NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 390

ตอนที่ 390

บทที่390 ได้รับความไว้วางใจจากทุกคน

ห้าวหนานใช้คอนเนคชั่นให้ถังจิ้นเข้ามหาวิทยาลัยสุ่ยมู่เรื่องนี้ กลับไม่ใช่ความลับอะไร

แค่สอบถามมาหน่อย ก็รู้แล้ว

แต่เรื่องที่ถังจิ้นเป็นลูกชายแท้ๆของห้าวหนาน ถือว่าเป็นความลับ

ทั้งเมืองเอก มีไม่กี่คนที่รู้

ห้าวหนานรู้ว่าตัวเองโชคไม่ค่อยดีนั้น ก็คิดได้ว่าวันหนึ่งตัวเองจะต้องถูกกรรมตามทัน

พวกนักเลง มีใครบ้างที่มีจุดจบดีๆ?

พอไต่เต้าเป็นตำแหน่งลูกพี่ ห้าวหนาน ก็ทำเรื่องที่ไม่ดีมากมาย และขัดใจคนไม่น้อย

ตอนภรรยาของห้าวหนานคลอดถังจิ้น เขาก็เอาเขาให้น้องชายตัวเอง ……ให้น้องชายตัวเองเลี้ยงดูจนโต

ห้าวหนานกลัวว่าวันหนึ่งตัวเองจะโชคชะตาไม่เข้าข้าง จบสิ้น แล้วศัตรูของตัวเอง จะลงมือกับลูกชายตัวเอง

ที่จริงแล้ว ถ้าห้าวหนานมีลูกชาย เป็นไปได้มากที่จะถูกทำลาย

ดังนั้น เรื่องที่ถังจิ้นเป็นลูกชายห้าวหนาน ถ้าถูกแฉไป งั้นหมายความว่า ถังจิ้นก็จะมีอันตราย

ถังจิ้นเข้าใจเหตุผลนี้ทันที ที่ใบหน้าเขา ก็มีเหงื่อไหล

“คุณรู้ได้ไง?”

ถังจิ้นขมวดคิ้ว จ้องหลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าพูด!”ถังจิ้นจ้องหลี่ฝางอย่างหวาดกลัว

หลี่ฝางมองถังจิ้น พูดนิ่งๆ:“ดูอารมณ์ผมละกัน”

“ผมถามคุณ คุณตาบอดหรือไม่?”หลี่ฝางถามไป

“ผมตาบอด”ถังจิ้นกลัวหลี่ฝางแทบตาย ดังนั้นหลี่ฝางพูดอะไร เขาก็ยอมรับ

“เหอะๆ เด็กดีมาก ดูเหมือนคุณจะฉลาดดี”หลี่ฝางตบไหล่ถังจิ้น

“หลี่ฝาง ขอร้องล่ะ อย่าเอาความลับผมพูดออกไป”สีหน้าถังจิ้นหวาดกลัว ความลับนี้ เขาเก็บมาตั้งสิบกว่าปี

ถ้าถูกแฉ หลายปีนี้ คงไม่ใช่ว่าเก็บไว้โดยเสียเปล่าเหรอ?

ถ้าห้าวหนานมีลูกชาย งั้นศัตรูของห้าวหนาน ต้องมาหาถึงที่แน่

ห้าวหนานพิการแล้ว ศัตรูพวกนั้นไม่เกรงใจคนพิการคนๆหนึ่งแน่

ดังนั้นในระดับที่มากขึ้นนั้น ก็จะเอาความแค้นไปไว้ที่ถังจิ้น

แก้แค้นแทนพ่อ!

อีกอย่าง ถ้าความลับนี้ถูกเปิดเผย งั้นในระดับที่มากกว่านั้น ถังจิ้นก็ต้องขึ้นตำแหน่งแทนห้าวหนาน แก้แค้นแทนห้าวหนาน

ที่คือกฎของเส้นทางนี้

แต่ถังจิ้นแข็งแกร่งมีความสามารถแค่ไหน ในใจเขารู้เป็นอย่างดี

จุดนี้ ห้าวหนานรู้ดี

เขาห้าวหนานใช่คู่ต่อสู้ของจางกงหมิงไหม?แน่นอนว่าไม่ใช่

เวลานี้หลี่ฝางก็หัวเราะเหอะๆ:“ถ้าผมอารมณ์ดี ก็จะเก็บความลับไว้ในใจ ถ้าอารมณ์ไม่ดี ก็ไม่รับประกัน ไม่แน่ผมอาจจะป่าวประกาศไปทั่วโรงเรียน”

“หลี่ฝาง คุณจะเอาผมให้ตายเหรอ”ถังจิ้นพูดเสียงเบา กัดฟันพูด

หลี่ฝางพยักหน้า:“เอาคุณตายแล้วไง?”

“คุณกับหยูเถิงร่วมมือกันใส่ร้ายผมอย่างแรง ทำไม หรือว่าผมแก้แค้นไม่ได้?”

“ผมบอกคุณให้ ถังจิ้น ตอนนี้อารมณ์ผมไม่ดี ……”หลี่ฝางด้วยสีหน้าร้ายกาจ

“งั้นคุณจะเอาไง อารมณ์ถึงดีขึ้นมา?”ถังจิ้นพูดอย่างทำอะไรไม่ได้

“ง่ายมาก คุณจัดการตู้เฟยสักทีสิ ต่อหน้าอาจารย์”หลี่ฝางพูด

“คุณก็ยังจะเล่นงานผมให้ตาย คุณจะให้ผมไปทำร้ายคนต่อหน้าอาจารย์?”ถังจิ้นขมวดคิ้วแน่น

“ถ้าไม่อยากถูกลงโทษ คุณก็หาเหตุผลสิ คุณฉลาดขนาดนี้ ทำไม แค่เหตุผลก็หาไม่ได้?”หลี่ฝางตบไหล่ถังจิ้นแล้วพูด

หลี่ฝางหัวเราะเหอะเหอะ:“คุณมีเวลาไม่มากนัก อาจารย์จะรีบไปแล้ว”

“ในเมื่อไม่มีอะไร ทุกคนก็เลิกเรียนละกัน”อาจารย์พูดขึ้นมาในตอนนี้

พูดจบ อาจารย์ก็หันเตรียมตัวออกไป

อาจารย์เห็นหลี่ฝางยิ้ม และก็เห็นถังจิ้นขอโทษหลี่ฝาง ก็คิดในใจ หลี่ฝางคงแจ้งความนะ?

ไม่แจ้งความ งั้นเรื่องนี้ ก็กลายเป็นเรื่องเล็ก

ยังไง อาจารย์ก็รู้ การใส่ร้ายครั้งนี้ คนที่ชักใยอยู่เบื้องหลังคือหยูเถิง

สืบหาความจริงต่อไป ก็ไม่มีประโยชน์ต่อตัวเอง

หลี่ฝางหันหน้าไป ตอนที่กลับไปที่นั่งตัวเอง อาจารย์เดินไปที่หน้าประตูพอดี

จู่ๆ ถังจิ้นก็เคลื่อนไหว ไปตรงหน้าตู้เฟยทันที แล้วเตะตู้เฟยล้มลงที่พื้น

“ถังจิ้น คุณบ้าหรือเปล่า?”

หยูเถิงผลักถังจิ้น ถามอย่างเย็นชา:“คุณทำน้องชายผมทำไม?”

“เขาให้ผมปรักปรำหลี่ฝาง ทำจนผมเกือบเข้าคุก หรือว่าไม่ควรจัดการเขา?”

“ถ้าไม่ใช่หลี่ฝางใจกว้าง ผมก็ถูกเข้าสถานกักกันแล้ว”

ถังจิ้นพูดไป ก็เตะไปที่ท้องของตู้เฟยสองสามที

หยูเถิงอยากจะช่วย แต่ช่วยอะไรไม่ได้

หยูเถิงกับตู้เฟยรวมกันแล้ว ก็เกรงว่าจะยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของถังจิ้น

หยูเถิงตั้งแต่เด็กจนโต ไม่เคยทะเลาะวิวาทกับใคร

หยูเถิงไม่กล้าห้าม ปล่อยให้ถังจิ้นทำร้ายตู้เฟยจนทั่ว

ตอนนี้เอง คนในห้องต่างเข้าใจทันที ที่แท้ทั้งหมดนี่ ต่างเป็นตู้เฟยที่สั่งการ

ส่วนอาจารย์ก็เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นทันที แต่ เขาก็ไม่สนใจ

เขาทำเป็นไม่เห็น หันหน้าเดินออกไปจากห้อง

หวางเสี่ยวโก๋มองหลี่ฝางอย่างตกใจ พูดว่า:“ห่า คุณทำได้ไง?ถังจิ้นทำร้ายตู้เฟย คุณทำบ้าเหรอไง!”

หลี่ฝางพยักหน้า พูดว่า:“ใช่”

“ไม่ต้องทำแล้ว ทำไปก็ไม่จบ คุณก็แค่ให้หลี่ฝางตบสักฉาดไหม?”สุดท้ายหยูเถิงก็พูดกับถังจิ้น:“ต่อไปผมจะหาโอกาสชดเชยให้คุณ โอเคไหม”

ถังจิ้นมองหลี่ฝาง หลังจากที่หลี่ฝางพยักหน้าให้เขา เขาจึงพูด:“อย่ามีครั้งต่อไปอีก”

หยูเถิงประคองตู้เฟยขึ้นมา

ถึงแม้ทั้งหน้าตู้เฟยจะโมโห แต่ไม่กล้าพูดบ่นอะไรสักคำ

ยังไง ถังจิ้นก็คือคนมีอำนาจ หยูเถิงไม่ทำอะไรเขา แล้วตัวเองจะทำอะไรได้

ได้แต่ทนไง

ตู้เฟยมองหลี่ฝางอย่างโกรธแค้น ชัดเจนว่า ตู้เฟยได้คิดบัญชีนี้ ไว้ที่หลี่ฝาง

ใครว่าหลี่ฝางรังแกง่าย

อย่างน้อย ตู้เฟยก็คิดว่าหลี่ฝางรังแกง่าย

“ใช่สิ หัวหน้าห้อง จะเลี้ยงอยู่ไหม ถ้าเลี้ยง พวกเราจะได้ล้างท้อง ถ้าไม่เลี้ยง พวกเราก็จะไปหาไรกินที่โรงอาหาร”

ทุกคนต่างได้มาสองหมื่น เวลานี้ ทุกคนไม่สนใจแล้วที่หยูเถิงจะเลี้ยง

เงินสองหมื่น พวกเขาจะกินไรไม่ได้?

หยูเถิงพยักหน้า พูด:“เลี้ยง ไม่เลี้ยงได้ไงล่ะ ห้องผมก็จองไว้แล้ว โรงแรมว่างโก๋ ทุกคนไปได้เลย บอกชื่อผมก็พอ”

“ทกุคนเรียกรถไปเองนะ แล้วผมจะจ่ายคืนให้ทุกคนทีหลัง”หยูเถิงพูดอย่างร่าเริง

หยูเถิงอยากซื้อใจคน การเลี้ยงจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด

“เรียกรถจะแค่เท่าไหร่เชียว คุณคงไม่ได้ดูถูกพวกเราหรอกนะ?”

“ใช่ เงินแค่สิบหยวนแปดหยวนเอง พวกเราออกเองได้”

คนในห้องพูดอย่างไม่พอใจ จะไปโรงแรมว่างโก๋ด้วยตัวเอง

พูดตรงๆแล้ว ตอนนี้ คนในห้อง รำคาญหยูเถิงมาก

เพราะว่าหลี่ฝางกระจายความมั่งคั่งให้ ดังนั้นพวกเขาเอาหลี่ฝางเป็นเทพเจ้าแห่งโชคลาภ เห็นว่าเขาคือผู้มีบุญคุณ หยูเถิงและคนอื่นใส่ร้ายหลี่ฝางแบบนี้ ในใจพวกก็รู้สึกไม่ยุติธรรมต่อหลี่ฝาง

“พี่เสี่ยวฝาง พวกเราไปด้วยกันเถอะ”

มีหลายคน ที่เข้ามาทักทายหลี่ฝางเองก่อน

หลี่ฝางหัวเราะ พูดว่า:“ช่างเถอะ ผมไม่ไปแล้ว หัวหน้าห้องก็ไม่ได้เชิญพวกเรา”

หวางเสี่ยวโก๋พูดว่า:“ไม่ชวนได้ไง หัวหน้าห้องเชิญพวกเราไม่ใช่เหรอ?เขาให้พวกเราเสิร์ฟน้ำให้เพื่อนในห้อง ให้พวกเราเป็นบ๋อย”

“ห่า หมายความว่าไง โรงแรมว่างโก๋ไม่มีแม้แต่บ๋อยเหรอไง?”

“ในเมื่อพี่เสี่ยวฝางไม่ไป งั้นพวกเราก็ไม่ไป”

หลายๆคนพูดออกมา คนไม่น้อยรีบเห็นด้วยทันที:“งั้นพวกเราหาสถานที่ ทุกคนมาหารกันดีไหม?”

ที่เรียกว่าหาร เงินก็ยังไม่ใช่หลี่ฝางจ่าย

หลี่ฝางพยักหน้า พูด:“งั้นพวกคุณคงไม่ได้ทำลายความหวังดีของหัวหน้าห้องหรอกเหรอ?”

“เมื่อกี๊หัวหน้าห้องก็พูดแล้ว จองห้องไปแล้ว”

สีหน้าของหยูเถิง ดูบูดเบี้ยว เขาเพิ่งเข้าใจว่า ตอนนี้ใจของทุกคน ต่างอยู่ข้างหลี่ฝาง

หยูเถิงจองห้องไว้แล้ว ถ้าไม่มีคนไป คงไม่ใช่ว่าสิ้นเปลืองเหรอ?

“หลี่ฝาง เมื่อกี๊ผมล้อคุณเล่น เราเพื่อนห้องเดียวกันทั้งนั้น ผมจะให้คุณเสิร์ฟน้ำได้ไง โรงแรมว่างโก๋ก็มีบ๋อย คุณว่าไหม?”หยูเถิงตบไหล่หลี่ฝาง พูดไป

มุมปากหลี่ฝางดูถูก ไม่พูดอะไร

ตอนนี้เอง ด้านนอกโรงเรียน ก็มีรถสีดำรวมตัวกันถึงห้าคัน กลุ่มคนที่ร่างกายดูล่ำๆ หน้าตาดูน่ากลัว จ้องอยู่หน้าประตูโรงเรียน

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท