NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 490

ตอนที่ 490

บทที่490 พวกเราคืนดีกันเถอะ

หัวของตู้เฟย ไม่ได้เงยขึ้นมา

กองเลือด เปียกไปทั่วรอบๆของตู้เฟย

ตู้เฟยก็ตายไปเช่นนี้

ในใจของหลี่ฝาง ไม่ได้ดีใจมากนักอย่างที่จินตนาการไว้

จนกระทั่ง ในใจของหลี่ฝางไม่มีความรู้สึกดีใจเลยสักนิด

หรืออาจจะเพราะคำสำนึกผิดก่อนตายของตู้เฟย เขาพยายามที่จะขอโทษ จนกระทั่งช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต ก็ยังคุกเข่าให้ตัวเอง ไม่มีการข่มขู่และบีบบังคับ

ตู้เฟยก็แค่แสดงความขอโทษครั้งสุดท้ายของเขา

หลี่ฝางรู้สึกถึงคำขอโทษที่จริงใจของตู้เฟย ในใจก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาหน่อย

พูดตรงๆแล้ว ในชั่วพริบตาเดียวเมื่อครู่นั้น หลี่ฝางอยากจะปล่อยตู้เฟยจริงๆ

พ่อแม่แท้ๆต่างตายในมือของตัวเอง สำหรับตู้เฟยแล้ว มันก็โหดร้ายเกินไป

ถึงแม้ตู้เฟยใช่คนดีอะไร แต่ก็ไม่ควรได้รับการถูกกระทำเช่นนี้

หลี่ฝางส่ายหน้า พูดกับตู้เฟยที่ตายไปว่า:“โอเค ผมให้อภัยคุณ”

ทันใดนั้น หลี่ฝางก็เหมือนยกภูเขาออกจากอกหน่อยๆ

หลี่ฝางตะโกนเรียกซุนจิ้น ที่อยู่ข้างนอก

ซุนจิ้นวิ่งเข้ามา มองศพของตู้เฟย พูดด้วยสีหน้านิ่งๆ:“คุณชาย พวกเราไปเถอะ”

“อือ”

หลี่ฝางพยักหน้า ตอบรับไป ก็พูดกับซุนจิ้นไปว่า:“เอาศพของตู้เฟยกับแม่เขา แบกไปด้วย”

“แบกไปทำไมครับ ทิ้งไว้นี่ก็ดี เดี๋ยวผมเอาน้ำมันเข้ามา แล้วเผาตรงนี้เลย”ซุนจิ้นขมวดคิ้ว พูด

นอกจากตู้เฟยกับแม่เขาแล้ว ยังมีศพจำนวนไม่น้อยอยู่ที่นี่อีก

ซุนจิ้นคิดจัดการไปพร้อมกันหมด

แต่หลี่ฝางกลับส่ายหน้า แล้วพูด:“แบกพวกเขาออกไป”

“ผมแบกตู้เฟย คุณแบกแม่ของเขา”หลี่ฝางพูดยืนหยัด

“คุณชาย นี่มันจำเป็นเหรอ?เจ้าเด็กนี่ไม่ได้เป็นมิตรกับพวกเราเท่าไหร่นัก กลับกัน เรื่องวันนี้ เป็นเจ้าเด็กนี่ที่ก่อเรื่องเอง ตายอยู่นี่ เขาสมควรแล้ว”ซุนจิ้นพูด

“แม่เขาคือผู้บริสุทธิ์ ถ้าไม่ใช่พวกเรา แม่เขาก็คงไม่ตาย”หลี่ฝางพูดโทษตัวเองหน่อยๆ

ถึงแม้ตู้เฟยสมควรตาย แต่แม่ของตู้เฟย กลับไม่ควร

“คุณชาย งานหยาบๆแบบนี้ผมจัดการเองดีกว่า ยังไงแบกศพตอนดึกๆแบบนี้ ก็ไม่มงคล”

ด้วยความที่ทำอะไรไม่ได้ ซุนจิ้นจึงได้แต่เอาตู้เฟยกับแม่เขา อุ้มขึ้นมาด้วยมือคนละข้าง

ซุนจิ้นแบกสองศพไว้พร้อมกัน แต่ฝีเท้าที่เดินนั้นกลับไม่ตื่นตระหนกเลย

ตอนที่มาหน้าประตู หลี่ฝางก็มองเห็นส้าวส้วยกับจูเก่อชิง

ทั้งสองยืนรอหลี่ฝางอยู่ข้างนอก

เห็นตู้เฟยถูกฆ่า จูเก่อชิงก็หัวเราะนิ่งๆ:“คิดไม่ถึงว่าคุณจะโหดขนาดนี้”

“ผมคิดมาตลอดว่าคุณมันคนไม่เอาไหน คิดไม่ถึงว่าจะกล้าฆ่าคน”

มุมปากของจูเก่อชิงยิ้มอย่างเย็นชา ก่อนหน้านี้ เขาเคยถามเกี่ยวกับหลี่ฝาง

ก่อนหน้านี้ จูเก่อชิงรู้ว่า หลี่ฝางไม่เคยฆ่าคน

“นี่คือครั้งแรกที่คุณฆ่าคนสินะ?เป็นไงบ้าง รู้สึกอย่างไร ในใจตื่นตระหนกไหม กลัวหรือเปล่า?”

จูเก่อชิงพูดด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย:“ตอนที่ฆ่าตู้เฟย มือสั่นไหม?”

หลี่ฝางไม่พูด ที่จูเก่อชิงพูดทั้งหมดนี้ หลี่ฝางไม่รู้สึกเลย

ตอนที่หลี่ฝางฆ่าตู้เฟย ทำอย่างง่ายดายมาก เหมือนกับมือฉมังที่ฆ่าคนมาเยอะแล้ว

“ไปเถอะ”หลี่ฝางพูดเบาๆ

“ครั้งแรกฆ่าคนก็แบบนี้ ค่อยๆชินก็จะดีเอง ครั้งแรกที่ผมฆ่าคน ฝันร้ายไปหลายตลบ เชื่อว่าคุณก็จะด้วย”

“ยินดีด้วยนะ ในที่สุดก็กลายเป็นฆาตกร”

“หลี่ฝาง ฆ่าคนแล้วจะเสพติดนะ ต่อไป คุณก็จะเหมือนพ่อคุณ กลายเป็นปีศาจสังหาร”

ตลอดทาง จูเก่อชิงไม่หยุดพูด

หลี่ฝางทนไม่ไหว หยุดฝีเท้าลงแล้วขมวดคิ้ว:“ส้าวส้วย ตบเขาสักสองสามที ให้เขาหุบปาก”

“อือ ผมก็ฟังจนรำคาญ”

ส้าวส้วยพยักหน้า แล้วตบไปที่หน้าของจูเก่อชิงสองฉาด

เลือดเต็มไปทั่วหน้าของจูเก่อชิง ที่ปากกลับพูดต่อว่า:“เหอะเหอะ เก่งนักก็ตัดลิ้นของผมสิ”

“แค่ไม่กี่ฉาดก็จะให้ผมหุบปาก นี่มันดูถูกคุณชายไปหน่อยไหม?”

จูเก่อชิงพูดอย่างไม่พอใจ

หลี่ฝางพยักหน้า หยิบมีดออกมาจากอ้อมแขนให้ส้าวส้วย:“แต่ไหนแต่ไรมาผมไม่เคยได้ยินคำขอที่ต่ำตมได้ขนาดนี้”

“ส้าวส้วย ทำตามความประสงค์เขา ตัดลิ้นของเขาซะ”

หลี่ฝางพูดด้วยสีหน้าราบเรียบ

ที่ตัวหลี่ฝางในตอนนี้ มีความโหดเหี้ยมที่จะฆ่าอย่างเด็ดขาด

บางทีอาจจะเกี่ยวข้องกับที่เพิ่งฆ่าไปเมื่อกี๊ก็เป็นได้

ตอนที่มองเห็นส้าวส้วยรับมีดไป จูเก่อชิงขี้ขลาดทันที

“ผมแค่ล้อเล่นเท่านั้น ทำไมต้องจริงจังด้วย ผมหุบปาก ผมจะหุบปากโอเคไหม?”จูเก่อชิงพูดจบ ก็หุบปากทันที

ส้าวส้วยมองหลี่ฝางแวบหนึ่ง หลี่ฝางส่ายหน้า แล้วพูด:“ในเมื่อเขายอมรับว่ากลัว งั้นก็ไว้ลิ้นของเขาก่อนละกัน”

จูเก่อชิงมองสายตาของหลี่ฝาง ในที่สุดก็มีความกลัว

มาตรงหน้าของรถ ซุนจิ้นเอาตู้เฟยกับแม่เขา ใส่เข้าไปในตู้รถ

จากนั้นก็เทน้ำมันเล็กน้อย แล้วเดินกลับไป

เขาจะจัดการที่ลานกว้างนี้

ยังไงด้านในก็มีศพตั้งมากมาย ถ้าไม่จัดการ จะเกิดปัญหาได้

หลี่ฝางในตอนนี้ แทบจะรอไม่ไหวที่จะเจอลู่หลุ่ยแล้ว

ลู่หลุ่ยเห็นหลี่ฝาง ก็ลงจากรถทันที

“ลู่หลุ่ย”

หลี่ฝางพุ่งเข้าไป ไม่กี่วินาทีก็มาถึงตรงหน้าของลู่หลุ่ย แล้วมองสำรวจไปมารอบหนึ่ง

หลี่ฝางเม้มปาก พูดอย่างใส่ใจ:“คุณไม่เป็นไรใช่ไหม?พวกเขาไม่ได้ทำร้ายคุณใช่ไหม?”

“ฉันไม่เป็นไร พวกเขาแค่ขังฉันไว้ในไม้ เหมือนกับโลงศพ ข้างในปิดล็อกหมดเลย ฉันยังคิดว่าจะตายแล้ว จะไม่ได้เจอคุณอีก ดีที่คุณลุงช่วยฉันออกมาในนาทีสุดท้าย”ลู่หลุ่ยพูดด้วยเสียงนุ่มๆ

“ลู่หลุ่ย คุณเพิ่งพูดอะไรน่ะ?”

หัวใจของหลี่ฝาง ตื่นเต้นทันที:“เมื่อกี๊คำพูดของคุณหมายความว่า ในหัวที่คุณคิดไว้สุดท้าย ก็คือผม!”

ทั้งตัวหลี่ฝางก็กลายเป็นดีใจอย่างสุดๆ ลู่หลุ่ยคิดถึงก่อนจะตายนั้น ดันเป็นอยากเจอหน้าตัวเอง

หน้าของลู่หลุ่ย แดงทันที ยังไงก็เลิกกันแล้ว ลู่หลุ่ยจึงรีบอธิบาย:“ฉันไม่ได้หมายความอย่างนั้น”

“งั้นคุณหมายความว่ายังไง”

หลี่ฝางใช้ความกล้า คว้ามือของลู่หลุ่ยทันที แล้วพูด:“ลู่หลุ่ยคุณยอมรับเถอะ ผมรู้ว่าในใจคุณยังมีผม”

“ในใจของผมก็มีคุณ ถ้าไม่อย่างนั้นเราสองคนคืนดีกันนะ ครั้งที่แล้วผมผิดเอง ผมขอโทษคุณนะ ขอโทษ”

“ผมก็ไตร่ตรองเรื่องนี้แล้ว ผมไม่ควรจะใจคุณผิด ที่จริงคุณก็มีปัญหาของคุณ ผมควรจะเข้าใจคุณ และเชื่อใจคุณ ไม่ควรจะใส่อารมณ์ขนาดนั้น แล้วทำเรื่องที่ทำร้ายคุณไป”

หลี่ฝางมองลู่หลุ่ย แล้วขอโทษอย่างจริงใจ

ที่จริง หลี่ฝางไม่คิดว่าตัวเองทำผิดอะไร ที่ตัวเองโมโห หมายความว่าในใจของตัวเองยังแคร์ลู่หลุ่ย

จุดที่หลี่ฝางคิดว่าตัวเองทำผิดนั้น คือตอนที่ลู่หลุ่ยอธิบายให้ตัวเอง ขอโทษตัวเอง ตัวเองกลับไม่ยกโทษให้ลู่หลุ่ย

ลู่หลุ่ยรู้สึกว่ามือของตัวเองเหนียว

“หลี่ฝาง ที่มือคุณทำไมมีเลือดเยอะขนาดนี้ คุณบาดเจ็บเหรอ?”ลู่หลุ่ยถามอย่างเป็นห่วง

หลี่ฝางส่ายหน้า:“เลือดนี้ไม่ใช่ของผม เป็นของตู้เฟย”

“ตู้เฟย?”ลู่หลุ่ยถามอย่างสงสัย

“ใช่ ตู้เฟย หรือว่าคุณไม่รู้เหรอ?แผนที่จับตัวคุณนี้ ต่างเป็นตู้เฟยที่คิดแผนการ ใช่สิ ทำไมคุณถึงถูกเขาหลอกไปได้”หลี่ฝางถาม

“เพื่อนฉันส่งข้อความมา ให้ฉันออกมา พอฉันออกมา ก็ถูกพาเข้าไปในรถคันหนึ่ง บนรถนั้น ฉันถูกตีจนสลบ จากนั้นตอนที่ฟื้นมา ก็พบว่าตัวเองอยู่ในกล่องไม้ที่ปิดตาย กล่องไม้นั้นเหมือนโลงศพมาก”

“ตอนนั้นฉันกลัวมากจริงๆ”

“ดังนั้นคุณจึงคิดถึงผม ใช่ไหม?”หลี่ฝางถามตาม

ลู่หลุ่ยลังเลเล็กน้อย แล้วพยักหน้า:“ใช่ ตอนนั้นในหัวฉันไม่รู้ว่าเป็นอะไร จู่ๆก็มีแต่คุณ”

“งั้นพวกเราคืนดีกันเถอะ”

หลี่ฝางจับมือของลู่หลุ่ย ถามอย่างกังวลหน่อยๆ

“คุณให้ผมคิดก่อนละกัน”ลู่หลุ่ยยังลังเลหน่อยๆ

และตอนนี้เอง หลี่ต๋าคางก็เดินออกมาจากรถ:“หลุ่ยหลุ่ย คุณยังจะคิดอะไรอีก คุณดูไอ้หมอนี่สิ ได้ยินว่าคุณมีอันตราย ดึกๆดื่นๆก็ยังวิ่งมาหาคุณถึงนี่ ก็เพื่อช่วยคุณ”

“เจ้าเด็กนี่เกือบจะตายอยู่ข้างในแล้ว”หลี่ต๋าคางแอบส่งสายตาให้หลี่ฝาง

หลี่ฝางพยักหน้าพูดทันที:“ใช่ เมื่อกี๊ผมเพิ่งสู้กับตู้เฟย ผมเกือบจะแพ้แล้ว แต่พอคิดถึงคุณ ลู่หลุ่ย ทันใดนั้นผมก็รู้สึกว่าทั้งตัวเต็มไปด้วยพลัง จากนั้นก็ฆ่าตู้เฟย”

“คุณฆ่าคนเหรอ?”ได้ยินคำนี้ สีหน้าของลู่หลุ่ย ตกใจจนซีดขาวทันที

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน