NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 422

ตอนที่ 422

บทที่ 422 นายท่านฉินฆ่าตัวตาย

นายท่านฉินในเวลานี้ ไม่ต้องการที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป เขาต้องการใช้ความตายของตัวเอง เพื่อระบายความโกรธของหลอซ่า และคนอื่นๆ

ความหมายคือ นายท่านฉินต้องการใช้ความตายของตัวเอง เพื่อแลกกับอนาคตของตระกูลฉินทั้งหมด

น่าเสียดาย ที่เขาคำนวณผิด

ตามการวิเคราะห์ที่หลิงหลงพูดเมื่อกี้ แม้ว่านายท่านฉินจะเสียชีวิตไปแล้ว บัญชีแค้นนี้ ก็ยังคงอยู่

นายท่านฉินถอนหายใจ และมองไปที่หลิงหลง “ต้องการจะทำลายล้างให้มันสิ้นซากจริงๆหรือ?”

น้ำเสียงของนายท่านฉิน ทำให้หลี่ฝางรู้สึกถึงคำอ้อนวอนเล็กน้อย

นี่คือนายท่านฉิน ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในเมืองเอก

และเป็นคนใหญ่คนโตระดับนี้ ถึงขนาดขอความเมตตาด้วยเหรอ?

โดยเฉพาะกับหลิงหลง!

หากหลี่ฝางจำไม่ผิด หลิงหลงคนนี้ เป็นเพียงพนักงานประจำในบาร์เท่านั้น

ทุกคืนวันอาทิตย์ของหลิงหลง จะไปร้องเพลงในบาร์ แต่เธอได้รับความนิยมสูงมาก ขณะเดียวกันเธอเป็นคนเย่อหยิ่งเย็นชา และไม่เคยสนใจลูกค้ารายใดเลย

หลี่ฝางเคยได้ยินถังหยู่ซวนพูด มีลูกค้ายินดีจ่ายเงินหนึ่งล้าน เพื่อให้หลิงหลงไปทานอาหารกับเขาหนึ่งมื้อ

แต่เมื่อถังหยู่ซวนมาบอกกับหลิงหลง หลิงหลงตอบถังหยู่ซวนคำเดียว คุณคิดว่ามันแค่ทานข้าวมื้อหนึ่งจริงๆหรือ?

ฉันขายงานศิลปะเท่านั้น ไม่ขายตัว

ในเวลานั้นถังหยู่ซวนก็รู้สึกว่า หลิงหลงคนนี้ เป็นผู้หญิงที่มีบุคลิกพิเศษ

คุณบอกว่าเธอไม่ขาดแคลนเงินใช่ไหม? แล้วมาทำงานที่บาร์ทำไม?

คุณบอกว่าเธอขาดแคลนเงินใช่ไหม? แล้วทำไมไม่รับทิปจากลูกค้า แม้ว่าจะเป็นทิปที่ไม่มีจุดประสงค์ใดๆก็ตาม หลิงหลงก็ไม่ต้องการ เธอบอกว่าเธอไม่ต้องการรับทานจากคนอื่น

หลิงหลงยิ้มให้นายท่านฉิน “ทำลายล้างให้สิ้นซากเหรอ? ทรัพย์สินทั้งหมดของตระกูลฉิน อย่างน้อยก็น่าจะมีสามถึงห้าพันล้าน แม้ว่าจะเป็น1%ก็ตาม มันจะไม่ทำให้ลูกหลานของตระกูลฉินต้องอดตายบนท้องถนนใช่ไหม?”

“อีกอย่าง ยังมีอีก5%”

หลิงหลงมองไปที่คราบเลือดที่ไหลไม่หยุดบนร่างของนายท่านฉิน และส่ายหัว “นายท่านฉิน คุณไม่อยากมีชีวิตอยู่จริงๆหรือ?”

ร่างกายของนายท่านฉิน ถูกแทงเป็นรูสี่จุด และทั้งสี่รูนี้ ยังคงมีเลือดไหลออกตลอด

ฉินวี่เฟยร้องไห้ เธอจับแขนของนายท่านฉิน และลากออกไปข้างนอก

ฉินวี่เฟยต้องการพานายท่านฉินไปโรงพยาบาล แต่ร่างกายของนายท่านฉินเหมือนถูกมัดอยู่กับที่

“ชีวิตของฉัน บวกกับทรัพย์สินของตระกูลฉิน 40% ฉันคิดว่า มันเพียงพอที่จะชำระหนี้”

(“ฉันแค่วาดรูปของตัวเองไว้!”)

นายท่านฉินพูดอย่างไม่เต็มใจ “หนึ่งชีวิตบวกกับทรัพย์สินเกือบสองพันล้าน มันเทียบไม่ได้กับภาพวาดหนึ่งภาพเลยหรือ?”

หลิงหลงส่ายหัว “มันเทียบไม่ได้แน่นอน”

คำพูดของหลิงหลง แทบจะทำให้นายท่านฉินหายใจไม่ออกจนแทบจะเป็นลม

“ถ้ารู้จะมีวันนี้ แล้วทำไมตอนนั้นต้องทำเช่นนั้น?”

หลิงหลงยิ้มอย่างดูถูก โบกมือและพูดว่า “นายท่านฉิน แม้คุณอยากจะตาย ก็อย่าทำให้ร้านกาแฟของฉันเลอะ”

“ถ้าคุณตายอยู่ที่นี่ ร้านกาแฟของฉันยังเปิดได้หรือเปล่า?”

“อย่าทำให้ฉันเดือดร้อน มิเช่นนั้น คุณจะตายตาไม่หลับ”

ในขณะที่หลิงหลงพูด ใบหน้าของเธอเย็นชา “รถของคุณอยู่ข้างนอก ไปตายในรถของคุณ”

“คุณเสียเลือดมากเกินไป แม้ว่าจะไปโรงพยาบาลแล้ว คุณก็คงจะตายบนถนนเท่านั้น” คำพูดของหลิงหลง ดูเหมือนจะประกาศการตายของนายท่านฉิน

นายท่านฉินดูสบายๆ “ในชีวิตนี้ ความสุขที่ควรมี ก็มีแล้ว ถึงตายก็ไม่เสียดาย”

ในขณะที่พูดเช่นนี้ นายท่านฉินก็ลูบผมของฉินวี่เฟย

“ฉันเป็นคนที่ไม่มีความรักมาโดยตลอด ในใจของฉัน ผลประโยชน์และคุณค่านั้น ยิ่งใหญ่กว่าความรักในครอบครัว… …ฉันคิดผิด วี่เฟย ช่วยฉันขอโทษพี่สาวของเธอด้วย ถ้าไม่ใช่ฉัน เธอคงจะมีชีวิตที่มีความสุขใช่ไหม” นายท่านฉินยิ้มอย่างขมขื่น และพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่แน่ใจ

ประโยคนี้ เหมือนคำสั่งเสียมากกว่า

ในขณะนี้ฉินวี่เฟยยิ่งร้องไห้เสียใจมากขึ้น

“คุณปู่… …” ฉินวี่เฟยร้องไห้หนักและจับแขนของนายท่านฉิน “คุณตายไม่ได้ ฉันจะเรียกรถพยาบาลเดี๋ยวนี้”

ฉินวี่เฟยกำลังจะกดหมายเลข แต่ถูกนายท่านฉินห้ามไว้

“เด็กโง่ ฉันไม่มีทางรอดแล้ว… …ถ้ารถฉุกเฉินมาถึง ฉันคิดว่าฉันอาจหมดลมหายใจแล้ว”

“อย่าเสียเวลาเลย”

นายท่านฉินรู้ดีว่า คนที่เป็นศัตรูกับหลอซ่า คือตัวเอง

ขอเพียงตัวเองตายไป ความโกรธในใจของหลอซ่า จะถูกลบล้างไปครึ่งหนึ่ง

และอีกครึ่งหนึ่งที่เหลือ นายท่านฉินก็คิดวิธีแก้ไขได้

ขณะนี้ นายท่านฉินจับมือของหลี่ฝาง และจับไว้แน่น “เสี่ยวฝาง เธอเป็นคนดี ต่อจากนี้ไป ขอฝากวี่เฟยไว้กับเธอ เธอต้องช่วยฉันดูแลเธอให้ดี อย่าปล่อยให้เธอเธอถูกใครรังแก”

หลี่ฝางพยักหน้า “ผมสัญญากับคุณ คุณปู่ฉิน”

หลี่ฝางไม่ใช่คนดีมาก แต่ก็ไม่ใช่คนชั่ว

เขาจะไม่ยืนกรานที่จะให้หลิงหลงปล่อยนายท่านฉิน เพราะเมื่อสามปีก่อน นายท่านฉินเคยทำร้ายพ่อของเขา เขาก็สมควรได้รับโทษของการกระทำนั้น คำเดียวที่หลี่ฝางขอก็คือ ต่อหน้าฉินวี่เฟย อย่าลงโทษนายท่านฉิน

เพราะเช่นนั้นฉินวี่เฟยจะเสียใจมาก และอาจจะเกลียดตัวเอง

“ด้วยการพยักหน้าของเธอ ฉันก็ตายตาหลับแล้ว” นายท่านฉินยิ้มอย่างพึงพอใจ หันหลังกลับและเริ่มเดินออกไปข้างนอกร้านกาแฟ

นายท่านฉิน คงทนได้ไม่นาน

“คุณเฉียน ขอโทษด้วย”

“ในชาติหน้า ฉันขอเป็นทาสรับใช้ของนาย จะไม่ทำให้นายผิดหวัง” เมื่อนายท่านฉินเดินไปถึงประตู เขาก็หันกลับไปมองลุงเฉียน

ลุงเฉียนเคยช่วยนายท่านฉิน แต่นายท่านฉินกลับย้อนกลับมาหักหลังหลอซ่า นี่เป็นการให้ร้ายลุงเฉียนอย่างไร้คุณธรรม

สายตาของลุงเฉียน มีความซับซ้อน และจากนั้นเขาก็ยิ้ม “คนตายแล้วหนี้ก็หมด ไม่จำเป็นต้องมาเป็นทาสรับใช้ในชาติหน้า ฉันแค่หวังว่าชาติหน้าไม่ต้องเกิดมาเป็นเพื่อนรัก โดนนายโกงมาครั้งหนึ่งก็เพียงพอแล้ว ทำไม ชาติหน้ายังจะมาโกงฉันอีกเหรอ?”

นายท่านฉินไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้

คำพูดของลุงเฉียนคลุมเครือ ไม่ได้พูดว่าให้อภัย หรือไม่ให้อภัย

เมื่อฉินวี่เฟยต้องการตามออกไป ก็ถูกหลิงหลงใช้มีดตีที่หลังคอ ทำให้เธอสลบไป

“นี่เธอกำลังทำอะไร?” หลี่ฝางขมวดคิ้ว และจ้องไปที่หลิงหลง

“คุณชาย นายท่านฉินต้องการที่จะตายอย่างเงียบๆ ดังนั้นทำไมต้องไปรบกวน” หลิงหลงพูดเบาๆ

เมื่อก้าวออกจากร้านกาแฟ คนขับรถก็วิ่งออกมาจากรถ “นายท่านฉิน ท่านเป็นอะไร… …”

“สิ่งที่ไม่ควรถามก็อย่าถาม จงเป็นคนขับรถที่เป็นใบ้”

น้ำเสียงของนายท่านฉินเข้มงวด พูดกับคนขับรถของตัวเอง “ขับรถพาฉันไปที่สะพานชิงอิน เร็วเท่าไหร่ยิ่งดี”

“ไม่ต้องกังวลเรื่องสัญญาณไฟจราจร ไม่ต้องกังวลว่าจะขับเร็วเกินกำหนด… …”

“ช่วยส่งฉันครั้งสุดท้าย”

หลังจากที่นายท่านฉินขึ้นรถแล้ว เขาก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา และบันทึกคำสั่งเสียของเขา

คำสั่งเสียถูกบันทึกเรียบร้อย คนขับรถก็ขับรถไปถึงสะพานชิงอิน

ในเวลานี้ใบหน้าของนายท่านฉินซีดเซียว เพราะเขาเสียเลือดมากเกินไป สติของนายท่านฉิน ค่อยๆเลือนราง

“ช่วยพยุงฉันลงจากรถ” นายท่านฉินพูดอย่างอ่อนแรง

หลังจากคนขับรถพยุงนายท่านฉินออกจากรถแล้ว นายท่านฉินก็สั่งคนขับอีกครั้ง “เปิดฟังก์ชั่นกล้องของโทรศัพท์ และบันทึกวิดีโอให้ฉัน”

“บอกให้โลกรู้ว่า ฉันฆ่าตัวตาย” นายท่านฉินเหลือบมองคนขับรถของเขา และหัวเราะ

“หลังจากฉันตายแล้ว ให้โพสต์วิดีโอทางออนไลน์”

สีหน้านายท่านฉินดูนิ่งสงบ คนที่กำลังจะตาย ก็หัวเราะโดยไม่รู้ตัว

“มาเริ่มถ่ายได้แล้ว ใช่สิ เหล่าอู๋ นายเป็นคนขับรถให้ฉันมากว่าสิบปี ฉันไม่มีอะไรจะให้นาย รถคันนี้ มอบให้นาย”

“เมื่อกี้ฉันได้บันทึกไว้ในคำสั่งเสียแล้ว”

เมื่อคนขับรถเล็งกล้องไปที่นายท่านฉิน นายท่านฉินก็เริ่มปล่อยวาง และกระโดดลงไปในแม่น้ำ

มือคนขับรถ ค่อยๆสั่น

ขอบตาของเขา มีน้ำตาหลายหยด

“โอ้”

คนขับรถส่ายหัว หมุนตัวกลับเข้าไปในรถ จากนั้นนำวิดีโอ และเทปบันทึกการสั่งเสีย ส่งไปที่บ้านของตระกูลฉิน

นายท่านฉิน ชายที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเมืองเอก ต้องมาตายแบบนี้

และใช้วิธีการฆ่าตัวตาย… …

ในไม่ช้า วิดีโอนี้ถูกแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว ทุกคนรู้ข่าวการฆ่าตัวตายของนายท่านฉิน ราคาหุ้นของตระกูลฉิน ก็ตกฮวบทันที

บนชั้นสองของร้านกาแฟ ในห้องนอนเล็กๆ มีเตียงเล็ก

เมื่อฉินวี่เฟยตื่นขึ้นมาจาก ก็เห็นหลี่ฝางนั่งอยู่ข้างเตียงของเธอ

ฉินวี่เฟยจับมือของหลี่ฝางไว้ และถามด้วยสีหน้ากังวลและเป็นห่วง “หลี่ฝาง คุณปู่ของฉันล่ะ คุณปู่ของฉันเป็นอย่างไงบ้าง? เมื่อกี้ฉันฝันร้าย ดูเหมือนว่าคุณปู่ของฉันเสียชีวิตไปแล้ว นี่ไม่เป็นความจริงใช่ไหม ใช่ไหม?”

หลี่ฝางขมวดคิ้ว เขาไม่ต้องการบอกความจริงกับฉินวี่เฟย เพราะกลัวว่าเธอจะไม่สามารถยอมรับได้ รับไม่ได้กับความสะเทือนใจเช่นนี้

แต่ความลับนี้ก็คงปกปิดได้ไม่นาน? กระดาษจะห่อไฟได้อย่างไร?

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท