NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 354

ตอนที่ 354

บทที่354 สโมสรเจียงหนาน

ส้าวส้วยขับรถ ไม่นานก็หาชุนเซิงเจอ

“ชุนเซิงทำอะไรอยู่?”

เห็นแค่ชุนเซิงเดินเข้ามาที่ลานจอดรถชั้นใต้ดิน แป๊บเดียวก็ถือถุงสีเหลืองเดินออกมา

“ชุนเซิงกำลังช่วยหวางเฉินขายยา จากการแนะนำของสวีเถิงเฟย หวางเฉินรู้จักลูกเศรษฐีจำนวนมาก และทำให้ลูกเศรษฐีพวกนี้กลายเป็นคนติดยาอย่างสำเร็จ”

ส้าวส้วยหัวเราะเหอะเหอะ:“พูดจริงๆนะ บนพื้นฐานของการไม่คำนึงถึงความรู้สึกผิดชอบชั่วดี สิ่งนี้ ก็ทำให้รวยได้จริงๆ”

“ในเวลาครึ่งวัน หวางเฉินไม่ใช่แค่ได้ทันคืน แต่ยังทำกำไรได้อีกหน่อย หลังจากนั้น ที่มือเขา ยังมียาเกือบครึ่งหนึ่ง ยาครึ่งหนึ่งนี้ เขาค่อยๆขาย เงินก็ค่อยๆได้”

“สิ่งนี้จะขายโจ่งแจ้งไม่ได้ ที่จริงลูกค้าไม่ได้เยอะ”

ไม่นานนัก Maseratiคันหนึ่งก็ขับออกมาจากลานจอดรถ

ส้าวส้วยพูด นี่คือหนึ่งในลูกค้าของหวางเฉิน

หลี่ฝางตะลึงหน่อยๆ:“ชุนเซิงเอายามาคนเดียว?”

“ไม่กลัวถูกยิงหรือไง?”

ชุนเซิงคนเดียว ข้างกายแม้แต่ผู้ช่วยก็ไม่มี ในมือถือยาถุงหนึ่ง นี่มันโจ่งแจ้งเกินไปแล้ว?

“หวางเฉินคนๆนี้ขัดแย้งตัวเองมาก บางเรื่องระมัดระวังมาก แต่บางเรื่อง กลับแสดงออกมากไป เขาเอายาไว้ที่ชุนเซิงคนเดียว เสี่ยงมาก แต่ยิ่งทำแบบนี้ ก็ยิ่งไม่มีใครสงสัย”

“หวางเฉินขายยามาปีกว่าแล้ว แต่กลับไม่ถูกจับได้”

“หมายความว่า ทางของหวางเฉินนี้ถูกต้อง”

“ถึงถูกจับได้ แผนร้ายสำแดงออกมา แพะรับบาปก็เป็นชุนเซิง ไม่เกี่ยวอะไรกับหวางเฉิน”

มองชุนเซิงขึ้นไปที่แท็กซี่คนหนึ่ง ส้าวส้วยก็สตาร์ทรถ ตามไป

“ใช่สิ คุณหาชุนเซิงเจอได้ไง?”หลี่ฝางถาม

ส้าวส้วยไม่ได้โทรหาชุนเซิงเลย แต่ก็หาชุนเซิงเจอ

ทำให้คนรู้สึกแปลกใจได้จริงๆ

“คุณคงไม่ได้ติดเครื่องติดตามที่เขาหรอกนะ?”หลี่ฝางมองส้าวส้วยอย่างสงสัย

ส้าวส้วยหัวเราะเหอะๆ ไม่ปิดบัง พูดกับหลี่ฝางพยักหน้า:“เจ้านายฉลาดจริงๆ แวบเดียวก็มองออก”

หลี่ฝางขมวดคิ้ว กังวลหน่อยๆ:“หวางเฉินคนๆนี้ระมัดระวังขนาดนั้น คงไม่ถูกจับได้นะ?”

“เจ้านาย วางใจเถอะ เครื่องติดตามผมฝังไว้ที่อกเขา นอกจากหวางเฉินจะมีเครื่องตรวจจับพิเศษ ไม่อย่างนั้น ก็ไม่มีทางจับได้”ส้าวส้วยหัวเราะเหอะเหอะ

“ชุนเซิงรู้ไหม?”หลี่ฝางถามต่อ

ส้าวส้วยส่ายหน้า:“เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องให้ชุนเซิงรู้ ยังไงซะพวกเราก็ทำเพื่อเขา”

“จริงๆเลยนะคุณนี่ คุณอยากจะสืบแหล่งที่มาของลูกค้าหวางเฉินสินะ?ไม่อย่างนั้น คุณจะตามชุนเซิงไปทำไม?!”หลี่ฝางไม่ได้โง่ มองจุดประสงค์ของส้าวส้วยออก

“ยังไงก็ว่างอยู่แล้ว จับหลักฐานที่หวางเฉินทำผิด สนุกดี”ส้าวส้วยพูดด้วยรอยยิ้ม

รถขับไปได้สักพัก ทันใดนั้นหลี่ฝางก็คิดได้เรื่องหนึ่ง

หลี่ฝางหันหน้าไป ตาคู่นั้นจ้องส้าวส้วย:“งั้นผมล่ะ?ที่รถผมก็มีเครื่องติดตาม ใช่ไหม?”

ส้าวส้วยทำเป็นไม่ได้ยิน ขับรถไปต่อ

“ทำไม ทำเป็นหูหนวกกับผมเหรอ?”หลี่ฝางไอออกมา:“ทุกครั้งคุณหาผมเจอตลอด ไม่คุณมีญาณทิพย์ ไม่งั้นคุณก็คงติดเครื่องติดตามไว้ข้างกายผม”

“คุณน่าจะเอาเครื่องติดตามติดไปที่รถของผม สินะ?”

ส้าวส้วยยังคงนิ่งเงียบ ส่วนหลี่ฝางกลับพูดต่อ:“ครั้งที่แล้วพวกเราออกมาจากศูนย์อาบน้ำ จางกงหมิงขับรถผมไปจนไม่เห็นแม้แต่เงาแล้ว แต่คุณกลับตามเขาได้อย่างแม่นยำ”

“ตอนนั้นสถานการณ์เร่งด่วน ก็ไม่คิดอะไรมาก ตอนนี้ดูแล้ว ที่คุณหาตำแหน่งของจางกงหมิงได้ เพราะว่าที่จางกงหมิงขับอยู่คือรถผม”

“ที่รถผม มีระบบระบุตำแหน่ง สินะ?”หลี่ฝางพูดอย่างมั่นใจ

มุมปากของส้าวส้วย ในที่สุดก็ปรากฏรอยยิ้ม:“เจ้านาย คุณพูดคำนี้ออกมาได้ ผมรู้สึกโล่งใจจริงๆ”

“ผมคิดว่า คุณจะไม่รู้อะไรเลยสักอีก!”

“ที่จริงผมสงสัยนานแล้ว ก็แค่ ผมรู้ว่าคุณทำเพื่อปกป้องผม”หลี่ฝางยักไหล่ ยิ้มอย่างไม่แคร์

เวลานี้ชุนเซิงลงจากรถ เดินเข้าไปในแท็กซี่

“นี่คือซ่องสินะ”

หลี่ฝางมองไปรอบๆ หัวเราะเหอะเหอะออกมา:“คิดไม่ถึงว่าลูกเศรษฐีกลุ่มนี้ จะชอบกินแผงลอยข้างถนน”

“ใช่ รสนิยมของคนมีเงิน พูดไม่ถูกหรอก”

“คลับใหญ่ๆแบบนั้น พวกเขาไม่กล้ามามั่วๆ สถานที่แบบนี้ ถึงแม้พวกเขาทำอีกฝ่ายจนตาย จ่ายเงินก็จบแล้ว”

“กินของพรรค์นี้ บ้าคลั่งซะยิ่งกว่ากินยาไวอากร้า”ส้าวส้วยจุดบุหรี่ให้ตัวเอง ส่ายหน้าแล้วถอนหายใจ

ตามชุนเซิง อยู่เกือบทั้งวันได้

จนฟ้ามืด ชุนเซิงจึงหาสถานที่ กินอะไรเล็กน้อย

“ร่างกายชุนเซิงอ่อนแอ ส่งของทั้งวัน ก็ไม่รู้ว่า ร่างกายของเขาจะรับได้หรือไม่”หลี่ฝางพูดอย่างปวดใจ

“ชีวิตของคน ที่จริงแล้วบึกบึนมาก คุณก็เหมือนมู่เสี่ยวไป๋ ตอนที่อยู่สถานตากอากาศ ไม่ใช่ว่าอ่อนแอกว่าชุนเซิงเหรอ?พวกเราทรมานเขาขนาดนั้น เขาก็ยังไม่ตายนี่?”ส้าวส้วยยิ้ม

พูดถึงมู่เสี่ยวไป๋ จู่ๆหลี่ฝางก็คิดถึงหลินชิงชิง

หลายวันนี้ไม่เจอกัน หลี่ฝางคิดถึงเธอมาก

หลี่ฝางหยิบโทรศัพท์ออกมา โทรหาหลินชิงชิง พอโทรติด หลี่ฝางถาม:“พี่ชิงชิง ทำอะไรน่ะ?”

“คุณมันคนไม่มีความรู้สึกผิดชอบชั่วดี ไม่โทรหาฉันตั้งหลายวัน ไปตายที่ไหนแล้วเนี่ย?”หลินชิงชิงด่าไป

“กลายวันนี้ยุ่งน่ะ นี่ว่าง ผมก็โทรหาพี่แล้วไม่ใช่เหรอไง ตอนดึกที่สโมสรเจียงหนาน จะไปกินเหล้า ไปไหม?”หลี่ฝางพูดเชิญ

“ไป ทำไมไม่ไปด้วยล่ะ หลายวันนี้อัดอั้นแทบตายแล้ว”

หลายวันนี้ หลินชิงชิงอยู่ที่คฤหาสน์บ้านซานตลอด ดูแลแพลตฟอร์มถู่โต้วกับโจวหยาง

“ใช่สิ ไอ้เด็กเปรต คุณต้องให้เงินเดือนฉันเพิ่มนะ หลายวันนี้ทำเอาฉันยุ่งไปหมด”หลินชิงชิงบ่น

“พิ่มเงินเดือนจะมีความหมายอะไร คุณเป็นภรรยาเจ้านายดีกว่าไหมล่ะ หุ้นของผม แบ่งครึ่งหนึ่งกับคุณ”หลี่ฝางพูดเยาะเย้ย

หลี่ฝางรู้ดี หลินชิงชิงไม่เอาแน่นอน

เป็นอย่างที่หลี่ฝางคิดไว้ หลินชิงชิงปฏิเสธ:“งั้นก็ช่างเถอะ คุณคือคนมีภรรยา ฉันไม่อยากเกิดศึกชิงรักหักสวาท”

“หลายวันนี้โจวหยางบอกว่าสมัครพิธีกรชายมาสองสามคน ฉันจะดูว่ามีหล่อบ้างไหม พอถึงตอนนั้น ฉันก็จะใช้เส้นสาย”หลินชิงชิงหัวเราะ

วางสาย หลี่ฝางก็รีบโทรหาโจวหยาง พูดกับโจวหยาง:“คุณทำบ้าอะไรเนี่ย รับพิธีกรชายอะไรกัน ในวิลล่าผม นอกจากคุณกับผม จะเอาผู้ชายคนอื่นไม่ได้นะ เข้าใจไหม?”

“งั้นนามสกุลจ้าวล่ะ?”

“นามสกุลจ้าว?”

“ก็พ่อของจ้าวเสี่ยวตาว จ้าวควน หลายวันก่อนเขามา และยังมีภรรยาของเขา”โจวหยางพูด

หลี่ฝางไม่รู้จะร้องไห้หรือขำดี:“พ่อของจ้าวเสี่ยวตาว ไปทำงานที่วิลล่าพวกเราจริงๆเหรอ?”

“ก็ใช่ไง จ้าวควนเป็นยามให้พวกเรา ภรรยาเขาเป็นแม่บ้าน พวกพิธีกรสาวๆ กลัวว่าจะยังไม่รู้ตัวตนของพวกเขานะ เห็นพวกเขาเป็นคนใช้หมดแล้ว”

“เห้อ ผู้อำนวยการและผู้จัดการทั่วไปของบริษัทหนึ่ง มาเป็นยามให้พวกเรา คุณชายหลี่ นี่มันสุดยอดไปแล้ว?”โจวหยางสูดหายใจลึกๆ พูดอย่างเต็มไปด้วยความชื่นชม

“โอเค แค่พวกเขาไม่สร้างปัญหา ก็ให้พวกเขาทำไปเถอะ ทำครบหนึ่งเดือน ค่อยปล่อยพวกเขากลับไป ผมอยากสั่งสอนจ้าวเสี่ยวตาวสักหน่อย”หลี่ฝางพูดจบ ก็วางสาย

หลี่ฝางหัวเราะ คิดในใจ พ่อแม่ของจ้าวเสี่ยวตาว ถือว่าพูดน่าเชื่อถือ

และตอนนี้เอง ชุนเซิงก็กินข้าวเสร็จ เรียกรถมาคันหนึ่ง ไปที่สโมสรเจียงหนาน

ส้าวส้วยสตาร์ทรถ แล้วขับตามไป

ไม่นานนัก เฉินฝูเซิงก็โทรมา ถามว่าไปเที่ยวไหน?

หลี่ฝางรับสายแล้วพูด:“พวกเราอยู่หน้าประตูสโมสรเจียงหนาน คุณมาสิ”

รออยู่หน้าประตูประมาณครึ่งชั่วโมง เฉินฝูเซิงก็มาแล้ว

“พี่แท้ๆ นี่คือปืนที่คุณต้องการ สี่กระบอก นี่คือกระสุน ตราบใดที่คุณไม่คิดจะฆ่าสังหารหมู่ กระสุนพวกนี้ น่าจะใช้พอ”

เฉินฝูเซิงเอากระเป๋าที่หลังตัวเองวางลง เปิดออกแล้วพูด

ส้าวส้วยพยักหน้าอย่างพอใจ แล้วมือก็ถือปืนกระบอกหนึ่ง ใส่กระสุนไป

“ไม่เลว”ส้าวส้วยเอากระบอกหนึ่งไว้ที่เอวของตัวเอง แล้วลงจากรถ

“พี่แท้ๆ ลบที่บันทึกเสียงสิ เอาไว้ก็เปลืองเมมโทรศัพท์นะ คุณว่าไหม?”เฉินฝูเซิงเลิกคิ้วขึ้น

“เมมผมตั้ง 256G ใช้ไม่หมด”ส้าวส้วยหัวเราะเหอะเหอะ:“ไม่ต้องกังวลไป เดี๋ยวว่างจะลบให้ กลัวอะไรเล่า”

เฉินฝูเซิงเบะปาก ไม่กล้าพูดอะไร

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท