NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 389

ตอนที่ 389

บทที่389 การโต้กลับของหลี่ฝาง

สีหน้าของอาจารย์ อึดอัดขึ้นมา

การกระทำนี้ของหลี่ฝาง เต็มไปด้วยข้อพิสูจน์ นั่นก็คือเขามีเงิน

เอาเงินกว่าเจ็ดแสนไปให้คนอื่น คนแบบนี้ จะไปขโมยหนึ่งหมื่นเหรอ?

คำตอบคือไม่มีทาง

หลี่ฝางหัวเราะ มองอาจารย์ แล้วถาม:“อาจารย์ ตอนนี้ในมือคุณมีหนึ่งหมื่นกว่า หรือว่า คุณก็เป็นขโมยครับ?”

อาจารย์อึ้งไป รีบเอาเงินวางไว้ที่โต๊ะของหลี่ฝาง ทำเสียงฮึดฮัด พูดอย่างจริงจัง:“อาจารย์จะเป็นขโมยได้ไง?อีกอย่าง เงินที่มือผม ก็ไม่ใช่ของผม”

“อาจารย์ หยิบขึ้นมา”

หลี่ฝางยิ้มบางๆ:“เงินนี้ ผมเอาให้คุณ”

“นี่……”อาจารย์ลังเลหน่อยๆ ยังไง เงินนี้ถ้าเขาจะเอา นั่นก็เป็นการติดสินบน

เพื่อนนักเรียนเอากันได้ แต่เขาไม่ได้

“อาจารย์จะไปอยากได้เงินคุณได้ไง?”อาจารย์พูดจบด้วยหน้านิ่งๆ น้ำเสียงกลับอ่อนโยนไม่น้อย

เวลานี้ ใครๆก็มองออก หลี่ฝาง เป็นคนรวยที่ใช้เงินได้สุรุ่ยสุร่ายอย่างถูกต้อง

และยังเป็นคนรวยมากๆ

คนรวยธรรมดาๆ ใครจะไปกล้าเอาเงินกว่าเจ็ดแสนให้เพื่อนๆในห้อง?

หยูเถิงกล้าไหม?เขาไม่กล้าแน่นอน

หยูเถิงมองตู้เฟย ทำเสียงฮึดฮัดอย่างไม่พอใจ:“เกิดอะไรขึ้นกันแน่ กระเป๋าสะพายข้างของหลี่ฝาง จะมีเงินมากขนาดนั้นได้ไง?”

“พี่ชาย ผมก็ไม่รู้ หรือว่า เงินขายที่ของเจ้าหมอนี่ ยังใช้ไม่หมด?”ตู้เฟยพูดอย่างงุนงง

หยูเถิงพยักหน้า คิดว่าการเดาของตู้เฟย นั่นคือความจริง

“น่าจะเป็นแบบนี้ คุณพูดไม่ผิด เจ้าหมอนี่ทึ่มจริงๆ เอาเงินแบกมากับตัว ทำไม กลัวธนาคารจะยักยอกเงินเหรอ?ฮ่าฮ่า ตลกจะตายอยู่แล้ว”

“ไม่ใช่เหรอไง หลี่ฝางนี่ไม่ใช่แค่ทึ่ม แต่ยังชอบทำหน้าใหญ่ใจโต เงินแค่นี้ ยังจะแบ่งให้คนอื่นๆ”

ตู้เฟยพูดไป สีหน้าก็เย็นชา ในหัวเขา จู่ๆก็คิดถึงอดีต

เมื่อก่อนที่Lotus หลี่ฝางก็ทำให้ให้ตู้เฟยอับอายเช่นนี้

อีกอย่างอยู่ที่Recalling the past หลี่ฝางก็อาศัยเงินจำนวนนี้ ทำให้เขาต้องตกที่นั่งลำบาก

ตู้เฟยกัดฟัน ในใจฮึดฮัด นี่น่าจะเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว?

ตู้เฟยคิดว่า หลี่ฝางไม่มีเงินแล้ว

เวลานี้หยูเถิงก็ส่ายหน้า พูดกับตู้เฟย:“ดูเหมือนครั้งนี้พวกเราจะแพ้อีกแล้ว ยอมแพ้เถอะ ยืนขึ้นมาคุยกับอาจารย์ ว่าเงินหาเจอแล้ว”

ตอนนี้ ใครจะไปเชื่อว่าหลี่ฝางเป็นขโมยล่ะ?

ไม่ใช่แค่ไม่มีคนเชื่อ ถ้าวุ่นวายจนตำรวจมา หยูเถิงก็ยังขี้ขลาดหน่อยๆ

ยังไง ตอนนั้นที่ยัดเงินในกระเป๋าสะพายหลี่ฝาง ก็มีคนจำนวนมากที่เห็น

พยานพวกนี้เมื่อกี๊ไม่ได้ออกมาแสดงความบริสุทธิ์ให้หลี่ฝาง เพราะว่าพวกเขาไม่สนิทกับหลี่ฝาง

แต่ตอนนี้เปลี่ยนไป เมื่อกี๊พวกเขาได้รับประโยชน์จากหลี่ฝาง คนละสองหมื่น

ถ้าตำรวจมา ใครกล้ารับประกันว่าพยานพวกนี้จะไม่ออกมา กล่าวหาว่าตู้เฟยใส่ร้ายล่ะ?

ตู้เฟยพูดอย่างหงุดหงิด:“เสียซ้ำเสียซ้อนจริงๆเลย ตอนนี้ ไม่ใช่แค่ไม่ได้ทำร้ายไอ้หมอนี่ แต่ยังเสียหนึ่งหมื่นไปฟรีๆ”

“มีอะไรให้โกรธล่ะ พวกเราขาดทุนแค่หมื่นกว่า แต่หลี่ฝางเสียไปตั้งเจ็ดแสน ที่จริง พวกเราก็ชนะ”หยูเถิงยิ้มไปปลอบไป

ได้ยินคำนี้ ใบหน้าตู้เฟย ก็ปรากฏรอยยิ้มทันที

“อาจารย์ ขอโทษครับ ผมคิดออกแล้ว เงินหนึ่งหมื่นนี้ เมื่อวานผมไปซื้อคอม ขอโทษจริงๆ”ตู้เฟยยืนขึ้นมาหัวเราะ อธิบายกับอาจารย์

หลี่ฝางหัวเราะเหอะเหอะ:“เมื่อวานซื้อคอมก็ยังลืม ทำไม วันนี้ลืมสมองไว้ที่บ้านเหรอ?”

“แล้วก็คุณ ถังจิ้น คุณไม่ได้บอกเหรอว่าเห็นผมด้อมๆมองๆไปมาตรงที่นั่งตู้เฟย นั่งอยู่นานน่ะ?”

“ผมเห็น แล้วทำไม?”ถังจิ้นพูดอย่างโมโห

“เหรอ?อาจารย์ คุณก็ไม่โง่ สามคนนี้ใส่ร้ายผมชัดๆ”

“มากกว่าใส่ร่าย ก็คือหมิ่นประมาท ถังจิ้น คุณบอกว่าตอนเที่ยงเห็นหลี่ฝางด้อมๆมองๆอยู่ตรงที่นั่งของตู้เฟย จำได้ไหมว่ากี่โมง?ช่างเถอะ ไม่ว่ากี่โมง ตอนเที่ยงนี้ ผมอยู่กับหลี่ฝางตลอด เงาติดตัวไม่เคยห่าง อีกอย่างพวกเราก็อยู่ที่โรงอาหารตลอด โรงอาหารนี้มีกล้องวงจรปิด”หวางเสี่ยวโก๋ยืนขึ้นมาพูด

“งั้นผมก็มองผิดแล้ว”ถังจิ้นพูดอย่างพอเป็นพิธี

“มองผิด?ระยะห่างใกล้ขนาดนี้คุณก็มองผิด ผมว่าคุณตาบอดแล้วมั้ง?”หวางเสี่ยวโก๋พูดเสียงเยือกเย็น

ในแววตาของถังจิ้น มีความเยือกเย็นปรากฏ

หวางเสี่ยวโก๋ไม่กลัวเลย ยังไง หวางเสี่ยวโก๋ในตอนนี้ ก็ตัดสินใจเดินหน้าไปด้วยกันกับหลี่ฝางแล้ว

“จ้องอะไร ยังไม่รีบขอโทษหลี่ฝางอีก?”หวางเสี่ยวโก๋มองถังจิ้นอย่างเย็นชา พูดไป

“นักเรียนคนนี้ รีบขอโทษซะ”

“ไม่อย่างนั้น คุณก็ไม่สามารถเรียนจบได้”

“นี่เปิดเทอมวันแรก คุณก็ไปกล่าวหาคนอื่น ก่อปัญหาให้หลี่ฝางขนาดใหญ่ ผมบอกคุณให้นะ ถ้าหลี่ฝางแจ้งความ คุณจะโดนข้อหากล่าวหา ต้องติดคุก”อาจารย์ก็อยู่ข้างหลี่ฝาง พูดเสียงคมกริบกับถังจิ้น

ถังจิ้นกัดฟันแน่น เหมือนไม่อยากขอโทษ

“ขอบคุณที่พวกคุณเตือน ผมจะแจ้งความ”

“อาจารย์ แล้วก็เพื่อนๆในห้อง รบกวนเป็นพยานให้ผมด้วย”หลี่ฝางพูดไป ก็หยิบโทรศัพท์ เตรียมแจ้งความ

“ผมขอโทษ”

ถังจิ้นพูดด้วยหน้าบูดบึ้ง:“หลี่ฝาง ขอโทษ”

หลี่ฝางทำเหมือนไม่ได้ยิน โทรต่อไป ขณะเดียวกันก็บ่นพึมพำ:“ทำไม ตู้เฟยทิ้งสมองไว้ที่บ้านเหรอ?ส่วนคุณทิ้งเสียงไว้ที่บ้าน?เสียงเบาขนาดนี้ ใครจะได้ยิน?”

“หลี่ฝาง ขอโทษ”

ถังจิ้นพูดเสียงดังไปที่หลี่ฝาง

“แม่เอ๊ย คุณทำผมตกใจจริงๆ เสียงดังขนาดนี้ คุณตะคอกผม หรือว่าขอโทษผม?”หลี่ฝางดูเย็นชา คิ้วขมวด เดินไปที่ถังจิ้น

“แม่เอ๊ยคุณไม่เคยขอโทษใช่ไหม?”หลี่ฝางถามไป

“คุณมีท่าทีขอโทษหน่อยไหม?ก้มเป็นเปล่า ท่าทีก็ต้องถ่อมตัวด้วย เข้าใจไหม?”หลี่ฝางถาม

“ขอโทษ หลี่ฝาง”

ถังจิ้นลดความเย่อหยิ่งลง ขอโทษหลี่ฝาง

ถังจิ้นไม่อยากเข้าคุก

“แม้แต่ขอโทษก็ยังให้คนอื่นสอน งี่เง่าเต่าตุ่นจริงๆ”หลี่ฝางทำเสียงฮึดฮัด พูดไป

ถังจิ้นได้ยินคำว่างี่เง่านี้ ในใจก็ไม่พอใจอย่างมาก แต่เขาไม่กล้าทำอะไรหลี่ฝาง

ถังจิ้นเพิ่งเงยหน้าขึ้น หลี่ฝางก็ยกแขนขึ้นมา ตบใส่ที่หน้าของถังจิ้นทันที

เสียงตบดังแปะ ใบหน้าของถังจิ้น ก็ทิ้งรอยนิ้วมือทั้งห้าไว้

ที่หน้าของถังจิ้น กลายเป็นโหดร้ายขึ้นทันที

ถังจิ้นมองหลี่ฝาง ดูชั่วร้าย เหมือนจะกินหลี่ฝาง

“ทำไม ตบคุณฉาดหนึ่งก็ไม่ยอมแล้ว?ไม่งั้น คุณตบผมสักฉาดไหมล่ะ?”หลี่ฝางมองถังจิ้นอย่างเย็นชา

ถังจิ้นกัดฟันแน่น ทนไว้

เขาไม่ทน ก็ต้องเข้าคุกอย่างไม่ต้องสงสัย

ตบนี้ รุนแรงกว่าเข้าคุกมากสินะ?

เสียงตบดังฉาดนี้ ทุกคนในห้อง ต่างส่งสายตามองมาที่หลี่ฝางอย่างนับถือ

ใครว่าหลี่ฝางนั้นจนและกระจอก?

หลี่ฝางเจ๋งสุดๆเลยโอเคไหม?

ถังจิ้นเป็นหลานชายของห้าวหนานแล้วยังไง ถูกตบต่อที่สาธารณะ ไม่อารมณ์ขึ้นเลยสักนิดเหรอ?

“บอกว่าคุณตาบอด”หลี่ฝางพูดนิ่งๆ

“หลี่ฝาง คุณอย่าทำเกินไปสิ อย่างมากผมก็เข้าไปไม่กี่วัน ถึงตอนนั้นผมออกมา ผมจะเอาคุณตายเลย”ถังจิ้นกัดฟัน พูดอย่างโมโห

“โอเค งั้นคุณก็ตบผมได้ เอาที่เสียหน้าคืนกลับไป”

“แต่คุณคิดดีแล้วใช่ไหม เข้าไปไม่กี่วันไม่เป็นไรน่ะ คดีนี้ก็จะถูกติดตัวคุณไป แล้วที่คุณเข้ามหาวิทยาลัยสุ่ยมู่ได้ ก็ถือว่าเข้าไปฟรีๆ ผมได้ยินว่าห้าวหนานต้องลงแรงไปไม่น้อย เพื่อให้คุณเข้าไปที่มหาวิทยาลัยสุ่ยมู่”

“ทำไม คุณจะให้ลุงคุณผิดหวังคุณเหรอ?”หลี่ฝางหัวเราะเหอะเหอะ มองถังจิ้นอย่างขี้เล่นแล้วถามไป

พอห้าวหนานพิการ ก็อยากให้ชีวิตถังจิ้นอยู่ในเส้นทางที่ถูกต้อง ดังนั้นจึงหาคอนเนคชั่นมากมาย เอาถังจิ้นเข้าไปที่มหาวิทยาลัยสุ่ยมู่

สีหน้าของถังจิ้น เต็มไปด้วยความตกใจ

“คุณรู้ได้ไง?”ถังจิ้นมองหลี่ฝางอย่างแปลกใจ

“เหอะเหอะ ต่างเป็นความลับเล็กๆน้อยๆ ผมยังรู้ความลับเล็กๆอีกอย่าง อยากฟังไหม”

หลี่ฝางพูดเสียงทุ้มต่ำ พูดแนบไปที่หูถังจิ้น:“ที่จริงคุณไม่ใช่หลานชายของห้าวหนาน คุณคือลูกชายแท้ๆของห้าวหนานสินะ?”

พูดคำนี้ไป ถังจิ้นก็ตะลึงทันที

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท