NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 377

ตอนที่ 377

บทที่377 เจ้าของรถคือเขา?

“พี่รวย?”หลี่ฝางได้ยินลู่เชาตั้งชื่อเล่นให้ตัวเอง ก็หัวเราะเหอะเหอะ

“ใช่ ตั้งแต่เด็กจนโต คุณคือผู้ชายที่รวยแต่ใช้เงินฟุ่มเฟือยที่สุดที่ผมเคยเจอ แค่โทรศัพท์ คุณก็ให้ผมหนึ่งพัน เงินค่าใช้จ่ายเดือนหนึ่งของผม แค่หนึ่งพันกว่าเอง หึหึ”

มองหลี่ฝาง ลู่เชาก็หัวเราะหึหึออกมา:“พี่รวย ต่อไปไม่ว่าต้องการอะไร แค่พูดออกมา ไม่ว่าต้องลำบากแค่ไหน ผมยอมทำให้คุณทุกอย่าง”

หลี่ฝางหัวเราะเหอะเหอะ:“ทำไม แค่ผมให้เงินคุณ ชีวิตคุณก็ให้ผมได้แล้วเหรอ หมายความว่างี้หรือเปล่า?”

ลู่เชาหัวเราะอย่างอึดอัด:“ผมแค่ล้อเล่น ที่จริงใจป๊อดมาก แต่ต้องไปสืบเรื่องอะไรก็ตาม ผมทำได้”

“ข่าวของลู่หลุ่ย ผมหามาให้คุณได้เสมอ ……”

ลู่เชายังไม่ทันพูดจบ สีหน้าหลี่ฝาง ก็หม่นลงไป:“ไม่ต้องแล้ว ผมกับลู่หลุ่ยเลิกกันแล้ว ต่อไป ผมไม่ต้องการซื้อข่าวกับคุณแล้ว”

“อ่า!”ใบหน้าของลู่เชา ปรากฏความผิดหวัง ไม่รู้ว่าเสียใจที่หลี่ฝางกับลู่หลุ่ยคู่นี้เลิกกัน หรือว่าเสียใจที่ต่อไปไม่ได้เงินจากหลี่ฝางแล้ว

น่จะเป็นอย่างหลังมากกว่า

หลี่ฝางหยิบโทรศัพท์ออกมา เปิดวีแชทของลู่เชา โอนให้หนึ่งพันหยวน

ลู่เชาตะลึง มองหลี่ฝาง:“พี่รวย หมายความว่าไง?ถึงผมจะจน แต่ไม่ใช่ขอทานนะ ไม่ได้ทำอะไรคุณก็ให้เงินผมแบบนี้ ทำให้ผมรู้สึกดูถูกตัวเอง”

ลู่เชาพูดจบ มุมปากก็ยิ้มออกมา แล้วก็กดรับเงินไป

“ทำอะไรให้ผมหน่อย”หลี่ฝางมองลู่เชา ตั้งใจพูด

“เรื่องอะไร พี่รวย พูดมาได้เลย แค่อยู่ในความสามารถของน้องชาย ไม่คลุมเครือแน่นอน”ลู่เชาตบหน้าอกตัวเอง พูดอย่างพร้อมดูแลทุกอย่าง

หลี่ฝางชี้ไปที่ปอร์เช่918คันนั้น พูดว่า:“เห็นรถคันนั้นไหม?”

“เห็นสิ พูดตรงๆนะ ผมมาเพราะมันเลย ปอร์เช่918เห้อ นี่มันรถหรูลิมิเต็ดเลย หนึ่งในสามของรถหรู ทั้งประเทศมีไม่กี่คัน ได้ยินว่าโรงจอดรถของมหาวิทยาลัยสุ่ยมู่ มีรถเจ๋งๆแบบนี้ ก็รีบวิ่งมาทันที อยากจะชื่นชมรถหรูแบบนี้สักหน่อย”ลู่เชาพูดอย่างตื่นเต้น อาการแบบนั้น เหมือนกับปอร์เช่918คือของเขา

หลี่ฝางไม่พูดเหลวไหลอะไรมาก ก็เอากุญแจยัดใส่มือลู่เชา:“คุณลองไปใช้กุญแจนี้ดู ลองว่าขับได้ไหม?”

มือของลู่เชา สั่นอย่างเห็นได้ชัด:“พี่รวย นี่รถคุณเหรอ?”

ลู่เชาหอบใส่:“ผมได้ยินว่ารถนี้ยี่สิบกว่าล้าน ……อีกอย่างทะเบียน9ถึงห้าตัว ก็ยิ่งแสดงว่าตัวตนนั้นสูงส่งมาก”

“ทะเบียนรถนี้ เมื่อก่อนเป็นตี้เชี่ยหวงของเมืองเอก”ลู่เชาพูดพลางถอนหายใจ

“ตี้เชี่ยหวง?”หลี่ฝางพูดตาม:“ตี้เชี่ยหวงนี่คือใคร?รู้ไหมเขาชื่ออะไร?”

“ใช่ เขาชื่ออะไรผมไม่รู้จัก แต่ชื่อเล่นเขา ชื่อจวน ความหมายก็คือผู้ลงทุน”

“ตอนแรกผู้ลงทุนนี้ เป็นคนที่เจ๋งมากๆในเมืองเอก เรียกได้ว่าปิดท้องฟ้าได้ด้วยมือเดียว แต่สามปีก่อน ไม่รู้เพราะอะไร จู่ๆจวนก็หายไป แม้แต่พลังอำนาจที่เหมือนกับของเขา ก็หายไปด้วย”

“ตอนนั้นข้างกายของจวน มีคนหนึ่งชื่อหลอซ่า คนๆนี้สุดยอดมากๆ แต่หลอซ่าตายไปกับเรื่องครั้งนั้นเมื่อสามปีก่อนแล้ว น่าเสียดายจริงๆ”

“เรื่องเมื่อสามปีก่อน?เรื่องอะไร?”หลี่ฝางขมวดคิ้ว ถามอย่างกังวลมาก

พ่อของตัวเอง ไม่ใช่คนที่หายไปสามปีก่อนเหรอ?

ดังนั้น เรื่องที่ลู่เชาพูดถึงนี้ เป็นไปได้มากที่จะเกี่ยวข้องกับพ่อตัวเอง

“รายละเอียดผมไม่แน่ใจนัก แต่ครั้งนั้นเรื่องราวใหญ่โตมาก ดูเหมือนหลอซ่าจะไปทำให้คนบางกลุ่มโมโห ทำให้ต้องตามฆ่า สามปีก่อน แค่สามทุ่ม บนถนนที่เมืองเอก ก็ไม่มีใครสักคนเดิน”

“ได้ยินว่าตอนนั้นมีการสู้กันที่ยุทธภพ สู้กันดุเดือดมาก ตอนนั้นหลอซ่าเป็นคนในตำนานที่กล่าวถึงกัน ก็ตกลงไป”

“กลางดึกเมื่อสามปีก่อน เมืองเอกมีการฆ่าไปทุกที่ บนถนนไม่มีคนเดิน ตำรวจเลิกงานก็กลับบ้าน ไม่กล้าไปยุ่ง”

“รายละเอียดเกิดอะไรขึ้นนั้น ใครก็ไม่รู้แน่ชัด ไม่มีใครกล้าไปถกเถียง ตอนนั้นก็มีพวกมีอิทธิพลกลุ่มหนึ่ง เหมือนว่าจะอยู่ไปซะทุกที่ ถ้าใครกล้าพูดถึง วันถัดมาที่บ้านก็จะเกิดเรื่อง”

“ผมจำได้ว่ามีโต๊ะพวกวัยรุ่นกำลังกินบาร์บีคิวกันอยู่ ก็คุยเรื่องนี้ขึ้นมา จากนั้นก็มีรถคันโตชนเข้ามา จากสี่คนก็ตายไปสอง ส่วนอีกสองก็พิการ”

“ต่อมา หลอซ่ากับท่านจวน ก็กลายเป็นสิ่งที่ต้องห้ามพูดถึง พี่ใหญ่ ที่นี่ไม่มีใครผมถึงบอกคุณ อย่าไปพูดมั่วซั่วล่ะ”ลู่เชาพูดเตือนอย่างหวาดกลัว

หลี่ฝางพยักหน้า โอนให้ลู่เชาอีกห้าพัน

“ขอบคุณที่คุณเล่าเรื่องที่ยอดเยี่ยมให้ผมฟัง”หลี่ฝางหัวเราะ เมื่อกี๊ที่ลู่เชาพูดเรื่องนี้ สีหน้าของส้าวส้วย ดูเหมือนจะผิดปกติเล็กน้อย

ดูเหมือนว่าจะหดหู่หน่อยๆ ดูเหมือน เรื่องสามปีก่อน ส้าวส้วยจะรู้แน่นอน และอาจจะอยู่ในเหตุการณ์ด้วย

“คุณลองไปใช้กุญแจไป”

หลี่ฝางตบไหล่ลู่เชา พูดว่า:“จำไว้ว่า ถึงจะคู่ควรจริงๆ คุณก็อย่าพูดว่ารถเป็นของผม”

“อ๋า?”ลู่เชาตะลึง

“คุณบอกไปว่าของคุณ”หลี่ฝางหัวเราะหึหึ

ตอนนี้เอง เสียงถกเถียงของปอร์เช่918 ก็ยิ่งรุกฮือขึ้นมา

“ผมได้ยินว่าเมื่อคืนสโมสรเจียงหนานมีคุณชายคนหนึ่งปรากฏตัว รวยแต่ใช้เงินสุรุ่ยสุร่ายมากๆ จู่ๆก็เลี้ยงทั้งงาน ห่า ทำแบบนั้น ใกว้างไปแล้ว ทั้งสโมสรเจียงหนานก็บ้าคลั่งขึ้นมาทันที”

“พวกคุณรู้ไหมว่าคุณชายคนนี้จ่ายไปเท่าไหร่?สิบสามล้าน ผมนี่ยอมจริงๆเลย คุณชายคนนี้ ต้องมีเงินเท่าไหร่กัน?ถึงจะเป็นลูกชายคนรวยอันดับหนึ่ง ก็ไม่น่าจะใจกว้างขนาดนี้ไหม?”

“คุณชายคนนั้นเหมือนจะนามสกุลหลี่ พวกคุณว่า ปอร์เช่918นี้ จะเป็นของคุณชายหลี่ไหม?”

“ผมว่าเป็นไปได้สูง”

หลังจากคนหนึ่งเดาไป ทุกคนก็ค่อยๆเห็นด้วย

“ห่า งั้นคงไม่ใช่ว่า คุณชายหลี่นี้ อยู่ที่มหาวิทยาลัยสุ่ยมู่ของพวกเราหรอกนะ?”

คำนี้พูดออกไป ทุกคนต่างยิ่งตะลึง

ตอนนี้เอง ลู่เชาก็มาถึงตรงหน้าปอร์เช่918 ในมือเขาถือกุญแจรถปอร์เช่ รู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก

“ห่า นี่ไม่ใช่ลู่เชาเหรอ?”

“ลู่เชา กุญแจรถปอร์เช่ในมือคุณ ซื้อมาจากเถาเป่าเหรอ?”

พอดีเลย ในคนที่ล้อมรอบนั้น มีพวกเพื่อนในห้องของลู่เชา อีกอย่างปกติพวกเขาก็ไม่ค่อยชอบใจลู่เชาสักเท่าไหร่นัก

เห็นในมือลู่เชาถือกุญแจรถปอร์เช่ พวกเขากูเหยียดหยามกันขึ้นมา

“ทำไม ลู่เชา ปอร์เช่918นี้ของคุณ?”

“ดูท่าทางคุณแล้ว เตรียมจะใช้กุญแจขับรถสินะ?”

“ทุกคนรีบมาดูเร็ว พวกคุณไม่ใช่กำลังเดาเหรอ ปอร์เช่นี้ของใคร?เจ้าของรถปรากฏตัวแล้ว”

หลังจากเสียงดังโวยวาย ทุกคนต่างหันหน้าไป มองไปที่ลู่เชา

ลู่เชาก็เริ่มกังวล ที่ใบหน้าเขา เต็มไปด้วยความอึดอัด

“ในมือเขา มีกุญแจรถปอร์เช่จริงๆเห้อ”

“คงไม่ใช่ของเขาจริงๆหรอกนะ?”

เวลานี้ ผู้หญิงจำนวนมาก ก็ส่งสายตาคลุมเครือ เห็นลู่เชาเป็นคุณชาย

“ฮ่าฮ่า เขาไม่ใช่พิธีกรสาขากระจายเสียงเหรอ?ปีสาม ผมรู้จักเขา ที่บ้านจนมาก ถ้าไม่มีทุนการศึกษาช่วย เกรงว่าค่าเรียนก็คงจ่ายไม่ไหว ปกติวันหยุดหรือตอนดึก เขาจะไปทำงานที่เคเอฟซี หนึ่งชั่วโมงได้มายี่สิบหยวน เขาเนี่ยนะ เจ้าของรถปอร์เช่918 อย่าล้อเล่นน่า!”

“แต่เขามีรถคันหนึ่ง แต่เป็นมอเตอร์ไซค์ แล้วก็มือสองด้วย!”

ผู้ชายที่เคยทำงานกับลู่เชา ยืนขึ้นพูดเยาะเย้ย

“ลู่เชา ดูสิจะเสแสร้งอะไรเนี่ย หยิบไฟแช็ก มาหลอกว่าเป็นเจ้าของรถปอร์เช่ หลอกตัวเองสินะ?”เพื่อนนักเรียนของลู่เชา หัวเราะหึหึ ใบหน้ามีความสุขบนความทุกข์คนอื่น

“ที่แท้ก็แค่คนจน”

“ตลกจริงๆ!”

หลังจากถูกเปิดเผยตัวตน คนนับไม่ถ้วนต่างปรากฏสายตาดูถูกและรอยยิ้มเหยียดหยาม

ตอนที่พวกเขาหันหน้า เตรียมจะถ่ายรูปคู่กับปอร์เช่918 ลู่เชาก็กดกุญแจรถ ด้วยความคิดที่ลองดู

ตอนนี้เอง ไฟรถปอร์เช่ ก็ส่องออกมา

จากนั้น ปอร์เช่ก็ส่งเสียงติ๊ดๆ

ตอนนี้เอง ทั้งโรงจอดรถ ต่างเงียบขึ้นมา จากนั้น ก็ต่างตกใจและพูดถกเถียงขึ้นมา

“กดเปิดรถ?”

“ห่า เขาเป็นเจ้าของรถปอร์เช่918จริงๆเหรอ?”

“แม่เอ๊ย เขานี่เอง”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท