NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 468

ตอนที่ 468

บทที่ 468 ซ้อมตู้เฟยอย่างรุนแรง

หากซินปาตรวจสอบ แน่นอนว่าต้องตรวจไปถึงหัวของตู้เฟย

และเบื้องหลังตู้เฟย เป็นถึงสี่ตระกูลใหญ่

นั่นเป็นอำนาจที่ใหญ่ที่สุด ลึกลับที่สุดในเมืองเอก

อาศัยกำลังของซินปาแค่นี้ ไม่มีทางไปสู้ได้เลย

ถ้าหากซินปาหาเรื่องตู้เฟย สี่ตระกูลใหญ่คงต้องยื่นมือช่วยแน่

ได้ยินคำพูดนี้ ใบหน้าของซินปา ก็เผยแววหนักอึ้งทันที “เห็นทีพวกคุณคงรู้แล้วว่าใครคือคนร้าย”

“พอจะบอกผมได้ไหมว่าเป็นใคร ”ซินปาใช้น้ำเสียงขอร้อง

แววตาของเขามุ่งมั่น

ซินปาเป็นคนเก่าแก่ในวงการ ไม่มีทางที่เขาจะฟังไม่ออกถึงความหมายในคำพูดของส้าวส้วย แต่เขายังคงมีความคิดที่จะแก้แค้นให้ถังจิ้น เพราะเขาเคยให้สัญญากับพี่ใหญ่เอาไว้ พี่ห้าวหนาน

หลี่ฝางมองส้าวส้วย ราวกับกำลังตั้งคำถาม

“บอกเขาเถอะ ถึงเราจะไม่พูด เขาก็คงตรวจสอบเอง”

ส้าวส้วยพยักหน้า พูดกับซินปา“คนคนนั้นชื่อตู้เฟย ”

“เป็นนักศึกษาของมหาลัยสุ่ยมู่ ห้องเดียวกับถังจิ้น ตามที่พวกเราเข้าใจ น่าจะเป็นเขาที่หาคนมาลงมือกับถังจิ้น ”

หลังจากส้าวส้วยพูดจบ ซินปาก็ขมวดคิ้ว “ตู้เฟย ทำไมชื่อคุ้นๆ”

คิดอยู่สักพัก ซินปาก็หวนนึกขึ้นได้ ก็คือไอ้เด็กที่เจอกันไม่กี่วันก่อนนี่นา

“ที่เป็นลูกพี่ลูกน้องกับหยูเถิงใช่ไหม”

“เขาเป็นคนหาคนมาควักลูกตาถังจิ้นเหรอ”

ซินปาพูดอย่างดูถูก น้ำเสียงเผยแววดูถูก

“หึ อย่าว่าแต่ตระกูลหยูที่ตอนนี้ไม่ได้เหมือนเมื่อก่อนแล้ว ถึงแม้จะยังเป็นตระกูลหยูเหมือนเมื่อก่อน ซินปาก็ไม่เคยมองอยู่ในสายตา ”ซินปาพูดเสียงเย็น

ตระกูลหยูทำธุรกิจ ซินปาอยู่ในวงการสีเทา

หากซินปาไม่ต้องการหาเงินจากตระกูลหยูแล้วละก็ ก็ไม่จำเป็นต้องเกรงกลัวตระกูลหยู บวกกับตระกูลหยู่ไม่ได้เหมือนแต่ก่อนแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นตู้เฟยคนนี้ก็ไม่ใช่คนของตระกูลหยู่อย่างสิ้นเชิง

ซินปาไม่เข้าใจ คนคนนี้ ทำไมจะไปยุ่งด้วยไม่ได้

“ตู้เฟยในตอนนี้ ถูกตระกูลหยู่ไล่ออกมาแล้ว”หลี่ฝางพูด

“อย่างนั้นก็ยิ่งไม่ต้องกลัวแล้ว”ซินปาพูด

“แต่ตู้เฟยมีหลักยึดใหม่”

หลี่ฝางขมวดคิ้ว มองซินปา “นายเคยได้ยินเรื่องสี่ตระกูลใหญ่ไหม”

“สี่ตระกูลใหญ่ เมื่อก่อนตอนที่ผมอยู่กับพี่ห้าวหนาน เคยได้ยินพี่ห้าวหนานพูดถึงสี่ตระกูลใหญ่ เหมือนเงินที่พี่ห้าวหนายหาได้ทุกปี จะต้องแบ่งให้กับสี่ตระกูลใหญ่ส่วนหนึ่ง”

“เหมือนพี่ห้าวหนานจะกลัวพวกเขาอยู่เหมือนกัน ”

ซินปาพูดด้วยสีหน้าหนักอึ้ง “คุณชายหลี่ ความหมายของคุณคือ คงไม่ใช่อยากจะบอกผมว่า เบื้องหลังของตู้เฟย ก็คือ……”

“ไม่ผิด เป็นพวกเขา”

หลี่ฝางพยักหน้า พูดว่า “ก็คือคนที่แม้แต่พี่ใหญ่นายตอนที่อยู่Recalling the past ก็ยังไม่กล้ายุ่งด้วย”

“นายแน่ใจนะว่าจะไปหาเรื่องพวกเขา”

“ถ้าอย่างนั้น นายไม่เพียงแต่จะช่วยถังจิ้นแก้แค้น ยังจะพาตัวเองเข้าไปพัวพันเรื่องนี้ด้วย ถึงตอนนั้น ใครจะดูแลถังจิ้น ”

หลี่ฝางมองซินปา พูดว่า “ถ้าหากว่านายเชื่อฉัน แค้นนี้ ฉันจะชำระให้เอง”

“คุณชายหลี่ ……”ซินปามองหลี่ฝาง สายตามีแววซาบซึ้ง

“เอาเถอะ ที่จริงถังจิ้นก็ทำเพื่อฉัน จึงได้ทำให้ตู้เฟยมาแก้แค้น”

พูดได้ถูก เรื่องนี้ก็เกี่ยวข้องกับตัวเองเหมือนกัน ฉะนั้นหลี่ฝางจึงได้รับผิดชอบทั้งหมด

อีกอย่าง ตนกับตู้เฟย เดิมก็เป็นคู่แค้นกัน

“เอาล่ะ นายอยู่เฝ้าที่โรงพยาบาลเถอะ เดาว่าถังจิ้นคงยอมรับเรื่องนี้ได้ยากหน่อยในช่วงนี้ นายดูแลเขาดีๆ เห้อ”หลี่ฝางพูด พลางถอนหายใจ

พอคิดว่าถังจิ้นไม่มีดวงตาแล้ว หลี่ฝางก็รู้สึกว่าเขาน่าสงสารมาก

แต่พอหลี่ฝางเกินไปได้ไม่กี่ก้าว ซินปาก็คุกเข่าคง

ซินปารู้ คนที่ทำร้ายถังจิ้น ที่จริงก็คือตัวเขาเอง

เป็นเขาที่ให้ถังจิ้นจงใจเข้าใกล้หลี่ฝาง

หากไม่ใช่เขา ถังจิ้นคงไม่ออกหน้าแทนหลี่ฝาง

ถ้าเป็นอย่างนั้น วันนี้ถังจิ้นก็คงไม่มีจุดจบอย่างนี้

หลี่ฝางเดินออกจากโรงพยาบาล ก็เห็นตู้เฟยพอดี

ในมือตู้เฟยถือตะกร้าผลไม้เอาไว้ เดินไปยังโรงพยาบาล

“บังเอิญขนาดนี้เชียว หลี่ฝาง นายก็มาดูถังจิ้นเหรอ”ตู้เฟยมองหลี่ฝาง หัวเราะหึหึขึ้นมา

“เขาอยู่ห้องไหน ฉันจะไปดูเขาหน่อย”

ตู้เฟยพูดจบ ก็ถอนหายใจ “นายว่าถังจิ้นอายุยังน้อย น่าจะมีอนาคตไกล แต่ตอนนี้ เห้อ กลับกลายเป็นคนตาบอดซะแล้ว”

“ช่างน่าเสียดายจริงๆเลย”

ตู้เฟยมองหลี่ฝาง ถามขึ้นว่า “นายว่าหรือเปล่า หลี่ฝาง”

หลี่ฝางมองตู้เฟยที่กำลังทำไม่รู้ไม่ชี้ ก็รู้สึกรังเกียจขึ้นมาอย่างกะทันหัน

ตู้เฟยเมื่อก่อน เป็นคนเลวที่แท้จริง แผนร้ายทั้งหมดของเขา จะแสดงอยู่บนใบหน้าของเขา

แต่ตอนนี้ ตู้เฟยกลายเป็นสุภาพชนจอมปลอม

เป็นเขาที่ทำร้ายถังจิ้นแท้ๆ แต่ตอนนี้ยังจะพูดได้อย่างไม่อายปากและมาเยี่ยมถังจิ้นถึงโรงพยาบาล

นี่หนังหน้าต้องหนาถึงขั้นไหนกันนะ

“ตู้เฟย ฉันรู้ว่านายเป็นคนทำ”หลี่ฝางพูดด้วยสีหน้าเย็นชา

“หลักฐานล่ะ”

“หลี่ฝาง ถ้าไม่มีหลักฐาน นายจะมาปรักปรำคนอื่นไม่ได้นะ”

“ใช่แล้ว ฉันควรจะเปลี่ยนคำพูดได้แล้ว เอาแต่เรียกหลี่ฝางอยู่นั่น ฉันก็เรียกจนจะชินซะแล้ว ฉันเกือบลืมไป ว่านายเป็นคุณชายหลี่”

ตู้เฟยส่ายหน้า “คุณชายหลี่ นายปิดบังฐานะตัวเองมาตั้งนาน เหนื่อยหรือเปล่า ”

“ถ้านายบอกแต่แรกว่านายเป็นคุณชายหลี่ ผู้หญิงที่เห็นแก่เงินอย่างเซี่ยลู่ ยังจะอยู่กับฉันอีกเหรอ คงจะเดินตามตูดนายไปขึ้นเตียงตั้งแต่แรกแล้ว ”

“คุณชายหลี่ นายปิดบังฐานะของตัวเอง เพื่ออะไร เพื่อแกล้งพวกเรางั้นเหรอ”

ตู้เฟยหัวเราะหึหึ

ตู้เฟยไม่รู้ว่าต้องพูดยังไงดี

ตู้เฟยพูดไม่ผิด ตนปิดบังฐานะ มีเพียงเหตุผลเดียว นั่นเพราะความสนุก

และยังมีอีกเหตุผล ถ้าเปิดเผยตัวตน จะมีอันตรายต่อตัวเอง

หลี่ฝางส่ายหน้า มองตู้เฟย “ถ้าฉันบอกนายตั้งแต่แรก ว่าฉันคือคุณชายหลี่ บ้านฉันเป็นตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศ นายจะเชื่อไหม”

“เกรงว่านอกจากพวกนายจะไม่เชื่อแล้ว ยังหัวเราะเยาะฉันอีก”

หลี่ฝางขมวดคิ้ว มองตู้เฟย “แน่นอน ฉันก็มีความสุขกับการแสดงละครมาก”

“หลายครั้ง ที่เผชิญกับความหยิ่งยโสของนาย ที่ท้าทายครั้งแล้วครั้งเล่า เหมือนฉันกำลังดูลิงในสวนสัตว์เลย รู้สึกน่าขำมาก ฉันรอนายแสดงจนจบ จากนั้นค่อยตบหน้าตาย ความรู้สึกนั้นสะใจฉันมาก”

“ ก็เหมือนตอนงานเลี้ยงจบการศึกษา นายยังคงยโสโอหัง แต่ตอนนั้นนายยังไม่รู้ว่า บ้านนายล้มละลายแล้ว นายยังจำได้ไหมตอนที่นายไปเช็กบิล แล้วต้องอายเพราะบัตรรูดไม่ผ่านหรือเปล่า ยังจำตอนที่พ่อนายถูกไล่ทวงหนี้ จนต้องวิ่งหนี แต่นายกลับได้แต่ยืนดูตาปริบๆ แต่กลับช่วยอะไรไม่ได้ ”

“ตอนนั้นนาย น่าสงสารขนาดไหน พูดตามจริง นอกจากความเห็นใจที่มีต่อนายแล้ว ที่มากกว่านั้นคือ มีความสุขที่เห็นนายเป็นทุกข์”

“ในสายตาฉัน นายมันเป็นคนน่าสมเพช เมื่อก่อนใช่ ตอนนี้ยิ่งใช่ ”

“ไม่ถูก นายในตอนนี้ แม้แต่คนน่าสมเพชยังเป็นไม่ได้ แต่เหมือนหมาข้างถนนมากกว่า”

หลี่ฝางยิ้มอ่อนๆ “หนีจากตงไห่มาบ้านตระกูลหยู ตอนนี้ก็ถูกตระกูลหยูไล่ออกมา เหอะๆ ตู้เฟย ฉันเห็นใจนายจริงๆ”

“เพื่อให้สี่ตระกูลใหญ่เห็นค่าของนาย ถึงกับต้องลงมือฆ่าพ่อตัวเองอย่างไม่เสียดาย”

“นายนี่มันเสียสติไปแล้วจริงๆ”

ได้ยินคำพูดทั้งหมดของหลี่ฝาง สีหน้าของตู้เฟย เปลี่ยนเป็นดุร้ายมากขึ้น

“มีแต่คนบอกว่ากล้ำกลืนความอัปยศก็จะประสบความสำเร็จได้ ตู้เฟย นายฆ่าพ่อตัวเอง แล้วประสบความสำเร็จอะไร นอกจากจะเป็นแค่สุนัขรับใช้ของตทั้งสี่ตระกูลใหญ่เท่านั้น พวกเขาเลี้ยงนาย ก็เพื่อให้นายกัดฉันเท่านั้นเอง”

“คุณค่าของนาย ก็มีแค่นี้”หลี่ฝางมองตู้เฟยอย่างเหยียดหยาม พูดอย่างเย้าแหย่

หลี่ฝางยังคงยั่วโทสะตู้เฟย และตู้เฟยก็ดูออกว่าจะทนไม่ไหวแล้ว

“หุบปากนะ ไอ้ระยำ ”

ตู้เฟยเสียงดังขึ้น โยนตระกล้าผลไม้ลงไปที่พื้น

เขาแยกเขี้ยวยิงฟันพุ่งตัวเข้าไปหาหลี่ฝาง แต่ถูกส้าวส้วยเตะทีเดียวไปกองอยู่กับพื้น

“กัดฉันสิ”

“นายคิดว่าคนรับใช้อย่างนาย จะกัดฉันได้จริงเหรอ”หลี่ฝางมองตู้เฟยจากมุมที่สูงกว่า หัวเราะเยาะขึ้น

“มาสิ ถ้านายมีปัญญา ก็ลุกขึ้นมาค่อยกันสักตั้ง”หลี่ฝางกวักมือให้ตู้เฟย

“หลี่ฝาง นายอย่าได้ใจไปเลย”

“พ่อนายก็คือหลอซ่าไม่ใช่เหรอ หึ นายหัวเราะเยาะว่าฉันเป็นหมาข้างถนน แล้วเขาล่ะ เขาก็เหมือนกับฉัน สามปีก่อนก็ถูกสี่ตระกูลใหญ่ไล่ออกจากเมืองเอกไปว เขาก็เป็นหมาข้างถนนตัวหนึ่งเหมือนกัน ”

ตู้เฟยมุมปากยกขึ้น ยิ้มเสียงเย็น “ตอนนี้เขากลับมาแล้ว แต่สุดท้ายก็ต้องละอายใจตัวเอง”

หลี่ฝางอึ้งไปสักพัก ไม่คิดว่าตู้เฟยจะรู้เยอะขนาดนี้

เกรงว่าตอนที่สี่ตระกูลใหญ่ดึงตัวตู้เฟยนั้น ได้บอกทุกอย่างกับตู้เฟยแล้ว

ตู้เฟยค่อยๆตบก้นลุกขึ้นมา “หลี่ฝาง ไม่คิดเลยว่าข่าวของนายจะไวขนาดนี้ ฉันเพิ่งจะเข้ากับสี่ตระกูลใหญ่ นายก็รู้ซะแล้ว”

“แม้แต่เรื่องที่ฉันฆ่าพ่อฉันเอง นายก็รู้”

“นายรู้หรือเปล่าตอนที่ฉันเผชิญหน้าพ่อของฉัน มันสับสนแค่ไหน”

“นายคิดว่า ฉันอยากฆ่าเขาเหรอ”

มองหลี่ฝาง สีหน้าของตู้เฟย ก็เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน

ภายใต้สีหน้าโหดเหี้ยมของเขา แฝงแววโศกเศร้า

“พ่อฉันร้องไห้รอร้องให้ฉันทำ ถ้าฉันไม่ทำ เขาจะฆ่าตัวตาย นายรู้ไหมว่าความรู้สึกที่ต้องครุ่นคิดตัดสินใจต่อหน้าพ่อตัวเองมันเป็นยังไง”

“เกรงว่าทั้งชาตินี้นายก็ไม่มีวันรู้”

“นายรู้หรือเปล่าว่าพ่อฉันพูดอะไรเป็นครั้งสุดท้าย เขาบอกขอโทษฉัน ฉันกำลังคิดว่า เขารักฉันขนาดนี้ ยังมีอะไรต้องขอโทษอีก”

“เลี้ยงดูฟูมฟักฉันอย่างดีตั้งแต่เล็ก กลับเป็นการทำร้ายฉัน”

“หึหึ ที่จริงฉันก็เข้าใจ พ่อฉันไม่อยากอยู่แล้ว จากประธานบริษัท กลายเป็นคนที่ไม่มีอะไรเหลือเลย แม่ฉันก็ไม่สนใจเขา เขาอยู่ไป ก็คงต้องพึ่งสาวคาราโอเกะคนนั้นเลี้ยงดู เขาอยู่ไป เกรงว่าจะลำบากกว่าตายไปซะอีก”

“ในเมื่อเขาก็จะตายแล้ว เขาคิดว่า ไม่สู้ทำให้ฉันสมหวัง”

ตู้เฟยพูดไป น้ำตาเกือบจะไหลออกมาแล้ว

“หลี่ฝาง นายรู้หรือเปล่า ที่จริงฉันควรจะมีชีวิตที่มีความสุข ไม่เพียงแต่เรื่องความเป็นอยู่ ไม่ว่าฉันอยากได้อะไรก็ได้หมด แต่เพราะนาย นายทำลายทุกสิ่งของฉัน รวมถึงอนาคตของฉันด้วย ชีวิตของฉัน ครอบครัวของฉัน ”

ตู้เฟยพูด พลางกัดฟันกรอด“ฉันเกลียดนาย เกลียดจนอยากจะดื่มเลือดแกให้หมดตัว กินเนื้อของแกจนหมด แทะกระดูกแกจนไม่เหลือ”

“หลี่ฝาง ฉันจะบอกแกให้นะ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ฉันจะคอยรังควานนายตลอด”

ตู้เฟยหัวเราะอย่างโหดเหี้ยม “จะพูดความจริงกับนายก็ได้ ฉันเป็นคนหาคนมาควักลูกตาถังจิ้นเอง แล้วยังไง”

“แต่ว่า แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉันเล่า ฉันก็แค่บอกความเป็นมาของถังจิ้นออกไปเท่านั้น ส่วนพ่อแม่แท้จริงของถังจิ้น พี่ห้าวหนานแห่งRecalling the past มีศัตรูมากมายในเมืองเอก พอห้าวหนานพิการ ข้างกายยังมีคนปกป้อง แต่ถังจิ้นไม่เหมือนกัน ศัตรูคู่แค้นของห้าวหนานพวกนั้น หากรู้ว่าถังจิ้นเป็นลูกแท้ๆของห้าวหนาน ต้องคิดบัญชีกับเขาแน่ๆ”

“ที่จริง ถ้าจะโทษ ก็ต้องโทษนาย หลี่ฝาง ใครให้ถังจิ้นปกป้องนาย ช่วยนาย ถ้าเขาไม่ช่วยออกหน้าให้นาย ฉันจะแก้แค้นเขาไหม”

ตู้เฟยหรี่ตาลง หัวเราะชั่วร้าย “หลี่ฝาง นายทำร้ายถังจิ้น ”

“ไม่ใช่ฉัน”

ขณะที่ตู้เฟยพูด ซินปาก็เดินออกมาพอดี

ซินปาจิตใจหดหู่อย่างมาก และไม่ว่าจะเป็นในห้องคนไข้ หรือระเบียงทางเดิน หมอก็ไม่อนุญาตให้สูบบุหรี่

ตอนที่ซินปาเห็นตู้เฟย บนใบหน้าของเขา ก็มีแต่ความโกรธแค้นอย่างที่สุดผุดขึ้น

“ไอ้ลูกหมา ยังกล้ามาโรงพยาบาลอีก”

เดิมที่ซินปายังลังเล ว่าตัวเองจะไปหาตู้เฟยเพื่อแก้แค้นดีหรือไม่

แต่ใครจะคิด ตู้เฟยหลับเดินมาหาตัวเองถึงโรงพยาบาล

ตอนนี้ซินปา กำลังหัวร้อน มองตู้เฟย เขาพุ่งตัว เข้าไปหาทันที

หมัดของซินปา ชกไปที่ใบหน้าของตู้เฟย

หัวของตู้เฟย ไม่ทนต่อแรงต่อย

ซินปาเคยเป็นมือหนึ่งของห้าวหนานมาก่อน

แม้จะเทียบกับส้าวส้วยไม่ได้ แต่การต่อกรกับนักศึกษาธรรมดา ซินปาก็เหมือนบีบมดตัวเล็กๆให้ตาย

หมัดนี้ เตะตู้เฟยจนไปนอนกองกับพื้น

“นายมันไอ้ลูกหมา ดูสิว่าวันนี้จะจัดการแกยังไง”ซินปาพูดเสียงเย็น

โน้มตัวลงไป ชกเข้าที่ใบหน้าตู้เฟยอีกครั้ง ทุบลงไป

หลี่ฝางคิดอยากจะห้ามในทีแรก เพราะนี่เป็นประตูโรงพยาบาล มีกล้องติดอยู่ทั่ว

ถ้าต่อยตีกันตรงนี้ เหมือนรนหาที่ตาย

แต่ส้าวส้วยกลับดึงหลี่ฝางเอาไว้ ส่ายหัวให้เขา

“ทำไม”หลี่ฝางถามส้าวส้วย

ส้าวส้วยพูด “ให้ซินปาต่อย”

“แล้วถ้าเกิดเรื่องล่ะ ที่นี่มีกล้องเต็มไปหมด ถ้าตู้เฟยแจ้งความขึ้นมา ซินปา……”หลี่ฝางยังไม่ทันพูดจบซินปาก็ตัดบททันที

“กลัวอะไร ที่นี่เป็นหน้าประตูโรงพยาบาล จะมีเรื่องอะไรได้ อีกอย่างถ้ามีเรื่องแล้วยังไง”

ส้าวส้วยหัวเราะอย่างรู้สึกสนุก พูดกับซินปาว่า “ซินปา ลงมือหนักหน่อย”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท