NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 433

ตอนที่ 433

บทที่433 ผมไม่อยากให้พ่อผมเสียหน้า

สีหน้ามู่หรงฉางเฟิงเปลี่ยนไป เบนซ์G-Classคันนี้ ขวางทางหลบหนีของเขาอย่างแน่นหนา

บนเบนซ์G-Classสีแดง ส้าวส้วยกับหลี่ฝางนั่งอยู่ในรถ

สิบนาทีก่อนหน้านี้ หลี่ฝางกับส้าวส้วยอยู่ที่หน้าโรงพยาบาล

ลุงเฉียนเดาว่า ถ้าฉินวี่เฟยขึ้นตำแหน่ง คนของตระกูลฉินต้องเริ่มปฏิบัติการแน่

ดังนั้นจึงทราบว่าตระกูลฉินวิ่งไปมาที่โรงพยาบาล ลุงเฉียนก็เอาสัญญาส่งให้หลี่ฝาง ให้หลี่ฝาตัดสินใจ

ถึงแม้ตระกูลฉินกับตระกูลหลี่จะมีความแค้นกัน แค่ความแค้นนี้ ยังไงก็เกิดมาจากฉินเฟิงที่เป็นคนสร้างขึ้นมา

ฉินเฟิงตายแล้ว หลี่ต๋าคางกับลุงเฉียน ก็ไม่อยากไล่ตามต่อไป

แน่นอนว่า หลี่ต๋าคางก็ยังไม่อยากให้ลูกชายตัวเองลำบากใจ

เขารู้ความสัมพันธ์ของลูกชายตัวเองกับฉินวี่เฟย ถ้าฆ่าหมดจริงๆ หลี่ฝางจะต้องเสียใจแน่ ที่ต้องสูญเสียฉินวี่เฟยไปโดยสมบูรณ์

ลุงเฉียนเอาสัญญาให้หลี่ฝาง ก็เท่ากับว่าให้โอกาสหลี่ฝางชดเชยความรู้สึก

หลี่ฝางถือสัญญา พร้อมถันอีหมิง แล้วก็ส้าวส้วย มาที่โรงพยาบาล

ตอนที่มองเห็นฉินเสี่ยวหู่ค่อยๆชิดเข้ามา หลี่ฝางก็ขมวดคิ้ว ใบหน้ามีความโมโห

ส้าวส้วยพูดเบาๆอยู่ข้างๆ“เจ้านาย ผู้ชายคนนี้ หยิ่งผยองได้อีกไม่นานหรอก”

พูดคำนี้จบ ส้าวส้วยก็เอาโทรศัพท์ออกมา โทรหาหูเฟยก่อน จากนั้นก็เอาโทรศัพท์ตัวเองยื่นให้ถันอีหมิง พูดว่า“จัดการฉินเสี่ยวหู่ให้สิ้นซากเลย”

ถันอีหมิงพยักหน้า ทราบทุกอย่างเป็นอย่างดี

ฉินเสี่ยวหู่นี้ เป็นสิ่งที่อยู่ในเงื้อมมือของหลี่ต๋าคางโดยไม่ต้องลงแรงอะไรมากมายตั้งนานแล้ว

หน่วยมืดเก็บหลักฐานกระทำความผิดของฉินเสี่ยวหู่ไว้นานแล้ว และหลักฐานกระทำความผิดพวกนี้ ก็สามารถทำให้ฉินเสี่ยวหู่พูดยิงได้โดยสิ้นเชิง

ดังนั้น แค่ฉินเสี่ยวหู่เปิดเผยความลับที่จะต่อต้านตัวเอง ทางด้านตระกูลหลี่ ก็จะปล่อยตัวฆาตกร ให้เขาตกอยู่ในทางตัน

เดิมที ส้าวส้วยคิดจะขวางฉินเสี่ยวหู่ไว้จากประตูหลัง แต่คิดไม่ถึงว่า จะมีคนช่วยฉินเสี่ยวหู่หนี

มุมปากส้าวส้วยยิ้ม คิดไม่ถึงว่าเบื้องหลังของฉินเสี่ยวหู่ จะมีคนชักนำอีก

……

มุมปากมู่หรงฉางเฟิงยิ้มนิดๆ มองเบนซ์G-Class ก็ยิ้ม

“คุณนั่งอยู่ในรถสักพักนะ”

มู่หรงฉางเฟิงหยิบปืนกระบอกหนึ่งออกมาจากรถ แอบยื่นให้ฉินเสี่ยวหู่“ถือไว้ดีๆ แล้วก็มองปฏิกิริยาของผมไว้นะ ถ้าผมหันหน้าไปมองคุณ คุณก็เหนี่ยวไก ฆ่าพวกเขาให้ตาย เข้าใจไหม?”

ได้ยินคำนี้ สีหน้าของฉินเสี่ยวหู่ ก็ซีดขาวทันที

ล้อเล่นอะไรกัน!

นี่มันหน้าสถานีตำรวจชัดๆ!

ยิงปืนฆ่าคน ที่หน้าสถานีตำรวจ นี่ไม่ได้หาเรื่องตายเหรอ?

ฉินเสี่ยวหู่กลืนน้ำลาย พูดอย่างกลัวๆ“คุณชายมู่หรง ด้านหลังคือสถานีตำรวจนะ……คุณจะให้ผมฆ่าคนที่หน้าสถานีตำรวจ?”

“กลัวอะไร?คุณโดนหมายเรียกจับอยู่แล้ว อีกอย่างถูกจับไปก็จะไปโดนยิงเป้า ชีวิตของคุณตอนนี้ ถูกเก็บขึ้นมาแล้ว”

มู่หรงฉางเฟิงกลอกตาใส่ฉินเสี่ยวหู่“ทำตามที่ผมบอก ผมรับประกันว่าคุณจะไม่เป็นไร”

ฉินเสี่ยวหู่เบะปาก ในใจก็ยังไม่สบายใจ

ตอนนี้ฉินเสี่ยวหู่หดหู่มากๆ เดิมที ชีวิตของเขาเท่สุดๆ ……

มีผู้หญิงให้เที่ยว มียาให้ดูด แล้วยังมีเงินที่ใช้ไม่หมด แทบจะอยากทำอะไรก็ทำ……

แค่ใครจะไปรู้ จากการมาของมู่หรงฉางเฟิง วันเวลาที่เท่และมีความสุข ก็ถูกทำลายทันที

ในใจของฉินเสี่ยวหู่ตอนนี้ แอบด่ามู่หรงฉางเฟิงว่าตัวซวย จากนั้นมุมปากก็พูดอย่างโกรธๆ“โอเค งั้นผมก็จะทุ่มสุดตัว”

“คุณชายมู่หรง คุณอย่าหลอกผมเด็ดขาด”

ฉินเสี่ยวหู่กัดฟัน พูดด้วยใบหน้าเด็ดเดี่ยว

ลูกคนรวยของตระกูลฉิน ถูกบีบบังคับจนไร้หนทางเช่นนี้

ถ้าบอกว่าไม่น้อยใจ งั้นคงโกหกแล้ว

ดังนั้นฉินเสี่ยวหู่ในตอนนี้ ตัดสินใจเดินหน้า ทำการฆาตกรรม

เขาถือปืน มองเบนซ์ส้าวส้วยลงจากG-Classด้วยสายตาเย็นชา

หลี่ฝางก็ลงออกไปจากรถ อย่างช้าๆ

“เจ้านาย ทำไมคุณลงไปด้วยล่ะ?ไม่ใช่ให้คุณรอผมที่รถเหรอ?”ส้าวส้วยขมวดคิ้วเล็กน้อย

หลี่ฝางหัวเราะเหอะเหอะ ใช้คางชี้ไปที่สถานีตำรวจ พูดอย่างไม่แคร์“กลัวอะไร ที่นี่คือสถานีตำรวจ จะมีคนกล้าทำร้ายผม ที่หน้าสถานีตำรวจเหรอ?”

หลี่ฝางคิดในใจ นั่นเป็นไปไม่ได้แน่นอน

“ใช่สิ ส้าวส้วย คนนี้คือใคร คู่ควรให้คุณตามเขาแบบนี้เหรอ?”หลี่ฝางถามอย่างแปลกใจ

“มู่หรงฉางเฟิง……”ตาของส้าวส้วย จ้องผู้ชายที่นั่งที่นั่งคนขับ

“มู่หรงฉางเฟิง”

ได้ยินชื่อที่คุ้นเคยนี้ หลี่ฝางก็พูดพึมพำ จากนั้น เขาก็คิดได้“คู่หมั้นของฉินหยีหรัน?”

จากนั้น สายตาหลี่ฝางก็เป็นประกาย เอาสายตาไปจ้องที่มู่หรงฉางเฟิง“เขาคือคนของสี่ตระกูลใหญ่?”

“ถูกต้อง”

ส้าวส้วยพยักหน้า“เจ้านาย คุณไปที่รถดีกว่า”

“ไม่ต้อง ถ้าผมกลับไปที่รถ เขาคงคิดว่าผมกลัวเขา ในเมื่อออกมาแล้ว ไม่มีเหตุผลที่ต้องถอยกลับไป”

หลี่ฝางหัวเราะเบาๆ พูดว่า“ที่สำคัญก็คือ ผมไม่อยากให้พ่อผมเสียหน้า”

คำนี้พูดออกไป สีหน้าของส้าวส้วย ก็ตะลึงหน่อยๆ จากนั้นเขาก็หัวเราะออกมา

“ลูกพี่ได้ยินคำนี้ จะต้องดีใจมากแน่”ส้าวส้วยหัวเราะออกมา

หลี่ฝางเดินหน้าเข้าไป มาที่หน้ารถของมู่หรงฉางเฟิง ใช้มือโบกรถ“ออกมาคุยหน่อย”

มู่หรงฉางเฟิงมองฉินเสี่ยวหู่อีกครั้ง“จำไว้ว่า ผมส่งสายตาให้คุณ คุณก็ยิงเลย”

“ถ้าคุณไม่ทำตาม กลับมาตำรวจไม่เอาคุณตาย ผมจะเอาคุณตายเอง”มู่หรงฉางเฟิงมีสายตาเย็นชา ดูมีเจตนาพร้อมฆ่า

พูดจบ มู่หรงฉางเฟิงก็เปิดประตูรถ เดินออกมา

มองหลี่ฝางกับส้าวส้วย มู่หรงฉางเฟิงก็ถามด้วยสีหน้างุนงง “ขอโทษนะ คนไหนคือคุณชายหลี่?”

“ข่าวใช้งานไม่ได้ขนาดนั้นเลยเหรอ?”

หลี่ฝางขมวดคิ้ว คิดในใจ ตัวตนของตัวเอง แม้แต่ฉินหยีหรันก็รู้ มู่หรงฉางเฟิงดันไม่รู้

ดูเหมือนความสัมพันธ์สามีภรรยาของฉินหยีหรันกับมู่หรงฉางเฟิง จะมีปัญหาขนาดใหญ่อยู่

หลี่ฝางหัวเราะเหอะเหอะ พูดว่า“ผมเอง”

“คุณชายหลี่เป็นคนมีความสามารถจริงๆ ผมได้ยินว่าหลายปีมานี้คุณชายหลี่ลำบากมาไม่น้อย ……ถูกผู้ชายที่ชื่อว่าตู้เฟยรังแกมาสามปี จริงหรือเปล่า?”มู่หรงฉางเฟิงหัวเราะออกมา

หลี่ฝางขมวดคิ้ว“คุณรู้ดีอยู่แล้วยังจะเสแสร้งทำเป็นไม่รู้ทำไม!”

“ผมว่ามู่หรงฉางเฟิง คุณนี่กล้ามากนะ ฉินเสี่ยวหู่อยู่ในรถคุณ แต่ตำรวจจะจับนักโทษหนีคดีที่สำคัญ……คุณรู้ไหมว่าปกป้องนักโทษหนีคดี จะมีโทษอย่างไร?”หลี่ฝางถามอย่างเย็นชา

“นักโทษหนีคดี?คุณชายหลี่ คุณอย่าทำผมตกใจสิ ฉินเสี่ยวหู่ไปเป็นนักโทษหนีคดีตั้งแต่เมื่อไหร่?ทำไมผมไม่รู้”

มู่หรงฉางเฟิงยิ้ม“ผมไม่รู้อะไรเลย”

หลักฐานกระทำผิดของฉินเสี่ยวหู่ เพิ่งส่งถึงมือของสถานีตำรวจ

เวลาสั้นๆนี้ จะต้องประกาศว่าฉินเสี่ยวหู่เป็นนักโทษไม่ทันแน่ ดังนั้น มู่หรงฉางเฟิงจึงทำเป็นไม่รู้เรื่องได้

“คุณว่าถ้าผมรู้ จะกล้าเอาฉินเสี่ยวหู่มาที่หน้าสถานีตำรวจเหรอ?”

“นี่ไม่ใช่ว่าพาคนมาส่งถึงที่หรอกเหรอ?”ฉินเสี่ยวหู่พูดเบาๆ

หลี่ฝางหยิบโทรศัพท์ออกมา โทรหาหูเฟย“ผู้บัญชาการตำรวจหู คุณอยู่ที่สถานีตำรวจไหม?”

“เกิดเรื่องเหรอครับ?”หูเฟยถามตาม

“ก็อยากแจ้งคุณหน่อย ฉินเสี่ยวหู่ที่คุณจะจับ ตอนนี้อยู่หน้าสถานีตำรวจของพวกคุณ ถ้าคุณอยู่ ก็รีบออกมาเถอะครับ”หลี่ฝางหัวเราะ

“จะไปทันทีครับ ช่วยดูเขาให้ผมหน่อย อีกห้านาทีถึงครับ”หูเฟยพูดจบ ก็รีบวางสาย

ฉินเสี่ยวหู่ในรถได้ยินคำนี้ ก็ค่อยๆยกปืนขึ้น สายตาปรากฏความเย็นชา อยากจะยิงไปที่หลี่ฝาง

แต่ตอนนี้เอง มู่หรงฉางเฟิงกลับแอบโบกมือให้ฉินเสี่ยวหู่ ความหมายก็คือไม่ให้เขายิง

มู่หรงฉางเฟิงก็หยิบโทรศัพท์ออกมา โทรศัพท์ออกไป

โทรติด มู่หรงฉางเฟิงก็หัวเราะขึ้นมา“คุณอาหนิงเหรอ ใช่ครับ มู่หรงฉางเฟิง……สองสามวันนี้ผู้บัญชาการตำรวจหูคอยบ่นอยู่ข้างหูผมตลอดว่า บอกว่าอยากไปดื่มชาที่ห้องทำงานคุณ”

“คุณอาหนิงไว้หน้าผมหน่อยได้ไหม โทรหาผู้บัญชาการตำรวจหูตอนนี้ ช่วยทำให้ความปรารถนาเล็กๆน้อยๆของเขาเป็นจริง”

“ครับ ตอนนี้……”

มู่หรงฉางเฟิงหัวเราะ แล้วก็วางสาย จากนั้น เขาก็เลิกคิ้ว มองหลี่ฝาง“ผมว่า ผู้บัญชาการตำรวจหูน่าจะมีเรื่องสำคัญที่ต้องจัดการ คงไม่มาหรอก”

สีหน้าของหลี่ฝาง เปลี่ยนทันที“เหอะเหอะ มู่หรงฉางเฟิง อิทธิพลคุณนี่ยิ่งใหญ่จริงๆเลยนะ แม้แต่ตำรวจก็ขัดขวางได้”

“คุณชายหลี่ คุณกำลังพูดอะไร ทำไมผมไม่เข้าใจ?”

มู่หรงฉางเฟิงพูดไป ก็เดินไปที่หลี่ฝาง ก้าวไปข้างหน้า เวลานี้ มู่หรงฉางเฟิงกำมือแน่น แน่นจนกลายเป็นหมัด

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท