NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 478

ตอนที่ 478

บทที่478 หมากในมือของตู้เฟย

สีหน้าของหวางเสี่ยวหยวนตะลึงไปก่อน จากนั้นก็หัวเราะขึ้นมา

“ดูเหมือนคุณชายหลี่จะสนใจพวกเรานานแล้วนะ”หวางเสี่ยวหยวนหัวเราะแห้งใส่ จากนั้นก็เอาบัตรนั้น เก็บขึ้นมาใส่ในกระเป๋ากางเกงตัวเอง

“ในเมื่อคุณชายหลี่เข้าใจพวกเราเป็นอย่างดีแล้ว งั้นพวกเราก็จะไม่ทำอะไรเกินความสามารถ”

“ผมเรียกลูกน้องเก่ากลับมา เพราะต้องการเงินทุนตั้งต้น สังคมนี้เป็นจริงมาก ผมไปหลอกขายฝันอันยิ่งใหญ่ให้พวกเขา ก็ไม่สู้กับให้พวกเขาอย่างละนิดไปเลยจริงๆ แบบนี้ในใจของพวกเขาก็จะอุ่นใจมากขึ้น”

“ส่วนที่คุณชายหลี่บอกว่าไม่คิดบัญชี ให้พวกเราใช้จ่ายตามสบาย นั่นก็ไม่ได้ คุณชายหลี่ส่งฝ่ายบัญชีมาสักคนเถอะ ถึงตอนนั้น เงินทุกบาทที่พวกเราใช้ไป ก็จะบอกเขาหน่อย ผมรู้ว่าคุณชายหลี่ใจกว้าง ไม่ได้ขาดเงิน แต่กฎก็คือกฎ จะทำพังไม่ได้”หวางเสี่ยวหยวนพูดอย่างจริงจัง

“โอเค”

หลี่ฝางพยักหน้า:“รอผมหาคนที่เหมาะสมค่อยว่ากัน”

ที่จริงสภาพทางเศรษฐกิขของพวกหวางเสี่ยวหยวน ล้วนแต่เป็นลุงเฉียนบอกหลี่ฝาง

อีกอย่าง ลุงเฉียนยังหานักบัญชีที่น่าเชื่อถือสามคนมาให้หลี่ฝางด้วย ให้พวกเขาช่วยไปจัดการดูแล แต่ถูกหลี่ฝางปฏิเสธไป

จะใช้คนก็อย่าระแวง หากระแวงใครก็อย่าใช้เขา

หลี่ฝางคิดว่า ในเมื่อเอาถิ่นให้พวกเขาแล้ว ก็ให้พวกเขาใช้กันอย่างเต็มที่ พอคะแนนออกมา ก็จะมีรางวัลให้ ถ้าฉวยโอกาสจากความวุ่นวาย ถึงตอนนั้นหลี่ฝางก็จะเอาถิ่นของพวกเขาคืนกลับมา

หลังจากหลี่ฝางออกมาจากโรงพยาบาล ก็มาที่รถของส้าวส้วย

“พวกเราจะไปไหน?มหาวิทยาลัยหรือว่า?”ส้าวส้วยถาม

“ไปมหาวิทยาลัยก่อนไป รอวันหยุดค่อยไปคฤหาสน์บ้านซาน ดูหน่อยว่าบริษัทมีเดียดำเนินการอย่างไรบ้าง”ที่ปากของหลี่ฝางพูดไป ในใจกลับคิดถึงหลินชิงชิง

หลินชิงชิงผู้หญิงคนนี้ หลังจากครั้งที่แล้วที่บล็อกตัวเองไป จนตอนนี้ก็ยังไม่อันบล็อกตัวเองคืน

ตอนที่หมดหนทางนั้นเอง หลี่ฝางจึงได้แต่วิ่งไปหาถึงที่

ส่วนส้าวส้วยนั้นก็มองความคิดของหลี่ฝางออกทันที หัวเราะไปพูดเยาะเย้ยไปว่า:“เจ้านายคิดถึงหลินชิงชิงสินะ?”

“พูดเหลวไหลอะไรกัน”

หลี่ฝางกลอกตาใส่ส้าวส้วย:“ขับรถของคุณดีๆล่ะ”

“ใช่สิ เจ้านาย ลืมบอกคุณไปเรื่องหนึ่ง ลูกพี่หลินพ่อของหลินชิงชิง หนีออกมาแล้ว”

“เขาเริ่มทำของพวกนั้นอีกแล้ว”

ส้าวส้วยขมวดคิ้ว มองหลี่ฝางแล้วพูด:“เจ้านาย คุณว่าพวกเราจะทำยังไงดี?ไปจัดการเขาไหม?”

หลี่ฝางคิดสักพักจึงพูด:“อย่าเพิ่งไปแตะต้องเขา ยังไงเขาก็คือพ่อแท้ๆของพี่ชิงชิง ถ้าแตะต้องเขาจริงๆ ความสัมพันธ์ของผมกับพี่ชิงชิง ก็จบเห่แน่”

หลี่ฝางพูดอย่างทำอะไรไม่ได้:“รอเสาร์อาทิตย์นี้ตอนที่ผมเจอพี่ชิงชิง จะบอกพี่ชิงชิงหน่อย ให้เธอไปโน้มน้าวลูกพี่หลิน ถ้าโน้มน้าวไม่สำเร็จ พวกคุณค่อยจัดการเขาก็ยังไม่สาย”

“โอเค”

ส้าวส้วยพยักหน้ารับปากไป

พอหลี่ฝางกลับไปที่หอพัก คนในหอพัก ส่วนมากก็นอนไปหมดแล้ว

และหลี่ฝางก็เหนื่อยแล้ว ตอนที่เตรียมจะนอนลง ก็มีคนมาตบผ้าห่มของหลี่ฝาง

หลี่ฝางตกใจ คว้าเปืนลิปสติกทันที

“หลี่ฝาง ผมเอง”หลี่ซ่วยซ่วยพูดเบาๆ

“ห่า คุณจะทำผมตกใจตายใช่ไหม”

หลี่ฝางมองหลี่ซ่วยซ่วยอย่างแปลกใจ จึงถาม:“ดึกขนาดนี้คุณยังไม่นอนอีก ทำอะไรอยู่เหรอ?”

“ผมมาหาคุณเพราะมีเรื่องนิดหน่อย เราสองคนออกไปคุยกันเถอะ”หลี่ซ่วยซ่วยพูด

“ผมเพิ่งถอดเสื้อผ้า”หลี่ฝางไม่ค่อยเต็มใจนัก

“สวมกางเกงขาสั้นก็ได้”

หลี่ซ่วยซ่วยพูด:“ไปเถอะ”

ตามหลี่ซ่วยซ่วยไป แล้วมาที่สุดทางเดิน

หลี่ซ่วยซ่วยหยิบบุหรี่จงหวาอันใหม่หนึ่งกล่องมาจากกระเป๋า แกะออกแล้วยื่นให้หลี่ฝางมวนหนึ่ง:“สูบสิ หลี่ฝาง”

หลี่ฝางตะลึงเล็กน้อย สถานะครอบครัวของหลี่ซ่วยซ่วยนั้นหลี่ฝางรู้ดี ปกติอยู่ที่โรงอาหาร มักจะกินผักกาดขาวที่ถูกที่สุด

แต่ตอนนี้ เขากลับซื้อบุหรี่จงหวาที่หกสิบหยวน

หลี่ฝางรู้สึกทันทีว่าผิดปกติ จึงถามว่า:“มีอะไรก็ว่ามา ความสัมพันธ์ของเราสองคน ไม่จำเป็นต้องปลอมขนาดนี้”

หลี่ซ่วยซ่วยชักสีหน้าหน่อยๆ จากนั้นก็หัวเราะหึหึ:“ซื้อมาแล้ว คุณสูบเถอะ”

“บุหรี่แพงแบบนี้ ที่หมู่บ้านพวกเรา มีแค่ผู้ใหญ่บ้านที่สูบได้”หลี่ซ่วยซ่วยหัวเราะ พูดไป

หลี่ฝางหัวเราะเหอะเหอะ:“หนาวมาก คุณพูดกับผมตรงๆเถอะเรื่องอะไร?ที่บ้านเกิดปัญหาหรือเปล่า?”

หลี่ฝางไม่ใช่คนใจแคบ ผ่านการคบมาระยะหนึ่งแล้ว หลี่ฝางก็รู้ดีว่านิสัยของหลี่ซ่วยซ่วย ตรงไปตรงมา ซื่อสัตย์

ถ้าหลี่ซ่วยซ่วยลำบาก หลี่ฝางยื่นมือช่วยแน่นอน

“ที่บ้านผมไม่เกิดเรื่องอะไรหรอก แต่เป็นทางไห่เย่น……ตอนนี้เธอเป็นเซลล์ ปัจจุบันในมือเธอมีโครงการหนึ่ง ต้องการร่วมมือกับพวกคุณ เธอถามผมว่าช่วยไปหาคุณ ให้คุณช่วยได้ไหม”

“ไห่เย่นพูดว่า แค่คุณพูด เรื่องนั้น ก็จะสำเร็จ”

หลี่ซ่วยซ่วยหัวเราะ พูดว่า:“หลี่ฝาง คุณสามารถ ……”

หลี่ซ่วยซ่วยยังไม่ทันพูดจบ หลี่ฝางก็ส่ายหน้าพูดว่า:“ไม่ได้”

“หลี่ซ่วยซ่วย คุณโง่หรือเปล่า?ไห่เย่นหลอกใช้คุณเพื่อเข้าใกล้ผม เพื่อได้ผลประโยชน์ของตัวเองชัดๆ”

หลี่ฝางทนไม่ไหว จึงพูดตรงๆ:“หรือว่าคุณมองไม่ออกเหรอ?”

ตอนกลางวันที่หลี่ฝางห้ามหวางเสี่ยวโก๋ไว้ ไม่ให้หวางเสี่ยวโก๋พูด เพราะว่าไม่มีหลักฐาน

แต่ตอนนี้ หางจิ้งจอกของไห่เย่โผล่ออกมาแล้ว หลี่ฝางก็ไม่เกรงใจแล้ว

และก็ไม่รู้ว่าหลี่ซ่วยซ่วยโง่จริง หรือว่าแกล้งโง่

“หลี่ฝาง คุณอย่าเพิ่งปฏิเสธ ผมรู้ว่าทำธุรกิจจะเอาแต่พูดเรื่องธุรกิจไม่ได้……ดังนั้นพรุ่งนี้พวกเราอยากเลี้ยงข้าวคุณสักมื้อ จากนั้นก็เอาสัญญาให้คุณดู ถ้าคุณคิดว่าได้ ก็ช่วยไห่เย่นหน่อย และก็ถือว่าช่วยผมด้วย”

หลี่ซ่วยซ่วยพูด:“ถ้าสัญญานี้มีปัญหา คุณค่อยปฏิเสธก็ไม่สาย”

มองหลี่ซ่วยซ่วยแวบหนึ่ง หลี่ฝางไม่รู้ว่าควรพูดอะไรดี

ยังไงซะกินข้าวมื้อเดียวก็คงไม่มีคนตายหรอก หลี่ฝางพยักหน้า จึงรับปากตกลงไป:“โอเค”

พอรับปากไป หลี่ฝางก็หันหน้า เตรียมไปนอน

แต่ตอนที่หันหน้านั้น หลี่ฝางก็มองเห็นใบหน้าที่คุ้นเคย

ตู้เฟย!

ตอนกลางวันตู้เฟยถูกทำร้ายเกือบตาย คิดไม่ถึงว่าตอนนี้ จะออกจากโรงพยาบาลแล้ว

ตู้เฟยมองหลี่ฝางด้วยรอยยิ้มร้ายกาจ พูดว่า:“คุณชายหลี่ บังเอิญมากเลย ออกมาสูบบุหรี่ก็มาเจอคุณได้”

ไม่รู้ว่าทำไม หลี่ฝางเห็นตู้เฟย ก็เหมือนกับเห็นผี

ที่ใบหน้าตู้เฟย ตอนนี้จมูกยังบวมเขียวอยู่ ในมือเขาถือบุหรี่ บนตัวไม่สวมอะไร ส่วนด้านล่างสวมแค่กางเกงขาสั้น

เห็นที่ตัวเขาไม่มีอาวุธ ในใจของหลี่ฝางก็โล่งอก

“ใช่บังเอิญหรือเปล่า ในใจคุณรู้ดี”

หลี่ฝางขมวดคิ้ว มองไปที่ตู้เฟย:“ตู้เฟย ผมแนะนำคุณนะ ไปซะเถอะ คุณไม่ใช่คู่ต่อสู้ผม สู้กับผมต่อไป คุณจะไม่เหลือชีวิตได้”

“คุณชายหลี่ คุณกำลังขู่ผมเหรอ?ตอนนี้เป็นสังคมมีกฎหมาย คำพูดเมื่อกี๊ ผมฟ้องได้นะว่าคุณข่มขู่น่ะ”ตู้เฟยพูดขำๆ

หลี่ฝางส่ายหน้า ข้ามจากข้างตัวตู้เฟย

“นี่คือคำแนะนำ ตระกูลจูเก่อก็แค่กำลังหลอกใช้คุณเท่านั้นแหละ”หลี่ฝางขมวดคิ้วพูด

“คุณชายหลี่ไม่ต้องเตือนผม ตอนนี้ผมมีสติกว่าใคร เมื่อก่อนผมเองที่โง่ ใช้ชีวิตอย่างสับสน ตอนนี้อะไรผมก็เข้าใจหมดแล้ว”

“ก็แค่คุณชายหลี่ตอนนี้คุณให้ผมกลับตัว สายไปหน่อยหรือเปล่า?”

“ผมไม่เหลืออะไรแล้ว คุณให้ผมกลับตัว ผมกลับตัวแล้วได้อะไร?”

“พ่อผมตายแล้ว บริษัทก็ล้มละลายแล้ว หยูเต๋อส่วยหัวหน้าครอบครัวตระกูลหยูในตอนนี้ คือคนของคุณสินะ?”

“คุณชายหลี่ คุณนี่มันจอมปลอมจริงๆ คุณให้ผมไป แต่ว่า ผมจะไปทางไหนล่ะ?คุณรู้ไหม คุณได้ขับไล่ผมไปสู่ความตายแล้ว ?”

“ผมหมดหนทางแล้ว”

มองไปที่หลี่ฝาง สีหน้าตู้เฟยดูน่ากลัว:“ตอนนี้ทางเดียวที่ผมมี ก็คือลากคุณ ไปตายด้วยกัน”

“เหอะเหอะ”

หลี่ฝางหัวเราะ หันหน้าไป มองที่ตู้เฟย:“ตู้เฟย คุณบอกว่าอยากลากผมไปตายด้วยกัน เป็นไปได้เหรอ?”

“ผมคือคุณชายตระกูลหลี่ที่สง่างาม แล้วคุณล่ะ?ก็แค่หนอนน่าสงสารที่ถูกคนรับเลี้ยงมาก็เท่านั้น”

“ถึงเป็นตระกูลจูเก่อที่อยู่เบื้องหลังคุณ ก็ไม่มีสิทธิ์มาพูดแบบนี้กับผม แล้วคุณมีสิทธิ์อะไร?”

หลี่ฝางหัวเราะออกมาอย่างหมดคำพูด:“เวลาก็ดึกมากแล้ว รีบไปนอนก่อนเถอะ”

หลี่ฝางพูดจบ ก็อยากต่อยไปอีก

แต่หลี่ซ่วยซ่วยถามเบาๆ:“หลี่ฝาง ให้ผมช่วยคุณสั่งสอนเขาสักหน่อยมั้ย?”

หลี่ฝางส่ายหน้า จู่ๆก็นึกถึงตัวอย่างถังจิ้น

“อยู่ให้ไกลเขาหน่อย”หลี่ฝางพูดเตือนหลี่ซ่วยซ่วย

แต่เวลานี้เอง ตู้เฟยก็หัวเราะฮ่าฮ่าออกมา:“คุณชายหลี่ คุณคิดว่าในมือผมไม่มีหมากสักนิดเลยจริงๆเหรอ?”

“ไม่งั้นคุณโทรหาลู่หลุ่ยไหมล่ะ ถามเธอดูว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไหน?

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท