NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 308

ตอนที่ 308

บทที่ 308 แกอยากจะเป็นลูกเขยที่แต่งเข้าบ้านตระกูลฉิน?

“ด่าเธอว่ายัยเฉิ่มแล้วไง? เธอก็เป็นยัยเฉิ่มไม่ใช่เหรอ?” หลี่ฝางอยู่ตรงหน้าของฉินหยีหรัน ด่าด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น

หลี่ฝางมองฉินหยีหรันด้วยสายตาที่ดูถูกเล็กน้อย ที่ฉินวี่เฟยตามใจเธอ ก็เพราะว่าเขาเป็นน้องสาวของเธอ

กูเป็นอะไรกับมึงเหรอ?

แม้แต่กูยังกล้าด่า แกมันใหญ่แค่ไหน!

แก…..แก…..แกไอ้สารเลว แกมันไม่สนใจกฎหมายศีลธรรมเลยเหรอ

“แกเชื่อมั้ยตอนนี้ฉันจะแจ้งความ แจ้งว่าแกขืนใจน้องสาวฉัน!” ฉินหยีหรันกล่าวอย่างโกรธเคือง

หลี่ฝางก็ไม่กลัว กลับมองไปที่ฉินหยีหรันอย่างอารมณ์ดีแล้วกล่าว: “ใช่ ฉันกับฉินวี่เฟยมีอะไรกัน แต่มันเป็นความยินยอมของเราทั้งสองคน แกจะไปแจ้งความ ก็รีบไปเลย อย่ามาเอะอะโวยวายแถวนี้เลย ฉันจะรออยู่ตรงนี้แหละ รอตำรวจมาจับตัวฉัน!”

ฉินหยีหรันอึ้งไปสักพัก เขาไม่คิดว่าหลี่ฝางจะโอหังขนาดนี้

จุดนี้ หลี่ฝางกับแฟนเก่าของเธอ ไม่ค่อยจะเหมือนกัน

หลังจากนิ่งไปหลายวินาที ฉินหยีหรันก็ด่าติดๆขัดๆ: “แกไม่เพียงแต่สารเลว แกมันยังเป็นไอ้ชาติชั่ว”

“ฉันจะต้องฟ้องนาย เอานายเข้าคุกให้ได้”

“ควายเอ๊ยจะฟ้องก็ไปฟ้องเลย อย่าเอาด่ากูเลย โทรศัพท์แกไม่มีแบตเหรอไง รีบเอาโทรศัพท์ออกมาโทรไปแจ้งความเลย” หลี่ฝางยังคงกวนประสาทอย่างต่อเนื่อง

“แก!” ฉินหยีหรันโกรธจนเกือบหายใจไม่ออกแล้ว

ฉินหยีหรันหยิบโทรศัพท์ออกมา กำลังจะโทรไปแจ้งความ ฉินวี่เฟยวิ่งมาห้าม หลี่ฝางคิดในใจ ถึงอย่างไรก็เป็นพี่สาวของฉินวี่เฟย ตัวเองยอมขอโทษก็น่าจะโอเคแล้ว

หลี่ฝางกำลังจะขอโทษ ใครจะไปรู้ฉินหยีหรันกลับชี้หน้าด่าหลี่ฝาง: “วี่เฟย แกทำไมต้องปกป้องไอ้เศษเดนคนนี้ ไอ้เศษเดนคนนี้มันมีอะไรดีเหรอ?”

“ไม่ว่ายังไงวันนี้ พี่ต้องสั่งสอนมันหน่อย”

เห็นฉินหยีหรันที่ข่มขู่ หลี่ฝางก็เลยไม่ขอโทษแล้ว ตอนนี้หากขอโทษ ฉินหยีหรันต้องเข้าใจว่าตัวเองนั้นกลัวเธออย่างแน่นอน

เมื่อโทรติด หลี่ฝางนั้นไม่ได้รู้สึกอะไร แต่ฉินวี่เฟยนั้นเกิดกลัวขึ้นมา

ฉินวี่เฟยแย่งโทรศัพท์มาจากมือของพี่สาวตัวเอง จากนั้นปาลงบนพื้นอย่างเต็มกำลัง

ตามมาด้วยเสียงโทรศัพท์ตกลงบนพื้น หน้าจอมีรอยร้าว แต่คุณภาพของโทรศัพท์นับว่าไม่เลว เพียงแค่หน้าจอร้าวเท่านั้น แต่โทรศัพท์นั้น ยังสามารถใช้งานได้อยู่

เวลานี้ โทรศัพท์ก็ต่อติดแล้ว ฉินวี่เฟยย่อตัวนั่งลง แล้วกดวางสาย

“พี่คะ พี่ต้องการทำให้มันกลายเป็นเรื่องใหญ่ใช่มั้ย?” ฉินวี่เฟยขมวดคิ้ว มองพี่สาวตัวเองด้วยสายตาที่เย็นชา

ฉินหยีหรันอึ้งไปสักพัก ก็นึกขึ้นได้: “วี่เฟย พี่ไม่ได้มีความหมายแบบนั้น แต่พี่ถูกไอ้หมอนี้มันยั่วโมโหเข้าแล้ว”

ฉินหยีหรันเพิ่งจะนึกได้ หากแจ้งความแล้ว ถ้าตำรวจมา งั้นความบริสุทธิ์ของน้องสาวตัวเอง ก็จะหมดสิ้นไปทันที

หันหน้ากลับมา ฉินหยีหรันมองหลี่ฝางด้วยสายตาที่เย็นชา แล้วกล่าว” คิดไม่ถึงแกมันก็ช้ำต่ำไม่เบาเลย จงใจให้ฉันแจ้งความ เพื่อให้เรื่องราวใหญ่โต เพื่อให้ทุกคนได้รู้เรื่องของแกกับน้องสาวฉันใช่มั้ย?”

“แกคิดอยากจะเข้าตระกูลฉินใช่มั้ย อยากเป็นลูกเขยที่แต่งเข้าบ้านเหรอ!” ฉินหยีหรันกล่าวอย่างมั่นใจ

“ฉันจะบอกแกนะ แกตายใจเสียเถอะ”

หลี่ฝางหัวเราะโดยไม่รู้จะพูดอะไร เห็นแก่หน้าของฉินวี่เฟย หลี่ฝางไม่อยากที่จะถือสาเอาความฉินหยีหรัน

แต่ว่านางบ้าคนนี้ หลี่ฝางไม่อยากที่จะเห็นหน้าเธอแล้ว

หลี่ฝางชี้ไปที่ด้านนอกประตู แล้วกล่าว: “ฉันขอพูดอีกครั้ง ขอให้เธอรีบออกไปจากวิลล่าของฉัน ได้ยินมั้ย? ไม่อย่างนั้น ฉันจะเรียกพนักงานรักษาความปลอดภัยแล้ว ที่รีสอร์ตมีพนักงานรักษาความปลอดภัยเฝ้ายามตลอด24ชั่วโมง”

เวลานี้ ตรงหน้าประตูก็ปรากฏด้วยเงาคนคนหนึ่ง

ก็คือฉินจื่อยี่

“น้องชาย ในที่สุดนายก็มาแล้ว” ฉินหยีหรันเมื่อเห็นฉินจื่อยี่ เหมือนกับเห็นฟางที่ช่วยชีวิต

ที่แท้ฉินหยีหรันเป็นคนเรียกเขามา

“พี่……….”

เมื่อเห็นฉินจื่อยี่ สีหน้าของฉินวี่เฟย ก็มีความลนลานขึ้นมาเล็กน้อย

“วี่เฟย ทำไมเธอถึงทำเรื่องแบบนี้ได้ เธอกำลังจะหมั้นกับมู่เสี่ยวไป๋แล้ว……..” ฉินจื่อยี่ส่ายหัว ก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี

“ถ้าหากคนของตระกูลมู่รู้เข้า น้องจะให้พวกเราแสดงความรับผิดชอบกับตระกูลมู่ยังไง!”

ฉินจื่อยี่ถอนหายใจ นิ่งไปสักพัก เขามองฉินวี่เฟยด้วยความกังวลเล็กน้อย แล้วถาม: “เธอไม่ได้มีอะไรกับหลี่ฝางใช่มั้ย?”

ฉินวี่เฟยไม่ได้ตอบ ทำเพียงก้มหน้าก้มตา

ฉินจื่อยี่กัดฟัน ในใจนั้นก็มีคำตอบขึ้นมาทันที แต่เขาก็ยังเดินไปตรงหน้าของหลี่ฝาง จับไหล่ของหลี่ฝางเอาไว้ แล้วกล่าว: “หลี่ฝาง ฉันถามนาย นายไม่ได้มีอะไรกับน้องสาวฉันใช่มั้ย?”

“มีอะไรกันแล้ว” หลี่ฝางลังเลไปสามวินาที แล้วกล่าวอย่างเรียบเฉย

ไม่ว่าจะช้าหรือเร็ว ก็ต้องบอกคนตระกูลฉินอยู่ดี ไม่สู้บอกตอนนี้ ให้พวกเขารับรู้เรื่องทั้งหมด

หลี่ฝางกำลังจะบอกสถานะที่แท้จริงของตัวเองนั้น จู่ๆฉินจื่อยี่ก็กำหมัดขึ้นมา ชกไปที่หน้าของหลี่ฝาง

“ใช่ ต่อยมัน ต่อยให้มันตายไปเลย ไอ้เศษเดนคนนี้มันด่าฉันว่ายัยเฉิ่ม!”

ฉินหยีหรันมองดูหลี่ฝางที่ถูกต่อย ในใจรู้สึกดีขึ้นมาไม่น้อย ยังเชียร์ฉินจื่อยี่อยู่ข้างๆ

หลี่ฝางถ่มน้ำลาย ปาก็ด่าว่าเหี้ย

จากนั้น หลี่ฝางก็ต่อสู้กับฉินจื่อยี่

ฉินจื่อยี่ที่เป็นคุณชายผู้ดี ปกติก็แค่ซิ่งรถบ้าง ดื่มสังสรรค์กับเพื่อนไฮโซบ้าง ต่อยตีกับเขาเป็นที่ไหนกันละ

ทั้งสองคนกระชากกันไปมา ฉินจื่อยี่ถูกหลี่ฝางผลักลงบนพื้นโดยตรง แล้วโดนยำอย่างบ้าคลั่ง

ฉินวี่เฟยดึงตัวหลี่ฝางไปหนึ่งที หลี่ฝางจึงได้ลุกขึ้น

แต่ใครจะไปรู้ ฉินจื่อยี่ลุกขึ้นมาจากพื้น ด้วยความร้อนรน พุ่งเข้ามาร่างของหลี่ฝางโดยตรง

หลี่ฝางใช้สองมือขวางฉินจื่อยี่เอาไว้ แล้วกล่าวอย่างเย็นชา: “เย็ดแม่ไม่มีอะไรจะเล่นแล้วใช่มั้ย? หากฉันไม่เห็นแก่หน้าของฉินวี่เฟย คงจะทำร้ายนายให้คุกเข่าจนนายต้องเรียกปู่เลยนายเชื่อมั้ย?”

“นายดูนายสิก็สู้ฉันไม่ได้ แม่งยังจะมาวางก้ามอีก” ขณะที่พูด หลี่ฝางก็ยกเท้าขึ้น ถีบฉินจื่อยี่ล้มลงบนพื้นโดยตรง

เผชิญหน้ากับคนพวกนี้ หลี่ฝางไม่มีทางที่จะยอม

อะไรคุณชายฉิน คุณหนูฉิน………

ทั้งสองคนนี้ สิ่งที่พวกเขาเป็นห่วง ล้วนเป็นผลประโยชน์ของตระกูล อนาคต ไม่มีใครที่จะคิดถึงความรู้สึกของฉินวี่เฟยอย่างจริงจังเลย

จุดนี้ ฉินวี่เฟยก็รับรู้ได้อยู่แล้ว

ในที่สุดหลี่ฝางก็เข้าใจ ทำไมฉินวี่เฟยถึงอยากที่จะฆ่าตัวตาย คนในตระกูลฉินทั้งตระกูล ไม่มีใครมีน้ำใจเลย

“พี่คะ พวกพี่อย่าตีกันอีกเลย พี่สู้เขาไม่ได้หรอกค่ะ”

ฉินวี่เฟยนั่งลงไป พยุงฉินจื่อยี่ที่ล้มอยู่บนพื้นขึ้นมา

แกอยู่ห่างๆพี่เลย ฉินจื่อยี่ที่กำลังโมโห ก็ผลักฉินวี่เฟยออกโดยตรง ทำเธอล้มลง

“ต่อให้วันนี้กูจะสู้มันไม่ได้ กูก็จะฆ่าให้หมอนี่ให้ตาย!”

ฉินจื่อยี่มองหลี่ฝางด้วยสายตาที่เย็นชาแล้วกล่าว

หากปกิต ฉินวี่เฟยล้มลงบนพื้นนั้นก็คงไม่เป็นไร ประเด็นสำคัญคือ ตอนนี้ฉินวี่เฟยกำลังบาดเจ็บอยู่

“เธอไม่เป็นไรนะ วี่เฟย”

หลี่ฝางรีบวิ่งเข้าไป อุ้มฉินวี่เฟยขึ้นมา แล้วอุ้มเธอไปวางที่โซฟา

อาศัยช่วงจังหวะนี้ ฉินจื่อยี่ก็แอบจู่โจมจากด้านหลังทันที เขาได้หยิบที่เขี่ยบุหรี่ที่วางอยู่บนโต๊ะ ฟาดไปบนหัวของหลี่ฝาง เสียงหล่นดังโครมคราม

ทันใด หัวของหลี่ฝาง เลือดก็ไหลทันที

เวลาเดียวกัน หลี่ฝางรู้สึกสมองมีเสียงโว มีความมึนเล็กน้อย

หลี่ฝางเซถอยหลังไปหนึ่งก้าว ก้นได้นั่งลงบนโซฟา และฉินจื่อยี่ที่กำหมัด ก็ได้จู่โจมเข้ามา: “แกกล้านอนกับน้องสาวฉัน กูจะเอามึงให้ตายเลยไอ้สารเลว!”

ฉินจื่อยี่ชกไปที่หน้าของหลี่ฝางหมัดแล้วหมัดเล่า ฉินวี่เฟยที่อยู่ข้างๆอยากจะขัดขวาง แต่ถูกฉินหยีหรันดึงตัวเอาไว้

“ไอ้สารเลวแบบนี้ ตายก็สมควร เธออย่างยุ่ง” ฉินหยีหรันที่กอดรัดฉินวี่เฟยเอาไว้ได้กล่าว

หลังจากที่หลี่ฝางโดนชกไปหลายหมัด ทันใดนั้นก็รู้สึกตื่นตัวขึ้นมา

“เย็ดแม่!”

“แอบทำร้ายกู!”

หลี่ฝางกัดฟัน มองไปที่ฉินจื่อยี่ คว้าหมัดของเขาไว้ แววตาของหลี่ฝาง ปรากฏด้วยความเยือกเย็น

“ฉินจื่อยี่……..กูจะเอามึงให้ตายเลยได้เด็กเปรต!”

พลังอาฆาตของหลี่ฝางมาแล้ว ก็ไม่สนแล้วว่าเขาจะเป็นพี่ชายหรือน้องชายของฉินวี่เฟย ได้ผลักเขาลงบนพื้นโดยตรง จากนั้นก็ลงมือทำร้ายอย่างหนัก

เมื่อฉินหยีหรันเห็นฉินจื่อยี่เสียเปรียบ ทันใดนั้นก็ปล่อยน้องทันที

หยิบหมอนอิงบนโซฟา เล็งแล้วปาไปที่หัวของหลี่ฝาง……..

เมื่อเห็นว่าหมอนอิงถูกปาจนหมดแล้ว ทันใดนั้นฉินหยีหรันก็เห็นแจกันที่อยู่ตรงประตู เธอวิ่งไปอุ้มแจกันขึ้นมา จากปาไปทางหลี่ฝาง

“ระวัง!”

ยังดีที่ฉินวี่เฟยเตือนได้ทันเวลา หลี่ฝางจึงได้ลุกขึ้นทัน มองไปที่ฉินหยีหรันแล้วตะโกนอย่างเสียงดัง: “วางมันลงเดี๋ยวนี้ ได้ยินมั้ย?”

ในมือของหลี่ฝาง ได้หยิบมีดออกมาเล่มหนึ่ง เล็งไปทางตำแหน่งที่ฉินหยีหรันยืนอยู่

เมื่อฉินหยีหรันเห็นมีด ก็สะดุ้งตกใจร้องอย่างสมเพช ปาแจกันทิ้ง แล้วก็วิ่งออกไป

“ฆ่าคนแล้ว ฆ่าคนแล้ว”

ฉินหยีหรันวิ่งออกไปจากประตูวิลล่าแล้วก็ตะโกนเสียงดัง ทำให้เสี่ยวจางและยามหลายคนที่กำลังเดินตรวจเวรอยู่ ได้วิ่งมาทางวิลล่าทันที……

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท