NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 277

ตอนที่ 277

บทที่ 277 หลุมพรางของหลี่ฝาง

ไม่ถึงครึ่งนาที ในกลุ่มของหลี่ฝาง ก็มีคนเข้ามาเป็นร้อยกว่าคน

“อั่งเปาล่ะ?”

“รีบส่งสิ ทุกคนรออยู่นะ!”

หลี่ฝางหัวเราะเหอๆ แล้วพูด: “โอเค ผมส่งสองหมื่นก่อน”

“โม้อะไรของนาย? ถ้านายกล้าส่งอั่งเปาสองหมื่น ฉันเรียกนายว่าพ่อเลย!” คนในกลุ่มพูดขึ้น

“อั่งเปาสองหมื่น ฉันไม่เคยเจออั่งเปาเยอะขนาดนี้มาก่อน มาเลย เจ้าของกลุ่ม!”

จำนวนคนในกลุ่ม ยังคงเพิ่มจำนวนอย่างไม่หยุด

“เข้าไปก่อน ถ้าหากหมอนั่นขายของ หรือว่าให้เราลงแอปอะไร พวกเราจะออกทันที” มีคนพูดขึ้นประโยคนึง

เมื่อจำนวนคนถึงสองร้อย หลี่ฝางก็ปิดกลุ่ม

“เอาล่ะ ทุกคนเตรียมตัว ฉันจะเริ่มส่งแล้ว”

หลี่ฝางพูดจบ ก็ส่งอั่งเปาจำนวนเงินสองหมื่น แบ่งออกสำหรับหนึ่งร้อยคน

เมื่อหลี่ฝางส่งอั่งเปาออกไป ก็ถูกแย่งทันที

ติ๋งติ๋งติ๋ง……

ไม่ถึงครึ่งนาที อั่งเปาจำนวนหนึ่งร้อยอัน ก็ถูกแย่งจนหมด

และทั้งหมดนั่น ก็เป็นจำนวนเงินสองร้อย!

“เหยดดด เศรษฐี นี่เป็นครั้งแรกเลยนะที่ฉันเคยแย่งอั่งเปาเงินเยอะๆ แบบนี้!”

“เจ้าของกลุ่ม ส่งอีก!”

“ใช่แล้ว ส่งอีก มือช้าไป แย่งไม่ทัน!”

หลี่ฝางหัวเราะเหอๆ แล้วพูดขึ้น: “หลังจากนี้สิบนาที ฉันจะแจกอีกครั้ง”

“โอเค รอ!”

“นั่งรออั่งเปา!”

ในตอนนี้ ทุกคนไม่อ่านหนังสือแล้ว ต่างคนต่างนั่งรอหลี่ฝางแจกอั่งเปา

ถึงแม้คนพวกนี้ ไม่ใช่คนจนอะไร แต่ว่าสามารถแย่งอั่งเปาได้หลายร้อย ก็รู้สึกแฮปปี้ดี

สวีเถิงเฟยกับหวางเฉินก็เข้ากลุ่มเช่นกัน และสามารถแย่งอั่งเปาของหลี่ฝางได้

“ไม่เลวนี่ พวกนายสองคนมือไวดีนี่” หลี่ฝางพูดพลางยิ้ม

หวางเฉินขมวดคิ้ว แล้วมองหลี่ฝาง: “นายนี่รวยจริง สองหมื่นนี้ ก็โยนทิ้งขว้างแบบนี้ นายไม่เสียดายเหรอ?”

“มีอะไรให้เสียดาย นี่แค่เล็กน้อย” หลี่ฝางพูดอย่างไม่สะทกสะท้าน

สวีเถิงเฟยนอนอยู่หน้าหวางเฉิน แล้วพูด: “สงสัยเงินที่ขายที่ดินของเขา ยังใช้ไม่หมดนะ! ”

หวางเฉินพยักหน้า แล้วมองหลี่ฝาง: “ถ้างั้น นายแจกอีกครั้งสิ? ”

“ได้สิ นายเรียกฉันว่าพ่อ ฉันก็แจกอีก” หลี่ฝางพูดขึ้น

สีหน้าของหวางเฉิน เข้มขึ้นทันที

เขาตบโต๊ะ แล้วยืนขึ้นทันที ในขณะเดียวกัน มือของเขาก็กำหมัดแน่น แล้วมีท่าทีว่าจะลงมือกับหลี่ฝาง

แต่หลี่ฝางไม่กลัว ยังไงก็ยังมีมือดีอย่างส้าวส้วยอยู่ข้างหลังเขา

หวางเฉินเป็นลูกชายของเหยสง ติดตามพ่อมาตั้งแต่เล็กจนโต ก็เรียนรู้วิธีต่อสู้มาบ้าง

เมื่อกี้หลี่ฝางดูถูกเขา เขาก็เตรียมจะจัดการหลี่ฝาง

“หวางเฉิน นายอย่าวู่วาม” สวีเถิงเฟยรีบคว้าตัวหวางเฉิน

แต่หวางเฉิน ก็สะบัดสวีเถิงเฟยออก: “กลัวอะไร? ไอ้หมอนี่มันรนหาที่ก่อน!”

หวางเฉินกำหมัดแน่น จากนั้นก็ง้างหมัดขึ้น

แต่หลี่ฝางไม่แม้แต่จะหยีตา เขาแค่ยิ้มอ่อนที่มุมปาก

สีหน้าของหวางเฉิน ก็เหี้ยมขึ้นทันที

หลี่ฝางไม่สนใจหวางเฉิน ทำให้หวางเฉินยิ่งโมโห!

ไม่ต้องมาดูถูกคนอื่นแบบนี้!

ในขณะที่กำปั้นกำลังจะถูกชกออกไป วินาทีนั้นส้าวส้วยก็ผลักตัวหลี่ฝางออก จากนั้นก็ลงมือ ถีบเข้าไปที่ท้องของหวางเฉินเต็มๆ

เสียงดังผลัวะ ร่างของหวางเฉิน ก็ถูกถีบจนตกไปอยู่ใต้โต๊ะ ไถลออกไปหลายเมตร

“มีเรื่องกันเหรอ?”

ทุกคนเข้ามามุงดู

“เหยด นี่แม่งอย่างโหด!”

มีคนมุงหลายคน มองไปที่ส้าวส้วย ก็ถึงกับช็อก

“คนที่อัดคนนั่น หน้าตาหล่ออยู่นะ” มีผู้หญิงผมสั้นคนนึง มองส้าวส้วย ด้วยสายตาหลงใหล

ส้าวส้วยดูคูลสุดๆ หลังจากที่เขาเตะ ก็หุบขาเข้ามาทันที ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นอย่างนั้น

“ทุกคนไม่ต้องกลัวไป!”

“ฉันแจกอั่งเปาให้ ทุกคนใจเย็นก่อน”

หลี่ฝางยิ้ม แล้วรีบควักโทรศัพท์ออกมา จากนั้นก็ส่งอั่งเปาเข้ากลุ่มอีกสองหมื่น

ครั้งนี้ ทุกคนแย่งกันเร็วมาก

สิบกว่าวินาที อั่งเปาก็ถูกแย่งจนเกลี้ยง

ส่วนหลี่ฝาง ก็พูดอธิบายขึ้นในตอนนี้: “เมื่อกี้พวกเราแค่ป้องกันตัว เขาแย่งอั่งเปาได้ ดังนั้นจึงใจร้อน แล้วมารีดไถผม”

“หน้าไม่อายไปหน่อยมั้ย มือช้าเอง จะโทษใครล่ะ!”

หลายคนมองไปทางหวางเฉิน ด้วยสายตาดูถูก

หวางเฉินก็ขี้เกียจอธิบาย เขารู้ ตอนนี้หลี่ฝางซื้อใจคนไปแล้ว ในตอนนี้ ไม่ว่าตนจะพูดอะไร ทุกคนก็ไม่เชื่อหรอก

หวางเฉินจับโต๊ะ แล้วพยุงตัวเองลุกขึ้น

เขาลูบไปที่ท้อง แล้วมองไปที่ส้าวส้วย ด้วยสายตาที่น่ากลัว

สวีเถิงเฟยวิ่งเข้าไป แล้วพูด: “ฉันเตือนนายแล้ว ว่าอย่าวู่วาม”

“ฉันจะไปรู้ได้ไงว่าไอ้หมอนี่มันต่อสู้เป็นอ่ะ!” หวางเฉินมองบนใส่สวีเถิงเฟย แล้วพูด: “ฉันคิดว่านายบอกให้ฉันอย่าก่อเรื่องในบ้านพักตากอากาศซะอีก!”

“ตอนนี้พูดอะไรก็สายไปแล้ว พวกเรารีบไปเถอะ” สวีเถิงเฟยมองส้าวส้วยอย่างระแวง แล้วพูด: “ไอ้หมอนั่น ไม่ควรไปยุ่งด้วย”

หวางเฉินพยักหน้า

หลังจากถูกส้าวส้วยถีบไปหนึ่งที หวางเฉินก็ได้รู้ ว่าฝีมือของเขานี้ ยังห่างชั้นกับเขาอีกไกล

ถ้าสู้กันขึ้นมาจริงๆ โอกาสที่เขาจะตอบโต้ยังไม่มี

ขณะที่สวีเถิงเฟยกับหวางเฉินเตรียมตัวออกไป หลี่ฝางก็เร่งฝีเท้า แล้วไปขวางทางของพวกเขา

“พวกนายจะไปไหนกัน?” หลี่ฝางถามพลางหัวเราะเหอๆ

สวีเถิงเฟยขมวดคิ้ว แล้วพูดอย่างไม่สบอารมณ์: “พวกฉันอยากไปไหนก็จะไปที่นั่น นายมายุ่งอะไรด้วย? ”

“รีบหลีกทางไป หมาที่ดีมันไม่ขวางทางชาวบ้านเขา!” สวีเถิงเฟยพูดอย่างเย็นชา

หลี่ฝางหัวเราะเหอะๆ มองไปที่สวีเถิงเฟย แล้วพูดขึ้น: “นายรู้มั้ยว่าทำไมฉันต้องสร้างกลุ่มขึ้นมา? ”

“ทำไม?” สวีเถิงเฟยถามขึ้นอย่างสงสัย

“นั่นก็เพราะว่าในมือถือของฉัน มีรูปบางรูป ที่น่าสนใจมากๆ ที่ฉันอยากจะแชร์ ให้ทุกคนได้ดู” หลี่ฝางมองสวีเถิงเฟย และยิ้มอย่างมีเลศนัย

“สวีเถิงเฟย นายน่าจะรู้ว่าฉันพูดอะไรใช่มั้ย?”

สีหน้าของสวีเถิงเฟย เปลี่ยนไปในทันที

แน่นอนว่าเขารู้ว่าที่หลี่ฝางพูดหมายถึงอะไร รูปใบนั้น ต้องเป็นรูปที่เขากอดกับตู้เฟยแน่ๆ

“ไม่เป็นไร พวกนายไปเถอะ อยากไปไหนก็ไป ยังไงพวกนายก็อยู่ในกลุ่มแชท พวกนายออกไปแล้ว ก็ยังคงเห็นอยู่” หลี่ฝางควักโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วกดมัน

สวีเถิงเฟยกลัวขึ้นมาทันที แล้วรีบพูด: “อย่าส่งนะ!”

“ทำไมฉันต้องฟังนายล่ะ?” หลี่ฝางถามสวีเถิงเฟย

สวีเถิงเฟยกัดฟัน แล้วมองหลี่ฝาง: “ขอแค่นายไปแชร์รูป พวกเราก็พูดกันดีๆ ”

“นายให้ฉันทำอะไร ฉันก็จะทำ โอเคมั้ย?” สวีเถิงเฟยพูดโน้มน้าว

“ฉันอยากอ่านหนังสือ แต่เก้าอี้ที่นี่ก็แข็งไป……นายว่าทำยังไงดี?” หลี่ฝางมองสวีเถิงเฟย แล้วถามอย่างสนใจ

สวีเถิงเฟยไม่ใช่คนโง่ แน่นอนว่าเขาเข้าใจความหมายของหลี่ฝาง

หลี่ฝางต้องการให้สวีเถิงเฟยนอนลง แล้วเป็นเก้าอี้ให้เขานั่ง

ส้าวส้วยเบะปาก เดินเข้ามา แล้วพูดอย่างไม่ยอม: “เจ้านาย นายทำแบบนี้ได้ไง? นายไม่ให้ฉันขี่คุณชายสวี แต่กลับขี่ซะเอง? ”

หลี่ฝางหัวเราะเหอๆ แล้วมองสวีเถิงเฟย: “นายยินดีนอนลง แล้วเป็นเก้าอี้ให้ฉันนั่งมั้ย? ”

“หลี่ฝาง นายฝันไปเถอะ ฉันเป็นคุณชายผู้สูงศักดิ์ของบริษัทสวีซื่อ จะเป็นเก้าอี้ให้นายนั่งเหรอ?” สวีเถิงเฟยมองหลี่ฝางอย่างเกรี้ยวกราด

หลี่ฝางพยักหน้า แล้วพูด: “ฉันก็คิดว่านายไม่ทำ”

หลี่ฝางพูด พลางเปิดวีแชท แล้วเตรียมจะกดแชร์รูป

สีหน้าของสวีเถิงเฟย ก็ซีดลงทันที: “นายเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นได้มั้ย? ”

“นอกจากเป็นเก้าอี้ให้นายนั่ง อย่างอื่น ก็แล้วแต่นายบอก!” สวีเถิงเฟยพูด พลางทำหน้าเข้ม

หลี่ฝางยิ้ม แล้วพูดขึ้น: “งั้นก็ดี งั้นนายคุกเข่าลงแล้วเรียกฉันว่าท่านปู่ซะ”

เมื่อสวีเถิงเฟยได้ยิน สีหน้าก็เข้มขึ้นทันที

คุกเข่าแล้วเรียกท่านปู่!

แบบนี้นอนลงเป็นเก้าอี้ให้นั่งยังดีซะกว่า!

สวีเถิงเฟยพูดกลับหลี่ฝางอย่างหมดคำพูด: “นายเปลี่ยนเป็นวิธีแบบอื่นได้มั้ย ทำไมถึงต้องทำให้ฉันอับอายด้วย? มันมีอะไรดีกับนายกัน? ”

“เอางี้ นายบอกจำนวนเงินมา ฉันจะซื้อรูปพวกนั้น เป็นไง?” สวีเถิงเฟยถามขึ้น

หลี่ฝางยักไหล่เบาๆ : “สวีเถิงเฟย นายเห็นฉัน เหมือนคนขาดเงินเหรอ? ”

หลี่ฝางแจกอั่งเปาไปเป็นหมื่นๆ ทำไมถึงขาดเงินล่ะ

“เป็นไง คิดได้หรือยัง? ว่าจะเป็นเก้าอี้ให้ฉันนั่ง หรือว่าจะคุกเข่าแล้วเรียกฉันว่าท่านปู่!” หลี่ฝางมองสวีเถิงเฟย แล้วยิ้มอย่างเย็นชา

สวีเถิงเฟยเลือดขึ้นหน้า แล้วไม่ยอมตอบอยู่นาน

“ทุกคนดูแชทกลุ่มให้ดีนะ ฉันจะแชร์……”

เมื่อหลี่ฝางเอ่ยปาก สวีเถิงเฟยก็พูดขึ้น: “ฉันเป็นเก้าอี้ให้นายนั่ง แต่เปลี่ยนเป็นที่คนน้อยกว่านี้ได้มั้ย? ”

สวีเถิงเฟยโน้มน้าว

ถึงยังไง รูปของเขากับตู้เฟย จะให้หลุดออกไปไม่ได้ ถ้าหากถูกคนพูดออกไป เขาก็จบเห่แน่ๆ

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท