NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 286

ตอนที่ 286

บทที่286 พี่สาวของฉินวี่เฟย

ส้าวส้วยในตอนนี้ ถึงแม้มองดูแล้วแค่ยี่สิบต้นๆ แต่คำพูด การกระทำ เหมือนกับรุ่นพี่ของซุนจิ้น

ซุนจิ้นออกไป เขาไม่ทักทายสวีจื่อเม่ยสักนิด ก็ออกไปจากสถานตากอากาศเลย

ถ้าส้าวส้วยไม่เหลาะแหละมากๆ วันๆเอาแต่ทำตัวไม่เคารพ บอกว่าเขาสี่สิบ หลี่ฝางก็เชื่อ

เพราะยังไงฝีมือเขา ก็ดีมาก

บางที นี่อาจจะเกี่ยวข้องกับประสบการณ์เขา

หลายปีนี้ ส้าวส้วยตามหลี่ต๋าคางไปต่างประเทศนาน ผ่านความเป็นความตายมานับไม่ถ้วน ……

มีชีวิตอยู่ได้ จะฝีมือดีทั้งที่ไม่ได้ฝึกได้ไง?

ซุนจิ้นแค่เอามวยสิงอี้เป็นเทคนิคชกมวยมาฝึก แต่ส้าวส้วย เขาเอามาใช้กับการต่อสู้ชีวิตและความเป็นความตายมานานแล้ว ……

บวกกับซุนจิ้นหลายปีมานี้ เขาไม่ได้สู้จริงๆ ช่องว่างก็มากขึ้นเรื่อยๆ

คนหนึ่งเอามาเป็นศิลปะ อีกคนเอามาเป็นเทคนิคฆ่าคน ผลที่ฝึกออกมา จึงต่างกันโดยสิ้นเชิง

พอส้าวส้วยออกไป ก็หัวเราะเหอะๆไปที่หลี่ฝาง:“เจ้านาย ผมปล่อยเขาไปเช่นนี้ คุณคงไม่ว่าผมใช่ไหม?”

“ชิบหายละ คุณปล่อยเขาไปไม่เป็นไรหรอก แต่คุณตบโต๊ะทำไม?”หลี่ฝางมองส้าวส้วย พูดอย่างหมดคำพูดหน่อยๆ:“คุณรู้ไหมโต๊ะนี้ราคาเท่าไหร่?”

ที่จริงหลี่ฝางก็ไม่รู้เท่าไหร่

แต่หลี่ฝางคิดว่า ทุกอย่างในห้องนี้ น่าจะไม่ถูกทั้งนั้น

ดังนั้นหลี่ฝางเห็นโต๊ะที่ถูกส้าวส้วยทุบจนหัก ก็รู้สึกปวดใจ ถ้าเป็นของมีค่าทางวัฒนธรรมจะทำไง?

ส้าวส้วยพูดด้วยใบหน้าตื่นตระหนก:“ผมแค่ทำเขาตกใจเฉยๆ”

หลี่ฝางนั่งขึ้นจากโซฟา:“ช่างเถอะ ไม่คิดบัญชีกับคุณละ”

“ผมรู้ คุณทำเพื่อตอบแทน ดังนั้น ผมจะไปโทษคุณได้ไง”หลี่ฝางเข้าไป โอบไหล่ของส้าวส้วย แล้วพูด:“ดูเหมือน วัยเด็กของคุณก็ไม่เท่าไหร่นะ”

เมื่อกี๊หลี่ฝางได้ยินชัดเจนดี วัยเด็กของส้าวส้วยนั้น ก็ตกอับใช้ชีวิตข้างถนน

พ่อของซุนจิ้น ให้ข้าวส้าวส้วยกินอยู่หลายมื้อ ส้าวส้วยจึงไม่หิวตาย

ดังนั้น ส้าวส้วยไม่ลงมือโหดกับซุนจิ้น หลี่ฝางจึงเข้าใจได้

ยังไง ซุนจิ้นก็แค่ถีบตัวเอง ไม่ได้ทำอะไร

เข้าใจคนบงการที่อยู่เบื้องหลังของซุนจิ้นดี ก็พอแล้ว

ตระกูลสวี ให้คนมาแก้แค้นแล้ว

ต่อไป ก็เป็นฝั่งเหยสงแล้วสินะ?

“เห้อ”ส้าวส้วยถอนหายใจ:“คุณว่า ถ้าไม่ใช่ซุนจิ้น จะดีแค่ไหน”

“ถ้าแบบนั้น พวกเราก็จับเขาได้เลย แล้วไปเอาผิดได้ที่ตระกูลสวี!”ส้าวส้วยพูด

“ไม่มีประโยชน์ พวกเขาไม่ยอมรับ”หลี่ฝางพูด

“ชิบหายละ เชิ้ตสีขาวด้านใน ถูกซุนจิ้นเตะจนสกปรก ไม่ได้ ผมต้องไปเปลี่ยน”หลี่ฝางเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า เปลี่ยนเป็นเชิ้ตสีขาวใหม่

หลี่ฝางสวมสูท

นี่ก็เป็นครั้งแรกที่หลี่ฝางสวมชุดสูท ร่วมปาร์ตี้

ในใจของหลี่ฝาง ตื่นเต้นหน่อยๆ

ถึงแม้เป็นลูกคนรวยมาตั้งนาน แต่ หลี่ฝางใช้ความเป็นคนจนธรรมดา เป็นหมาป่าสวมหนังแกะทั้งวัน

หลี่ฝางคิดในใจ ครั้งนี้ น่าจะไม่มีใครขำตัวเองแล้ว?

ที่ใจกลางสถานตากอากาศ มีวิลล่าที่ใหญ่โตอลังการและสวยงามที่หนึ่ง ……

ในวิลล่า รวมถึงในรัศมีสิบกว่าเมตร มีไฟสว่างไสว คึกคักผิดปกติ

“คุณผู้ชาย กรุณาแสดงตั๋ววีไอพีด้วยครับ”

พอเข้ามาในวิลล่า หลี่ฝางก็ถูกคนขวางไว้

“ตั๋ววีไอพี?”หลี่ฝางขมวดคิ้ว คิดในใจ แย่แล้ว ตัวเองมีตั๋ววีไอพีอะไรที่ไหนกัน!

ตัวเองมีแค่บัตรวีไอพีสุดพิเศษ

ส่วนบัตรนี้ ถูกหวางเสี่ยวโก๋เอาไปแล้ว

เวลานี้ ส้าวส้วยหยิบบัตรหนึ่งออกมาจากกระเป๋า บนบัตร มีเลข 03

มองไปที่ส้าวส้วย หลี่ฝางก็ถาม:“ทำไมคุณก็มีอีกใบ?”

“ลูกพี่ให้ผมมา”ส้าวส้วยหัวเราะ พูด

เมื่อก่อน หลี่ฝางคิดว่าส้าวส้วยคือพนักงานเสิร์ฟธรรมดาๆ ตอนนี้ดูแล้ว ตำแหน่งที่ส้าวส้วยอยู่ในตระกูลหลี่ กลัวว่าเป็นรองแค่ลุงเฉียนสินะ?

“ทุกคนก็แยกย้ายไปที่ตัวเองสนใจเถอะ”หลี่ฝางมองส้าวส้วย พูดว่า:“อยู่นี่แล้ว ผมน่าจะไม่เป็นอันตรายใช่ไหม?”

ถ้ามีคนกล้าส่งคนมาป่วน นั่นก็กล้ามากแล้วจริงๆ

ส้าวส้วยพยักหน้า พูด:“ครับ”

ส้าวส้วยออกไป หลี่ฝางก็รีบวิ่งไปทางฉินวี่เฟย

ฉินวี่เฟยในตอนนี้ ในมือถือแชมเปญแก้วหนึ่ง อยู่ท่ามกลางฝูงคน

“คุณมาได้ไง?หมอไม่ได้บอกคุณเหรอ คุณต้องพักผ่อน ไม่ใช่ว่าผมให้คุณนอนพัก คืนนี้อย่าออกมาเหรอไง?”หลี่ฝางขมวดคิ้ว พูดอย่างโกรธๆเล็กน้อย

“อยู่ในห้องคนเดียว น่าเบื่อจะตาย”

“อีกอย่าง ถ้าฉันไม่มา พี่สาวฉันจะสงสัยฉันได้”

ฉินวี่เฟยพูด:“ในฐานะคนตระกูลฉิน โอกาสในวันนี้ ฉันต้องเข้าร่วม ไม่ใช่แค่ฉัน แต่ยังมีพี่ชายฉัน พี่สาวฉัน พวกเขาต่างมาหมด”

“เหอะๆ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ตระกูลฉิน?”

“กระชับความสัมพันธ์ พบหน้าคนรู้จัก ก็ต้องทักทายกัน มีความสุภาพ เพื่อสะดวกในการร่วมมือกันในอนาคต”ฉินวี่เฟยพูดอย่างทำอะไรไม่ได้:“คุณคิดว่าจะเหมือนกับพวกคุณตระกูลหลี่เหรอ?รวยมหาศาล ไม่จำเป็นต้องเห็นแก่หน้าใคร”

หลี่ฝางหัวเราะเหอะๆ

พูดถึงตรงนี้ หลี่ฝางก็อิจฉาตัวเองสุดๆ

ถึงแม้ตัวเองก็เป็นลูกคนรวย แต่กลับไม่เหมือนอย่างพวกฉินวี่เฟย ที่ถูกผูกไว้กับครอบครัว ทำอะไร ก็ต้องคิดถึงผลประโยชน์ของครอบครัว

แม้ในเวลาที่จำเป็น และยังต้องเสียสละกับความรัก การแต่งงานของตัวเอง ……

ลูกคนรวยแบบนี้ บางครั้งก็ใช้ชีวิตอย่างน่าเศร้า

ในหัวของหลี่ฝาง คิดย้อนถึงคำพูดของตัวเองอีกครั้ง

แค่หลี่ฝางพูด หลี่ต๋าคางก็จะยกพวกคน มาจัดการตระกูลสวีให้พินาศ ฆ่าล้างโหดร้ายตายเป็นโศกนาฏกรรม

ส่วนสถานตากอากาศ สวนสนุก ผับ รวยถึงทุกอย่างที่ช่วงนี้หลี่ต๋าคางลงทุนไป อย่างมากก็แค่ทิ้งไป

แต่คนอย่างฉินวี่เฟย จะต้องได้รับความหลงใหลและความรักอย่างไม่ลืมหูลืมตาแบบนี้แน่

อย่างคุณท่านของตระกูลฉิน คุณท่านของตระกูลมู่ ต่างเห็นตระกูลสำคัญที่สุด

มู่เจิ้งถังบังคับให้มู่เสี่ยวไป๋ขอโทษหลี่ฝาง

นายท่านฉินบังคับให้ฉินวี่เฟยแต่งกับมู่เสี่ยวไป๋

แม้กระทั่งครอบครัวอย่างหลินชิงชิง ก็พบเจอแบบนี้เช่นกัน

คิดๆดูแล้ว หลี่ฝางก็เห็นใจลูกคนรวย ลูกของพวกผู้มีอิทธิพลกลุ่มนี้มาก ที่ใช้ชีวิตเจ๋งไปกว่าตัวเองทีไหนกัน?

“เรื่องที่ห้องสมุด ฉันได้ยินมาหมดแล้ว”

เอื้อมตัวไปที่ข้างหูหลี่ฝาง ฉินวี่เฟยพูดเบาๆ:“คุณกับส้าวส้วย ไม่ใช่แค่เอาสวีเถิงเฟยเป็นม้านั่ง นั่งใต้เป้าสร้างความละอายให้ แต่ยังหักขาลูกชายของเหยสงอีก”

“พวกคุณรู้ไหมเหยสงเป็นใคร เขาเป็นลูกพี่ที่มีชื่อเสียงที่สุดของเมืองเอกในเวลานี้”

“แม้แต่คนตระกูลใหญ่เจอเขา ก็ยังต้องไว้หน้าเขาเลย”ฉินวี่เฟยพูดด้วยใบหน้าที่ซับซ้อน

เขามองสายตาของหลี่ฝาง เต็มไปด้วยความกังวล

หลี่ฝางพูดแก้ไป:“นั่นส้าวส้วยทำหมด เกี่ยวอะไรกับผม?”

“ใช้ได้นี่คุณ วันๆคุณตัวติดกับส้าวส้วยไม่ไปไหน แล้วคุณยังเป็นเจ้านายเขาอีก คุณคิดว่าจะหลุดพ้นเรื่องที่ทำ?”ฉินวี่เฟยพูด:“ฉันบอกให้นะ เมื่อกี๊ฉันเพิ่งเจอเหยสงล่ะ”

“คุณระวังหน่อย อย่าไปเจอหน้าเขาเข้าให้ล่ะ”ฉินวี่เฟยพูดเตือน

“เจอเขาแล้วทำไม?หรือว่าเขากล้าลงมือผมในปาร์ตี้?”หลี่ฝางพูดอย่างเหยียดหยาม

“นั่นก็ไม่แน่ คนอย่างเหยสง ไม่ค่อยรอบคอบ……แม้แต่มู่เสี่ยวไป๋ เขาอาละวาดขึ้นมา ก็ไม่ไว้หน้า”ฉินวี่เฟยพูด:“กลัวว่าอย่างเดียวในเมืองเอกที่จะควบคุมเหยสงได้ น่าจะเป็นสี่ตระกูลใหญ่นะสิ”

“สี่ตระกูลใหญ่?”หลี่ฝางเลิกคิ้ว

“สี่ตระกูลใหญ่อะไร?”หลี่ฝางถาม

“นี่คุณไม่รู้เหรอ?สี่ตระกูลใหญ่เมืองเอก ต่างมีประวัติศาสตร์มาเป็นร้อยปี พื้นเพของพวกเขา ลึกซึ้งยิ่งกว่าครอบครัวเศรษฐีของเรามาก แต่ สี่ตระกูลของพวกเขา เทียบกันแล้วค่อนข้างสมถะ คุณไม่เคยได้ยิน ปกติออก”ฉินวี่เฟยหัวเราะ พูด:“และพวกเขาก็เหมือนกับคุณ ชอบปิดบังตัวตน ใช้ชีวิตอยู่ในมุมของเมือง”

“นอกจากตกอยู่ในช่วงวิกฤต ไม่อย่างนั้น พวกเขาก็ไม่เปิดเผยตัวตนของตัวเอง ใช้อำนาจของตระกูลตัวเอง”

พอหลี่ฝางได้ยิน ก็หัวเราะเหอะๆ:“ลึกลับขนาดนี้เชียว?”

“ฟังดูแล้วน่าสนใจ”

หลี่ฝางกับฉินวี่เฟยกำลังพูดคุยอย่างมีความสุข ทันใดนั้น ผู้หญิงคนหนึ่งที่หน้าตาคล้ายกับฉินวี่เฟย ก็เดินเข้ามา

เธอสวมกระโปรงยาวขนห่านสีขาว ขาวสะอาดและบริสุทธิ์

มาตรงหน้าฉินวี่เฟย เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย พูดเสียงเบา:“วี่เฟย คุณทำอะไรน่ะ?หรือคุณลืมไปแล้วว่า ไม่กี่วันนี้มู่เสี่ยวไป๋ออกจากโรงพยาบาล พวกคุณจะหมั้นกันอยู่แล้ว เวลานี้ โอกาสแบบนี้ คุณยังจะพูดคุยสนิทชิดเชื้อกับชายอื่นได้ไง?”

“หรือว่าคุณไม่กลัวตกเป็นคำนินทาของคนอื่น?”

“ถ้าวันข้างหน้าเข้าหูมู่เสี่ยวไป๋ ผลที่ตามมาจะต้องร้ายแรงแน่ๆ”

พอโดนผู้หญิงคนนี้ดุไป สีหน้าของฉินวี่เฟย ก็ดูละอายใจขึ้นมาทันที

ส่วนหลี่ฝาง ในเวลานี้กลับเดินขึ้นไปมองผู้หญิงคนนี้ หัวเราะ พูดว่า:“คุณคือพี่สาวของฉินวี่เฟย ฉินหยีหรันสินะ?”

“คุณรู้จักฉัน?”

คิ้วของฉินหยีหรันขมวดแน่นขึ้น เธอหันไปมองฉินวี่เฟย ถามอย่างโกรธๆ:“คุณบอกเขาเหรอ?คุณกับเด็กนี่ เป็นอะไรกันแน่?”

ฉินวี่เฟยขยับปาก แต่ไม่รู้จะพูดอย่างไร

หลี่ฝางกลับพูดก่อน ว่า:“ผมกับฉินวี่เฟย คือเพื่อนที่ดีต่อกันมาก”

“ในเมื่อคุณคือพี่สาวของฉินวี่เฟย งั้นผมเรียกคุณว่าพี่สาวละกัน”

“พี่ ฉินวี่เฟยนี้ไม่ใช่ว่ายังไม่หมั้นกับมู่เสี่ยวไป๋เหรอ?ถึงหมั้นแล้วจะทำไม?หรือว่าฉินวี่เฟยคบเพื่อนไม่ได้?”หลี่ฝางพูด

ฉินหยีหรันมองหลี่ฝาง มุมปากเหยียดหยาม แต่ยังโกรธหน่อยๆ:“คุณมีสิทธิ์อะไร มาเรียกฉันว่าพี่สาว?”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน