NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 312

ตอนที่ 312

บทที่ 312 ผู้ชายมีเงินแล้วเปลี่ยนไป

หลังจากนั้น ลู่หลุ่ยตะลึง เอ่ยพูดด้วยสีหน้ามึนงง “พะ…พวกนายเมื่อคืนนอนด้วยกัน?”

เพื่อนสนิทตนจับชู้ได้เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง ตนกลับจับผู้ชายคนหนึ่งได้ว่าคือชู้?

“ฉันจะแนะนำให้รู้จัก พี่น้องฉัน ฉินจื่อยี่ วิลล่าที่นี่ไม่มีห้องพัก ฉันเลยต้องอยู่ห้องเดียวกับเขา” หลี่ฝางเอ่ย พร้อมส่งสายตาให้ฉินจื่อยี่

“เมื่อคืนคุยไปคุยมา มือถือแบตหมด หาอยู่ครึ่งวันหาตัวชาร์จไม่เจอ เลยไม่ได้ตอบข้อความเธอ” หลี่ฝางแนะนำจบ ถือโอกาสไขข้อสงสัยเมื่อครู่ของลู่หลุ่ย

“จีบหญิงอยู่ทั้งคืน จีบไปจีบมาแบตหมดเสียแล้ว” ฉินจื่อยี่นั่งลง มองหลี่ฝางราวยิ้มไม่ยิ้ม

หลี่ฝางจึงเตะก้นฉินจื่อยี่ครั้งหนึ่ง “ไสหัวไป ฉันซื่อสัตย์กับแฟนฉันคนเดียว จะไปจีบหญิงได้ยังไง อย่ามาพูดไร้สาระ!”

ลู่หลุ่ยมองที่เตียงแวบหนึ่ง เชื่อใจหลี่ฝาง

ทั่วเตียงถูกทำลายจนยับยู่ เพียงมองรู้ว่าสองคนนอน เมื่อเห็นหมอนตรงกลางนั้น ลู่หลุ่ยอดหัวเราะลั่นไม่ได้ “พวกคุณสองคนใครช่างคิดขนาดนี้ ตรงกลางยังกั้นหมอนไว้ด้วย?”

“ฉันไม่ใช่กลัวเขานอนละเมอ ทำลายความบริสุทธิ์ของฉันเหรอ?” หลี่ฝางรีบเอ่ย

แต่เหตุผลคือวัวสันหลังหวะ คำพูดของหลี่ฝาง แปลกประหลาดอย่างมาก ทุกคำต่างราวอธิบาย แสดงออกถึงความบริสุทธิ์ของตน เพราะกลัวลู่หลุ่ยจะเข้าใจตนผิด

“สวัสดีค่ะ ฉันลู่หลุ่ย เป็น…ของหลี่ฝาง” จู่ๆ ลู่หลุ่ยพลันชะงัก กัดริมฝีปากเบาๆ

‘แฟน’ คำนี้ ครึ่งวันก็พูดไม่ออก

“เธอคือแฟนของหลี่ฝางสินะ เห้อ เธอสวยขนาดนี้ ทำไมจึงมาเป็นแฟนกับไอ้เด็กนี้ล่ะ” ฉินจื่อยี่ส่ายศีรษะ พร้อมกับถอนหายใจยาว ก่อนเอ่ยเสริมว่า “น่าเสียดาย น่าเสียดาย”

“ดอกไม้งามปักบนขี้วัวจริงๆ”

“พี่สิถึงเป็นขี้วัว” หลี่ฝางถลึงตาให้ฉินจื่อยี่ ก่อนเอ่ยว่า “เอาล่ะ ที่นี่ไม่มีเรื่องอะไรแล้ว พี่ออกไปก่อนเถอะ”

ฉินจื่อยี่มีสีหน้าตะลึงชั่วขณะ “นี่เหมือนจะเป็นห้องฉันนะ”

“จะใช้ห้องพี่แล้วยังไง?” หลี่ฝางเอ่ย ก่อนผลักฉินจื่อยี่ออกไป

ทันใดนั้น ลู่หลุ่ยรู้สึกเกรงใจเล็กน้อย “ในห้องนายมีคนอื่นอยู่ด้วย ทำไมไม่บอกฉัน หากรู้ฉันคงไม่มาหรอก”

“กลัวอะไร เขาเป็นพี่น้องของฉัน”

หลี่ฝางมองลู่หลุ่ย ก่อนถามว่า “จริงสิ เธอมาได้ยังไง หลี่เสี่ยวเสี่ยวบอกว่าเธอไม่ว่าง ฉันคิดว่าเธอจะไม่มาเสียอีก”

“หลายวันนี้เหมิงเหมิงอารมณ์ไม่ดี ฉันจึงพาเธอมาพักผ่อนที่วิลล่า จริงสิเหมิงเหมิงยังรออยู่ที่ประตูเลย นายไม่ใช่รู้จักกับเจ้าของวิลล่าเหรอ นายช่วยพาเธอเข้ามาได้ไหม?”

“นี่ไม่ใช่ปัญหา”

“งั้นเรารีบไปกันเถอะ”

หลี่ฝางมองลู่หลุ่ย ยังคิดอยากทำอะไรบางอย่าง สุดท้ายไม่ได้ทำอะไร ถูกเธอลากออกไป

หลี่ฝางคิดว่าผู้หญิงคนหนึ่ง กล้าเข้ามาในห้องพักของคุณ หรือพาคุณเข้ามาในห้องของเธอ หมายความว่าคุณสามารถจูบเธอได้

แน่นอนว่าหากกล้า สามารถทำสิ่งที่มากกว่านั้นได้

สุดท้ายเพิ่งเดินออกประตูไป ชนเข้ากับฉินวี่เฟย ลู่หลุ่ยเสียหลักชนเข้ากับฉินวี่เฟย จนทำให้น้ำเต้าหู้ในมือฉินวี่เฟยหกลงบนพื้นและเสื้อผ้า

“ขอโทษ ขอโทษคะ” ลู่หลุ่ยมีสีหน้ากลัว ก่อนรีบร้อนเอ่ยขอโทษฉินวี่เฟย

แต่ลู่หลุ่ยได้สติอย่างรวดเร็ว พร้อมเงยหน้ามองฉินวี่เฟย

“เป็นเธอ?”

ครั้งก่อนลู่หลุ่ยเห็นหลี่ฝางและฉินวี่เฟยครั้งหนึ่ง ยังหึงหวง

ใครจะรู้บังเอิญอะไรเช่นนี้ ครั้งนี้เจอกันอีกแล้ว

และฉินวี่เฟยถืออาหารเช้าสองชุด คนโง่มองออกว่านี่มาเพื่อส่งอาหารเช้าให้กับหลี่ฝาง

ลู่หลุ่ยที่อ่อนโยนมาตลอดพลันระเบิดอคติออกมา มองฉินวี่เฟยพร้อมถามเสียงเย็นชาว่า “เธอเอาอาหารเช้ามาให้หลี่ฝางเหรอ?”

ฉินวี่เฟยมองหลี่ฝางแวบหนึ่ง โดยไม่รู้ควรตอบเช่นไร

หากตอบว่าไม่ใช่ ความจริงปรากฏอยู่ตรงหน้า หากมองว่าใช่ กลายเป็นว่าเข้าใจผิด?

“เธอชื่อฉินวี่เฟย เป็นน้องสาวของฉินจื่อยี่” หลี่ฝางชิงเอ่ยขึ้น “เธอต้องเอาอาหารเช้ามาให้พี่ชายเธอแน่นอน ก็เลยถือติดมือมาให้ฉันด้วย”

“ฉินวี่เฟย เสียเที่ยวแล้วล่ะ พี่ชายเธอออกไปเดินเล่นแล้ว” หลี่ฝางจับศีรษะ ก่อนเอ่ยอย่างอึดอัด

เพียงพริบตาเดียว บนหน้าผากหลี่ฝางเต็มไปด้วยเหงื่อ

จริงดังคิด เหยียบเรือสองแคม คือเรื่องที่อันตรายอย่างมากเรื่องหนึ่ง

ไม่อาจรู้ได้ว่าเมื่อไหร่เรือสองลำจะชนกัน จนทำให้คนบนเรือตกลงน้ำ

ตอนนี้ เรือสองลำปะทะกันเข้าแล้ว

โชคดีที่ฉินวี่เฟย หรือเรือลำนี้ปลอดภัย

ฉินวี่เฟยจึงกล่าวยิ้มๆ ว่า “หลี่ฝาง นี่คือลู่หลุ่ย แฟนที่นายชอบพูดถึงสินะ สวยจริงๆ ชาติที่แล้วนายทำความดีช่วยคนไว้เยอะแน่ ถึงมีแฟนที่สวยขนาดนี้ได้”

ต้องพูดว่าอีคิวของฉินวี่เฟย สูงมากจริงๆ

ประโยคเดียวขจัดความอคติในสายตาของลู่หลุ่ยลงได้

“สวัสดี ฉันฉินวี่เฟย เป็นเพื่อนสนิทของหลี่ฝาง” ฉินวี่เฟยยื่นมือออกไปอย่างเป็นมิตร พลางเอ่ยขึ้น

ลู่หลุ่ยยิ้มอย่างละลายใจ ก่อนเอ่ยด้วยเสียงเสียใจ “เมื่อกี้ขอโทษด้วย เข้าใจคุณผิด ขอโทษจริงๆ คะ”

“เสื้อผ้าก็ทำของคุณสกปรก งั้นฉันจะเอาไปซักให้นะคะ หรือจะให้ชดใช้ก็ได้”

ฉินวี่เฟยยิ้มอย่างไม่ถือสา “เปื้อนน้ำเต้าหู้นิดเดียวเท่านั้น ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ทุกคนต่างเป็นเพื่อนกัน ทำไมต้องคิดเล็กคิดน้อย คุณว่าไหม?”

“ฉันรู้จักคุณ ดาวมหาวิทยาลัยสุ่ยมู่ที่ทุกคนยอมรับ ฉันก็เรียนที่มหาวิทยาลัยสุ่ยมู่ แต่อยู่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง

สองคนคุยกันหลายประโยค จึงสนิทกันขึ้นมา

ลู่หลุ่ยคิดในใจ ตนน่าจะคิดมากเกินไป คนที่ดุจเทพธิดาเช่นฉินวี่เฟย จะชอบหลี่ฝางได้ยังไง?

ทันใดนั้น ลู่หลุ่ยพลันนึกขึ้นได้ จึงรีบร้อนเอ่ยขึ้น “แย่แล้ว เหมิงเหมิง ฉันลืมเธอไปเลย ฉินวี่เฟย พวกเราขอตัวก่อนนะ เพื่อนของฉันอีกคนยังรออยู่ข้างนอก ฉันต้องไปรับเธอ เธอคงรอจนร้อนใจแย่แล้ว”

ลู่หลุ่ยดึงหลี่ฝาง วิ่งตลอดทางจนไปถึงหน้าประตูสถานตากอากาศ

ต้องพูดว่าแรงของลู่หลุ่ยนี้ ไม่มีตกเลยทีเดียว วิ่งมาตั้งไกลขนาดนี้ หลี่ฝางเหนื่อยจนหอบ แต่ลู่หลุ่ยกลับราวไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“เหมิงเหมิง!” ลู่หลุ่ยตะโกนเรียกเพื่อนสนิทตน

เหมิงเหมิง คือสาวใส่ต่างหูคนนั้น ที่เจอบนเขาหมาป่าในตอนแรก แฟนของเธอขับมัสแตงคันหนึ่ง

หลี่ฝางเดินเข้าไป ล้วงบัตรวีไอพีของตนออกมาให้รปภ ดูแวบหนึ่ง จากนั้นเหมิงเหมิงถูกปล่อยให้เข้ามา

เมื่อจ้องหลี่ฝาง เหมิงเหมิงตกตะลึง “ฉันคิดว่าลู่หลุ่ยคุยโม้กับฉันเสียอีก คิดไม่ถึงว่านายจะร้ายกาจขนาดนั้นจริง พาฉันเข้ามาได้ จริงสิ บัตรในมือนายนี่คืออะไร ทำไมเจ๋งขนาดนี้ ให้รปภ.ข้างนอกดูก็สำเร็จแล้ว?”

เหมิงเหมิงรู้ บัตรสถานตากอากาศใบหนึ่งราคาสามพัน ยิ่งกว่านั้นบัตรขายหมดแล้ว

ดังนั้นตอนนี้ที่นี่ นอกจากคนที่มีสถานะพิเศษ คนธรรมดาทั่วไปไม่สามารถเข้าสถานตากอากาศได้

“ฉันก็ไม่รู้ เพื่อนให้มา บอกว่าพิเศษนิดหน่อย สามารถกินเล่นดื่มที่สถานตากอากาศได้ เจ๋งไหมล่ะ?” หลี่ฝางเอ่ยอย่างโอ้อวด

“เจ๋ง!” เหมิงเหมิงยกนิ้วโป้งให้หลี่ฝาง

“ได้ยินลู่หลุ่ยบอกว่าเธออกหัก” หลี่ฝางตบไหล่ของสาวใส่ต่างหู ก่อนเอ่ย “หากเป็นฉัน อกหักถือเป็นเรื่องดี ดูจากแฟนของเธอนั้น ไม่สิ ตอนนี้คือแฟนเก่า เห็นเขารู้สึกไม่ถูกชะตา เพียงมองรู้ว่าไม่ใช่คนดี เลิกไปก็ดี”

“หลี่ฝาง นายพูดจาอะไร หากไม่รู้จักพูดหุบปากไป ตอนนี้เหมิงเหมิงกำลังเสียใจ” ลู่หลุ่ยกลอกตามองหลี่ฝางอย่างโมโห เรียกให้เขาหุบปาก

หลี่ฝางเบ้ปาก ก่อนเอ่ยขึ้นอีกประโยค “ฉันแค่พูดตามความรู้สึกของคนนอกเท่านั้น”

“ช่างเถอะ ให้เขาพูดเถอะ เขาไม่ได้พูดผิดอะไร หลิวจินหยางนั่นคือผู้ชายเหี้ยๆ สารเลวคนหนึ่งจริงๆ แม่มันเถอะ หลังมีแลมโบกินี่สองคัน ไม่สนใจฉันเลย”

เหมิงเหมิงหัวเราะอย่างเย็นชา “เฮอะ เฮอะ ด้วยแลมโบกินี่สองคันนั่น ฉันได้ยินมาว่าไอ้นั่นวันหนึ่งจีบสาวไม่รู้กี่คน ตอนนี้ผู้หญิงข้างนอก ไร้ค่าขนาดนั้นเหรอ มีแลมโบกินี่ก็หลับนอนด้วย ฉันชิบหายจริงๆ!”

“ผู้ชายมีเงินแล้วจะเลว ไม่ได้โกหกจริงๆ หลิวจินหยางคือตัวอย่างที่ดีที่สุด” เหมิงเหมิงเอ่ยด้วยสีหน้าดุร้าย

เมื่อได้ฟังคำพูดนี้ หลี่ฝางกลับรู้สึกโดยด่าทางอ้อม ตอนนี้ตนมีเงิน แต่ไม่เห็นเปลี่ยนไปในทางที่ไม่ดี?

“หลี่ฝาง เมื่อคืนนายทำอะไร ไม่ตอบข้อความหลุ่ยหลุ่ยของพวกเรา วิดีโอคอลก็ไม่รับ หรือเมื่อคืนพัวพันอยู่กับผู้หญิงอื่น พูดมา!”

เหมิงเหมิงชี้จมูกของหลี่ฝาง ก่อนซักถาม

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท