NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 364

ตอนที่ 364

บทที่ 364 หลี่ฝางโดนจับ

พอหลี่ฝางได้ยินประโยคนี้ ก็ชะงักไปทั้งตัว

“นายไม่รู้อะไรเลยเหรอ?” ซือถูเฟยมองหลี่ฝางอย่างสงสัย และถามขึ้น

หลี่ฝางมองซือถูเฟย และส่ายหน้า จากสายตาของซือถูเฟย หลี่ฝางมองไม่เห็นถึงความอาฆาต

“เหอๆ พ่อนายนี่ทะนุถนอมนายจังนะ ที่เขาไม่บอกนาย คงจะไม่อยากลากนายเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย แต่ว่า นายเป็นลูกชายของเขา จะทำเป็นคนนอกได้ยังไง?”

ซือถูเฟยหัวเราะเบาๆ : “เขาควรจะบอกนายนะ”

หลี่ฝางมองซือถูเฟยอย่างซับซ้อน: “เห็นที่นายจะรู้ทั้งหมด”

“ถ้างั้นนายก็บอกฉันมา เป็นยังไง?”

เมื่อครู่หลี่ฝางยังคิดว่าซือถูเฟยไม่เลว อยากจะไปดื่มเหล้าสานสัมพันธ์ เป็นพี่น้องกับเขา แต่ว่าตอนนี้เห็นที ซือถูเฟยไม่ได้ใสซื่ออย่างที่เขาเห็น

ซือถูเฟยเป็นคนที่กว้างไกลไม่สามารถคาดเดาได้

วันนั้นที่บ้านพักตากอากาศในร้านขนมหวาน เขาถูกหลิวจินหยางรังแกขนาดนั้นยังไม่ยอมสวนกับ……

หลี่ฝางไม่อยากจะเชื่อ ว่าคนอย่างซือถูเฟย ข้างกายจะไม่มีบอดี้การ์ด?

ความลึกลับของสี่ตระกูลใหญ่ นั้นลึกล้ำมากๆ

ซือถูเฟย เทียบกับมู่เสี่ยวไป๋ ฉินจื่อยี่และคนอื่นๆ นั้นสูงส่งกว่าเยอะ

แม้แต่มู่เสี่ยวไป๋ข้างกายยังมีบอดี้การ์ดคอยดูแลอยู่หนึ่งคน งั้นทำไมซือถูเฟยถึงไม่มีล่ะ?

คุณชายผู้สูงศักดิ์ ยอมให้พวกอันธพาลรังแก และกับไม่โกรธ……

คนแบบนี้ น่ากลัวเกินไปแล้ว

“ช่างเถอะ ให้พ่อนายบอกนายด้วยตัวเองดีกว่านะ ให้ฉันบอก มันไม่เหมาะ”

ซือถูเฟยหัวเราะ มองหลี่ฝางแล้วถามขึ้น: “งั้นเหล้า พวกเรายังจะดื่มกันอยู่มั้ย?”

หลี่ฝางลังเลอยู่ครู่ จึงพูดขึ้น: “ช่างเถอะ พวกเราเป็นคู่อริกัน ไม่ใช่เพื่อนกัน มีแค่เพื่อนเท่านั้นที่สามารถร่วมวงนั่งกินเหล้ากันได้”

“นอกจากนั้น ฉันมองนายไม่ออก” หลี่ฝางพูด

“นายกลัวหรือไง?”

“ไม่ใช่แบบนี้ ถ้าหากว่าฉันดื่มจนขาดสติ แล้วนายแอบเอาฉันไปขายจะทำยังไง? งั้นฉันก็ซวยเลยน่ะสิ?” หลี่ฝางพูดพลางหัวเราะเหอะๆ

ที่จริงแล้ว หลี่ฝางนั้นกลัวจริงๆ

กินเหล้ากับเพื่อน ดื่มเท่าไหร่ก็ไม่เป็นไร

แต่ต้องมาดื่มเหล้ากับคนที่มองไม่ออกว่าเป็นศัตรูหรือมิตรนั้น มันน่ากลัวมากๆ

“ฉันไม่มีเจตนาจะทำร้ายนาย ถ้าฉันอยากจะทำร้ายนาย ฉันคงไม่ช่วยนาย” ซือถูเฟยส่ายหัวอย่างผิดหวัง: “พูดตามจริง ที่จริงแล้วฉันชื่นชมนายนะ เกี่ยวกับประสบการณ์ของนาย ฉันตรวจสอบมาแล้ว คล้ายกับฉันมาก ฉันก็เคยอดทนกับคำดูถูกเหยียดหยามมาก่อน”

“เหอะๆ เรื่องนั้นจิ๊บๆ พวกเราล้วนใช่ชีวิตเพื่อวันนี้และต่อไป ไม่ว่าเมื่อก่อนจะตกต่ำขนาดไหน นั้นมันก็ผ่านไปแล้ว” หลี่ฝางพูดพลางยิ้ม

หลี่ฝางพูด พลางหันหลังเดินไป

หลี่ฝางก็เข้าใจ นั่นมันเป็นความแค้นของคนรุ่นก่อน

เรื่องของหลี่ต๋าคางกับสี่ตระกูลใหญ่นั้น ไม่เกี่ยวอะไรกับซือถูเฟยเลย

แต่ไม่ว่าจะพูดยังไง ซือถูเฟย ก็เป็นคนของฝั่งศัตรู การเป็นเพื่อนกับซือถูเฟย ก็ไม่ต่างอะไรกับการเล่นกับไฟ

อีกอย่างซือถูเฟยยากที่จะคาดเดาได้ เมื่อแกะอยู่กับหมาป่า ก็บอกไม่ได้ว่าเมื่อจะถูกเขมือบ

เดินไปได้ไม่ไกล หลี่ฝางก็ควักบัตรแบล็กการ์ดขึ้นมา แล้วส่งให้เฉินฝูเซิง: “ไปเคลียร์บิลให้ที”

หลี่ฝางเกือบลืม ว่าตนเหมาร้านไว้

ถ้าวันนี้……ตนจากไปแบบนี้ ค่าเสียหายจำนวนนี้ ก็ต้องลงที่หัวของซือถูเฟยไม่ใช่เหรอ?

“เหยดด นี่มันบัตรแบล็กการ์ดนี่?”

เฉินฝูเซิงมองบัตรใบนี้ แล้วรับไปอย่างตื่นเต้น: “คุณชายหลี่ ท่านนี่โคตรเจ๋งเลย”

“ไม่ได้และ ผมไม่กลับภาคตะวันออกเฉียงเหนือแล้ว ผมจะอยู่ที่นี่เป็นลูกน้องท่านต่อ อยู่ข้างกายพี่ชายฝึกกังฟู ฝีมือกังฟูของเขา เก่งกว่าพ่อผมอีก พ่อผมเมื่อเทียบกับพี่ชาย ถือว่าอ่อนไปเลย” เฉินฝูเซิงยักคิ้ว แล้วพูด

หลี่ฝางเอือม: “คำพวกนี้ถ้ากษัตริย์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขาคงตัดพ่อตัดลูกกับนายเลยนะ”

“นั่นจะเป็นอะไรไป ยังไงเขาก็มีลูกชายตั้งหลายคน ขาดผมไปคนก็ไม่เป็นไร” เฉินฝูเซิงพูดอย่างเฉยๆ

“งั้นนายขาดพ่อมั้ย?”

“ไม่ขาด อย่างมากก็คำนับคุณชายหลี่ เมื่อถึงตอนนั้น พ่อของท่านก็คือพ่อของผม” เฉินฝูเซิงหัวเราะฮี่ๆ พลางพูด

“เอาละ ไม่ต้องพูดมากแล้ว รีบไปเคลียร์บิลเถอะ”

หลี่ฝางควักบุหรี่ขึ้นมาหนึ่งมวน หลังจากจุดบุหรี่ก็พูดขึ้น: “ฉันรอนายอยู่นี่ นายกลับมาแล้วเราไปดื่มเหล้ากัน”

เฉินฝูเซิงไปได้ไม่นาน ก็มีรถตำรวจขับเข้ามาหนึ่งคัน

เมื่อไฟรถกะพริบ หลี่ฝางก็โยนบุหรี่ในมือทิ้ง จากนั้นก็ลากหลินชิงชิงและเริ่มวิ่ง

“อย่าขยับ ถ้าขยับพวกเราจะยิง!”

ตำรวจที่เหลือก็ควักปืนขึ้นมา เล็งไปที่หลี่ฝางกับหลินชิงชิง

หลี่ฝางกัดฟัน แล้วแอบสบถในใจ

คนที่นำมา คือหูเฟยจากกองบัญชาการ

หลี่ฝางมองหูเฟย แล้วหัวเราะเหอะๆ : “หูเฟย จำเป็น ต้องมาจับฉันด้วยตัวเองเลยเหรอ?”

หูเฟยก็รู้จักหลี่ฝาง ถึงยังไงเมื่อครั้งก่อนที่บ้านพักตากอากาศ หลี่ฝางก็เคยตามเขาไปให้ปากคำ

แต่ว่า หูเฟยไม่ได้รู้ถึงฐานะจริงๆ ของหลี่ฝางอย่างแน่ชัด

“พูดให้มันน้อยๆ หน่อย ฉันได้รับแจ้งความ มีคนยิงปืนทำร้ายคน เป็นนายใช่มั้ย? หลี่ฝาง” หูเฟยจ้องหลี่ฝางเขม็ง

“จะเป็นผมได้ยังไงล่ะ ผมเป็นแค่นักศึกษาธรรมดานะ จะไปเอาปืนมาจากไหน?” หลี่ฝางหัวเราะ แล้วพูด

ไม่รู้ว่าทำไม ตอนนี้หลี่ฝางไม่ค่อยกลัวเท่าไหร่

บางทีอาจจะเป็นเพราะคำพูดประโยคนั้นของส้าวส้วย

ส้าวส้วยรับประกันกับหลี่ฝางแล้ว ว่าจะไม่ให้เขาต้องติดคุก

“ไปค้นตัวเขา” หูเฟยเล็งปืนไปทางหลี่ฝาง ตำรวจอีกนาย ก็เข้าไปค้นตัวหลี่ฝาง

หลังจากถูกค้นทั้งบนและล่างแล้ว ตำรวจนายนั้นก็ส่ายหน้าให้หูเฟย: “บนตัวเขาไม่มีปืนครับ”

หูเฟยขมวดคิ้ว จากนั้นก็มองไปทางหลินชิงชิง และพูดอย่างสงสัย: “อยู่ที่ผู้หญิงคนนี้?”

“เย่นจื่อ เธอไปค้นตัวหล่อนสิ” พอดีที่ ในตำรวจกลุ่มนี้ มีตำรวจหญิงอยู่นายนึงพอดี

“ระวังด้วย” หลังจากเย่นจื่อเข้าใกล้ หูเฟยก็เตือนอย่างเป็นห่วง

เย่นจื่อพยักหน้า แล้วเข้าค้นตัวหลินชิงชิง ผลก็เหมือนกับหลี่ฝาง

“ที่หล่อนก็ไม่มี? ทิ้งไปแล้วเหรอ?”

หูเฟยขมวดคิ้ว แล้วพูด: “ช่างเถอะ พากลับไปที่สถานีก่อนช่วยว่ากัน”

หลี่ฝางกับหลินชิงชิง ถูกตำรวจควบคุมตัวไป

พูดตามจริง หลี่ฝางคิดไม่ถึงว่าเฉียนเฟิงจะแจ้งความ คนหยิ่งแบบเขา ควรจะหาโอกาสมาแก้แค้นเองมากกว่า

เฉินฝูเซิงเคลียร์บิลเสร็จกลับมา ก็กลับมาเห็นหลี่ฝางกับหลินชิงชิงถูกตำรวจคุมตัวไปพอดี

เฉินฝูเซิงไม่ได้โง่วิ่งเข้าไป เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ เขาก็มีส่วนร่วมด้วย ถ้าเข้าวิ่งเข้าไป ก็จะเป็นแบบเดียวกับหลี่ฝาง

เฉินฝูเซิงรีบหลบ รอให้ส้าวส้วยกลับมา

หลังจากที่ส้าวส้วยกลับมา ก็เห็นเฉินฝูเซิง: “คุณชายหลี่ล่ะ?”

“คุณชายหลี่ถูกตำรวจจับตัวไปแล้ว”

“แล้วก็หลินชิงชิง ก็ถูกจับไปเหมือนกัน”

เฉินฝูเซิงมองส้าวส้วย: “พี่ชาย ทำยังไงกันดี?”

“อย่าตื่นตกใจไป คุณชายหลี่ไม่เป็นอะไรหรอก วันนี้พวกเรามีสองคดี คดีแรก คือเฉียนเฟิง คดีที่สอง เป็นสวีเถิงเฟย คดีของสวีเถิงเฟย คงไม่ถูกตำรวจรู้ในเร็วๆ นี้หรอก”

ส้าวส้วยพูดอย่างมั่นใจ: “น่าจะเป็นเฉียนเฟิงที่แจ้งความ”

“พี่ชาย พี่ว่าพวกเราถูกซือถูเฟยแฉแล้วมั้ย? ความลับนี้ ดูแล้วซ่อนเงื่อนมากทีเดียว น่าจะมีไม่กี่คนที่รู้ นี่คุณชายหลี่ออกมา ก็ถูกจัดได้แล้ว เห็นได้ชัดว่าเป็นซือถูเฟยทำ” เฉินฝูเซิงกัดฟันพูด: “ไอ้หมอนี่ ภายนอกดูใจดี คิดไม่ถึงว่าในใจจะเลวแบบนี้”

“ครั้งหน้าถ้าเจอ ผมจะอัดมันสักยก” เฉินฝูเซิงพูดอย่างโมโห

“ก่อนหน้านั้นนายต้องสู้เขาให้ได้ก่อนนะ” ส้าวส้วยส่ายหน้า

“พี่ชาย พี่คิดว่าผมสู้เขาไม่ได้เหรอ? ผอมแห้งแรงน้อยแบบนั้น ผมบีบเขาตายได้ด้วยแค่มือข้างเดียวเลยนะ” เฉินฝูเซิงพูด

ส้าวส้วยไม่ได้พูดอะไรมากมาย เขาควักโทรศัพท์ขึ้นมา และโทรหาลุงเฉียน

“ลุงเฉียน เกรงว่าลุงจะต้องกลับบ้านตระกูลเฉียนสักรอบแล้วแหละ” เมื่อสายติด ส้าวส้วยก็พูดเข้าประเด็น

“เกิดอะไรขึ้น? ทำไมฉันต้องกลับไปตระกูลเฉียน?” ลุงเฉียนขมวดคิ้ว

ลุงเฉียนออกมาจากบ้านนั้นหลายปีแล้ว ตั้งแต่เรื่องเมื่อสามปีก่อน ก็ไม่อยากจะกลับไป

“คุณชายเกิดเรื่องแล้ว คุณชายยืนเฉียนเฟิงขาเดี้ยง แถมยังยิงกล่องดวงใจของเฉียนเฟิงอีก ตอนนี้เฉียนเฟิงแจ้งความแล้ว คุณชายก็ถูกตำรวจคุมตัวไปแล้ว เรื่องนี้ ขอแค่เฉียนเฟิงยอม……”

ส้าวส้วยยังไม่ทันพูดจบ ลุงเฉียนก็เข้าใจแล้ว

“โอเค เรื่องนี้เกี่ยวกับคุณชาย งั้นฉันกลับบ้านสักเที่ยว”

ลุงเฉียนวางสาย แล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่

“สามปีแล้ว นี่ก็ถึงเวลากลับไปดูแล้วสินะ” สีหน้าของลุงเฉียนนั้นซับซ้อน

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท