาจนถึงตอนพันแผล ไม่ใช่แค่น้ำตาไม่ไหลสักหยด แม้แต่ร้องยังไม่ร้องสักแอ๊ะ เธอนี่จริงๆ เลย” หลี่ฝางนึกขึ้น ก็รู้สึกน่ากลัว

โดยเฉพาะตอนที่หมอพันแผลให้ฉินวี่เฟย หลี่ฝางรู้สึกว่า ถ้าหากเป็นตน ตนคงเจ็บจนร้องไห้ไปแล้ว อีกอย่างคงจะร้องโอดโอยเสียงดังไปแล้ว

“ฉันต้องทนไว้ไง ไม่งั้น นายคงล้อฉันแน่” ฉินวี่เฟยพูดพลางทำจากจู๋

“งั้นเธอก็อดทนได้ดีจริงๆ”

หลี่ฝางพูดจบ ฉินวี่เฟยก็อดกลั้นความเจ็บแล้วลุกขึ้นนั่ง

“ไม่ได้ ฉันต้องรีบไปใส่เสื้อผ้าแล้ว ไม่งั้น เสี่ยวน่าจะเห็นเอา” ฉินวี่เฟยพูด

“เห็นแล้วยังไง?”

“ถ้ามาเห็นแล้วฉันจะอธิบายยังไงล่ะ?” ฉินวี่เฟยพูด:“หรือจะให้ฉันพูดความจริง ว่ามีคนจะฆ่านาย แล้วฉันก็เอาตัวเข้าไปบังเหรอ? พวกเขาคงตกใจแย่”

“งั้นโอเค”

ตอนที่ฉินวี่เฟยไปเปลี่ยนเสื้อผ้า หลี่ฝางก็กลับไปสวมเสื้อของเขา

ฉินวี่เฟยมีแผลที่ไหล่ด้านหลัง คงแช่น้ำพุร้อนไม่ได้แล้ว

ดังนั้น หลี่ฝางกับฉินวี่เฟยจึงออกมาจากบ่อน้ำพุร้อน

“ใช่แล้ว หลี่ฝาง ใครกันที่ต้องการฆ่านาย?” ฉินวี่เฟยมองหลี่ฝาง แล้วถามขึ้นอย่างสงสัย:“คงไม่ใช่มู่เสี่ยวไป๋ใช่มั้ย?”

“ตอนแรก ฉันก็คิดว่าเป็นมู่เสี่ยวไป๋” หลี่ฝางส่ายหน้า แล้วพูด:“จากนั้นเค้นถามไปถึงได้รู้ว่า เป็นสวีเถิงเฟย”

พูดจบ บนหน้าของหลี่ฝาง ก็มีร่องรอยของความเย็นชา

“สวีเถิงเฟย?” เมื่อได้ยินคำตอบ ฉินวี่เฟยก็ถามขึ้นอย่างแปลกใจ:“ทำไมสวีเถิงเฟยต้องฆ่านายด้วย พวกนายสองคนมีความแค้นที่ลึกซึ้งอะไรขนาดนั้น?”

“ไม่ได้มีความแค้นที่ลึกซึ้งหรอก แต่ก็มีปัญหากันนิดหน่อย ฉันก็คิดไม่ถึง ว่าเขาจะส่งคนมาฆ่าฉัน……”

พอหลี่ฝางนึกถึงก็อยากจะขำ สวีเถิงเฟยต้องการซื้อชีวิตตนด้วยเงินแค่ สามแสน

สามแสนมันถูกไปมั้ง?

ฉินวี่เฟยมองหลี่ฝาง แล้วถามต่อ:“นายจะแก้แค้นมั้ย?”

“เธอคิดว่าไงล่ะ?” หลี่ฝางหึ แล้วถามกลับ

“ความสามารถของตระกูลสวีก็ไม่ได้อ่อนนะ……คุณปู่ของเขาสวีส้าวชิวเป็นคนที่มีความสามารถมากคนนึง และก็เป็นคนที่มีชื่อเสียงมากในเมืองเอก”

“สวีส้าวชิวโอ๋สวีเถิงเฟยมาก ไม่กี่วันก่อนฉันได้ยินมาว่าสวีเถิงเฟยไปเล่นพนันที่เขาหมาป่า เสียเงินไปเป็นสิบๆ ล้าน แต่คุณท่านสวีแค่ด่าสวีเถิงเฟยไม่กี่คำ”

“ส่วนหยูเถิงตระกูลหยู ก็สร้างความสูญเสียให้ตระกูลเป็นสิบๆ ล้านเหมือนกัน แต่ท่านปู่หยู ก็เด็ดขาดกักบริเวณหยูเถิงทันที จนถึงตอนนี้ยังไม่ปล่อยเขาออกมาเลย”

“เมื่อเอามาเทียบกัน สวีเถิงเฟยก็คือลูกรักของตระกูลสวี ถ้าหากนายทำอะไรเขา นายต้องระวังจิ้งจอกเฒ่าสวีส้าวชิวตัวนั้นด้วยนะ”

หลี่ฝางพยักหน้า ไม่ได้พูดอะไร

จะถอนรากถอนโคนตระกูลสวี แค่หลี่ฝางคงทำไม่ได้

หลี่ฝางกำลังรอพ่อของตนอยู่……

……

เมื่อเห็นฉินวี่เฟยกับหลี่ฝางสองคนนั้นเดินออกมาจากบ่อน้ำพุร้อน

สวีเถิงเฟยกับหวางเฉินสองคน ก็ถึงกับงง

สวีเถิงเฟยทำหน้าเข้มอยู่ครู่ แล้วพูดกับหวางเฉิน: “เกิดอะไรขึ้น? ทำไมพวกมันยังมีชีวิตอยู่?”

“นายบอกว่าลูกน้องที่เชื่อถือได้ของนาย ลงมือเอง หลี่ฝางต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัยไม่ใช่ไง?”

หวางเฉินพูดอย่างหดหู่เล็กน้อย: “พี่เฟย พี่ต้องระงับอารมณ์หน่อย ฆ่าคนนะ ไม่ใช่ฆ่าไก่……”

“ครั้งนี้พลาดแล้ว ก็ยังมีครั้งต่อไปไม่ใช่เหรอ?”

“พี่วางใจเถอะ ชุนเซิงต้องฆ่าไอ้หมอนั่นได้แน่ ยังไง ชุนเซิงรีบที่จะใช้เงินสามแสนนั่นรักษาย่าของเขานะ” หวางเฉินพูดขึ้น

“หึ สามแสน รอให้ชุนเซิงฆ่าหลี่ฝางจริงๆ ก่อน ฉันจะให้พี่เขยฉันจับมันทันที แล้วหาโอกาสลากมันเข้าคุก จัดการเขาซะ”

“สามแสน ให้มันให้โง่สิ!” สวีเถิงเฟยยิ้มร้าย

หวางเฉินขมวดคิ้ว แล้วโมโหเล็กน้อย: “พี่เฟย ไม่ใช่มั้ง? นี่เป็นเงินชี้ชะตาของชุนเซิงเลยนะ ถ้าพี่ไม่ให้เงินก้อนนี้ ไม่เหมาะมั้ง?”

“ให้ได้ไงล่ะ? ถ้าให้มัน งั้นฉันก็เป็นคนมีความผิดว่าจ้างคนไปฆ่าคนน่ะสิ? เงินสามแสนเรื่องเล็กๆ แต่ถ้ามีเรื่องเข้าตัวขึ้นมา งั้นก็วุ่นวายสิ”

สวีเถิงเฟยพูดขึ้น: “ชุนเซิงฆ่าคน ก็รนหาที่ตาย ไปพูดเรื่องความเป็นธรรมอะไร กับคนตายกันเล่า!”

พอฟังจบ หวางเฉินก็ถอนหายใจ และพูดด้วยความเสียใจ: “เห้อ น่าเสียดายชุนเซิง”

“ยังไงเขาก็ติดตามผมมาหลายปี……”

“เอาน่า ไม่ต้องร่ำไรแล้ว ถ้างั้นสามแสนของชุนเซิงนั่น ให้นายพอใจยัง” สวีเถิงเฟยพูดขึ้น

ในตอนนี้ หลี่ฝางกับฉินวี่เฟย ก็เดินมายังเบื้องหน้าของสวีเถิงเฟย

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท