NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 338

ตอนที่ 338

บทที่338 ส้าวส้วยหนึ่งต่อศัตรูทั้งสี่

ส้าวส้วยกลัวว่าระหว่างทางหลี่ฝางเจออันตราย จึงรีบตามออกไปจากห้องประชุม

หมาทิเบตันยังอยู่ที่สถานตากอากาศ ถึงแม้จุดประสงค์เขาไม่ใช่หลี่ฝาง ส้าวส้วยก็ต้องป้องกัน

หลี่ฝางมองเห็นส้าวส้วยที่อยู่ด้านหลัง หัวเราะเหอะๆถามว่า:“ทำไม กลัวผมเจออันตรายระหว่างทางเหรอ?”

“ไม่ใช่เหรอไงล่ะ?บอดี้การ์ดติดตัวสี่คนนั้น ต่างไม่ได้ตามไป ตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าอยู่ไหน อีกอย่าง ยังมีหมาทิเบตันด้วย เจ้านายทางนี้ ไม่แน่นอนจริงๆ!”ส้าวส้วยเลียปากพูดไป

หลี่ฝางพยักหน้า เดิมทีก็อยากเรียกส้าวส้วยมา แต่เห็นแก่หน้า ดังนั้นจึงไม่พูดเอง แต่ส้าวส้วยกลับตระหนักได้ ตามมาเอง

“เจ้านาย ความหมายของโหจื่อ คุณเข้าใจไหม?”เดินที่ถนน ส้าวส้วยก็พูด

หลี่ฝางพยักหน้า หัวเราะ:“ผมไม่ได้โง่นะ”

โหจื่อให้หลี่ฝางไปเรียกฉินวี่เฟย เพื่อให้หลี่ฝางเป็นคนช่วยพูดระหว่างกลาง

ถ้าไม่อย่างนั้น โหจื่อจะกล้าให้เจ้านายของตัวเองวิ่งมาแทนได้ไง?

เห็นชัดๆว่าโทรก็แก้ไขเรื่องได้ ทำไมต้องวิ่งมาด้วย?

หลี่ฝางเดินไปไม่กี่นาที ทันใดนั้นมู่เจิ้งถังก็ขมวดคิ้ว

ในเมื่อเขาตระหนักว่าผิดปกติ จึงหันไปมองมู่เสี่ยวไป๋:“เสี่ยวไป๋ คุณมีเบอร์ฉินวี่เฟยไหม?”

“ผมมีวีแชทเธอ ถึงแม้จะไม่เคยคุยเลย”มู่เสี่ยวไป๋รีบพูด

“งั้นคุณส่งข้อความหาเธอ ว่าผมมา ให้เธอมานี่หน่อย”มู่เจิ้งถังไม่ค่อยสบายใจ

เวลานี้โหจื่อหัวเราะหึหึ พูดกับมู่เจิ้งถัง:“ท่านมู่ ห้องประชุมนี้ห่างจากสถานที่ที่คุณหนูฉินอยู่ไม่กี่นาทีเอง สันนิษฐานว่าตอนนี้ คุณชายของผมน่าจะถึงแล้ว”

“ไม่จำเป็นหรอก”มุมปากมู่เจิ้งถังหัวเราะอย่างซับซ้อน น้ำเสียงเต็มไปด้วยความสนุก

มู่เจิ้งถังพูดจบ สบตาหลี่ต๋าคางอย่างเย็นชา

ในเมื่อตระกูลหลี่กล้าหักขาของมู่เสี่ยวไป๋ งั้นมู่เจิ้งถังก็กล้าลงมือหลี่ฝาง

มู่เจิ้งถังหัวเราะอย่างเย็นชา พูดในใจ คิดว่าตัวเองเป็นคนโดนแกล้งง่ายจริงๆเหรอ?

“ปู่……”ใบหน้าของมู่เสี่ยวไป๋ จู่ๆก็ขมวดคิ้ว

“ทำไม?”มองสีหน้ามู่เสี่ยวไป๋ผิดปกติหน่อยๆ มู่เจิ้งถังรีบถาม

เวลานี้เอง จะเกิดเรื่องอะไรไม่ได้แล้วจริงๆ

“ฉินวี่เฟย ยัยดอกทองนี่ บล็อกผมไปแล้ว”มู่เสี่ยวไป๋พูดอย่างหมดคำพูดหน่อยๆ

มู่เสี่ยวไป๋กับมู่เจิ้งถังเข้าใจดี ตอนนี้ความพ่ายแพ้ของพวกเขา อยู่ในการควบคุมของฉินวี่เฟย

ในมือของโหจื่อมีหลักฐาน แค่คำพูดของฉินวี่เฟย มู่เสี่ยวไป๋จะกลายเป็นนักโทษทันที

ถึงตอนนั้น ถึงตระกูลมู่มีความสามารถแค่ไหน ก็ไม่มีทางช่วยมู่เสี่ยวไป๋ได้

หลี่ฝางเดินไปได้ครึ่งทาง จู่ๆก็ถูกส้าวส้วยดึงแขนไว้

“ทำไมเหรอ?”หลี่ฝางถาม

ส้าวส้วยหัวเราะหึหึ พูดกับหลี่ฝาง:“คุณชาย รอเดี๋ยวค่อยไป มีแขกมาล่ะ”

“แขก?”หลี่ฝางขมวดคิ้ว ไม่ค่อยเข้าใจ:“แขกอะไร?”

ส้าวส้วยชี้ไปที่หญ้าข้างๆ พูด:“แขกหลบพวกเราอยู่”

หลี่ฝางหัวเราะเหอะๆ จึงเข้าใจความหมายของส้าวส้วย:“ที่แท้ก็เขิน”

“ถูกจับได้หมดแล้ว ยังจะหลบไปถึงไหนเหรอ”

หลี่ฝางทำเสียงฮึดฮัด ตะโกนไปในป่า:“ทำไมต้องหัวหดคอเต่าด้วย รีบออกมาให้ผมดูสิ”

สี่คนมองหน้ากัน สุดท้ายก็กระโดดออกมาจากในป่า

สี่คนนี้ ต่างผิดหน้ามิดชิด สวมชุดที่ใส่ยามวิกาลสีดำทั้งชุด มองหุ่นก็รู้ นี่คือบอดี้การ์ดสี่คนที่มู่เจิ้งถังมาพา

“สี่คนพอดี นินจาเต่าเหรอ?”หลี่ฝางหัวเราะ พูดกับส้าวส้วย:“ส่งให้คุณละกัน ผมไปหาฉินวี่เฟยละ”

ด้านหน้าไม่กี่ก้าวก็เป็นห้องชุดของฉินวี่เฟยแล้ว

ส้าวส้วยพยักหน้า ยื่นมือยื่นปืนกระบอกหนึ่งให้หลี่ฝาง

“นี่คือปีพกสีทองของโหจื่อ?”หลี่ฝางตะลึงเล็กน้อย

“ไม่ใช่ทอง”ส้าวส้วยแก้ไป

“นี่เป็นของก็อป”ส้าวส้วยพูด

หลี่ฝางส่ายหน้า ก็ไม่รู้ว่าส้าวส้วยกับโหจื่อใครพูดความจริง ใครกำลังโกหก

แต่ หลี่ฝางมั่นใจว่ากระบอกปืนในมือของส้าวส้วยนี้ ก็คือกระบอกนั้นที่โหจื่อเพิ่งเอาออกมา

ของขวัญราชวงศ์อะไรกัน สัญลักษณ์ของเกียรติยศ สัญลักษณ์ของสถานะอะไรนั่น

สรุปคือ โหจื่อต้องพึ่งปืนเล่มนี้ ให้หมาทิเบตันอึ้งตะลึงไป

หลี่ฝางรับปืนสั้นนี้มา ก็รู้สึกถึงความเยือกเย็น

ตอนที่หลี่ฝางเอามีดแทงคน ก็เคยกลัว แต่ความกลัวแบบนั้น ยังไปไม่ถึงจิตวิญญาณ

ถ้าให้หลี่ฝางเอาปืนฆ่าคน หลี่ฝางฉี่ราดกางเกงจริงๆ

แทงคนกับฆ่าคน เป็นความคิดที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง

“เจ้านาย ถ้ามีอันตราย ก็ยิงไปเลย ไม่ต้องลังเลใดๆทั้งนั้น”ส้าวส้วยกำชับหลี่ฝาง

หลี่ฝางลังเลเล็กน้อย แล้วจึงพยักหน้า

“ได้ยินเสียงปืน ผมจะรีบไป”ส้าวส้วยรีบพูดตาม

หลี่ฝางถอนหายใจ พูด:“ผมคิดว่าคุณจะให้ผมยิงปืนเพื่อฆ่าคน ทำเอาผมตกใจหมด”

หลี่ฝางถือปืน ใจเต้น ใจเต้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

ปืนนี้ก็เหมือนกับหัวใจของตัวเอง

“คุณเอาปืนให้ผม งั้นคุณจะทำอย่างไร?พวกเขาสี่คนนี่?อีกอย่างมองดูก็เป็นคนฝีมือดี”หลี่ฝางมองส้าวส้วยอย่างกังวลหน่อยๆ

“ในสายตาผมเป็นคนฝีมือดี แต่ในสายตาผม เป็นขยะทั้งนั้น”ส้าวส้วยเลิกคิ้ว พูดอย่างอวดเก่ง

“ได้ คุณพูดแบบนี้ผมก็โล่งอก ถ้าคุณจัดการพวกเขาได้ก่อนที่ผมพาฉินวี่เฟยออกมาได้ ผมจะเลี้ยงแฮมเบอร์เกอร์คุณ”หลี่ฝางพูดไปประโยคหนึ่ง แล้วหมุนตัวออกไป

“อยากเลี้ยงแฮมเบอร์เกอร์ผม ทำไมต้องใช้เหตุผลที่อดกลั้นขนาดนี้ล่ะ ขยะทั้งสี่นี้ ไม่เพียงพอที่จะแลหรอก”ส้าวส้วยจ้องทั้งสี่คน พูดอย่างไม่พอใจ

“เจ้าสาม เจ้าสี่ คุณไปตามคุณชายตระกูลหลี่ ส่วนคนนี้ ผมกับเจ้าสองจัดการเอง”

ระหว่างที่เผชิญหน้ากันทั้งสี่ พี่ใหญ่ก็เริ่มเตรียมการจัดแจง

“ครับ พี่ใหญ่”

เจ้าสามรีบเคลื่อนไหว ไม่มองส้าวส้วยสักนิด วิ่งไปที่หลี่ฝางทันที

เสียงหมัดดังปัง!

ไม่รู้ว่าตอนไหน ส้าวส้วยก็ปรากฏตรงหน้าของเจ้าสาม

ส้าวส้วยปล่อยหมัดออกไป ต่อยไปที่หน้าอกของเจ้าสาม ทันใดนั้น แววตาของเจ้าสามก็จ้องเหมือนตาวัว จากนั้น คุกเข่าลงพื้น แล้วสำลักอ้วกออกมาเป็นเสียง

ส้าวส้วยตบมือ มุมปากยิ้มอย่างสบาย :“จัดไปหนึ่งคน”

“เจ้าสาม เจ้าสาม พี่สาม”

คนที่เหลือสามคน แทบจะร้องออกมาเป็นเสียงเดียว

เจ้าสามคุกเข่าลงพื้น ใบหน้าเต็มไปด้วยเหงื่อ

“รีบลุกขึ้น เจ้าสาม!”พี่ใหญ่ตะโกนเสียงดัง

ผ่านไปหนึ่งนาทีเต็มๆ เจ้าสามก็ยังลุกขึ้นมาไม่ได้

เวลานี้ พวกชุดดำก็ตระหนักถึงความผิดปกติของสถานการณ์

“ไอ้ระยำ!”

“ผู้ชายคนนี้เป็นคนฝีมือดี”

“พี่ใหญ่ ผมว่าพวกเราลุยไปด้วยกันดีกว่า”

หลังจากที่จู่ๆเจ้าสามถูกฆ่า เจ้าสองก็แสดงสีหน้าระแวดระวัง

พี่ใหญ่พยักหน้า พวกเขามองหน้ากัน จากนั้นก็ลงมือกันตามเข้าใจโดยปริยาย

ทั้งสามรีบวิ่งเข้ามา ล้อมรอบส้าวส้วยไว้

“เจ้าสาม เป็นยังไงบ้าง ยังลุกขึ้นได้ไหม?”พี่ใหญ่ยืนอยู่ห่างจากเจ้าสามประมาณสองเมตร ถามไป

“ครับ”

เวลานี้ เจ้าสามก็รวมพลัง ค่อยๆลุกขึ้นช้าๆ

แต่ตอนที่เขาจะยืนอย่างมั่นคง ส้าวส้วยลงมือเหมือนสายฟ้าแลบ ปล่อยไปอีกหมัด โจมตีไปที่ท้องน้อยของเจ้าสามอีกครั้ง

“แม่เอ๊ย!”พี่ใหญ่มองเห็นฉากนี้ ก็ร้องออกมาเสียงดัง

เจ้าสองกับเจ้าสี่ ปรากฏใบหน้าร้ายกาจออกมา

เจ้าสามคุกเข่าลงที่พื้นทันที หลังจากร่างกระตุกไปสองสามครั้ง ก็ไม่ขยับอีกเลย

“คิดไม่ถึงว่าความสามารถการโจมตีกลับของเพื่อนคุณจะแข็งแกร่งขนาดนี้ เมื่อกี๊คิดว่าแค่รับหมัดหนึ่งก็ไม่ไว้แล้ว”ส้าวส้วยพูดอย่างชื่นชม

“แม่เอ๊ย!”

“ไอ้หมานี่ ผมจะแก้แค้นให้พี่สาม!”

ชายชุดดำชื่อเจ้าสี่ หยิบคุไนออกมาจากอ้อมแขน มันเป็นอาวุธที่คล้ายกับกริช

เขาถือคุไน พุ่งเข้ามาที่ส้าวส้วย

“เจ้าสี่ หยุด!”พี่ใหญ่ขมวดคิ้ว ตะโกนอย่างร้อนใจ

การลงมือสองครั้งของส้าวส้วย ทั้งเร็ว แม่นยำ และโหดเหี้ยม แค่มองก็รู้ว่าเป็นคนอำมหิต

พี่ใหญ่ก็มองออก ถ้าให้ความร่วมมือกันดีๆ เข้าโจมตีด้วยกันไม่ได้ ก็จะจัดการส้าวส้วยไม่ได้เลย

เขาอยากห้ามเจ้าสี่ แต่น่าเสียดาย ที่ช้าไปแล้ว

ห่างกันใกล้มาก ไม่กี่วินาทีเจ้าสี่ก็มาตรงหน้าส้าวส้วย

คุไนในมือของเจ้าสี่ บาดไปที่คอของส้าวส้วย

แต่ไม่ได้โจมตี ส้าวส้วยได้แต่ถอยหลังเล็กน้อย และหลบได้

“หลงใหลเทิดทูนของต่างชาติ แต่ดันเอามาใช้ในประเทศจีน”

ส้าวส้วยกลอกตาใส่ ยื่นมือออกไปรับ

ถึงแม้เจ้าสี่ปล่อยมีดอย่างว่องไว แต่เทียบกับส้าวส้วยแล้วนั้น ห่างไกลกันมาก

“จัดไปสองคน”

ส้าวส้วยจับข้อมือของเจ้าสี่ไว้ เอาคุไนในมือ แย่งมา

เลือดไหลออกมาเป็นหยด

ส้าวส้วยใช้คุไนกรีดไปที่คอของเจ้าสี่

เจ้าสี่ล้มลงไปที่พื้น ตาทั้งสองข้างปรากฏความไม่อยากจะเชื่อ

“คุณฆ่าพี่น้องผม?”พี่ใหญ่หายใจหอบด้วยความโกรธ

ขณะเดียวกัน ใบหน้าของพี่ใหญ่กับเจ้าสอง ก็มีความน่ากลัวปรากฏ

ไม่ถึงสามสิบวินาที เจ้าสี่ก็ถูกจัดการแล้ว?

ส้าวส้วยย่อตัวลง ยื่นมือไปบีบคอของเจ้าสี่

“อย่าฆ่าเขา!”พี่ใหญ่ตะโกนไปที่ส้าวส้วย

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน