NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 387

ตอนที่ 387

บทที่387 คู่นัดบอดของลู่หลุ่ย?

“ส้าวส้วย ดีที่คุณมาทันเวลา ไม่อย่างนั้นหลี่ฝางก็แย่แล้ว คุณรู้ไหม?ถังจิ้นผู้ชายคนนั้น จะถลกหนังเขาให้ได้เลย”

หวางเสี่ยวโก๋หัวเราะเสียงดังมองหลี่ฝาง รู้สึกสะใจ:“ผมว่านะคุณ ก็เลวเกินไปแล้ว เตะเข้าไปที่ของรักของหวงของถังจิ้น ถังจิ้นเป็นถึงคุณชายผู้สง่างาม ถ้าคุณเตะจนเขาใช้การไม่ได้ งั้นต่อเขาจะใช้ชีวิตยังไง?”

“ความเป็นความตายเขา เกี่ยวไรกับผม?”

หลี่ฝางหัวเราะอย่างดูถูก:“ห้าวหนานพิการแล้ว ถังจิ้นก็ยังรุกรานไปทั่วอีก ไม่รู้จักเป็นจักตาย”

พูดไป หลี่ฝางก็ส่ายหน้า

หลี่ฝางรู้ คนอย่างถังจิ้น ไม่ปล่อยไปง่ายๆแน่ เขาต้องเอาคืนแน่นอน

และผลจากการเอาคืนที่ตามมา เป็นการทำลายตัวเองอย่างไม่ต้องสงสัย

ไม่นานนัก ทั้งสามคนก็เข้ามาที่โรงอาหาร หลี่ฝางก็ไม่ได้เลี่ยงหวางเสี่ยวโก๋ ถามส้าวส้วยไปตรงๆ:“ใช่สิ ตระกูลสวีกับเหยสงนั้นเป็นไงบ้าง?”

“จัดการยัง?”หลี่ฝางรีบถาม

ส้าวส้วยหัวเราะ พูดว่า:“กินข้าว กินข้าว เจ้านาย เรื่องของตระกูลสวีกับเหยสง คุณไม่ต้องห่วง ทุกอย่างต้องอยู่ในกำมือ”

“หมายความว่าไง คุณอย่าปิดบังผมไปซะทุกเรื่องได้ไหม?”หลี่ฝางไม่ชอบความรู้สึกที่ต้องเก็บอัดอั้นไว้อย่างมาก

ส้าวส้วยหัวเราะเหอะเหอะ พูดกับหลี่ฝาง:“ลูกพี่บอกแล้ว เรื่องแบบนี้ ให้คุณรู้ไม่ต้องเยอะมาก”

“คุณใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยอย่างมีความสุขไปเถอะ วางใจเถอะ มีผมอยู่ ไม่มีใครทำร้ายคุณได้”

ตอนที่ส้าวส้วยพูดคำนี้ ก็มั่นใจสุด

หลี่ฝางได้ยินเข้าหู ก็สบายใจมากๆ

ถึงแม้หมาทิเบตันอยู่ที่เมืองเอก ส้าวส้วยกลับดูเหมือนไม่กลัวเลย

หลี่ฝางพยักหน้า ไม่พูดอะไรต่อ

กินข้าวเสร็จ ก็เร่ร่อนอยู่ในโรงเรียนสักพัก

มหาวิทยาลัยสุ่ยมู่ เรียกได้ว่ามีสาวละลานตาไปหมด แต่สาวสวยตั้งมากมาย หลี่ฝางกลับไม่สนใจสักนิด

เขาก็มาถึงสาขากระจายเสียงอย่างไม่รู้ตัว เดินไปรอบหนึ่ง แต่ไม่เจอร่างของลู่หลุ่ย

“เห้อ”

หลี่ฝางถอนหายใจ อารมณ์รู้สึกอึมครึม

ไม่ไกลนั้น เหมิงเหมิงกำลังเดินกับผู้ชายคนหนึ่งที่ดูเป็นผู้ดี

ทั้งสองพูดไปขำไป มองดูแล้วเหมือนกำลังคบกัน

เหมิงเหมิงเห็นหลี่ฝาง ก็หัวเราะด้วยความดูถูก:“ผู้ชายเลว คุณเดินมาผิดที่หรือเปล่า?”

“ที่นี่คือสาขากระจายเสียง ไม่ใช่สาขาเศรษฐศาสตร์ สาขาเศรษฐศาสตร์ของคุณอยู่นั่น”เหมิงเหมิงยื่นมือชี้ไป แล้วพูด

หลี่ฝางสีหน้านิ่งเรียบ มองเหมิงเหมิงแวบหนึ่ง

“ผม……”

หลี่ฝางจะพูดอะไร เหมิงเหมิงกลับพูดอย่างเย็นชา:“ทำไม จะให้ฉันช่วยคุยให้คุณเหรอ?ยอมแพ้เถอะ ผู้ชายอย่างคุณนี้ ไม่คู่ควรกับลู่หลุ่ย”

“ลู่หลุ่ยไม่ต้องการแฟนรวยๆ เธอแค่ต้องการคนที่รักเธอ เชื่อใจเธอ เข้าใจไหม?”จ้องหลี่ฝางเขม็ง เหมิงเหมิงดึงแขนชายที่ดูผู้ดีคนนั้น เดินออกไป

หลี่ฝางถอนหายใจออกมา ที่จริง หลี่ฝางแค่อยากขอโทษเหมิงเหมิงเท่านั้น

ตอนแรกที่เห็นเหมิงเหมิง เหมิงเหมิงก็จับคู่ให้หลี่ฝางกับลู่หลุ่ยคืนดี ดังนั้น ในใจหลี่ฝางรู้สึกขอบคุณเหมิงเหมิงเสมอ

และตอนนี้ หลี่ฝางกลับเลิกกับลู่หลุ่ย

ดังนั้น หลี่ฝางรู้สึกละอายใจต่อเหมิงเหมิงที่ตอนแรกจับคู่ให้ด้วยความหวังดี เลยอยากพูดขอโทษ

ใครจะไปรู้ว่า……

เหมิงเหมิงไม่ชอบหลี่ฝางขนาดนั้น แม้แต่โอกาสพูด ยังไม่ให้เขา

หลี่ฝางเตรียมตัวกลับ ใครจะไปคิดว่า ลู่เชากลับวิ่งมาจากด้านหลัง ขวางทางหลี่ฝาง

สีหน้าลู่เชาพูดอย่างตื่นตระหนก:“เจ้านาย มีรายงานข่าว”

“รายงานข่าว?”หลี่ฝางถามตาม:“รายงานอะไร”

“เห็นผู้ชายที่ดูผู้ดี สวมแว่นไหม?เขาชื่อจางเลี่ยงเลี่ยง เป็นอันดับหนึ่งของโรงเรียนเรา เรียนเก่งมากๆ แถวยังเล่นบาสเกตบอล เก่งมากด้วย”

“เกี่ยวอะไรกับผม?”หลี่ฝางขมวดคิ้วถาม

“ผู้หญิงเมื่อกี๊คุณน่าจะรู้จักสินะ?เหมิงเหมิง เพื่อนสนิทของพี่สะใภ้ เหมิงเหมิงเนี่ย เตรียมจะแนะนำจางเลี่ยงเลี่ยงให้ลู่หลุ่ยรู้จัก”

เสียงลู่เชาพูดจบ สายตาหลี่ฝาง ก็ดูกังวลขึ้นมาทันที

ตอนที่เพิ่งรู้จักลู่หลุ่ย หลี่ฝางเคยทดสอบเธอ ถามเธอว่าชอบผู้ชายแบบไหน ตอนนั้นลู่หลุ่ยบอกว่า เธอชอบผู้ชายที่สดใส เรียนดี มองไปแล้วดูเป็นผู้ดีมีชีวิตชีวา

และจางเลี่ยงเลี่ยงนี้ ดูเหมือนจะสอดคล้องกับสเปคของลู่หลุ่ยเลย

หลี่ฝางรู้สึกถึงวิกฤตทันที:“คุณรู้พวกนี้ได้ไง?ข่าวคุณชัวร์เหรอ?”

“ชัวร์แน่นอน ผมจ่ายเงินเพื่อซื้อข่าวมา แต่จ่ายไปแค่ร้อยเดียว หึหึ”ลู่เชาหัวเราะ แล้วพูด

หลี่ฝางหยิบโทรศัพท์ออกมา โอนเงินให้ลู่เชา

ลู่เชากลับยื่นมือออกไป ดึงหลี่ฝางไว้:“เจ้านาย ไม่ต้องโอนเงินให้ผม ตอนนี้ผมมีเงินแล้ว”

“งั้นเมื่อไหร่ที่คุณต้องการเงิน ก็บอกผม”หลี่ฝางพูดอย่างไม่แคร์

“ใช่สิ ลู่หลุ่ยไม่ใช่แฟนผมแล้ว เราเลิกกันแล้ว คุณไม่ต้องไปสืบเรื่องเธอแล้ว”อารมณ์ของหลี่ฝาง ทันใดนั้นก็แย่ลง

และสาเหตุที่อารมณ์แย่ ก็เพราะลู่เชาบอกเขาเกี่ยวกับลู่หลุ่ย

ลู่หลุ่ย เพิ่งเลิกกับตัวเอง ก็เตรียม‘นัดบอด’แล้ว?

หลี่ฝางรับไม่ค่อยได้ พอคิดๆดูในใจก็รู้สึกหนักอึ้ง

“โอเค”ลู่เชาเหมือนเด็กที่ทำผิด ใบหน้าผิดหวังหน่อยๆ

หลี่ฝางเดินไป แต่เดินไม่กี่ก้าว จู่ๆก็หันหน้า พูดกับลู่เชา“ช่างเถอะ คุณช่วยผมจับตาดูเธอเถอะต่อ มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น บอกผมทันที แต่ อย่าให้ลู่หลุ่ยรู้ เข้าใจไหม?”

ใบหน้าลู่เชา เปลี่ยนจากเสียใจเป็นดีใจทันที:“ครับ เจ้านาย”

ลู่เชา มีความสามารถในการทำงานจริงๆ

ในใจของหลี่ฝาง ลืมลู่หลุ่ยไม่ลง ในใจของเขา ตอนนี้เบาะแว้งเป็นอย่างมาก

เขาไม่อยากได้ยินข่าวลู่หลุ่ย ไม่ว่าจะดี หรือไม่ดี

แต่ ควบคุมตัวเองไม่ได้อีกแล้ว

สิบนาทีถัดมา หลี่ฝางกลับไปที่ห้องตัวเอง

มองไปแถวหลัง ไม่ว่าจะตู้เฟยหรือหยูเถิง หรือว่าจะถังจิ้น ต่างดูเหมือนคนไม่เป็นไร มองเห็นตัวเองเข้ามา ก็ไม่รีบร้อนเอาคืนตัวเองเลย

หลี่ฝางไม่ได้โง่ ท่าทางดูผิดปกติแบบนี้พวกเขาจะต้องมีอะไรแปลกๆแน่

คนเหล่านี้กลับผิดปกติมาก จะต้องแอบแทงข้างหลังตัวเองแน่นอน

หลี่ฝางรู้สึกถึงลางสังหรณ์ไม่ดี

ช่างเถอะ ปล่อยให้พวกเขามาเถอะ

หลี่ฝางไม่แคร์เลย นั่งอยู่บนที่นั่งตัวเอง

จนกระทั่งอาจารย์มา หยูเถิงและคนอื่นๆ ยังคง ยังคงไม่ลอบกัดหลี่ฝาง

หลี่ฝางหัวเราะเหอะเหอะ พูดดูถูก:“ทำไม พวกผู้ชายพวกนี้ คิดจะเลิกเรียนแล้วจัดการผมเหรอ?”

“ใครจะไปรู้ เขานิ่งขนาดนั้น จะต้องมีลับลมคมในแน่”แม้แต่หวางเสี่ยวโก๋ก็ยังมองออก

“แล้วแต่เถอะ คนเลวที่เอาแต่ก่อเรื่องพวกนี้ ถึงจะทำอะไรยังไง ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ผม”หลี่ฝางพูดอย่างดูถูกสุดๆ

“ก็ใช่ คุณเป็นถึงคุณชายแห่งตระกูลหลี่ ถึงที่บ้านหยูเถิงจะรวย แต่เทียบกับคุณแล้ว ก็แค่คนจนคนหนึ่ง”

“ถึงแม้ถังจิ้นจะมีพื้นเพเป็นนักเลง แต่ห้าวหนานปู่เขาก็พิการแล้ว ไม่น่ากลัวพอ”

หวางเสี่ยวโก๋พยักหน้าหัวเราะ ในใจก็คิดว่า หลี่ฝางไม่จำเป็นต้องกลัวพวกเขาเลยสักนิด

วันสงบๆนั้น จนกระทั่งถึงคาบสุดท้าย

ตอนที่จะเลิกเรียนนั่นเอง ตู้เฟย จู่ๆก็ยืนขึ้นจากที่นั่งตัวเอง

ตู้เฟยมือไม้ไม่อยู่สุก ใบหน้าเต็มไปด้วยความร้อนใจ

“นักเรียนคนนี้ เป็นอะไรไป?ที่ตัวมีเหาขึ้นเหรอ?”หลังจากเสียงอาจารย์ที่ถามไป คนในห้อง ก็หัวเราะเสียงดังทันที

“อาจารย์ เหมือนว่าเงินผมจะหายไป”

ตู้เฟยดูร้อนใจ พูดอย่างตื่นตระหนก:“เงินหนึ่งหมื่น ผมใส่ในเก๊ะหนังสือชัดๆ แต่ตอนนี้จู่ๆก็หายไป”

“หายไป?”สีหน้าของอาจารย์ ตื่นตระหนกทันที

ยังไงก็เป็นเงินตั้งหมื่นกว่า ไม่ใช่จำนวนน้อยๆเลย

อย่างน้อยสำหรับคนทั่วไปแล้ว ก็เป็นเช่นนั้น

“คุณหาดูดีๆอีกที”อาจารย์พูด

“อาจารย์ ผมหารอบหนึ่งแล้ว แต่หาไม่เจอ”ตู้เฟยขมวดคิ้ว พูดอย่างโกรธๆ:“หรือว่าคนในห้องมีใครขโมยของผมไป?”

“นี่ถ้าใครขโมยของผมไป ก็รีบเอาออกมา ไม่อย่างนั้นถ้าผมจับได้ แย่แน่นอน”ตู้เฟยพูดอย่างเย็นชา

“แจ้งตำรวจเถอะ”หยูเถิงพูดขึ้นมาตอนนี้

ถังจิ้นก็ยืนขึ้นมา ชี้ไปที่หลี่ฝาง:“อาจารย์ครับ วันนี้เที่ยง เหมือนผมจะเห็นเพื่อนนักเรียนหลี่ฝางด้อมๆมองๆ มานั่งที่นั่งของตู้เฟย นั่งอยู่นานด้วย”

หางจิ้งจอก ในที่สุดก็เปิดเผยออกมาแล้วสินะ

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท