NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 321

ตอนที่ 321

บทที่ 321 ลู่หลุ่ยจากไปอย่างลึกลับ

ไม่เพียงแค่หวางเสี่ยวโก๋ แต่ฉินวี่เฟย และเหยนเสี่ยวน่าก็อยู่ด้วยเช่นกัน

“เกิดอะไรขึ้น? ทำไมจู่ๆ ถึงได้รีบไป?” หลี่ฝางรู้สึกงงงวย

ในเวลานี้ หวางเสี่ยวโก๋และเหยนเสี่ยวน่ามองไปทางฉินวี่เฟยพร้อมกัน เห็นได้ชัดว่าปัญหาอยู่ที่ฉินวี่เฟย

“ฉันก็ไม่อยากไป แต่พี่สาวฉันกับฉินวี่เฟยจะไปแล้ว ฉันต้องไปเอากระเป๋าให้พวกเขา” หวางเสี่ยวโก๋พูดพร้อมกับยักไหล่

เหยนเสี่ยวน่าเบ้ปาก จากนั้นจึงใช้คางพเยิดไปทางฉินวี่เฟยที่อยู่ที่ประตู

หลี่ฝางเดินไปตรงหน้าฉินวี่เฟย เขามองฉินวี่เฟยและเอ่ยถาม “ทำไมถึงไป?”

ในใจของหลี่ฝางรู้สึกไม่ดีอยู่บ้าง สองคืนติดต่อกันที่เขามีความสัมพันธ์เกิดขึ้นกับฉินวี่เฟย แต่ทันทีที่ลู่หลุ่ยมา ตนเองก็ทิ้งขว้างฉินวี่เฟยไว้กลางอากาศทันที

แม้ว่าความสัมพันธ์นี้จะเป็นแค่การแลกเปลี่ยนอย่างหนึ่ง แต่จะบอกว่าฉินวี่เฟยไม่มีความรู้สึกใด ๆ ต่อหลี่ฝางก็คงจะเป็นเรื่องโกหก

ไม่ว่าจะเป็นอาหารเช้าที่ส่งมาให้ หรือว่าเป็นตอนที่เจอกันในร้านโจ๊กเย็น ฉินวี่เฟยล้วนกำลังฝืนยิ้มออกมา

จุดนี้ หลี่ฝางดูออก

“ฉันขอโทษ”

เขาดึงฉินวี่เฟยออกไปด้านนอกรีสอร์ตและหาสถานที่ที่ไม่มีใครอยู่ หลี่ฝางกอดฉินวี่เฟย

“ฉันเองก็ไม่อยากทำร้ายเธอ แต่ฉันไม่คิดว่าแฟนของฉันจะมา” หลี่ฝางกล่าวด้วยใบหน้ารู้สึกผิด

ไม่รู้ว่าทำไมเช่นกัน

ฉินวี่เฟยคุณหนูใหญ่ของตระกูลฉิน ตั้งแต่เล็กจนโตล้วนได้รับความรักความเอ็นดูอย่างท่วมท้น

แต่หลี่ฝางกลับรู้สึกสงสารเธออยู่หน่อย

เบื้องหลังของความสดใสนั้น ในใจของฉินวี่เฟย ดูเหมือนจะได้รับบาดแผลจนเป็นหลุมเป็นบ่อมากมาย

หลี่ฝางไม่สามารถให้อะไรฉินวี่เฟยได้มากนัก และสิ่งที่สามารถมอบให้กับเธอได้ในตอนนี้ ก็คืออ้อมกอดหนึ่ง

ประมาณหนึ่งนาทีต่อมา ฉินวี่เฟยผลักหลี่ฝางออก เธอยิ้มและพูดว่า “ไม่ใช่เพราะนายกับลู่หลุ่ย”

“แล้วเป็นเพราะอะไร?” หลี่ฝางถามอย่างสงสัย

“มู่เสี่ยวไป๋มาแล้ว…. ที่นี่เพราะฉัน”

ฉินวี่เฟยมีสีหน้าร้อนรน เธอเงยหน้าขึ้นมองหลี่ฝาง “นายเองก็ควรระวัง เรื่องระหว่างเรา เขาก็อาจจะรู้แล้ว”

“รู้แล้ว?”

หลี่ฝางตกตะลึง “เขารู้ได้อย่างไร?”

“เมื่อคืนพวกเรากลับไปที่วิลล่าด้วยกัน ถูกปาปารัสซี่เห็นเข้าให้แล้ว ปาปารัสซี่นั่นไปหาพี่สาวของฉันก่อน และแบล็กเมล์เงินจากพี่สาวฉันไปล้านนึง”

“หลังจากปาปารัสซี่ขู่เอาเงินจากพี่สาวฉันไป มันก็ไปที่บ้านตระกูลมู่”

“และก็ได้เงินจากตระกูลมู่ไปด้วยเช่นกัน”

ฉินวี่เฟยขมวดคิ้ว “ดูเหมือนว่าเรื่องการหมั้นระหว่างฉันกับมู่เสี่ยวไป๋ จะถูกแพร่กระจายออกไปอย่างช้าๆ แล้ว แม้กระทั่งปาปารัสซี่ก็รู้”

“จุดนี้ไม่น่าแปลก ความสามารถที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของปาปารัสซี่ ก็คือเรื่องพวกนี้ วงการบันเทิง วงการไฮโซ มีเรื่องอะไรนิดหน่อยก็ล้วนปิดพวกเขาไม่ได้”

“เพียงแต่ เธอแน่ใจนะว่ามู่เสี่ยวไป๋รู้เรื่องนี้?”

หลี่ฝางหัวเราะและเอ่ยกับฉินวี่เฟย “เมื่อกี้บนถนน ฉันเจอกับมู่เสี่ยวไป๋แล้ว”

“เขาไม่ได้เอาคืนนาย?” ใบหน้าของฉินวี่เฟยลุกลี้ลุกลนมากขึ้น เธอถามอย่างกังวล

หลี่ฝางส่ายหัวและพูดว่า “เปล่า เขาแค่ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นและเดินผ่านฉันไป”

“หึหึ!”

ฉินวี่เฟยหัวเราะเยาะ “พี่สาวของฉันยืนยันว่าปาปารัสซี่ขายข้อมูลให้กับมู่เสี่ยวไป๋แล้ว พี่สาวฉันส่งคนไปสืบมาแล้ว ในบัญชีธนาคารของปาปารัสซี่นั่น วันนี้ได้รับเงินไป 500000 เมื่อเช้า”

“นี่น่าจะเป็นเงินจากตระกูลมู่ที่ให้ไป”

“เมื่อมู่เสี่ยวไป๋ไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องนี้กับนาย ก็สามารถอธิบายได้เพียงอย่างเดียว นั่นคือในใจของมู่เสี่ยวไป๋ไม่มีฉัน”

เมื่อนึกถึงความเป็นไปได้นี้ จู่ๆ ฉินวี่เฟยก็หัวเราะขึ้นมา “ถ้าสามารถยกเลิกการหมั้นได้ สำหรับตระกูลฉินของเราแล้ว ถือเป็นเรื่องที่ดีเรื่องหนึ่ง”

“แต่เดินฉันคิดจะแก้แค้นตระกูลฉินสักหน่อยและถือโอกาสทำให้ตระกูลมู่ต้องอับอายขายหน้า แต่มาตอนนี้เห็นทีงานเลี้ยงงานหมั้นคงจะถูกยกเลิกล่วงหน้าแล้ว”

ฉินวี่เฟยเอ่ยด้วยสีหน้าราบเรียบ และมองไปที่หลี่ฝางที่กำลังเม้มริมฝีปาก

ปากของฉินวี่เฟยขยับและคิดจะพูดอะไรบางอย่าง แต่กลับเปิดปากไม่ออกอยู่บ้าง หลี่ฝางยิ้ม เข้าใจจิตใจของฉินวี่เฟยได้ทันที

“สองวันนี้ ฉันจะไปบ้านตระกูลฉินกับเธอ…ต้องให้พาพ่อฉันไปด้วยไหม?” หลี่ฝางหัวเราะ

ได้ยินดังนั้น แม้ว่าฉินวี่เฟยจะมีรอยยิ้มตื้น ๆ ผุดขึ้นเท่านั้น แต่หลี่ฝางรู้ว่า ในใจของฉินวี่เฟยกำลังรู้สึกตื่นเต้นอย่างแน่นอน

ฉินวี่เฟยไม่คาดคิดว่าหลี่ฝางจะให้ความร่วมมือขนาดนี้ เธอรีบเอ่ย “อย่าเพิ่ง นายไปเองก็พอแล้ว”

“ยังไงเสีย พี่ชายพี่สาวฉันก็รู้ตัวตนของนายหมดแล้ว ถึงเวลานั้น พวกเขาเองก็จะช่วยเป็นพยานให้เช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้น ใครจะไปกล้าแกล้วคุณชายใหญ่ตระกูลหลี่อย่างนายกัน?” ฉินวี่เฟยเอ่ยอย่างมีความสุข

“งั้นก็ไปสิ กลับไปกันไหม?” หลี่ฝางชี้ไปที่รีสอร์ต

“ถ้าเจอมู่เสี่ยวไป๋เข้าจะทำยังไง? ฉันกลัวว่าจะทำตัวไม่ถูก ยังไงเสียพวกเราสองคนก็มีการหมั้นกันอยู่…”

ฉินวี่เฟยลังเลอยู่บ้าง แต่กลับถูกหลี่ฝางจับแขนเอาไว้และดึงกลับไปที่รีสอร์ตโดยตรง

คนเฝ้าประตูรีสอร์ตเองก็ไม่ได้ขัดขวาง อีกทั้งยังโค้งคำนับให้หลี่ฝางทั้งไปและกลับ

เห็นชัดว่า ครั้งนี้ที่มา คนส่วนใหญ่ในรีสอร์ตล้วนรู้แล้วว่าหลี่ฝางเป็นคุณชายใหญ่

หลี่ฝางเองก็เข้าใจเช่นกัน

ในใจของมู่เสี่ยวไป๋ ไม่ได้มีที่สำหรับฉินวี่เฟยเลยสักนิด

อีกทั้งยังจำได้ว่าครั้งที่แล้วที่รีสอร์ท มู่เสี่ยวไป๋ได้เจอฉินวี่เฟยเป็นครั้งแรก คุณชายร่ำรวยมากมายล้วนพุ่งเข้ามาตรงหน้าของเธอ เหลือเพียงมู่เสี่ยวไป๋ที่อยู่คนเดียวไกลๆ อีกทั้งยังมีท่าทีเยาะเย้ยใส่

มู่เสี่ยวไป๋ไม่ชอบฉินวี่เฟย เขาชอบแค่หลินชิงชิงเท่านั้น

แม้ว่าฉินวี่เฟยจะไม่ได้ก่อนเรื่องอะไรขึ้นมา แต่หลี่ฝางก็เดาได้ว่า มู่เสี่ยวไป๋เองก็จะต้องไม่เห็นด้วยกับการแต่งงานแน่

“ฉินวี่เฟย เธอไม่ไปแล้วหรือ?” เหยนเสี่ยวน่าจับมือฉินวี่เฟยและรีบเอ่ยถาม

ฉินวี่เฟยมองไปที่หลี่ฝางและพูดว่า “ไปพรุ่งนี้ …”

“เยี่ยมมาก คืนนี้มีงานเลี้ยงใหญ่ มีดาราจากต่างประเทศมาร่วมงานด้วย”

หลี่ฝางไม่กลัวมู่เสี่ยวไป๋ ตรงกันข้าม เขายังคิดจะยั่วยุต่อไปอีกด้วย

แม้ว่ามู่เสี่ยวไป๋จะไม่ชอบฉินวี่เฟย แต่ในนาม เธอก็ยังคงเป็นคู่หมั้นของมู่เสี่ยวไป๋อยู่

ถ้าในงานเลี้ยงคืนนี้ ตนเองและฉินวี่เฟย เป็นคู่กันแล้ว อย่างนั้นมู่เสี่ยวไป๋ ไม่ต้องโมโหตายหรอกหรือ?

เดี๋ยวก่อน แล้วลู่หลุ่ยล่ะ?

หลี่ฝางขมวดคิ้ว ในใจคิด ลู่หลุ่ยมาแล้ว อย่างนั้นแผนของตนเองก็เท่ากับล้มเหลวแล้ว

ใครจะรู้ว่าไม่นานนัก ลู่หลุ่ยก็โทรมาหาหลี่ฝาง และบอกว่าตนเองกำลังจะออกจากรีสอร์ต

หลี่ฝางถามไปว่าทำไม แต่ลู่หลุ่ยกลับงึมงำไม่พูดอย่างชัดเจน แต่ลู่หลุ่ยรับปากกับเขาว่าตนเองไม่มีทางทำผิดกับหลี่ฝางแน่ ให้หลี่ฝางวางใจ

พอพูดจบ ลู่หลุ่ยก็วางสายไปอย่างรีบร้อน

เมื่อหลี่ฝางโทรไปอีกครั้ง ทางฝั่งลู่หลุ่ยก็โชว์ว่ากำลังติดสายอยู่

หลี่ฝางขมวดคิ้ว มีความรู้สึกลางไม่ค่อยดีอยู่บ้าง

อะไรคือการรับปากว่าจะไม่มีทางทำผิดต่อตน?

ไปไหนกัน?

แม้กระทั่งบอกยังบอกไม่ได้?

หลี่ฝางรีบโทรหาเหมิงเหมิง เหมิงเหมิงตอบกลับมา “อะไรนะ ลู่หลุ่ยไปแล้ว? ฉันว่านะหลี่ฝาง นี่นายไปรังแกอะไรหลุ่ยหลุ่ยของพวกเราอีกแล้วใช่ไหม?”

“ลู่หลุ่ยไม่ได้บอกเธอเหรอ?” หลี่ฝางตกตะลึงไปและงงราวกับไก่ตาแตก

ครั้งนี้ลู่หลุ่ยทำตัวลึกลับเกินไป เธอจากไปครั้งนี้ แม้แต่เหมิงเหมิงก็ยังไม่ได้บอกอะไรสักคำ

พวกเธอเป็นเพื่อนซี้กันและก็มาด้วยกันด้วย

ทั้งเพื่อนสนิทตนเองไปเนี่ยนะ?

“ไม่มีนี่ ลู่หลุ่ยไปแล้วจริงๆ หรือ?” เหมิงเหมิงเองก็ไม่เชื่ออยู่บ้างเช่นกัน “เป็นไปได้ยังไงกัน เธอจู่ๆ จะไปโดยไม่บอกไม่กล่าวฉันสักคำเนี่ยนะ? นายแน่ใจนะว่าพวกนายไม่ได้ทะเลาะกัน”

“ไม่มี เมื่อกี้เธอโทรมาหาฉัน บอกว่าจะไม่ทำเรื่องที่ผิดต่อฉัน ฉันไม่เข้าใจว่าหมายถึงอะไร เหมิงเหมิง เธอเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านความรัก ช่วยอธิบายให้ฉันฟังหน่อยได้ไหม?” “หลี่ฝางพูดในโทรศัพท์

ทางฝั่งเหมิงเหมิงตะลึงไปชั่วครู่ประมาณ 30 วินาที

ทันใดนั้น เหมิงเหมิงก็หัวเราะหึหึขึ้นมาและเอ่ยขึ้น “จะมีอะไรให้อธิบายอีก ดูเหมือนว่าคณะเราจะมีกิจกรรมต้องให้ลู่หลุ่ยไปเป็นพิธีกร นายดูความจำฉันสิ ลืมไปเสียสนิท”

“อ้อใช่ ฉันหิวแล้ว ช่วยสั่งของกินมาให้สักหน่อยได้ไหม?” เหมิงเหมิงรับเปลี่ยนหัวข้อทันที

หลี่ฝางยังคงสงสัย เขาเอ่ย “ในโรงแรมมีเบอร์ฝ่ายบริการลูกค้า อยากกินก็ไปบอกเขา ส่งถึงห้อง ไม่คิดตังค์ อยากกินอะไรสั่งเลย”

“เธอยังคงอยู่กับหลี่ซ่วยซ่วย?”

“ใช่ ฉันอยู่เป็นเพื่อนเขา เขาออกจะน่าสงสารอยู่บ้าง หัวอกเดียวกันกับฉัน ดูเหมือนฉันจะหาคู่หูเจอแล้ว” เหมิงเหมิงหัวเราะ

“ฉันคิดว่าพวกเธอก็ดูเหมาะกันดี รอให้ซ่วยซ่วยฟื้นแล้ว พวกเธอสองคนลองคบหากันดู?”

“ไสหัวไปเลย!” หลังจากด่าหลี่ฝาง เหมิงเหมิงก็วางสายโทรศัพท์ไป

หลังจากวางสาย ยิ่งคิดหลี่ฝางก็ยิ่งรู้สึกแปลกๆ เขารู้สึกว่าเหมิงเหมิงกำลังโกหก

จู่ๆ หลี่ฝางก็นึกถึงคนๆ หนึ่งขึ้นมา ลู่เชา คนที่รู้จักในวันรายงานตัว

หลี่ฝางรีบโทรหาลู่เชา “พี่เชา แผนกกระจายเสียงของพวกคุณมีจัดกิจกรรมอะไรหรือเปล่า?”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท