NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 281

ตอนที่ 281

บทที่281 ส้าวส้วยที่มีใบหน้าร้ายกาจเล็กน้อย

หวางเฉินตะลึง

อาเหยโก่วของตัวเอง ถือว่าเป็นคนที่รู้จักกันดีมากที่เมืองเอก แล้วเขาจะไปเรียกเด็กเมื่อวานซืนคนหนึ่ง……ว่าท่านได้ไงล่ะ!

เวลานี้ หวางเฉินก็สงสัยหูของตัวเอง เกิดอาการหลอนหรือไม่

เหยโก่วมองส้าวส้วยอย่างงุนงง พูดว่า:“ท่าน เห็นแก่หน้าผมหน่อยไม่ได้เหรอ ปล่อยเขาไปสักครั้ง”

“เหยโก่ว คุณนี่เห็นค่าของตัวเองจริงๆเลยนะ?”

ส้าวส้วยพูดอย่างเย็นชา:“คุณอยู่ถิ่นของผม มีหน้าด้วยหรือไง?”

“ถอยไป”ส้าวส้วยพูดอย่างเย็นชา

เหยโก่วก็ไม่รู้ว่าทำไม ตัวเองถึงได้กลัวผู้ชายตรงหน้าคนนี้ขนาดนี้!

ถึงเขาจะสุดยอดแค่ไหน ก็ไม่ใช่ว่าแค่คนๆหนึ่งเหรอ?

เหล่าพรรคพวกน้องชายของตัวเอง รวมกันแล้วก็เกือบจะเกินร้อย

แต่ในเมื่อเป็นแบบนี้ ตัวเองก็ยังไม่มั่นใจนัก ที่จะเป็นปรปักษ์กับส้าวส้วย

เซ้นส์ของเหยโก่วแข็งแกร่งมาก เซ้นส์ของเขาบอกตัวเองว่า ผู้ชายตรงหน้าคนนี้ ยุ่งไม่ได้เด็ดขาด

“ท่าน เขาคือหลานชายของผม”เหยโก่วพูด

ส้าวส้วยหัวเราะเหอะๆ มองเหยโก่วอย่างมีเลศนัย:“ทำไม ความหมายของคุณก็คือ หลานชายของคุณ ด่าผมได้ ใช่ไหม?”

หวางเฉินมองเห็นฉากนี้ ตะลึงโดยสิ้นเชิง

นี่มันสถานการณ์อะไรกันแน่?

อาเหยโก่วที่ดูมีอำนาจทรงพลังของตัวเอง ทำไมอยู่ต่อหน้าส้าวส้วย ถึงได้กลายเป็นคนขี้ขลาดได้แบบนี้?

คิ้วของหวางเฉิน ขมวดแน่น เขาผลักอาของตัวเองออก จ้องส้าวส้วยแล้วพูด:“คุณเป็นใครเหรอ?ด่าคุณแล้วจะทำไม?คุณเป็นเง็กเซียนฮ่องเต้เหรอไง ด่าคุณแค่นี้จะถูกฟ้าผ่าตายเหรอไง?”

“ไม่ใช่ถูกฟ้าผ่าตายหรอก……”

ส้าวส้วยหัวเราะเหอะๆ ฝ่ามือ ก็ตบใส่หวางเฉินจนหน้าหัน

“แต่ด่าผม ผมจะต้องเอาคืน”ส้าวส้วยมองหวางเฉินอย่างเย็นชา พูดไป

เหยโก่วรีบวิ่งเข้ามา พูดกับหวางเฉิน:“ไอ้เด็กนี่ ดูไม่ออกเหรอไง?ว่าเขาเป็นคนฝีมือดี”

“ฝีมือดี……ฝีมือดีก็ทำร้ายผมได้เหรอ?”

หวางเฉินถูกตบหนึ่งฉาด ถึงแม้เจ็บจนน้ำตาไหล แต่เขาก็ยังคงท่าทียโสของเขา

“อาเหยโก่ว คุณอย่าลืมล่ะ พ่อผมก็เป็นคนฝีมือดี เขามาจากวัดเส้าหลินด้วยซ้ำ”

“ผมไม่เชื่อว่า เขาจะสุดยอดแค่ไหน ก็จะสุดยอดกว่าพ่อผมได้?”หวางเฉินพูดอย่างไม่เชื่อ

สีหน้าของเหยโก่ว ดูแย่สุดๆ เขาพูดเสียงเบา:“เกี่ยวกับพ่อคุณกับเขาใครเจ๋งกว่ากันนั้น พวกเขาไม่เคยสู้กัน และผมก็ให้คำตอบคุณไม่ได้ แต่ผมบอกคุณให้นะ ผู้ชายคนนี้เป็นคนที่โหดร้ายมากๆ ถ้าคุณทำเขาโมโห ก็ระวังชีวิตน้อยๆของคุณด้วย”

“จำไว้ ตอนนี้พ่อคุณไม่ได้อยู่ที่สถานตากอากาศนะ ถึงคุณให้เขามาช่วยจัดการ ก็ต้องให้พ่อคุณมาก่อนค่อยว่ากัน เข้าใจไหม?”เหยโก่วไปที่ข้างหูหวางเฉิน แล้วพูด

“ความหมายของอาคือ ให้ผมทนกับเขาก่อน?”ในที่สุดหวางเฉินก็เข้าใจความหมายของเหยโก่ว

หวางเฉินกัดปาก ไม่ค่อยพอใจนัก:“ทำไมผมต้องทนไอ้เด็กนี่ด้วย?”

“ไอ้คนโง่เง่าเต่าตุ่นคนนี้……”

หวางเฉินยังไม่ทันพูดจบ เหยโก่วก็ตบไปหนึ่งฉาด ใส่ที่หน้าของหวางเฉิน

หวางเฉินตะลึง เขามองอาเหยโก่วของตัวเองอย่างมึนๆ ถาม:“อาเหยโก่ว……ทำไมอาต้องตบผมล่ะ?”

หวางเฉินคิดในใจ ส้าวส้วยตบเขาก็ว่าไปอย่าง นี่เขาคืออาผม ทำไมถึงตบผมล่ะ?

เวลานี้ จู่ๆหวางเฉินก็รู้สึกน้อยใจ เขาอยากร้องไห้อย่างน่าสมเพช ……

ที่จริงหวางเฉินคือผู้ชายที่เข้มแข็ง และดื้อรั้นมาก ……

ก็แค่ ใครจะไปเผชิญหน้ากับญาติที่กบฏใส่ได้?

เวลานี้ หวางเฉินรู้สึกว่าอาเหยโก่วของตัวเอง คือคนของฝ่ายตรงข้ามแล้ว ……

ทรยศเขา

“ถูกคนของตัวเองสั่งสอน ก็ดีกว่าคนอื่นมาสั่งสอนเสมอ……อย่างน้อย ผมก็ออมมือกับคุณได้”เหยโก่วพูดด้วยใบหน้าซีเรียส

ใช่ ฝ่ามือของเหยโก่วนี้ เบากว่าฝ่ามือของส้าวส้วยเยอะเลย

“จัดการญาติตัวเองเพื่อความเป็นธรรมของสังคม?”

มองเห็นฉากนี้ ส้าวส้วยก็หัวเราะอย่างน่าสนใจ เขาเดินไปข้างหน้า แทรกกลางระหว่างเหยโก่วกับหวางเฉิน:“เมื่อกี๊พวกคุณทั้งสอง ซุบซิบอะไรกันเหรอ”

“ปรึกษากันว่าจะจัดการผมอย่างไร?”ส้าวส้วยถาม

“จะกล้าได้ไงล่ะ ท่าน ผมให้หลานชายผมขอโทษคุณ”เหยโก่วมองส้าวส้วยอย่างอ่อนโยน

ส้าวส้วยพยักหน้า มองหวางเฉิน แล้วพูด:“ขอโทษ?”

“คุณจะขอโทษผมเหรอ?”ส้าวส้วยสงสัยมากๆ

เวลานี้ เหยโก่วจ้องมองหวางเฉินอย่างสุดชีวิต ส่วนหวางเฉิน ในที่สุดก็ก้มหัวให้ พูดกับส้าวส้วย:“โอเค ผมผิดไปแล้ว”

“ขอโทษแบบไม่เต็มใจขนาดนี้เชียว?”

ส้าวส้วยส่ายหน้า พูดว่า:“แล้วก็ ผมยอมรับคำขอโทษไม่ได้”

“เมื่อกี๊คุณด่าผมไปตั้งเยอะ ……ไม่ใช่ว่าแค่คำขอโทษหนึ่งคำ ก็จะหายกันได้”

ส้าวส้วยยิ้มอย่างเหยียดหยาม:“ถ้าขอโทษมีประโยชน์ คุณว่า……กำปั้นใหญ่ๆของผมนี้ จะมีประโยชน์อะไร?”

“เหตุผลนี้หรือไม่ เหยโก่ว?”ส้าวส้วยมองเหยโก่ว แล้วถาม

เหยโก่วได้ยินคำพูดนี้ของส้าวส้วย ก็รู้ว่าขอโทษไปก็ไม่มีประโยชน์

ดังนั้น เหยโก่วจึงไม่บังคับให้หวางเฉินขอโทษต่อ มองส้าวส้วยแล้วถาม:“เอ่อท่าน คุณว่ามาเลยดีกว่าว่าจะเอาไง”

“ง่ายๆ เมื่อกี๊ผมเห็นคุณตบเขา รู้สึกสบายใจมาก ผมชอบดูคนตบตีคนกันเองมากที่สุด ก็แค่แรงที่คุณลงมือ เบาไปหน่อย”

“เอางี้ คุณทำแรงๆหน่อยไหม?”ส้าวส้วยขำไปพูดไป

เหยโก่วมองหวางเฉินแวบหนึ่ง ใบหน้าเต็มไปด้วยความลำบากใจ

ยังไง หวางเฉินก็เป็นหลานชายแท้ๆของตัวเอง ถ้าให้เขาจัดการ เขาก็ทำไม่ได้

เหยโก่วขมวดคิ้ว มองหวางเฉินแล้วพูด:“ท่าน ตอนนี้คุณก็ใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองเอก ไม่รู้ว่าคุณเคยได้ยินชื่อเหยสงนี้หรือไม่……”

“เขาเป็นหัวหน้าแก๊งที่เขตทิศเหนือของเมืองเอก ทั้งเขตทิศเหนือของเมืองเอก ล้วนแต่เป็นของเหยสงคนๆนี้”

“เขาคือพี่ชายผม และก็เป็นพ่อของเฉินเฉิน”

“เอางี้ เห็นแก่พี่ชายของผม ปล่อยเฉินเฉินเถอะนะ?”เหยโก่วพูด

อำนาจของเมืองเอก วุ่นวายมากๆ

ยิ่งน้ำลึก ทุกแห่งหนก็มักจะมีลูกพี่อยู่

แต่ไม่มีใครเหมือนกับเหยสงได้ ที่ครอบครองเมืองเอกคนเดียว ……

คนจำนวนมาก มักจะเป็นสองคน หรือสามคน แบ่งกันปกครองเขตหนึ่ง

ดังนั้นจึงพูดได้ว่า เหยสงในเมืองเอก ถือว่าเป็นคนมีชื่อเสียงในโลกใต้ดิน บอกว่าเขาคือบุคคลอันดับหนึ่งในโลกใต้ดินของเมืองเอก ก็ยังได้ ……

แน่นอน นี่เพราะว่า ท่านจวนตอนนี้สละบัลลังก์ไปแล้ว ไม่ได้เอาท่านจวนมาเรียงลำดับ

“คุณกำลังข่มขู่ผมเหรอ?”ส้าวส้วยหัวเราะ มองเหยโก่วนิ่งๆ

ประโยคของส้าวส้วย ทำให้เหยโก่วเข้าใจทันที

ถึงแม้ตัวเองจะเอาตัวตนของพี่ชายตัวเองออกมาพูด ก็ไม่มีประโยชน์

แน่นอน ผลลัพธ์เช่นนี้ เหยโก่วเดาไว้นานแล้ว

ผู้ชายที่ฆ่าคนมาเยอะ ทำไมถึงหวาดกลัวคนๆหนึ่งที่มีชื่อเสียงได้แบบนี้?

มองส้าวส้วย สีหน้าของเหยโก่วเขียวปั้ด เวลานี้ เขาไม่รู้ว่าตัวเองควรจะทำอย่างไร

เหยโก่วเก่งที่สุด ก็คือใช้ความรุนแรงตอบโต้ความรุนแรง

เผชิญหน้ากับส้าวส้วย ใช้ความรุนแรงในการแก้ไข นั่นไม่ใช่หาเรื่องตายเหรอ?

ฝ่ายตรงข้ามต่อสู้ได้ดีกว่าตัวเอง ถ้าลงมือ ก็เท่ากับตัวเองหาเรื่องตาย

ดังนั้น เหยโก่วมีแค่ทางเลือกเดียว นั่นคือยอมประนีประนอม

เหยโก่วประนีประนอมให้แล้ว เขาพยักหน้าให้ส้าวส้วย แล้วพูด:“โอเค ท่าน เอาตามที่ท่านว่า”

“ตบสักทีสองที……คุณว่าไง”เหยโก่วถามส้าวส้วย

เหยโก่วมองออก ส้าวส้วยผู้ชายคนนี้ ร้ายกาจมากๆ

ไม่อย่างนั้น เขาก็คงไม่ให้ตัวเองลงมือ ทำหลานชายของตัวเอง

ดังนั้น เรื่องอะไรก็ตาม ทางที่ดีควรพูดให้เข้าใจดีที่สุด

ต่อไป จะได้ไม่เกิดปัญหาอีก

ยังไง ตอนนี้ก็เป็นส้าวส้วยตัดสินใจ……ส้าวส้วยว่าไงก็ตามนั้น

ถ้าตัวเองตบเสร็จแล้ว อีกฝ่ายพูดสั่งอีก ยังไม่พอ จะทำไง?

“ตบสามทีละกัน”

ส้าวส้วยพูดนิ่งๆ:“ยังไง เขาก็ด่าผมอยู่เยอะ”

“สามที……”

เหยโก่วท่องคำ จำนวนนี้ เขายังยอมรับได้

ถ้าส้าวส้วยบอกว่าตบสิบที หรือว่าหลายสิบที เป็นร้อยที เหยโก่วนี้ จะต้องบ้าแน่นอน

ส้าวส้วยนี้ ก็ถือว่ายังให้ตัวเองมีชีวิตต่อ ไม่เอาตัวเองถึงตาย

เหยโก่วหันหน้ามองไปที่หวางเฉิน พูด:“เฉินเฉิน อดทนหน่อย”

“อาเหยโก่ว อาจจะตบผมจริง……”

หวางเฉินไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ อาของตัวเอง จู่ๆก็ฟังส้าวส้วยขนาดนั้น ถ้าเขาตีตัวเอง เขาก็ต้อง……

ต้องฝันไปแน่ๆ!

อีกอย่าง ก็ยังเป็นฝันร้ายด้วย!

หวางเฉินพูดจบ เหยโก่วจึงยกแขนขึ้น ตบไปหนึ่งฉาดที่ของหวางเฉิน

เสียงดังแปะขึ้นมา ที่ใบหน้าของหวางเฉิน มีรอบฝ่ามือห้านิ้วประทับ

ขณะเดียวกันที่หน้าของเขา ก็เจ็บแสบร้อน

“อาเหยโก่ว……”หวางเฉินลูบหน้าตัวเอง มองอาของตัวเองอย่างไม่อยากจะเชื่อ ……

และเวลานี้ จู่ๆส้าวส้วยกลับลงมือ ตบไปหนึ่งฉาดที่หน้าของเหยโก่ว

แรงหนักมาก จนทำให้เหยโก่วหน้าคว่ำไปที่พื้น

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท