NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 495

ตอนที่ 495

บทที่495 สมบัติอันมีค่าของตระกูลจูเก่อ

ความจริงนี้ ซุนจิ้นยากที่จะรับได้

พ่อที่เลี้ยงตัวเองจนโต ดันเป็นศัตรูที่วางแผนทำร้ายทั้งครอบครัวของตัวเอง?

ซุนจิ้นถอยหลังไป สติก็ตื่นตระหนกขึ้นมาเล็กน้อย

“หุบปาก!”

หลี่ฝางรีบจ้องจูเก่อชิงทันที แล้วไม่ให้เขาพูด

“เมื่อกี๊ควรจะตัดลิ้นคุณจริงๆ”หลี่ฝางพูดอย่างเย็นชา

จูเก่อชิงหัวเราะ:“แล้วแต่คุณเถอะ ยังไงตระกูลจูเก่อก็ไม่เอาผมแล้ว ผมอยู่ไปจะมีความหมายอะไร?”

“ผมเป็นคนพิการแล้ว ไม่กลัวที่จะพิการอีกหรอก มา ตัดสิ”

จูเก่อชิงพูดด้วยใบหน้าไม่แคร์นัก

หลี่ฝางหมดคำพูดกับจูเก่อชิงทันที

ก่อนหน้านี้จูเก่อชิงก็กลัว เขาคิดว่าแค่กลับไปที่ซ่องโจรของตัวเอง กลับไปที่ข้างกายของปู่ตัวเอง เขาก็จะมีตัวช่วยแล้ว

ถึงสองขาหักไปแล้ว เขาก็ยังเป็นคุณชายของตระกูลใหญ่

แต่ตอนนี้ จูเก่อเจิ้งไม่ต้องการเขาแล้ว

ตอนนี้ จูเก่อชิงกลายเป็นคนถูกทิ้งทันที

เขาเสียความหวังของชีวิตไป

หลี่ฝางไม่สนใจจูเก่อชิง จูเก่อชิงในตอนนี้ เหมือนกับคนเร่ร่อนคนหนึ่ง

ด้านหน้าไม่กี่สิบเมตร ส้าวส้วยคนเดียวสู้กับคนสิบกว่าคน

น่าจะใช้เวลาไปประมาณห้านาที ก็แทบจะล้มหมดได้

ส้าวส้วยเหลือไว้คนหนึ่ง จากนั้นก็หันหน้าไปเก็บเสื้อผ้าของตัวเองขึ้นมา สวมให้เรียบร้อย

“คุณไปเถอะ”

หลังจากสวมเสื้อผ้าเสร็จ ส้าวส้วยจึงพูดกับคนนี้

คนๆนี้น่าจะอายุสี่ห้าสิบได้ ผมไม่ยาว หน้ายาวๆ ร่างกายกำยำมาก

ส้าวส้วยสามารถฆ่าผู้ชายคนนี้ตายได้อย่างง่ายดาย แต่กลับปล่อยเขาไป

“พวกเรา……รู้จักกันเหรอ?”คนหน้ายาวมองส้าวส้วย แล้วถามไป

คนหน้ายาวนั้นแปลกใจหน่อยๆ คนตั้งมากมายนี้ ตายแล้ว พิการก็มี ทำไมตัวเองกลับไม่เป็นไร?

“คุณชื่อจางจื่อเฉิง ใช่ไหม?”

ส้าวส้วยมองคนหน้ายาว จากนั้นก็ถามๆไป

“ใช่”คนหน้ายาวพยักหน้าตอบ

“งั้นก็ไม่ผิด”

ส้าวส้วยพูดกับคนหน้ายาวว่า:“กลับไปเปิดสำนักศิลปะการต่อสู้ของคุณให้ดีเถอะ อย่ามาช่วยตระกูลจูเก่อทำชั่วอีกเลย”

คนหน้ายาวยังไม่เข้าใจ แต่เขาก็ตระหนักถึงความน่ากลัวของส้าวส้วยได้

ในเมื่อส้าวส้วยตั้งใจจะปล่อยเขา เขาก็ไม่จำเป็นต้องซักถึงต้นตอ

มีชีวิตอยู่ต่อไปก็พอแล้ว

“ขอบคุณมาก”

คนหน้ายาวมองส้าวส้วยอย่างขอบคุณ จากนั้นก็วิ่งเข้าไปในแม่น้ำใต้ดิน

“คิดไม่ถึงว่าทางออกซ่องโจรของตระกูลจูเก่อ จะเป็นแม่น้ำใต้ดิน”ส้าวส้วยมองเห็นฉากนี้ ยิ้มดูถูกขึ้นมา

ที่ส้าวส้วยปล่อยคนนนี้ไป มีทั้งหมดสองสาเหตุ หนึ่งในนั้น ก็คือหาตำแหน่งทางออกได้

“ไอ้โง่นี่”จูเก่อชิงแอบด่า

ตอนนี้ ทางออกก็เจอแล้ว งั้นจูเก่อชิง ก็ไม่มีค่าใดๆแล้ว

“กรงลิฟต์เมื่อกี๊ ได้แค่ลงไปส่งคน แต่ส่งคนขึ้นไปไม่ได้ ผมพูดถูกไหม?”ส้าวส้วยมองจูเก่อชิงแวบหนึ่ง แล้วพูด

จูเก่อชิงพยักหน้า:“ขึ้นไป ก็จะไปสัมผัสเครื่องกลไก”

“นอกจากปู่ผมจะลงมือ ไม่งั้น คนข้างในก็จะถูกปิดขังไปตลอด”

จูเก่อชิงพูดจบ ก็มองส้าวส้วย:“ทำไมต้องเป็นเขา?”

“หรือคุณไม่รู้ว่า ตอนนั้นเป็นเขาที่ฆ่าซุนต้าเซิ่น?”จูเก่อชิงถาม

เมื่อกี๊ส้าวส้วยตั้งใจถามเขาว่าชื่อจางจื่อเฉิงหรือไม่ ที่แท้ก็มีสาเหตุ

ซุนจิ้นได้ยินคำนี้ ก็ตาเบิกโตทันที ใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นเต้น

“ใช่ ผมจงใจปล่อยเขาไป”

ส้าวส้วยพยักหน้า พูดว่า:“เพราะว่าคนๆนี้ ไม่ควรตายในเงื้อมมือของผม”

“ควรจะตายในเงื้อมมือของซุนจิ้น”ส้าวส้วยพูด

ซุนจิ้นมองส้าวส้วย พูดอย่างขอบคุณ:“ทำไมเมื่อกี๊ไม่บอกผม?”

“เมื่อกี๊ถ้าผมรู้……”

ซุนจิ้นอยากพูดว่า ถ้าเมื่อกี๊ผมรู้ความจริง จะต้องหยุดจางจื่อเฉิงนี้แน่นอน

“คุณสู้เขาได้เหรอ?”

ส้าวส้วยตัดบทของซุนจิ้น แล้วพูด:“ตอนนี้คุณยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา พัฒนาฝีมือคุณก่อนเถอะ”

ส้าวส้วยสามารถฆ่าจางจื่อเฉิงได้อย่างง่ายดาย แต่ ฆ่าเขา จะมีประโยชน์อะไรล่ะ?

ไว้เขาก่อน มีประโยชน์กว่าฆ่าเขาเยอะเลย

จางจื่อเฉิงคือศัตรูที่ฆ่าพ่อของซุนจิ้น และก็เป็นคู่ต่อสู้ที่ซุนจิ้นต้องแก้แค้น

จางจื่อเฉิงมีชีวิตอยู่ หลังจากซุนจิ้นออกไป ก็สามารถฝึกศิลปะการต่อสู้ดีๆได้ เพราะว่าเขาอยากแก้แค้นไวๆ

ถ้าจางจื่อเฉิงตายแล้ว งั้นซุนจิ้นก็จะไม่มีแรงจูงใจในการก้าวหน้า

“ผมจะฆ่าเขากับมือผมเอง”ซุนจิ้นกำหมัดแน่น กัดฟันพูด

“ต่อมาพวกเราจะไปไหน?ไปจากที่นี่ หรือว่าไปหาผู้ชายคนนั้น?”หลี่ฝางถาม

จูเก่อเจิ้งหนีไปแล้ว ไม่รู้ด้วยว่าหนีไปที่ไหน

และใต้ดินนี้ ก็เหมือนกับวังแห่งหนึ่ง นอกจากจะใหญ่แล้ว หลี่ฝางก็รู้สึกแปลกๆหน่อย

ส้าวส้วยมองจูเก่อชิงแวบหนึ่ง แล้วจูเก่อชิงก็หัวเราะ:“โอเค ผมจะพาพวกคุณหาปู่ผม”

“ในเมื่อเขาจะให้ผมตาย ผมก็ไม่อยากให้เขามีชีวิตอยู่คนเดียว”

จูเก่อชิงพูดอย่างเย็นชา:“ไม่มีผม พวกคุณก็หาปู่ผมไม่ได้”

“ที่จริงที่นี่คือสุสานโบราณ พวกเราตระกูลจูเก่อ มีบรรพบุรุษเป็นปรมาจารย์แห่งสุสาน เขาค้นพบสุสานโบราณแห่งนี้ แล้วเปลี่ยนเป็นสร้างเป็นซ่องโจรของพวกเราตระกูลจูเก่อ”

“ที่นี่มีเครื่องกลไกไม่น้อย ถ้าไปผิดทาง ก็ง่ายที่จะตายอยู่นี่”จูเก่อชิงพูด

ส้าวส้วยเลิกคิ้วขึ้น:“สุสานโบราณที่ใหญ่ขนาดนี้ ตอนที่บรรพบุรุษพวกคุณเจอ จะต้องขุดได้เงินทองของมีค่าไม่น้อยเลยใช่ไหม?”

จูเก่อชิงไม่ปฏิเสธ

วังใต้ดินนี้ ดูแล้วอลังการมาก

สร้างวังที่ใต้ดิน แรงงานที่ใช้นั้น ต้องเยอะมากแน่

นอกจากฮ่องเต้และนายพลแล้ว ใครจะมีความสามารถสร้างสุสานที่อลังการเช่นนี้ได้ล่ะ?

ดังนั้น นี่น่าจะเป็นสุสานของฮ่องเต้คนหนึ่ง

ก็แค่ไม่รู้ว่าที่ฝังนั้นเป็นฮ่องเต้องค์ไหนก็เท่านั้น

“ทางที่ดีคุณอย่ามาเล่นแง่เลย”ส้าวส้วยมองจูเก่อชิง แล้วพูดเตือน

“เหอะเหอะ คุณกลัวว่าผมจะเล่นแง่เหรอ?”

“คิดไม่ถึงว่าเวลาสามปี คุณจะกลายเป็นสุดยอดได้ขนาดนี้ เมื่อก่อนผมคิดว่าอย่างมากคุณก็พอๆกับผม ดูเหมือนว่าผมเนี่ยล่ะจะเป็นกบในกะลา”

จูเก่อชิงถอนหายใจ พูด

“อยากรู้จริงๆว่าคุณฝึกกังฟูนี้ออกมาอย่างไร”จูเก่อชิงเงยหน้ามองส้าวส้วย พูดอย่างอิจฉาหน่อยๆ

“คุณไม่อยากรู้หรอก”

ส้าวส้วยพูดด้วยใบหน้านิ่งๆ:“ถึงคุณจะรู้ ก็ฝึกออกมาไม่ได้”

“ของบางสิ่ง ต้องมีพรสวรรค์ พรสวรรค์ของคุณนั้นแย่เกินไป”ส้าวส้วยพูดจบ ก็คว้าจูเก่อชิงไว้ทันที

ส้าวส้วยจำเส้นทางหนีของจูเก่อเจิ้งได้ เขาเดินไปที่หน้าถ้ำที่เจ็ด

ดังนั้น ส้าวส้วยก็พาจูเก่อชิงมาที่หน้าถ้ำที่เจ็ด

ตอนที่จะเข้าไปนั้น จูเก่อชิงกลับพูด:“พวกเราเข้าไปแบบนี้ ต้องตายอยู่ข้างในแน่”

“หมายความว่าไง?”ส้าวส้วยถามตาม

“ปู่ผมหนีออกไปจากตรงนี้ไม่ผิด แต่ที่นี่มีประตู เขากลับไม่ล็อกไว้ รู้ไหมว่าทำไม?เขาจะล่อให้พวกคุณตามเขาเข้าไป”

“พิษที่มีอยู่ข้างในสุดนั้น นอกจากจะมีหน้ากากป้องกันก๊าซ ไม่อย่างนั้นถ้าพวกเราเข้าไป ไม่นานหรอก ได้หมดสติไปแน่”

“เดินไปช่องที่สามเถอะ ช่องที่สามนี้ เชื่อมต่อกับช่องที่เจ็ด”

จูเก่อชิงพูด

ส้าวส้วยมองจูเก่อชิงอย่างสงสัย:“คุณเอาอะไรมารับประกันว่าไม่ได้โกหก?”

“ที่จริงผมไม่ได้อยากตายนัก ผมช่วยพวกคุณฆ่าปู่ผม แล้วพวกคุณเอาสมบัติอันมีค่าของตระกูลจูเก่อ แบ่งให้ผมส่วนหนึ่ง ว่าไง?”จูเก่อชิงพูด

“สมบัติอันมีค่า?”หลี่ฝางกับส้าวส้วยแทบจะถามพร้อมกัน

“ใช่ ข้างในสุสานนี้ซ่อนสมบัติอันมีค่าขนาดใหญ่ไว้ ที่จริงความรวยของตระกูลจูเก่อ รวยยิ่งกว่าอีกสามตระกูลใหญ่อีก”

“อย่าว่าแต่โบราณวัตถุที่ราคาสูงเฉียดฟ้าเลย แค่ทองอย่างเดียวพวกนั้น ถ้าย้ายออกไปหมดล่ะก็ สามารถใส่ในรถบรรทุกหนึ่งคันได้เต็มๆเลย”จูเก่อชิงพูดขำๆ

“สมบัติอันมีค่าอยู่ที่ไหน?”ส้าวส้วยถามต่อ

“ไปหาปู่ของผมก่อนเถอะ ไปช้า ปู่ผมจะหนีเอาได้”จูเก่อชิงยังไม่อยากพูด

ผ่านถ้ำแห่งที่สาม หลี่ฝางและคนอื่น เลี้ยวโค้ง มาที่ห้องรับแขกที่ดูทันสมัย

และจูเก่อเจิ้งกำลังนอนอยู่ที่เก้าอี้โยก นอนอย่างสบายๆ ชิลๆ

ข้างกายของเขา มีชายหญิงยืนอยู่

วินาทีที่เห็นส้าวส้วย ชายหญิงคู่นี้ก็หยิบปืนออกมา เล็งไปที่พวกส้าวส้วยและคนอื่น จะเหนี่ยวไกไป

ส่วนส้าวส้วยนั้นป้องกันไว้ก่อนแล้ว ลูกเหล็กที่อยู่ในมือทิ้งออกไปโดยตรง ก่อนที่พวกเขาจะเหนี่ยวไก ก็ทำสองคนนี้ตาย

“คุณมันไอ้สัตว์เดรัจฉาน”

จูเก่อเจิ้งยืนขึ้นมา มองจูเก่อชิงด้วยสายตาเย็นชา

“คุณปู่ อย่าว่าผม เป็นปู่ที่ทิ้งผมก่อนเอง”จูเก่อชิงหัวเราะอย่างร้ายกาจ

“เมื่อกี๊ถ้าปู่ไม่ทิ้งผม ผมจะพาคนนอกมาหาปู่ได้ไง?

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท