NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 445

ตอนที่ 445

บทที่445 หัวของหลี่ฝางมีมูลค่าเท่าไหร่

นายท่านฉินถือว่าเป็นรุ่นพี่ที่มีบารมีอันสูงส่งในเมืองเอก การตายของเขา คนที่พอมีตัวตนบ้างในเมืองเอก จำเป็นต้องมารวมตัวกัน

รวมถึงจ้าวควน พ่อของจ้าวเสี่ยวตาว

หยูเต๋อส่วย ลุงของหยูเถิงด้วย

แล้วก็หูเฟยก็มา

แน่นอนว่า คนพวกนี้ไม่ได้ทำให้หลี่ฝางขี้ขลาด แล้วก็มู่เจิ้งถังกับหมาทิเบตัน

มู่เจิ้งถังคุกเข่าลงหน้าโลงศพคริสทัลของนายท่านฉิน แล้วก็ร้องไห้น้ำตาไหลออกมา

ใครต่างมองออกว่า ตาแก่นี่แสร้งทำเป็นเห็นใจอยู่

มู่เจิ้งถังกับฉินเฟิง คือตระกูลอันดับหนึ่งแห่งเมืองเอก

ฉินเฟิงตาย เป็นไปได้มากที่ตระกูลฉินจะถอยลงไป

งั้นตระกูลมู่ก็จะเป็นตระกูลขนาดใหญ่

แน่นอนว่า ก็ไม่ได้นับรากฐานอย่างสี่ตระกูลใหญ่ไปด้วย

หลี่ฝางเข้ามา ก็ถูกหมาทิเบตันจ้องเขม็ง

เวลานี้มู่เจิ้งถังก็หันไปมองหลี่ฝาง

มู่เจิ้งถังส่งสายตาให้หมาทิเบตัน พูดเบาๆว่า“หาโอกาสไปจัดการเขา”

ครั้งที่แล้วใส่ร้ายไม่สำเร็จ ทำให้หมาทิเบตันโกรธมาก

ก็ถือว่าฆ่าหยูเถิงไปฟรีๆ

หมาทิเบตันพยักหน้า

ยังไงในนี้ก็มีคนจำนวนมาก อีกอย่างหูเฟยก็อยู่ หมาทิเบตันไม่ลงมือต่อหน้าหูเฟยแน่

“วี่เฟย คุณกลับมาซะที!”

เวลานี้ หวางหงเหมยที่เป็นป้าสองของฉินวี่เฟยก็เดินเข้ามา เธอถือผ้าสีขาว พันที่หัว แขนของฉินวี่เฟย ทำเสร็จก็พูดกับฉินวี่เฟย“รีบไปทำความเคารพ”

“อ้อ”

ฉินวี่เฟยตอบรับไป ไม่กล้าคัดค้าน

ยังไง ถึงฉินวี่เฟยเป็นหัวหน้าครอบครัวที่นายท่านฉินแต่งตั้ง ความอาวุโสในครอบครัวก็ยังถือไว้อยู่

หวางหงเหมยในฐานะผู้อาวุโส ก็มีคุณสมบัติที่จะว่าเขา

หวางหงเหมยมองหลี่ฝางแวบหนึ่ง ถามอย่างสงสัย“คุณคือ?”

คุณชายในตงไห่ที่พอมีตัวตน เรียกได้ว่าหวางหงเหมยเห็นมาหมดแล้ว

แต่ยกเว้นแค่หลี่ฝางคนนี้ หวางหงเหมยรู้สึกไม่คุ้นอย่างมาก

“รับจ้างมาเหรอ?”

“รับจ้างมาทำงานแล้วก็อย่ามายืนโง่ รีบไปทำงาน แขกเยอะขนาดนี้ คุณยังไม่รีบไปปรนนิบัติอีก?”หวางหงเหมยเข้าใจผิดว่าหลี่ฝางเป็นคนงานที่จ้างมา

“ป้าสอง เขาคือคุณชายหลี่”ฉินวี่เฟยช่วยหลี่ฝางพูด

“คุณชายหลี่?คุณชายหลี่อะไร!”

หวางหงเหมยยังไม่ได้สิตคืนมา“เมืองเอกมีตระกูลหลี่ที่ไหน”

“สถานตากอากาศ……”ฉินวี่เฟยพูดเตือนเบาๆ ที่ข้างหูของหวางหงเหมย

“ตระกูลหลี่แห่งสถานตากอากาศ?”

คิ้วของหวางหงเหมย ขมวดลงทันที“ยัยสาวน้อยคนนี้ คุณท่านถูกพวกเขาตระกูลหลี่ฆ่าตาย คุณไม่รู้เหรอไง?”

หวางหงเหมยจ้องหลี่ฝาง พูดด้วยใบหน้าไม่เกรงใจ“ไอ้หมอนี่ ทำไมยังกล้ามาตระกูลหลี่ของพวกเราอีก!”

“ฆ่าคนแล้ว ยังจะกล้ามาอีก?หรือว่าคุณไม่กลัวคุณท่านของตระกูลพวกเราจะกลายเป็นผีร้ายมาเอาชีวิตคุณ”หวางหงเหมยพูดอย่างเย็นชา

หลี่ฝางพูดเบาๆ“นายท่านฉินคือคนดี ตายแล้วไม่มีทางเป็นผีร้ายได้”

เพิ่งพูดจบ ในใจของหลี่ฝาง ก็พึมพำ พูดอย่างซีเรียส ก่อนตายนายท่านฉินเคยทรยศพ่อของตัวเอง ก็ไม่ถือว่าเป็นคนดีอะไร

จากนั้น หลี่ฝางพูดต่อ“คุณแช่งนายท่านฉินให้เป็นผีร้าย เพราะไม่อยากให้นายท่านฉินกลับชาติมาเกิดใช่ไหม?ผมว่านะทำไมหัวใจของคุณเลวทรามได้ขนาดนี้!”

พูดถึงการต่อกร แค่หลี่ฝางพูดก็สามารถเอาชนะผู้หญิงดอกทองได้ถึงสามคน

หวางหงเหมยโกรธจนพูดไม่ออก เธอชี้ไปที่หลี่ฝาง“ไอ้สัตว์เดรัจฉานนี่……”

“มานี่หน่อย……”

หวางหงเหมยตะโกนออกมา เรียกการ์ดของตระกูลฉินมาไม่น้อย“เอาเขาออกไป!”

“ก่อนที่จะเอาออกไป ก็จัดการเขาสักทีก่อน”

หวางหงเหมยพูดจบ ก็คิดว่ายังโกรธไม่หาย จึงพูดเสริมไป

หลี่ฝางขมวดคิ้ว ก่อนที่การ์ดพวกนี้จะมา ทันใดนั้นฉินวี่เฟยก็พูดเสียงทุ้มต่ำ“ฉันจะดูสิว่าใครกล้า!”

“อย่าลืมล่ะ ตอนนี้ฉันคือหัวหน้าของตระกูลฉิน”

ฉินวี่เฟยมองการ์ดของตระกูลฉิน แล้วพูดว่า“ไปทักทายแขกกันให้หมดเลย”

“นังเด็กนี่ กล้ามากเลยนะ ทำไม คำพูดของป้าสองใช้ไม่ได้แล้วใช่ไหม?”

“คุณท่านยังไม่ได้ฝังเลย คุณก็เอาชายชู้ที่ฆ่าเขามาที่ตระกูลฉิน วิญญาณคุณท่านที่อยู่บนฟ้า ไม่ปล่อยคุณแน่”

หวางหงเหมยพูดจบ หลี่ฝางก็ขมวดคิ้ว“คุณไม่มีหลักฐาน ทางที่ดีอย่าใส่ร้ายป้ายสีคนอื่น”

“ผู้บัญชาการตำรวจหูก็อยู่นี่ พูดเหลวไหลก็ต้องรับผิดชอบด้วยนะ ตาข้างไหนคุณเห็นว่าผมฆ่านายท่านฉินเหรอ?”หลี่ฝางพูดไป ก็มองหูเฟยแวบหนึ่ง

หูเฟยตระหนักได้ เดินเข้ามาทันที พูดกับหวางหงเหมย“พี่หวาง ถ้าไม่มีหลักฐาน อย่ามาใส่ร้ายคุณชายแห่งตระกูลหลี่”

“ไม่อย่างนั้น ก็ต้องรับผิดชอบทางอาญา”

“ก่อนที่นายท่านฉินกระโดดน้ำ โทรมาบอกผมแล้ว เขาบอกผมว่า เขาปล่อยวางเรื่องทางโลกแล้ว ไม่อยากอยู่แล้ว ดังนั้นจึงอยากฆ่าตัวตาย การตายของเขา ไม่เกี่ยวข้องกับใครทั้งนั้น”

“ตอนนั้นผมทำการบันทึกที่คุยกับนายท่านฉินไว้ ไม่งั้น ผมเปิดให้คุณฟังไหม?”หูเฟยมองไปที่หวางหงเหมย

สีหน้าหวางหงเหมยเหยเก ในทุกๆอย่าง เธอแค่ฟังที่เหล่าอู๋คนขับรถพูด

และภายใต้คำพูดไม่กี่คำของมู่หรงฉางเฟิง เหล่าอู๋ก็หนีไปนานแล้ว

นอกจากเหล่าอู๋แล้ว ไม่มีใครเห็นว่านายท่านฉินตายยังไง

แน่นอนว่า ฉินวี่เฟยก็เห็น แต่ฉินวี่เฟยในตอนนี้ ก็พูดอะไรไม่ได้

“คุณชายหลี่……”

ทันใดนั้น ด้านหลังก็มีเสียงที่คุ้นเคยเข้ามา

มู่หรงฉางเฟิงมาแล้ว

ถึงแม้เขาเพิ่งถูกบีบบังคับให้ยอมแพ้ แต่ในฐานะหลานเขยของตระกูลฉิน เขาก็มาตรงหน้าคฤหาสน์ตระกูลฉิน

“พวกเราเจอกันอีกแล้ว”

มู่หรงฉางเฟิงพูดด้วยใบหน้าเย็นชา

“แผลที่หน้าใครทำเหรอ?”หลี่ฝางมองมู่หรงฉางเฟิง พูดขำๆ

สีหน้ามู่หรงฉางเฟิงหม่นลง ไม่พูดอะไร ได้แต่ทำเสียงฮึดฮัด มาตรงหน้าฉินหยีหรัน บ่นพึมพำกับภรรยาของตัวเองขึ้นมา

“ผมไปจุดธูปแล้วจะไปแล้ว”หลี่ฝางหันไปมองฉินวี่เฟย แล้วพูดเบาๆ

“โอเค”

หลี่ฝางมองศพของนายท่านฉินเวบหนึ่ง จุดธูป แล้วเตรียมจะออกไป

หลี่ฝางเพิ่งก้าวออกไป มู่เจิ้งถังก็ตบไหล่ของหมาทิเบตัน“ไปกำจัดเขาซะ”

“คุณแน่ใจเหรอ?ท่านมู่”หมาทิเบตันหัวเราะอย่างมีเลศนัย

“มีอะไรไม่แน่ใจอีก ไอ้เด็กสารเลวนี่ทำร้ายหลานชายสองคนของผมจนน่าเวทนาขนาดนั้น ไม่กำจัดเขา ก็ยากที่จะเอาความเกลียดชังในใจผมออก”มู่เจิ้งถังกัดฟันพูด

“กำจัดเขา แล้วผมจะให้คุณหนึ่งร้อยล้านไปหนี”นิ่งไป มู่เจิ้งถังก็พูดอย่างใจกว้าง

“หนึ่งร้อยล้าน?”

มุมปากของหมาทิเบตันเหยียดหยามมากๆ“ท่านมู่นี่ใจกว้างจริงๆ”

มู่เจิ้งถังไม่พูด ยังคิดว่าหมาทิเบตันจะโดนราคาที่ตัวเองเสนอดึงดูดเสียอีก

“ช่างเถอะ เงินผมไม่เอาหรอก”

หมาทิเบตันส่ายหน้า พูดว่า“ท่านมู่ คุณแค่สามารถต้านทานความโมโหของตระกูลหลี่ก็พอ”

“วางใจเถอะ พวกเราตระกูลมู่มีวิธีช่วยชีวิต”

นายท่านมู่พูดอย่างไม่กลัว

ยังไงเบื้องหลังของเขา ก็มีสี่ตระกูลใหญ่ค้ำจุนเขาอยู่

ตอนนี้ฉินเฟิงตาย งั้นตำแหน่งมู่เจิ้งถังในใจของสี่ตระกูลใหญ่ ก็สูงขึ้นตามธรรมชาติ

ถึงตอนนั้น มู่เจิ้งถังสามารถเรียกสี่ตระกูลใหญ่ให้ลงมือด้วยกัน เพื่อเอาคืนตระกูลหลี่

ก็แค่ มู่เจิ้งถังไม่ค่อยเชื่อว่า ค่าตอบแทนหนึ่งร้อยล้านนี้ หมาทิเบตันจะไม่เอา?

หัวของผู้ชายคนนี้คิดอะไรอยู่?

คงไม่ได้คิดว่าตัวเองล้อเล่นหรอกนะ?

“หมาทิเบตัน ชีวิตของเจ้าเด็กนี่คุ้มค่ากับหนึ่งร้อยล้าน”มู่เจิ้งถังพูดกับหมาทิเบตัน

หมาทิเบตันหัวเราะเหอะเหอะ“ท่านมู่ คุณคิดว่าชีวิตของเจ้าเด็กคนนี้มีค่าแค่หนึ่งร้อยล้านเหรอ?”

“งั้นเท่าไหร่?”

มู่เจิ้งถังขมวดคิ้ว คิดว่าหมาทิเบตันจะขอราคาสูง“แค่เด็กคนหนึ่งเท่านั้น หรือว่าต้องจ่ายหนึ่งพันล้านไปจ้างฆ่าเขา?”

“อย่างมากก็หนึ่งร้อยล้าน มากกว่านี้ไม่ได้แล้ว ถ้าคุณไม่เอา ผมก็จะหาคนอื่นมาทำ”มู่เจิ้งถังพูดด้วยใบหน้าหม่น

หมาทิเบตันส่ายหน้า“ท่านมู่ อย่าโกรธสิ ผมไม่ได้เพิ่งบอกเหรอ ผมช่วยคุณฆ่าเด็กนี่ฟรีๆไง”

“แต่ว่า ผมต้องบอกคุณบางอย่าง หัวของเจ้าเด็กคนนี้ เจอกับนักฆ่าที่เชี่ยวชาญ ถึงคุณจ่ายไปเป็นพันล้าน นักฆ่าพวกนั้นก็ไม่กล้าไปรับ!”

“หัวของเจ้าเด็กนี่ คุณซื้อไม่ไหว”

หมาทิเบตันหัวเราะหึหึ จากนั้นก็ตามหลี่ฝาง ออกไปจากตระกูลฉิน

ส่วนหูเฟยในตอนนี้ก็ตามออกมา หูเฟยรีบก้าวเดิน ตามหลี่ฝางไป

“คุณชายหลี่ คนด้านหลังคนนั้นเหมือนจะฆ่าคุณ”จากประสบการณ์การเป็นตำรวจมาหลายปี หูเฟยมองจุดประสงค์ของหมาทิเบตันออก

แน่นอนว่า หมาทิเบตันก็ไม่ได้ปกปิดจุดประสงค์ของตัวเอง

หมาทิเบตันและก็ไม่สนใจหูเฟย

หมาทิเบตันไม่กลัวอะไร เพราะว่าฆ่าหลี่ฝางแล้ว เขาก็ตัดสินใจจะหนี

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท