NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 292

ตอนที่ 292

บทที่ 292 คุณชายเหล่ย คนๆนี้พวกเราทำให้ขุ่นเคืองไม่ได้

หลังจากที่หยิ่นเหล่ยพูดจบ ชายสุภาพอ่อนโยนคนนั้นก็หันหัวกลับมา และมองไปที่หลี่ฝางและคนอื่นๆ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ

“คุณชาย พวกเขาใช่ไหมที่ตีท่าน?” ชี้ไปที่หลี่ฝาง ชายสุภาพอ่อนโยนถามอย่างเย็นชา

“ใช่ เป็นเขาแหละ ดูแลเขาเป็นพิเศษหน่อย” หยิ่นเหล่ยพยักหน้าและพูด

ชายสุภาพอ่อนโยนเคร่งขรึมและยิ้มอย่างเย็นชา “วางใจได้ คุณชาย ผมรู้ว่าต้องทำยังไง”

“แม้แต่คุณชายของต้าหัวกรุ๊ปยังกล้าตี ฉันคิดว่าหนุ่มคนนั้น ครั้งนี้ต้องตายแน่นอน”

“ก็ใช่สิ ครั้งนี้รปภ.ทั้งหมดมาจากต้าหัวกรุ๊ป ตีคุณชายใหญ่ของต้าหัวกรุ๊ป คงต้องตายแน่นอน?”

เมื่อทุกคนเชื่อว่าหลี่ฝางคงต้องตายแน่ๆ แต่ใบหน้าของหลี่ฝางนั้น กลับนิ่งสงบ โดยไม่ตื่นตระหนก

หลีฝางหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา และโทรหาลุงเฉียน

ในเวลานี้ ชายสุภาพอ่อนโยนได้นำผู้คนเดินมา

ก่อนที่จะลงมือ หลี่ฝางพูดว่า “เดี๋ยวก่อน”

“ความตายใกล้เข้ามาแล้ว นายยังมีอะไรจะพูด?” ชายสุภาพอ่อนโยนถาม

หลี่ฝางเอื้อมมือไปที่หวางเสี่ยวโก๋ และพูดว่า “การ์ดของฉันอยู่ที่ไหน?”

“นี่… …ให้นาย” หวางเสี่ยวโก๋รีบหยิบการ์ดวีไอพีออกจากอกเสื้อของตัวเอง และยื่นให้หลี่ฝาง

ชายสุภาพอ่อนโยน ก็เห็นฉากนี้กับตา

เมื่อเห็นการ์ดใบนี้ ใบหน้าของชายสุภาพอ่อนโยน ก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย

นี่คือบัตรสมาชิกสถานตากอากาศแห่งนี้ ซึ่งหายากกว่าบัตรวีไอพีเสียอีก

บัตรสมาชิก มีทั้งหมดสิบใบ… …

และแต่ละใบ กับสถานตากอากาศแห่งนี้ มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง

ในฐานะหัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัย จะไม่รู้จักการ์ดใบนี้ได้อย่างไร?

“ขอโทษ ผมขอดูการ์ดในมือของคุณได้ไหม?” มองหลี่ฝาง น้ำเสียงของชายสุภาพอ่อนโยน ก็กลายเป็นสุภาพอ่อนโยนทันที

ท่าทาง เคารพนับถือมาก

หลี่ฝางเอาการ์ดของตัวเองกับหวางเสี่ยวโก๋ ก็เพื่อให้ชายสุภาพอ่อนโยนดู?

หลี่ฝางยิ้มเล็กน้อย และนำการ์ดของตัวเอง ยื่นออกไป

ชายสุภาพอ่อนโยนรับมา เพียงมองแวบเดียว ชั่วขณะใบหน้าของเขาก็ตกอยู่ในความตื่นตระหนก

หมายเลขหนึ่ง!

วีไอพีหมายเลขหนึ่ง!

ชายสุภาพอ่อนโยนรู้ดี บัตรที่แสดงตัวตนใบนี้

เฉพาะเจ้าของสถานตากอากาศแห่งนี้เท่านั้น สามารถมีบัตรใบนี้

สถานตากอากาศแห่งนี้นี้เปิดโดยหลี่เจียเฉินนายท่านหลี่!

เป็นไปได้ไหมว่า ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ ก็คือหลานชายของนายท่านหลี่หลี่เจียเฉิน?

ทันใดนั้น มุมปากของชายสุภาพอ่อนโยนก็สั่นไหว “คุณ… …คือ… …”

“นายเดาถูกแล้วไม่ใช่เหรอ?” หลี่ฝางยิ้มอย่างขี้เล่น

“นายต้องการตรวจสอบไหมว่าการ์ดใบนี้เป็นของจริงหรือไม่?” หลี่ฝางเลิกคิ้ว และถาม

ชายสุภาพอ่อนโยนส่ายหัว และส่งการ์ดคืนให้หลี่ฝางทันที “ไม่ต้องแล้ว บัตรใบนี้ ไม่มีใครกล้าปลอมหรอก”

บัตรใบนี้ หลายคนไม่มีโอกาสได้เห็น แล้วมันจะถูกปลอมแปลงได้อย่างไร?”

อีกอย่าง ก็อย่างที่ชายสุภาพอ่อนโยนคนนี้พูด ใครจะกล้าปลอม?

ปลอมตัวเป็นหลานของหลี่เจียเฉิน ไม่ใช่หาที่ตายเหรอ?

“แม่ง!”

เมื่อเห็นสถานการณ์ผิดปกติ หยิ่นเหล่ยก็วิ่งไปทันที และเตะตูดของชายสุภาพอ่อนโยน

“แม่งนายกำลังทำอะไรอยู่? ไม่อยากทำงานแล้วหรือ กูให้มึงตีคน แต่มึงกลับกำลังพูดคุยกับพวกมัน?”

“มึงเอาคำพูดของกูไร้ประโยชน์ มึงทำได้อย่างไร?”

หยิ่นเหล่ยชี้ไปที่จมูกของชายสุภาพอ่อนโยน และถามคำถามต่างๆ

“คุณชาย… … คนนี้ พวกเราไม่สามารถทำให้ขุ่นเคืองได้” ชายสุภาพอ่อนโยนพูดเสียงเบา และกระซิบที่ข้างหูของหยิ่นเหล่ย

แต่คำพูดนี้ หยิ่นเหล่ยดูเหมือนจะไม่ได้ยิน และตบหลังศีรษะของชายสุภาพอ่อนโยนทันที

“แม่งแม่มึงเอ้ย ครอบครัวของฉันเลี้ยงแกมาหลายปี ตอนนี้ให้แกทำธุระให้หน่อย ทำไมมันยากขนาดนี้!”

“แม่งเอ้ยถามแกครั้งสุดท้าย จะตีมันไหม!”

เมื่อชี้ไปที่หลี่ฝาง หยิ่นเหล่ยถามชายสุภาพอ่อนโยน

ชายสุภาพอ่อนโยนมองหลี่ฝาง รู้สึกลำบากใจ

ฝ่ายนี้เป็นคุณชายของตัวเอง และอีกฝ่าย คือคุณชายสถานตากอากาศแห่งนี้

คุณชายทั้งสองคน ชายสุภาพอ่อนโยนไม่ต้องการทำให้ขุ่นเคือง

พูดอีกนัยหนึ่ง ไม่มีสิทธ์ทำให้ขุ่นเคือง

“คุณชาย… …”

ชายสุภาพบุรุษกำลังจะพูด หยิ่นเหล่ยก็ตบหน้าเขาอย่างแรง

“อย่าพูดเรื่องไร้สาระ ฉันถามแก จะตีไหม?”

“ผม… …”

เสียงของการตบ หยิ่นเหล่ยไม่เปิดโอกาสให้ชายสุภาพอ่อนโยนพูดเลย และตบไปทันที

“ตำแหน่งผู้จัดการหน่วยรักษาความปลอดภัยนี้ ถ้านายยังอยากเป็นต่อไป ก็รีบลงมือทันที ถ้าไม่อยากเป็น ก็ไสหัวออกไป!”หยิ่นเหล่ยมองชายสุภาพอ่อนโยนอย่างเย็นชา และพูดด้วยความโกรธ

หยิ่นเหล่ยในขณะนี้ โกรธมาก

มันไม่ง่ายกว่าที่คนของตัวเอง จะมาถึง

ปรากฏว่าคนของตัวเอง กลับมีท่าทีให้กับคนที่ทำร้ายตัวเอง อย่างสุภาพและเคารพ

แม่งเอ้ยนี่มันเหมือนไม่ให้เกียรติตัวเอง?

มีคนมากมายกำลังเฝ้าดู แล้วจะให้หยิ่นเหล่ยยกเลิกการแก้แค้น เป็นไปได้หรือไม่?

หลังจากนี้ เขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน

“คุณชาย คนๆนี้เราตีไม่ได้จริงๆ” ชายสุภาพอ่อนโยนพูดด้วยใบหน้าเศร้า

ไม่ต้องพูดถึงหมายเลขบัตรสมาชิก คือหมายเลย1 แม้คือหมายเลข 2345… …

ชายสุภาพอ่อนโยนก็ไม่กล้า

ชายสุภาพอ่อนโยนพูดว่า “คุณชาย ชายคนนี้ ฉันกลัวว่าพวกเราจะทำให้ขุ่นเคือง.. …”

หยิ่นเหล่ยโกรธจัด ไม่ให้โอกาสชายสุภาพอ่อนโยนพูดต่อ เขากระโดดขึ้น และเตะท้องของชายสุภาพอ่อนโยน เตะจนเขาล้มลงกับพื้น

เนื่องจากมือและเท้าที่ไม่เอื้ออำนวย หลังจากหยิ่นเหล่ยเตะชายสุภาพอ่อนโยนเสร็จ ตัวเองไม่ทันระวังจึงล้มลงกับพื้น

ฉากนี้ ทำให้เกิดเสียงหัวเราะจากคนที่มามุงดู

เสียงหัวเราะนับไม่ถ้วน ทำให้หยิ่นเหล่ยอับอาย และโกรธมากขึ้น

หยิ่นเหล่ยรีบลุกขึ้นมา ชี้ไปที่ชายสุภาพอ่อนโยนและพูดว่า “เจ้าสวะ ไสหัวออกไปจากที่นี่!”

“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป แกไม่ใช่ผู้จัดการหน่วยรักษาความปลอดภัยต้าหัวกรุ๊ปของเราอีกต่อไป แกถูกไล่ออกแล้ว ได้ยินไหม?” ชี้ไปที่ชายสุภาพอ่อนโยน ใบหน้าของหยิ่นเหล่ยเคร่งขรึม

“คุณชาย… …” ชายสุภาพอ่อนโยนคนนี้โกรธแต่ไม่กล้าพูด

ในที่สุด เขาก็ลุกขึ้น และกระซิบกับหยิ่นเหล่ย “คุณชาย ผมกับต้าหัวกรุ๊ปมีสัญญาจ้างงาน ตามสัญญาของบริษัท ถ้าผมไม่ได้กระทำผิด หัวหน้าของบริษัท ไม่สามารถไล่ผมออก มิเช่นนั้น จะต้องจ่ายค่าชดเชยให้ผม”

“ยังมีอีก ถึงแม้ว่าท่านจะเป็นลูกชายของประธานกรรมการ แต่ไม่ใช่หัวหน้าของต้าหัวกรุ๊ป ท่านอยู่ในต้าหัวกรุ๊ป ไม่มีตำแหน่งใดๆ”

“ดังนั้น ท่านไม่มีคุณสมบัติที่จะไล่ผมออก”

ชายสุภาพอ่อนมีโยนมีสีหน้าอัดอั้นตันใจ แต่เขาก็ยังคงถกเถียงเหตุผลเพื่อตัวเอง

หยิ่นเหล่ยยิ้มเยาะ “ทำไม ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาใช่ไหม ต้องให้ฉันโทรหาพ่อ”

“นายคิดว่าต้าหัวกรุ๊ปของเรา ไม่มีเงินค่าชดเชยแค่นั้นเหรอ?”

“รีบไสหัวออกไปจากที่นี่”

หลังจากหยิ่นเหล่ยด่าเสร็จ เขาก็จับรปภ.คนหนึ่งและพูดว่า “มา นาย”

“ถ้านายกล้าที่จะจัดการหนุ่มคนนี้ให้ล้มลงไป ตำแหน่งของผู้จัดการหน่วยรักษาความปลอดภัย ก็เป็นของนาย” หยิ่นเหล่ยดึงชายหนุ่มทรงสกินเฮดคนหนึ่งมา และพูด

ชายหนุ่มทรงสกินเฮดคนนั้นกลืนน้ำลาย และพูดว่า “คุณชาย ผมไม่กล้า”

ชายหนุ่มทรงสกินเฮดคนนี้ยืนอยู่ตรงหน้าชายสุภาพอ่อนโยน และเขาก็เห็นการ์ดสมาชิกนั้นด้วย

ในความเป็นจริง รปภ.ที่นี่ทุกคน รู้จักการ์ดใบนี้ และรู้ด้วยว่าบัตรนี้แสดงถึงฐานะอะไร

ดังนั้น พวกเขาไม่เอาตำแหน่งผู้จัดการรักษาความปลอดภัย เพื่อจะไม่ทำให้หลี่ฝางขุ่นเคือง

ไม่ใช่ของล้อเล่น ถ้าทำให้ทายาทเศรษฐีรุ่นที่สองขุ่นเคือง ยังมีทางรอดเหรอ?

หยิ่นเหล่ยตกตะลึงไปชั่วขณะ และจากนั้น ดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยความโกรธ “พวกนายแต่ละคนสมองมีปัญหาหรือเปล่า? ให้โอกาสพวกนายที่จะก้าวหน้า แต่พวกนายกลับไม่ต้องการ?”

“ฉันถามพวกนาย พวกนายใครกล้าตีเขา… …”

“ใครที่กล้าตีเขา คนนั้นก็เป็นผู้จัดการหน่วยรักษาความปลอดภัยของต้าหัวกรุ๊ป ฉันหยิ่นเหล่ย พูดคำไหนคำนั้น!” หยิ่นเหล่ยชี้ไปที่หลี่ฝาง พูดอย่างเย็นชา

“มันก็แค่ ยาจกคนหนึ่ง ทำไมไม่กล้า!”

“ผมเอง!”

ในเวลานี้ ชายร่างสง่าผ่าเผย เดินออกมา

เขามาถึงตรงหน้าหลี่ฝาง และพูดอย่างเย็นชาว่า “คุณชาย ตีเขาแล้ว ก็จะได้เป็นผู้จัดการหน่วยรักษาความปลอดภัยใช่ไหม?”

“ใช่ อย่าพูดมากเลย รีบลงมือเร็ว”

“จำไว้ว่า ลงมือยิ่งหนักยิ่งดี

“ถ้านายสามารถตีเขาจนเข้านอนโรงพยาบาลหนึ่งเดือน ไม่เพียงแต่จะเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้จัดการหน่วยรักษาความปลอดภัย แต่จะให้เงินเดือนนายอีกสามเดือนด้วย” หยิ่นเหล่ยพูด

“แล้วค่ารักษาพยาบาล ฉันคงไม่ต้องจ่ายมั้ง” ชายผู้สง่าผ่าเผยถามอย่างไม่สบายใจ

“ไม่ต้องกังวล ค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดของเขา ฉันรับผิดชอบเอง นายแค่ต้องตีอย่างหนัก ก็พอแล้ว” หยิ่นเหล่ยกัดฟันและพูด

“ดูดีๆนะ คุณชาย!”

หลังจากที่ชายผู้สง่าผ่าเผยได้ยิน เขาก็กำหมัดแน่นและชกออกไป

แต่ใบหน้าของหลี่ฝาง กลับสงบนิ่ง ไม่ตื่นตระหนก… …

เพราะว่า ส้าวส้วยมาถึงแล้ว

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท