NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 489

ตอนที่ 489

บทที่489 ลากับตู้เฟยครั้งสุดท้าย

ตอนนี้เหลือแค่ตู้เฟยกับหลี่ฝางแล้ว

เพื่อความระมัดระวัง หลี่ฝางยังแอบเอาปืนลิปสติกนั่น ใส่ไปในแขนเสื้อตัวเองด้วย

ถ้าตู้เฟยจะสู้กับตัวเองจริงๆ งั้นหลี่ฝางก็จะยิงใส่เขา

ตู้เฟยกอดศพของแม่ตัวเอง เงยหน้ามองที่หลี่ฝาง

“ฆ่าผมเถอะ”

เสียงของตู้เฟยนิ่งมาก และก็หมดหวังสุดๆ

ตู้เฟยไม่ได้ขอร้อง และก็ไม่ได้ดูต่อต้าน

เหมือนว่าเขาจะขอความตาย

ที่หน้าของเขา ไม่มีความกลัวเลยสักนิด

หลี่ฝางมองศัตรูเก่าของตัวเองนิ่งๆ พยักหน้า:“ครั้งนี้ ผมไม่ปล่อยคุณแล้ว เพราะว่าผมพูดกับคุณที่รถแล้วว่า ลู่หลุ่ยคือเส้นตายของผม คุณมาแตะต้องเส้นตายของผม ผมต้องฆ่าคุณ”

ตู้เฟยพยักหน้า:“คุณควรจะฆ่าผม ผมไม่โกรธคุณหรอก”

“แต่ว่าก่อนตาย รับปากผมเรื่องหนึ่งได้ไหม?”ตู้เฟยเงยหน้ามองหลี่ฝาง ใช้น้ำเสียงอ้อนวอนถาม

หลี่ฝางสูดลมหายใจเข้า ลังเลหน่อยๆ

ที่จริงหลี่ฝางกับตู้เฟย สู้กันมาสามปีแล้ว เวลาส่วนมาก ต่างเป็นหลี่ฝางที่ทนกับความอัปยศ

จนพ่อของตัวเองค่อยๆกลับมา หลี่ฝางจึงเริ่มฟื้นสถานการณ์คืนมา

ตู้เฟยไม่ใช่แค่แย่งเซี่ยลู่ไปจากมือของหลี่ฝาง แต่ยังทำให้หลี่ฝางขายขี้หน้าต่อเพื่อนนักเรียนครั้งแล้วครั้งเล่า ทำให้เขากลายเป็นไอ้ขี้เหร่ถึงสามปี

ดังนั้น หลี่ฝางมีความเกลียดชังต่อตู้เฟย มาโดยตลอด

จนตอนนี้ ความเกลียดชังนี้ ก็ไม่ได้หายไป

เดิมทีหลี่ฝางไม่อยากรับปาก แต่เห็นแก่ตู้เฟยที่น่าสงสารแบบนี้ ก็พยักหน้าทนไม่ไหว แล้วพูด:“คุณพูดมาเถอะ ผมดูก่อนว่าเรื่องอะไร”

ตู้เฟยพูดด้วยใบหน้าเกลียดชัง:“ช่วยผมฆ่าจูเก่อชิง”

“โอเค”

หลี่ฝางพยักหน้ารับปาก

ถึงตู้เฟยไม่พูด จูเก่อชิงผู้ชายคนนี้ หลี่ฝางก็ไม่ปล่อยเขาแน่

“แล้วก็ ช่วยผมดูแลเซี่ยลู่ด้วย”

ตู้เฟยพูดจบ ทันใดนั้นหน้าก็หม่นลง:“ที่จริง ผมยากแก้แค้นคุณเสร็จ จากนั้นก็จะพาเซี่ยลู่หนีไปไกลๆ”

“จูเก่อชิงบอกว่า แค่ช่วยเขาเอาคุณมาตรงหน้าเขาได้ เขาจะให้ผมสิบล้าน และก็จะช่วยจัดการตัวตนใหม่ของผม ช่วยผมหนี”

พูดไปอยู่นั้น ตู้เฟยก็หัวเราะ:“ผมว่า เขาน่าจะหลอกผมสินะ?”

“เขาร้ายกาจขนาดนั้น จะปล่อยผมหนีได้ไงเนอะ?”

“ผมโง่จริงๆ ดันไปเชื่อเขาได้”

ตู้เฟยเงยหน้าขึ้น มองหลี่ฝาง:“ผมรู้ว่าคุณแค้นเซี่ยลู่ แต่เธอ……”

“ไม่ต้องอธิบายแทนเธอ”หลี่ฝางตัดบทของตู้เฟย:“ผมมีตา และมีหัวใจของตัวเอง ผมรู้สึกได้ว่าเซี่ยลู่เป็นผู้หญิงแบบไหน”

“เธอแค่หลงวัตถุไปหน่อย แต่สังคมนี้ ใครบ้างที่ไม่หลงวัตถุน่ะ”ตู้เฟยยิ้มแห้งใส่

หลี่ฝางพยักหน้า พูดว่า:“เธอไม่ผิด ที่ผิดคือผม ผมไม่ควรจะจน”

“ถ้าผมไม่จน เธอก็ไม่ไปจากผม และก็ไม่หนีไปกับคุณ และก็จะยิ่งไม่เหยียบย่ำศักดิ์ศรีของผมกับคุณด้วย”หลี่ฝางหัวเราะอย่างเย็นชาขึ้นมา:“เป็นความผิดของผมหมด ใช่ไหม?”

“ในใจคุณยังเกลียดชังพวกเรา”ตู้เฟยฟังความหมายของคำพูดหลี่ฝางออก

หลี่ฝางยิ้มอย่างเย็นชา:“ทำไม หรือว่าผมไม่ควรเกลียดเหรอ?หรือว่าผมไม่ควรไปเกลียดชัง?”

“คุณเกลียดผมก็ดี ไม่จำเป็นต้องเกลียดเซี่ยลู่ ที่จริงเซี่ยลู่ชอบคุณ ทุกๆอย่าง ล้วนแต่เป็นกลลวงของผมที่ทำ เป็นผมที่ให้เซี่ยลู่เข้าใจคุณผิดครั้งแล้วครั้งเล่า ผิดหวังต่อคุณ เป็นผมเองที่เป็นก้างขวางคอ รวมทั้งที่ผมจีบเซี่ยลู่ติด ตอนนั้นในใจของเธอ ก็ยังมีคุณอยู่”

“มีครั้งหนึ่ง คุณซักเสื้อผ้าให้ผู้หญิงคนหนึ่ง ในเสื้อผ้ามีอยู่ห้าร้อยหยวน คุณน่าจะจำได้สินะ?ที่จริง ผู้หญิงคนนั้นคือคนที่ลู่มอบหมายไป ห้าร้อยหยวนนั้น ก็เป็นของเซี่ยลู่ที่ยัดใส่เข้าไป เธอคิดว่าคุณจะขโมยเงินก้อนนี้ ยังไงตอนนั้นคุณก็กินข้าวไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่คิดไม่ถึงว่า คุณจะเอาเงินคืนกลับไป”

“และนี่ก็เป็นสาเหตุที่ผมให้พวกเกาเสิ้งไปจัดการคุณ ถ้าในใจของเซี่ยลู่ไม่มีคุณตั้งนานแล้ว ผมก็จะจัดการคุณอย่างดูถูก”

“ตอนนั้นผมมักจะรู้สึกว่า คุณคือมลทินในชีวิตผม แฟนของผม ดันเคยชอบไอ้ขยะอย่างคุณได้ ทุกครั้งที่คิด ผมก็จะขยะแขยงสุดๆ”

เวลานี้หลี่ฝางหัวเราะเหอะเหอะ:“พวกนี้ผมไม่โทษคุณหรอก”

“ถึงแม้พวกเกาเสิ้ง จางเสี่ยวเฟิงมักจะดูถูกผมที่หอพัก แต่ทุกครั้งที่ดูถูกผม ก็จะให้ค่าตอบแทนที่เพียงพอกับผม คุณก็เท่ากับว่าช่วยเหลือผม ส่วนเซี่ยลู่ คุณแย่งไปแล้วก็แย่งไป ตอนนั้นผมไม่เคยคิดจะพัวพันกับเธอ แค่คุณดีต่อเธอก็พอแล้ว”

“ตู้เฟย คุณแอบทำร้ายผมมาตั้งหลายครั้ง แล้วก็เคยคิดจะฆ่าผมเหรอ คุณคิดว่าผมไม่รู้เหรอ?”

“ตอนที่ผมทำงานที่ktv ไปขัดใจลูกค้ารายหนึ่ง ลูกค้าคนนั้น เป็นคนที่คุณส่งมา”

หลี่ฝางพูด สีหน้าของตู้เฟยก็เปลี่ยนไป

“คุณรู้ได้ไง?”ตู้เฟยถามอย่างประหลาดใจ

“เดายากมากเหรอไง?เขาตั้งใจชนเข้ามา และktvร้านนั้น เบื้องหลังก็ไม่เล็กเลย ลูกค้าทั่วไป ใครจะกล้ามีเรื่องที่นั่น?เขาไม่ใช่แค่ก่อเรื่อง และยังตั้งใจมากัดผม จะเอาผมออกให้ได้ พอจบเรื่องก็ยังเอานักเลงสองคนมาตีผม”

“แม้แต่ค่ารักษาผมยังเอามาไม่ได้ เป็นโจวหยางที่ช่วยผม”

“ในใจผมหดหู่มาก ผมอนาถขนาดนั้น ทำไมคุณยังไม่ปล่อยผมอีก”

“เซี่ยลู่เป็นของคุณไปแล้ว ทำไมต้องตามไล่ฆ่าผมอีก?”

“ตอนนั้นผมไม่แคร์แล้ว แล้วทำไมยังต้องพยายามเข้าใกล้ไม่ปล่อยด้วย?”

“แม้แต่ผมหางาน คุณก็ยังต้องมาก่อกวน ……”

หลี่ฝางพูดไป ก็หยิบมีดขึ้นมาจากพื้น แทงไปที่ท้องของตู้เฟย

ตู้เฟยไม่ต่อต้าน แต่กลับดูปลดปล่อย

ตู้เฟยยิ้ม แล้วพูด:“ขอโทษ หลี่ฝาง”

“คำว่าขอโทษ ไม่เคยพอหรอก”

หลี่ฝางพูดอย่างเย็นชา:“คุณไม่รู้เลยว่าคุณทำร้ายผมมากมายแค่ไหน”

“ถ้าไม่ใช่โจวหยางช่วยผม ผมก็อาจจะไม่มีชีวิตอยู่แล้ว”

เพราะว่าตู้เฟย หลี่ฝางจึงพบกับความสิ้นหวังของชีวิต

“คุณไม่สามารถรู้ซึ้งถึงความรู้สึกของผมได้หรอก”หลี่ฝางพูดไป ก็ดึงมีดออกมา แล้วก็แทงมีดลงไป ที่ท้องน้อยของตู้เฟยอีกครั้ง

“ขอโทษนะ”ตู้เฟยพูดอีกครั้ง

หลี่ฝางส่ายหน้า พูดด้วยตาแดงกล่ำ:“ผมไม่มีทางยกโทษให้คุณ”

“ฆ่าผมแล้ว ก็ไม่ได้เหรอ?”ตู้เฟยมองหลี่ฝางแล้วถาม

“ไม่ได้”

หลี่ฝางพูดอย่างเย็นชา:“ชาตินี้ผมไม่มีทางยกโทษให้คุณ”

“เดิมทีผมเคยคิดจะฆ่าคุณด้วยการแล่เนื้อออกถึงตายแล้วก็แล่ออกไปเรื่อยๆ อยากให้คุณรับความทรมานทุกรูปแบบ ผมไม่เคยคิดเลยว่าจะปล่อยให้คุณตายไปง่ายๆแบบนี้”

หลี่ฝางพูดเบาๆ:“ฆ่าคุณแบบนี้ ถือว่าผมใจดีมากพอแล้ว”

“คุณคิดหาแผนการทำร้ายผมครั้งแล้วครั้งเล่า รวมถึงมีดนั้นที่มู่เสี่ยวไป๋แทงผม ก็เป็นคุณที่บอกความลับ รวมทั้งหลี่หลง ถ้าไม่ใช่คุณ หลี่หลงก็ไม่ตาย แล้วก็หยูเถิงพี่ชายลูกพี่ลูกน้องคุณ เหอะเหอะ ตู้เฟยที่จริงคุณทำร้ายคนตั้งมากมาย คุณรู้ไหม?”หลี่ฝางพูด

สีหน้าตู้เฟยเปลี่ยนไป:“ผมไม่ได้ตั้งใจทำร้ายพวกเขา ผมก็แค่ไม่รู้ตัวตนของคุณเท่านั้น ถ้ารู้ตั้งนานแล้ว……”

ถ้ารู้ตั้งนานแล้ว หยูเถิง หลี่หลงคนพวกนี้ ก็จะไม่ตาย

หลี่ฝางดึงมีดออก แล้วยืนขึ้นมา

เลือดจำนวนหนึ่ง ไหลออกมาจากตัวของตู้เฟย

เลือดไหลเร็วมาก ใบหน้าของตู้เฟย ก็เจ็บปวดสุดๆ

“ขอโทษ ขอโทษจริงๆ ทุกอย่างที่เซี่ยลู่ทำ ล้วนแต่ถูกผมบังคับ หลี่ฝาง อย่าโทษเธอ”

“ขอร้องคุณล่ะ ตอนนี้บนโลกใบนี้ คนเดียวที่ผมทิ้งไปไม่ได้ ก็คือเธอ”

“อย่าบอกเธอว่าผมตายแล้ว ถ้าเธอถามถึงผม คุณก็บอกเธอว่า แม่ผมพาผมไปจากเมืองเอกแล้ว”

ตู้เฟยหยิบจดหมายฉบับหนึ่งออกมาจากอ้อมแขน วางไว้ที่พื้น

ตู้เฟยในตอนนี้ สีหน้าซีดขาว ที่ตัวมีแรงไม่มากแล้ว

“ร่างกายของเธอไม่ดี เธอทำแท้งให้ผมสองครั้ง แต่หลังจากทำแท้ง ก็ไม่ได้บำรุงรักษาดีๆ วันถัดไปก็ต้องไปโรงเรียนตลอด ดังนั้นทุกครั้งตอนที่ฝนตก เธอมักจะปวดเอว ผมหาแพทย์แผนจีนคนหนึ่งให้เธอ เบอร์นี้คุณจำไว้นะ”

“ถึงตอนนั้น คุณเอาเบอร์นี้ให้เซี่ยลู่ ให้เซี่ยลู่ไปหาแพทย์แผนจีนเพื่อบำรุงร่างกาย”

“ผมรู้สึกผิดต่อเซี่ยลู่ ผมบอกไปแล้วว่าจะให้ครอบครัวแก่เซี่ยลู่ บอกไปแล้วว่าจะแต่งงานกับเธอ ผม ……”

ตู้เฟยกัดฟัน สูดหายใจอันเยือกเย็นเข้าไป

“ช่างเถอะ หลี่ฝาง สุดท้ายผมจะบอกคุณว่าขอโทษนะ ไม่ว่าคุณจะให้อภัยผม หรือไม่ให้อภัยผม ก็ไม่เป็นไรแล้ว”

ตู้เฟยใช้แรงเฮือกสุดท้าย คุกเข่าลงพื้นดังปัง ก้มหัวให้หลี่ฝาง:“ขอโทษนะ”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท