NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 420

ตอนที่ 420

บทที่420 นายท่านฉิน สมควรที่จะคืนหนี้แล้ว

นายท่านฉินไม่ได้ยื่นมือไปรับสัญญาที่เจ้าของร้านคนสวยยื่นมา ได้แต่มองใบหน้าของเจ้าของร้านคนสวยนี้อย่างละเอียด

“คุณคือหลิงหลง?”นายท่านฉินมองเจ้าของร้านคนสวย ด้วยท่าทางงุนงง

ผู้หญิงตรงหน้านี้ เหมือนศัตรูที่ตัวเองรู้จัก แต่ก็ไม่เหมือน

ที่ไม่เหมือน เพราะว่าผู้หญิงตรงหน้านี้ เหมือนจะสาวกว่าศัตรูของตัวเอง

“ในที่สุดนายท่านฉินก็จำฉันได้”

เจ้าของร้านคนสวยยิ้มนิดๆ พยักหน้าลง:“ถูกค่ะ ฉันก็คือหลิงหลง”

“คุณ……ไม่เจอกันสามปี หลิงหลง ทำไมคุณดูสาวอย่างนี้?”นายท่านฉินมองหลิงหลงอย่างเหลือเชื่อ

หลิงหลงหัวเราะอย่างเย็นชา:“ดูแลบำรุงอย่างดีไง”

“นายท่านฉิน หลายปีนี้ตระกูลฉินพัฒนาได้ไม่เลว กลายเป็นตระกูลเบอร์หนึ่งของเมืองเอก สุดยอด สุดยอด”หลิงหลงชื่นชมนายท่านฉิน

สีหน้าของนายท่านฉิน ทันใดนั้นก็บูดบึ้งทันที

นายท่านฉินรู้ดีกว่าใคร ที่เขาสูงส่งขึ้นได้ ต้องพึ่งอะไร

ตอนนั้นทำไมหลอซ่าต้องหนี?

ก็เพราะว่านายท่านฉิน

หลอซ่าในตอนนั้น เรียกได้ว่าลึกลับสุดๆ แทบจะไม่มีใครเคยเห็นใบหน้าที่แท้จริงของเขา

ตอนนั้นที่หลี่ต๋าคางเสเพล ก็ใส่หน้ากากผี จุดประสงค์เพื่อวันหนึ่งจะได้ถอยไปจากยุทธภพได้อย่างสะดวก

หลี่ต๋าคางมีสองตัวตน สวมหน้ากากเขาก็คือยักษ์หลอซ่าที่ฆ่าคนอย่างไม่กะพริบตา ใครเห็นก็กลัว พอถอดหน้ากากเขาก็คือคนขับรถบรรทุก ธรรมดาๆ

จากที่พูดกัน ไม่มีใครเคยเห็นใบหน้าที่แท้จริงของยักษ์หลอซ่า และไม่มีใครรู้ว่าเขาคือใคร

ถ้าคนที่เคยเห็นใบหน้าที่แท้จริงของเขา ก็จะถูกเขาฆ่าทิ้งหมด

ตอนนั้นยุทธภพมีคำที่พูดว่า เห็นหน้ากากผีก็เหมือนกับเห็นนรก

จากนั้น หลี่ต๋าคางก็ค่อยๆมีชื่อว่ายักษ์หลอซ่า

ฉินเฟิง เคยเห็นยักษ์หลอซ่าไม่บ่อย แต่ไม่ถูกฆ่าทิ้ง

นั่นเพราะลุงเฉียนขอร้อง จึงทำให้ฉินเฟิงรอดตาย

จากที่อิทธิพลของท่านจวนกับหลอซ่ายิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งข่มขู่การมีอยู่ของสี่ตระกูลใหญ่ได้ จากนั้น สี่ตระกูลใหญ่กับหลอซ่าก็สู้กันอย่างดุเดือด

ระหว่างที่สู้กันนั้น ท่านจวนกับหลอซ่าแพ้

เดิมที แค่หลอซ่าถอดหน้ากากผีออก ก็จะสามารถเป็นหลี่ต๋าคาง คนขับรถบรรทุกธรรมดาๆคนนั้นได้

ใครจะไปรู้ว่าฉินเฟิงดันเป็นนักวาดภาพฝีมือดี ใช้ความจำอย่างเดียวของตัวเอง เขาก็วาดรูปหลี่ต๋าคางออกมาเหมือนจริงกว่า80% จากนั้นก็เอาไปให้ตระกูลมู่หรงหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ แลกกับผลประโยชน์อันมหาศาล

เพราะสาเหตุจากภาพนั้น ทำให้ตัวตนของหลี่ต๋าคาง ก็ไม่สามารถปกปิดต่อไปได้

หลี่ต๋าคางไม่กล้ากลับมาตงไห่อีก ได้แต่พาภรรยาของตัวเอง รวมถึงลุงเฉียนและคนอื่นๆ ไปดูไบ

ดังนั้น ตอนที่ฉินเฟิงเห็นหลี่ต๋าคางกลับมา จึงดูหวาดกลัวเช่นนี้

ตอนที่นายท่านฉินรับสัญญาในมือหลิงหลงมา ท่าทางก็ดูซีเรียสทันที:“นี่คืออะไร?”

“นายท่านฉินดูเองก็รู้แล้วไม่ใช่เหรอ?”หลิงหลงยิ้มนิ่งๆ รักษาท่าทางลึกลับนั้นไว้

นายท่านฉินเปิดสัญญา พลิกไปไม่กี่หน้า จากนั้น มือของเขา ก็สั่นขึ้นมาอย่างรุนแรงทันที:“พวกคุณ……พวกคุณต้องการธุรกิจทั้งหมดของผม?”

“ทำไมเป็นทั้งหมดล่ะ นายท่านฉิน คุณดูดีๆ พวกเราต้องการแค่95% เองยังเหลือให้คุณตั้ง5%นะ ตระกูลฉินอันยิ่งใหญ่ธุรกิจใหญ่โต ถึงจะได้แค่5% ก็เลี้ยงคนทั้งตระกูลฉินไหวน่า”

หลิงหลงหัวเราะ เอาปากกาวางไว้ในมือนายท่านฉิน พูด:“รบกวนนายท่านฉินจ่ายบิลด้วย”

“ในร้านฉัน จะมาดื่มกาแฟตามอำเภอใจไม่ได้ ไม่อย่างนั้น……คุณกับหลานสาวคุณ ……”หลิงหลงหัวเราะ ใบหน้าเต็มไปด้วยความจงใจฆ่า

นี่คือการขู่ ข่มขู่อย่างเปิดเผย

มองรอยยิ้มที่แปลกของหลิงหลง สีหน้าของนายท่านฉินก็ดูประหลาดเล็กน้อย:“ไม่เจอกันสามปี ดูเหมือนคุณจะไม่ใช่แค่สาวขึ้นนะ”

หลิงหลงในตอนนี้ ที่มือก็มีมีดปรากฏ มีดเล็กๆนั้น หนีบไว้ระหว่างมือทั้งสองข้างของหลิงหลง

“หึ กลางวันแสกๆ คุณยังกล้าฆ่าผมกับหลานสาวผมด้วยเหรอ?”นายท่านฉินขู่หลิงหลงอย่างไม่กลัว ยิ้มอย่างดูถูก

หลิงหลงหรี่ตาลงยิ้มให้:“มีอะไรไม่กล้าล่ะ?”

พูดจบ หลิงหลงก็ยื่นมือออกมา ตัวเธอแนบไปที่หน้านายท่านฉิน

“นายท่านฉิน ตอนนั้นคุณกับลุงเฉียน ถือว่าเป็นเพื่อนรักกันสินะ?คุณทำลงได้ไง ผลักเพื่อนรักของตัวเองเข้าไปในกองไฟน่ะ”หลิงหลงเม้มปาก เลียลิ้นมองนายท่านฉิน ถามด้วยเสียงนุ่มนวล

“ผมไม่เคยคิดทำร้ายเหล่าเฉียน ตระกูลมู่หรงสัญญากับผม พวกเขารับปากผม ว่าจะปล่อยเหล่าเฉียนไปด้วย”นายท่านฉินพูดเสียงหม่น

“คำพูดของตระกูลมู่หรง คุณก็เชื่อ”หลิงหลงทำเสียงฮึดฮัด

“อย่างน้อยตระกูลมู่หรงก็ไม่ได้หลอกผม”นายท่านฉินตอบโต้ไป

ต้องบอกว่า นายท่านฉินถือว่าก็เคยเห็นความเป็นความตายมาเยอะแล้ว

แม้ว่าถูกหลิงหลงใช้มีดจ่อ นายท่านฉินยังคงไม่ขอร้อง แต่สีหน้าเปลี่ยนไปแล้ว ยังไงก็ไม่มีใครไม่กลัวตาย

“ผมจำได้ว่า สามปีก่อน ตอนที่คุณติดตามเหล่าเฉียนไป แค่ฆ่าไก่คุณก็ยังกลัว”

นายท่านฉินถอนหายใจ:“คิดไม่ถึงว่า ตอนนี้คุณจะฆ่าคนได้แล้ว หลิงหลง”

“คนเปลี่ยนไปได้ตลอดเวลา อย่าได้เอาแต่มองคนอื่นเช่นเดิมเลย มากไปกว่านั้น นี่ผ่านไปสามปีแล้ว เมื่อก่อน ฉันไม่กล้าแม้แต่ฆ่าไก่ มองเห็นเลือดก็กลัว แต่ฉันถูกพวกคุณบีบจนไร้ทางเลือก ได้แต่เลียเลือดถึงจะรอด นายท่านฉิน ไม่รู้เลยว่าสามปีนี้พวกเราผ่านอะไรมาบ้าง ตอนนั้นลุงเฉียนพาพวกเราไปกันสามคน แต่มีชีวิตเหลือแค่ฉันคนเดียว”

ตอนที่พูดคำนี้ เสียงของหลิงหลง ก็สั่น:“ที่จริง พวกเราไม่ต้องออกไปจากประเทศได้ แต่คุณไปขายหลอซ่า หลอซ่าอยู่ในประเทศต่อไม่ได้ ได้แต่ไปต่างประเทศ ……”

นายท่านฉินตัดบทหลิงหลง:“ทำไมพวกคุณต้องหนีตามหลอซ่า?ที่จริงพวกคุณอยู่ที่เมืองเอกได้ สี่ตระกูลใหญ่จะไม่ทำอะไรพวกคุณแน่ ถ้าสี่ตระกูลใหญ่จะฆ่า มีแค่หลอซ่าคนเดียว”

มีแค่หลอซ่า ที่ทำให้สี่ตระกูลใหญ่หวาดกลัว

หลิงหลงหัวเราะอย่างเย็นชา:“ให้พวกเราหักหลังหลอซ่า?เหอะเหอะ ทำแบบเดียวกับคุณ เป็นคนทรยศ ไปพึ่งพาสี่ตระกูลใหญ่ ชีวิตที่เหลืออยู่ อย่างสะดวกสบายเหลือกินเหลือใช้”

“นั่นไม่ดีกว่าเหรอ คุณว่าใช่ไหม?”

หลิงหลงพูดจบ เอามีดแทงไปที่ตัวนายท่านฉินทันที:“ฉันแนะนำคุณ รีบเซ็นชื่อเถอะ”

“คุณเชื่อไหม?นายท่านฉิน ฉันในตอนนี้ ไม่ใช่แค่ฆ่าคุณได้ แต่ยังฆ่าลูกสาวคุณ ลูกชายคุณ หลานชาย หลานสาวคุณได้ ……แล้วก็ค่อยหนีไป”

“กลางวันแสกๆทำไมจะฆ่าคนไม่ได้ล่ะ?ก็แค่ถูกออกหมายจับไหม?ตอนนั้นอำนาจสี่ตระกูลใหญ่ น่ากลัวกว่าตำรวจทั้งนั้น อย่างมาก ฉันก็หนีอีกครั้ง ยังไงซะฉันก็หนีจนชำนาญแล้ว”

หลิงหลงพูดยิ้มๆ:“เอาการหลบหนีของฉัน ไปแลกกับชีวิตของทุกคนในตระกูลฉิน คุณว่าคุ้มค่าไหม?นายท่านฉิน?”

สีหน้าของ นายท่านฉิน เปลี่ยนเป็นซีดขาว

เขาอดทนความเจ็บ ไม่ร้องออกมา

นายท่านฉินก้มหน้ามองหลิงหลง เมื่อกี๊ เขาไม่เชื่อว่าหลิงหลงจะฆ่าเขาจริงๆ

ยังไง หลิงหลงเมื่อสามปีก่อน ก็แค่หญิงสาวที่ใสซื่อ

ตอนนี้ กลายเป็นปีศาจสาวที่ฆ่าคนอย่างไม่กะพริบตา ทำให้นายท่านฉินรู้สึกยากที่จะเชื่อ

“จุดจบของสวีส้าวชิว คุณก็เห็นแล้ว”

“ตอนดึกเมื่อหลายวันก่อน ตระกูลสวีตายไปครึ่งหนึ่ง ทำไม นายท่านฉิน คุณอยากให้ตระกูลฉินของคุณ มีจุดจบเหมือนกับตระกูลสวีเหรอ?”

หลิงหลงพูดคำนี้ออกไป ที่ใบหน้านายท่านฉิน ก็กลายเป็นเหงื่ออันเยือกเย็นทันที

“ตระกูลสวี……เป็นฝีมือพวกคุณ?”นายท่านฉินมองหลิงหลงด้วยใบหน้าหวาดกลัว

หลิงหลงหัวเราะหึหึ:“แน่นอนว่าไม่ใช่ นั่นเหยสงทำ เหยสงพาพรรคพวกของตัวเอง ไปฆ่านองเลือดตระกูลสวี เรื่องนี้ ใครไม่รู้บ้าง ทำไมเป็นพวกเราที่ทำล่ะ?”

นายท่านฉินได้ยินคำนี้ ทันใดนั้นก็โล่งอก

แต่จากนั้น หลิงหลงก็พูดอีก:“แต่ถ้าไม่มีพวกเรา เหยสงจะบ้าคลั่งถึงจุดนี้ได้อย่างไร พาคนนับร้อย ฆ่านองเลือดตระกูลสวี……”

หลิงหลงส่ายหน้า แล้วก็หัวเราะ:“นายท่านฉิน เห็นแก่มิตรภาพที่รู้จักกันเมื่อก่อน ฉันแนะนำให้คุณ เซ็นชื่อซะเถอะ”

“นี่คือสิ่งที่คุณติดหนี้พวกเราไว้ สมควรคืนได้แล้ว”

“หลายๆสิ่ง ไม่ใช่ของคุณ คุณก็แค่เฝ้าดูแลชั่วคราวเท่านั้น เข้าใจไหม?”

“ตอนนี้ เจ้าของที่แท้จริงกลับมาแล้ว คุณก็ไม่ต้องดูแลอะไรแล้ว”

หลิงหลงพูดไป มีดก็แทงไปที่ร่างนายท่านฉินหลายที:“อยากให้ลูกๆคุณตายฝังศพไปพร้อมคุณจริงๆเหรอ?”

ตอนที่นายท่านฉินมองไปที่หลิงหลงอีกครั้ง ในตาของหลิงหลง เต็มไปด้วยความพร้อมฆ่า

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท