NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 439

ตอนที่ 439

บทที่439 คำขอสุดท้ายของฉินวี่เฟย

เดินเข้าไปหาฉินวี่เฟยสองสามก้าว หลี่ฝางมองดูอย่างละเอียด ก็พบว่าสายตาของฉินวี่เฟย ต่างกับแบบเดิมอย่างมาก

สายตาแบบนี้ เมื่อก่อนหลี่ฝาง ไม่เคยเห็นจากฉินวี่เฟยเลย

สายตาคมกริบอย่างมากเช่นนี้

เหมือนกับดวงตาของงูมากกว่า

แต่ในความคมกริบนั้น ก็ยังมีความไม่เต็มใจ น้อยใจอยู่

ชัดเจนว่า ฉินวี่เฟยก็คิดแบบนี้ในตอนนี้ แต่เธอจะมีวิธีอะไรบ้างล่ะ?

หลี่ฝางมาตรงหน้าฉินวี่เฟย ก็ถามอย่างแปลกใจ“ทำไมมาที่นี่?”

สำหรับฉินวี่เฟย ร้านกาแฟนี้ น่าจะคือที่เจ็บปวดของเธอ

จนตอนนี้หลี่ฝางก็ยังไม่เข้าใจ ทำไมฉินวี่เฟยจึงมาเจอในสถานที่นี้

“เข้าไปเถอะ”ฉินวี่เฟยไม่อธิบาย ก็เข้าไปในร้านกาแฟเลย

ฉินวี่เฟยในตอนนี้ เป็นคนละคนกับเมื่อก่อนจริงๆ

ความเย็นชาที่ใบหน้าเธอ ทำให้หลี่ฝางรู้สึกถึงความน่ากลัว

ทั้งๆที่เป็นเพื่อนสนิทขนาดนั้น ตอนนี้ แม้แต่คำพูดเกรงใจกลับไม่มีเลย

หลี่ฝางส่ายหน้า ตามฉินวี่เฟยเข้าไปในร้านกาแฟ

คนขับรถของฉินวี่เฟย คือวัยรุ่นคนหนึ่ง หุ่นของเขาไม่ถือว่าสูงใหญ่ แต่ที่ตัวเขามีความเป็นปรมาจารย์

เขาชื่อฉินหมิง เป็นหลานเลี้ยงของที่นายท่านฉินเลี้ยงไว้ นายท่านฉินตาย เขาก็กลับมา

ตอนนี้ ฉินหมิงทำงานเป็นคนขับรถและบอดี้การ์ดของฉินวี่เฟย

ฉินหมิงจะเข้าไปในร้านกาแฟ ก็ถูกฉินวี่เฟยห้ามไว้“พี่หมิง คุณรอหน้าร้านเถอะ”

เหมือนฉินหมิงไม่ได้ฟังที่ฉินวี่เฟยพูด ยังเดินเข้าไปในร้านกาแฟเลย

“ผมจะไม่รบกวนการพูดคุยของพวกคุณ ผมจะไปนั่งอีกฝั่ง”

หลังจากฉินหมิงปฏิเสธฉินวี่เฟย กวาดสายตาไปทั่วร้านกาแฟ

ในร้านกาแฟตอนนี้ คนเยอะมาก

เป็นเวลาอาหารว่างช่วงกลางวันพอดี

ฉินหมิงเดินมาตรงหน้าคู่รักวัยรุ่นคู่หนึ่ง หยิบสองร้อยหยวนให้ผู้ชาย“น้องชาย เปลี่ยนร้านกาแฟได้ไหม?”

ในขณะที่พูด ฉินหมิงก็เอาสองร้อยหยวนยัดใส่กระเป๋าผู้ชายแล้ว

“ครับ”ชายหนุ่มลุกขึ้น พาแฟนสาวของตัวเองออกไป

ตอนที่ลุกนั้น ผู้ชายคนนี้ก็ถามด้วยว่า“ผมยังไม่จ่ายบิล พี่ช่วยจ่ายให้ผมได้ไหม”

“ไม่มีปัญหา”

ฉินหมิงพยักหน้าอย่างพอใจ เดินไปที่โต๊ะลูกค้าอีกโต๊ะ

ก็เป็นเช่นนี้ ฉินหมิงใช้เงินไล่ลูกค้าทีละโต๊ะๆ

แล้วก็อีกไม่กี่โต๊ะที่มีเงิน ฉินหมิงก็แอบลงมือ ทำการข่มขู่

ไม่ถึงสิบนาที ทั้งร้านกาแฟ ก็เหลือแค่หลี่ฝางกับฉินวี่เฟยโต๊ะนี้

สุดท้าย ฉินหมิงก็หาที่นั่งลง แต่ตาของเขา กลับไม่ได้จ้องหลี่ฝางกับฉินวี่เฟย แต่จ้องไปที่ตำแหน่งแคชเชียร์

“เรื่องของนายท่านฉิน ผม……”

หลี่ฝางไม่รู้จะพูดอย่างไรดี สุดท้ายจึงพูด“คนตายไปแล้วย้อนคืนมาไม่ได้ ให้อภัยเถอะ”

“คนอื่นตาย ผมก็จะปลอบครอบครัวของพวกเขาเช่นนี้”

“แต่จะมีประโยชน์อะไร ควรจะเสียใจ ก็เสียใจเถอะ”

ฉินวี่เฟยส่ายหน้า เสียงหม่นลง“พูดจริงๆนะ ตอนนี้ฉันยังคิดว่าปู่ฉันมีชีวิตอยู่ ไม่เชื่อว่าเขาตายแล้ว”

“แต่ ฉันเพิ่งกลับไปที่บ้าน เห็นศพของคุณปู่”

ฉินวี่เฟยขมวดคิ้ว เงยหน้ามองหลี่ฝาง“หลี่ฝาง คุณเข้าใจความรู้สึกฉันได้ไหม?”

หลี่ฝางไม่พูด ปู่ของหลี่ฝาง ตายตอนที่หลี่ฝางเพิ่งเกิดมา

“ตอนที่พ่อผมสูญหายไป อารมณ์ก็หดหู่มาก แต่ผมคิดว่า น่าจะเทียบไม่ได้กับคุณในตอนนี้”หลี่ฝางพูดเสียงเบา

“ขอโทษนะ ผมผิดเอง……”

“ผมไม่ควรให้นายท่านฉินมาหาผม เมื่อวานผมควรจะไปที่ตระกูลฉิน แบบนี้ นายท่านฉินก็จะไม่ตาย”

หลี่ฝางพูดโทษตัวเอง เอาความรับผิดชอบไว้ที่ตัวเอง

“ผิดที่คุณ?คุณปู่ฉันไม่ได้ถูกคุณฆ่า ทำไมฉันต้องโทษคุณ”

ฉินวี่เฟยส่ายหน้า“ฉันไม่ใช่คนไร้เหตุผล”

“หลี่ฝาง ที่นัดคุณมาที่นี่ ฉันมีจุดประสงค์”

พูดไป ฉินวี่เฟยก็เอาสัญญาวางไว้บนโต๊ะกาแฟ“อันนี้ทนายของคุณให้ฉันมา หนีเตีย ก็คือคุณสินะ?”

“ฉันไม่ต้องการพวกนี้”

ฉินวี่เฟยพูด“ฉันรู้ว่าก่อนตายคุณปู่ฉันทำเรื่องที่ไม่ดีมากมาย ติดหนี้พวกคุณตระกูลหลี่ ดังนั้นพวกนี้ ก็ถือเป็นการคืนหนี้”

ฉินวี่เฟยเอาสัญญาดันให้หลี่ฝาง“ถ้าคุณยินยอม บริษัทฉินซื่อ กรุ๊ป ก็จะเป็นของคุณ พ่อฉันก็จะสนับสนุนคุณ”

“สนับสนุนให้คุณเป็นประธานกรรมการของบริษัทฉินซื่อ กรุ๊ป”ฉินวี่เฟยพูด

หลี่ฝางตะลึงหน่อยๆ ถึงแม้จะถูกหลิงหลงฆ่า แต่ยังไงหลิงหลงก็เป็นคนของตระกูลหลี่

และหลี่ฝางในฐานะที่เป็นคุณชายของตระกูลหลี่ ก็สลัดความสัมพันธ์นี้ไม่ออกอย่างแน่นอน

แล้วฉินวี่เฟยก็ไม่ได้โง่ เขาให้ตัวเองเป็นประธานกรรมการของบริษัทฉินซื่อ กรุ๊ป นี่มันต่างอะไรกับเห็นกงจักรเป็นดอกบัว?

หลี่ฝางขมวดคิ้ว มองฉินวี่เฟย“ผมไม่เข้าใจความหายของคุณ ฉินวี่เฟย”

“ความหมายของฉัน ง่ายมาก”

ฉินวี่เฟยใช้คางชี้ไปที่สัญญา ยิ้มให้หลี่ฝาง“คุณเปิดสัญญา แล้วก็จะรู้เอง”

สายตาของฉินวี่เฟยดูมีเลศนัย

หลี่ฝางเปิดสัญญาบนโต๊ะกาแฟ ด้วยความอยากรู้

ในสัญญา ซ่อนมีดไว้เล่มหนึ่ง

มีดที่ดูแล้ววาววับ หลี่ฝางตะลึงงันหน่อยๆ

“นี่หมายความว่าไง?”หลี่ฝางไม่เข้าใจความหมายของฉินวี่เฟย จึงเปิดปากถาม

“ทำไมเอามีดไว้ข้างใน?”หลี่ฝางถามอย่างแปลกใจ

เวลานี้เอง ฉินวี่เฟยก็หันหน้า มองฉินหมิงแวบหนึ่ง แล้วส่งสายตาให้

ฉินหมิงลุกขึ้น เดินไปปิดประตูร้านกาแฟ

ทั้งในร้านกาแฟ สายตา ก็มืดลงทันที

เวลานี้ หลี่ฝางรู้สึกถึงความน่ากลัว

ภายใต้ความมืด กับมีดเล่มหนึ่ง

หลี่ฝางเปิดไฟฉายของโทรศัพท์อย่างตระหนักได้ทันที และในขณะเดียวกัน ไฟในร้านกาแฟ ก็สว่างขึ้นมา

หลิงหลงเปิดไฟในร้านกาแฟ เธอมองฉินหมิงแวบหนึ่ง แล้วก็มองหลี่ฝางกับฉินวี่เฟย สุดท้ายสายตาก็มองไปที่มีด

หลิงหลงยิ้ม ดูเหมือนจะมองความพยายามของฉินวี่เฟยออก

“ความหมายของคุณคือ?”หลี่ฝางก็เข้าใจทันที ก็แค่ไม่แน่ใจเล็กน้อย

“คุณจะให้ผมฆ่าหลิงหลง?”หลี่ฝางขมวดคิ้ว มองฉินวี่เฟยแล้วถาม

“ใช่ กรรมเกิดจากเหตุ มีเหตุจึงมีผลตามมา คุณปู่ฉันถูกหลิงหลงฆ่าตาย ดังนั้น พวกเราตระกูลฉินจะให้เธอชดใช้ด้วยชีวิต”

“หลี่ฝาง คุณฆ่าหลิงหลง ต่อไปผมก็จะเป็นของคุณ ทั้งตระกูลฉิน ก็ล้วนแต่เป็นของคุณ”

ฉินวี่เฟยมองหลี่ฝาง สายตาปรากฏความขอร้อง

หลี่ฝางไม่คิดเลยสักนิด ส่ายหน้าทันที“ผมปฏิเสธ”

หลิงหลงคือคนของลุงเฉียน และก็เป็นคนที่ตอนนี้หนีไปกับตัวเอง

ระหว่างที่หนี หลิงหลงก็ได้รับความทุกข์ทรมานไปไม่น้อย

ให้ตัวเองฆ่าหลิงหลง หลี่ฝางแสดงให้เห็นว่าตัวเองทำไม่ได้

“ทำไม?”

ฉินวี่เฟยมองหลี่ฝางด้วยความโมโห“ทำไมคุณปฏิเสธ?ทำไมคุณช่วยฉันสักครั้งไม่ได้?”

“คุณไม่ได้บอกเหรอว่าที่คุณปู่ของฉันตายก็เพราะว่าคุณน่ะ?เมื่อกี๊คุณไม่ได้รู้สึกผิดในใจเหรอไง?แค่คุณฆ่าหลิงหลง คุณปู่ฉันก็จะอภัยให้คุณ ฉันก็จะอภัยให้คุณ”

“ไม่อย่างนั้น ฉันก็ไม่สามารถเป็นเพื่อนกับคุณต่อไปได้แล้ว”

ฉินวี่เฟยพูดอย่างเสียใจ

ฉินวี่เฟยแค้นหลิงหลง และก็แค้นตระกูลหลี่ แต่ว่า เธอไม่อย่าแค้นหลี่ฝาง

ดังนั้น ฉินวี่เฟยคิดวิธีทางมา ถ้าหลี่ฝางรีบปากตัวเอง ฆ่าหลิงหลงเพื่อแก้แค้นให้คุณปู่ตัวเอง

งั้นฉินวี่เฟยก็จะทิ้งความแค้นต่อตระกูลหลี่ และศัตรูต่อหลี่ฝาง

ฉินวี่เฟยยังคิดว่า หลี่ฝางจะรับปากไปฆ่าหลิงหลง เพื่อตัวเอง

แต่คิดไม่ถึง หลี่ฝางจะปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใยขนาดนั้น?

“คุณกลัวอาชญากรรมฆ่าคนใช่ไหม?คุณวางใจเถอะ ฉันหาคนที่จะรับผิดแทนคุณแล้ว เขาอยู่ข้างนอก ส่วนในนี้ก็มีพวกเรา คุณฆ่าหลิงหลง พวกเราก็จะเก็บความลับให้คุณ และฉันก็จะให้คนไปรับผิดแทนคุณ”ฉินวี่เฟยพูด

หลี่ฝางส่ายหน้า“ผมไม่ได้กลัวเข้าคุก”

“ก็แค่ หลิงหลงคือคนของพวกเรา คุณจะให้ผมฆ่าคนของตัวเอง ผมจะทำได้ไง?”

หลี่ฝางขมวดคิ้ว พูดว่า“ฉินวี่เฟย ผมรู้ว่าคุณแค้นหลิงหลง ละก็แค้นพวกเราตระกูลหลี่ แม้กระทั่งที่ผมปฏิเสธคุณเมื่อกี๊ คุณก็แค้นผม”

“แต่คุณฆ่าหลิงหลง ฉันก็ไม่แค้นตระกูลหลี่ละ และก็ไม่แค้นคุณด้วย”เสียงหลี่ฝางพูดจบ ฉินวี่เฟยก็รีบพูด

“นั่นผมก็รับปากคุณไม่ได้”

หลี่ฝางส่ายหน้า ถอนหายใจยาว“ขอโทษ”

“ผมรู้สึกเสียใจ จากการตายของนายท่านฉิน ผมยอมทำการชดเชยอะไรก็ตามแทนตระกูลหลี่ แต่ไม่มีทางเอาชีวิตของหลิงหลงมาชดเชยได้”

พอหลี่ฝางพูดจบ ฉินหมิงก็หัวเราะอย่างเย็นชา หยิบมีดออกมาจากอ้อมแขน

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน