NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 473

ตอนที่ 473

บทที่473 คนที่คำสัญญาสำคัญยิ่งกว่าชีวิตของตัวเอง

พูดถึงก็มาเลยจริงๆ เพิ่งพูดถึงหลอซ่า พ่อตัวเองก็โทรมา

หลี่ฝางเดินหน้าเข้าไป กดปุ่มรับ:“พ่อ ทำไมจู่ๆพ่อถึงโทรมาล่ะ?”

“ทางลูกเรียบร้อยดีใช่ไหม?”หลี่ต๋าคางถาม

“เรียบร้อยอะไร?”หลี่ฝางไม่ค่อยเข้าใจความหมายของพ่อตัวเอง

“หวางเสี่ยวหยวน หวงว่างโก๋คนพวกนั้น พวกเขารับปากจะทำธุระให้ลูกหรือยัง?ถ้าไม่รับปาก พ่อก็จะไป ช่วยลูกจัดการ”หลี่ต๋าคางพูด

หลี่ต๋าคางกับลุงเฉียนต่างคิดว่า หวางเสี่ยวหยวน ไม่รับปากง่ายๆแน่

ดังนั้นหลี่ต๋าคางจึงมา ตอนที่จำเป็น เขาก็แค่ปรากฏตัว

ที่จริงเมื่อสามปีก่อน หวางเสี่ยวหยวนและคนอื่น ต่างอยากติดตามหลี่ต๋าคาง แต่ หลี่ต๋าคางไม่รับพวกเขาเท่านั้นเอง

สาเหตุที่สำคัญที่สุด ก็คือหวางเสี่ยวหยวนคนพวกนี้ ขาดคุณสมบัติบางอย่าง

“รับปากแล้วครับ”

หลี่ฝางพยักหน้า พูด:“แต่พวกเขารู้ตัวตนหลอซ่าของพ่อ”

“เหอะเหอะ ลงมือเมื่อเห็นเป้าหมายที่ชัดเจนเท่านั้น กลับเป็นเรื่องปกติ”

หลี่ต๋าคางหัวเราะเหอะเหอะพูดว่า:“ในเมื่อพวกเขารับปากแล้ว ลูกก็อย่าอยู่ต่อ ออกมาก่อน พ่อจะพาลูกไปที่หนึ่ง”

“พ่อ พ่อจะพาผมไปที่ไหน?”หลี่ฝางถามอย่างแปลกใจ

“เดี๋ยวลูกก็รู้เอง”หลี่ต๋าคางพูดถึงจุดสำคัญก็หยุดลง จากนั้นก็วางสาย

หลี่ฝางหันไปมองส้าวส้วยอวบหนึ่ง พูดว่า:“พ่อผมมาแล้ว”

“เขาบอกว่าจะพาผมไปที่หนึ่ง”หลี่ฝางพูดจบ จากนั้นก็จากไป

ส้าวส้วยพยักหน้า:“งั้นพวกเราไปกันเถอะ”

หวางเสี่ยวหยวนก็ตามขึ้นมา ส้าวส้วยขมวดคิ้ว:“ตัวคุณรู้ความลับของสี่ตระกูลใหญ่จริงๆเหรอ?”

“รู้จริงๆ”

หวางเสี่ยวหยวนพยักหน้า พูดถามย้อน:“พี่ชาย คุณว่า ผมจะกล้าหลอกหลอซ่าไหม?”

“แน่นอนว่าคุณไม่กล้า”ส้าวส้วยหัวเราะเหอะเหอะ ก็ให้หวางเสี่ยวหยวนตามขึ้นมา

มาถึงหน้าร้านอาหาร ส้าวส้วยรีบเดินก้าวไป มาถึงหน้าออดี้สีขาว จากนั้นก็เอนไปในรถ แล้วพูดกับหลี่ต๋าคาง

ทันใดนั้นหลี่ต๋าคางก็สนใจ:“เรียกเขามาสิ”

ส้าวส้วยจึงโบกมือให้หวางเสี่ยวหยวน ให้เขาเข้าไป

ตอนที่หวางเสี่ยวหยวนเห็นใบหน้าที่แท้จริงของหลอซ่า ก็ตกใจเล็กน้อย:“ท่านคือหลอซ่า?”

หลี่ต๋าคางพยักหน้า

“เล่ากันว่าหลอซ่าไม่เคยใช้ใบหน้าที่แท้จริงเจอผู้คน มักจะสวมหน้ากากผีตลอด”หวางเสี่ยวหยวนมองหลี่ต๋าคางด้วยใบหน้าสงสัย เขามักจะรู้สึกว่าหลี่ต๋าคางกำลังแอบอ้างเป็นหลอซ่า

หลี่ต๋าคางได้แต่หัวเราะเหอะเหอะ:“ไม่จำเป็นหรอก”

“สี่ตระกูลใหญ่รู้แล้วว่าผมหน้าตาอย่างไร และตอนนี้ผมก็เปลี่ยนโฉมใหม่แล้ว ผมในตอนนี้ เป็นนักธุรกิจ”

“เรียกอีกอย่างว่า หลอซ่าตายไปแล้ว”หลี่ต๋าคางพูด

หลี่ต๋าคางพูดจบ ก็ออกมาจากรถ

หลี่ต๋าคางเดินมาที่ตรงหน้าของหวางเสี่ยวหยวน ตบไหล่ของเขา:“ไปเถอะ พวกเราไปคุยกันที่ตรงข้าม”

หลี่ต๋าคางปลีกตัวจากส้าวส้วยกับหลี่ฝาง ตามหวางเสี่ยวหยวนมาที่ตรงข้ามถนน

“พูดมาสิ คุณรู้ความลับอะไรของสี่ตระกูลใหญ่?”

หลี่ต๋าคางถามไปตรงๆ

“จะพิสูจน์ยังไงว่าคุณคือหลอซ่า?”หวางเสี่ยวหยวนยังเต็มไปด้วยความสงสัย

“ไม่มีใครกล้าแอบอ้างเป็นหลอซ่า และก็ไม่มีใครโง่ถึงขนาดแอบอ้างเป็นหลอซ่า”หลี่ต๋าคางหัวเราะไปพูดไป

สีหน้าหวางเสี่ยวหยวนเปลี่ยนนิดๆ จากนั้นก็หัวเราะขึ้นมา:“พูดก็ถูก”

“ตอนนั้นหลังจากที่ผมเพิ่งยืนหยัดย่างก้าว สี่ตระกูลใหญ่ก็มาหาผม ส่งคนมาเจรจากับผมไม่หยุด”

หวางเสี่ยวหยวนพูดถึงตรงหน้า ทันใดนั้นในป่าก็มีเสียงปืนดังขึ้น

และกระสุนลูกหนึ่ง ก็ยิงไปที่บนหน้าอกของหวางเสี่ยวหยวน

เดิมทีหลี่ต๋าคางที่ในมือคีบบุหรี่อยู่นั้น พอมองเห็นกระสุนนี้ เขาก็วางบุหรี่ลงทันที แล้ววิ่งเข้าไปในป่า

ส้าวส้วยก็ขมวดคิ้ว รีบคุ้มครองหลี่ฝาง

“นี่ใช่มือปืนซุ่มยิงไหม?”หลี่ฝางถามอย่างกังวล

ส้าวส้วยพยักหน้า

“ดูเหมือนพี่หวางจะถูกยิง”หลี่ฝางพูดด้วยใบหน้ากังวล

จากนั้น หลี่ฝางก็ไม่สนใจอันตราย รีบวิ่งเข้าไป ประคองหวางเสี่ยวหยวนไว้

หวางเสี่ยวหยวนขมวดคิ้ว ใบหน้ามีเหงื่อไหล เขาใช้มืออุดหน้าอกของตัวเองไว้:“คุณชายหลี่ ผมไม่เป็นไร”

“กระสุนยังไม่โดนหัวใจของผม”หวางเสี่ยวหยวนพูด

แค่ไม่ยิงโดนหัวใจ โดยทั่วไปก็จะไม่ตาย

และตอนนี้ หลี่ฝางก็ยิ่งเป็นห่วงหลี่ต๋าคาง พ่อของตัวเอง

หลี่ต๋าคางวิ่งเข้าไปในป่า ในป่านี้ มีมือปืนซุ่มยิงอยู่

ทันใดนั้น ในป่าก็มีเสียงปืนสองนัดดังขึ้น หัวใจของหลี่ฝางก็ตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม

ดีที่ หลี่ต๋าคางกลับมาอย่างปลอดภัย

และนาทีที่หลี่ต๋าคางกลับมา หวางเสี่ยวหยวนก็มองหลี่ต๋าคางด้วยใบหน้าซับซ้อน พูดว่า:“ผมไม่รู้ว่าควรจะแค้นหรือว่าขอบคุณคุณดี”

“คุณรู้อยู่แล้วว่ามีมือปีนซุ่มอยู่ในป่า ใช่ไหม?”หวางเสี่ยวหยวนมองหลี่ต๋าคางอย่างข้องใจ

หลี่ต๋าคางส่ายหน้า:“ผมไม่ใช่เทวดา”

“งั้นคุณทำได้ไง?”

เมื่อกี๊ตอนที่กระสุนยิงออกมา หลี่ต๋าคางชนหวางเสี่ยวหยวนเล็กน้อย

เดิมที กระสุนสามารถยิงใส่หัวใจของหวางเสี่ยวหยวนได้ แต่การชนของหลี่ต๋าคางนั้น ทำให้กระสุนยิงใส่ตำแหน่งอื่น

ถ้าไม่ใช่หลี่ต๋าคาง หวางเสี่ยวหยวนก็ตายไปแล้ว

หลี่ต๋าคางพูด:“เธอพุ่งมาที่คุณ ดูเหมือน ที่ตัวคุณจะมีความลับของสี่ตระกูลใหญ่ซ่อนไว้จริงๆ”

“แค่คุณเจอผม เธอก็จะฆ่าคุณ”

หลี่ต๋าคางมองไปที่หวางเสี่ยวหยวนแล้วพูดว่า:“คุณถูกจับตาดูมานานแล้ว”

หวางเสี่ยวหยวนได้ยินคำนี้ ที่ใบหน้าก็เผยความหวาดกลัว

“ลูกพี่ เมื่อกี๊คือ?”ส้าวส้วยมองหลี่ต๋าคาง แล้วถาม

“คือเธอ”หลี่ต๋าคางพยักหน้า

“คุณปล่อยเธอแล้ว?”ส้าวส้วยถามต่อ

“เธอเก่งเอง หนีมาเอง”หลี่ต๋าคางส่ายหน้า พูดไป

เห็นได้ชัดว่า มือปืนซุ่มยิงนี้ ถือว่าเป็นคนสนิทของหลี่ต๋าคางกับส้าวส้วย

หนีได้ในเงื้อมมือของหลี่ต๋าคาง ก็เพียงพอที่จะบอกว่ามือปืนซุ่มยิงนี้ ไม่ใช่ตัวละครธรรมดา

ส้าวส้วยถอนหายใจ ไม่ได้พูดอะไรต่อ

หลี่ต๋าคางพูดกับส้าวส้วย:“คุณส่งหวางเสี่ยวหยวนไปที่โรงพยาบาลเถอะ”

“ผมจะไปทำเรื่องหนึ่งกับเสี่ยวฝาง”หลี่ต๋าคางพูด

“ความลับของผมยังไม่พูดเลย”หวางเสี่ยวหยวนพูด

“รอเมื่อไหร่คุณรักษาแผลหาย เมื่อนั้นค่อยพูดเถอะ ตอนนี้ไม่รีบร้อน”หลี่ต๋าคางพูดอย่างไม่แคร์

สีหน้าหวางเสี่ยวหยวนอึ้งหน่อยๆ

ยังไงความลับนี้พูดออกไป ก็ต้องการเวลาแค่ไม่กี่วินาทีเอง

หลี่ต๋าคาง ดันไม่รีบร้อนที่จะรู้?

เมื่อกี๊มีมือปืนซุ่มยิงอยากฆ่าตัวเอง ก็เพียงพอที่จะบอกความสำคัญของความลับนี้

หวางเสี่ยวหยวนหัวเราะ มองหลอซ่า:“คุณไม่เหมือนคนทั่วไปจริงๆ”

“อย่าคิดว่าผมเจ๋งมากนัก”

หลี่ต๋าคางส่ายหน้า พูดด้วยท่าทางนิ่งๆ:“ถ้าผมเจ๋งเหมือนที่เขาเล่าลือกันจริงๆ จะหนีหัวซุกหัวซนไปทำไมกัน?”

หลี่ต๋าคางพูดจบ ก็พาหลี่ฝางขึ้นรถออดี้

ส่วนหวางเสี่ยวหยวนก็เข้าไปข้างในเบนซ์G-Classของส้าวส้วยทันที

“คนที่ยิงจะฆ่าผม พวกคุณรู้จัก?”

ข้างในเบนซ์G-Class หวางเสี่ยวหยวนมองส้าวส้วย ถามอย่างแปลกใจ

“เธอคือคนของพวกเรา”ส้าวส้วยพยักหน้า ไม่ได้ปิดบัง พูดออกมาตรงๆ

“คนของพวกคุณ?คนของพวกคุณยิงปืนเกือบจะฆ่าผม?”สีหน้าของหวางเสี่ยวหยวนเปลี่ยนทันที

“แต่เธอหักหลัง”

ส้าวส้วยพูดอธิบาย:“ไม่อย่างนั้น คุณคิดว่า เธอจะหนีได้เหรอ?”

“สามปีก่อน คนที่หนีจากเงื้อมมือของลูกพี่พวกเราได้ มีไม่กี่คน”

“ตอนนี้ ก็ยิ่งไม่มีเลย”

พูดจบ ส้าวส้วยก็ส่ายหน้าถอนหายใจแล้วพูด:“สุดท้ายลูกพี่ก็ยังไม่ลืมเรื่องเก่าๆ”

หวางเสี่ยวหยวนพูดไม่จบ ยังไงความรู้สึกส่วนตัวของหลอซ่า เขาก็ไม่กล้าวิจารณ์มั่วๆ

ส่วนอีกด้าน หลี่ฝางกำลังนั่งรถในของหลี่ต๋าคาง ถามว่า:“พ่อ พ่อจะพาผมไปไหน?”

“ลูกไม่รู้อยู่แก่ใจเหรอ?”

หลี่ต๋าคางเหลือบมองหลี่ฝาง พูดอย่างเซ็งๆ

หลี่ฝางตะลึงเล็กน้อย คิดแค่ว่าทางตรงหน้านี้ ดูคุ้นหน่อยๆ

ทันใดนั้น หลี่ฝางก็คิดขึ้นมา นี่คือทางจะไปบ้านของซุนจิ้นนี่

จู่ๆหลี่ฝางก็นึกขึ้นได้ ตัวเองรับปากว่าจะเล่นหมากรุกกับท่านซุน แต่ตอนนี้ กลับลืมซะสนิทเลย

“พ่อจะพาผมไปที่บ้านท่านซุน?”หลี่ฝางถามอย่างรู้เท่าทัน

หลี่ต๋าคางพยักหน้า พูดด้วยสีหน้าซีเรียสหน่อยๆ:“ลูกไปพูดแล้วผิดคำพูดกับใครๆก็ได้ แต่สัญญากับคุณท่านนั่นแล้ว อย่าได้ลืมเด็ดขาด”

“เพราะว่าเขาคือคนที่เห็นว่าคำสัญญา สำคัญยิ่งกว่าชีวิต”หลี่ต๋าคางพูดเบาๆ

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท