NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่517 แก้แค้นให้ลู่หลุ่ย

บทที่517 แก้แค้นให้ลู่หลุ่ย

บทที่517 แก้แค้นให้ลู่หลุ่ย

มองออกว่า ส้าวส้วยไม่อยากเห็นจางกงหมิงอย่างมาก เมื่อก่อนยังดี อย่างน้อยก็ไม่เกลียดขนาดนั้น แต่ตอนนี้ ถ้าไม่เห็นแก่หน้าของหลี่ฝาง ก็เป็นไปได้ที่ส้าวส้วยน่าจะลงมือจัดการ

หลี่ฝางรู้ว่า นี่เกี่ยวข้องกับที่จางกงหมิงค้ายา

ไปถึงรถ หลี่ฝางก็ยื่นบุหรี่ให้ส้าวส้วย แล้วถาม:“ส้าวส้วย คุณเกลียดการค้ายามากเลยใช่ไหม?”

“เกลียดเข้ากระดูก”ส้าวส้วยพูดแค่สี่คำธรรมดาๆ

หลี่ฝางเลิกคิ้วขึ้น:“มีเรื่องเล่า?”

สีหน้าของส้าวส้วยหม่นลง หลังจากรถออกไปได้ห้านาที เขาจึงพูดเบาๆ:“ที่จริงแล้ว ผมไม่ได้เป็นเด็กกำพร้า แต่ผมถูกพ่อทิ้งไป พ่อผมก็ยุ่งกับสิ่งนี้”

“พ่อผมขายสิ่งนี้ และยังเล่นสิ่งนี้ด้วย ต่อมา พ่อผมถูกจับ ที่จริงแม่ผมจะพาผมหนีไป แต่ใครจะไปรู้ว่า ที่บ้านของพ่อผม อยากฆ่าปิดปากพวกเรา”

“แม่ผมตายในเงื้อมมือของคนพวกนั้น ส่วนผม หนีไปที่โรงฝึกศิลปะการต่อสู้ของท่านซุน และจึงรอดพ้นจากหายนะ

ส้าวส้วยพูดไป สีหน้าก็หม่น:“ผมเกลียดคนพวกนี้ รวมถึงพ่อแม่ของผม”

“พ่อผมทำเงินได้มากมายจากสิ่งนี้ ส่วนแม่ผมกับผม ก็คือผู้ได้รับผลประโยชน์ ตอนที่ผมยังเด็กมากนัก ที่บ้านมีบ้านพักตากอากาศด้วย”

“ถึงแม้พ่อผมไม่ได้ทำขนาดใหญ่แบบลูกพี่หลินตอนนี้ แต่ก็ไม่ได้ทำอย่างเล็กน้อย”

ส้าวส้วยพูดด้วยหน้านิ่งๆ:“ผมไม่เคยโทษใคร ไม่ว่าจะพ่อผมหรือว่าแม่ผม ที่ตกอยู่ในชะตากรรมในตอนนั้น ก็เพราะหาเรื่องใส่ตัวเอง”

“กลับกัน ผมเกลียดพ่อแม่ของผม เกลียดพวกเขาที่ไม่ได้ให้ครอบครัวที่สมบูรณ์แก่ผม ไม่ได้ให้วัยเด็กที่สวยงามแก่ผม”

หลังจากหลี่ฝางฟังจบ ก็ได้แต่ถอนหายใจ

ยังไงนี่ก็คืออดีตที่เจ็บปวดของส้าวส้วย ตัวเองไม่ควรถาม

หลังจากกลับไปที่โรงเรียน หลี่ฝางก็นอนหลับอย่างสบายใจ

วันถัดมา ตอนเที่ยง หลี่ฝางก็นัดลู่หลุ่ยออกมา

หลี่ฝางนัดลู่หลุ่ยออกมา แน่นอนว่าไม่ใช่แค่กินข้าวกับเธอมื้อเดียวเท่านั้น

“ลู่หลุ่ย วันนั้นคนที่ทำคุณอับอาย คือใครเหรอ?”หลี่ฝางถามไปงั้นๆ

“คนที่ทำฉันอับอาย?”ลู่หลุ่ยตะลึงหน่อยๆ ไม่ได้สติคืนมาในทันที

“หลี่ฝาง ไม่ต้องถามแล้ว เธอไม่ได้ตั้งใจ”ลู่หลุ่ยพูด

จู่ๆหลี่ฝางก็โกรธหน่อยๆ:“ลู่หลุ่ย คุณรู้ไหมเธอเกือบจะทำร้ายคุณตาย?”

“ถ้าไม่ใช่พ่อผมที่มาช่วยคุณทัน คุณน่าจะตายไปแล้ว ถูกผู้หญิงคนนั้นทำร้ายจนตาย คุณรู้ไหม?เธอเกือบทำคุณตาย คุณยังจะปกป้องเธอ คุณคิดอะไรอยู่”หลี่ฝางหมดคำพูดหน่อยๆ

สีหน้าของลู่หลุ่ย ก็หดหู่ทันที:“แต่เธอก็คิดไม่ถึงนี่ว่า เธอจะแค่ถูกตู้เฟยหลอกใช้เท่านั้น”

“ใครจะไปคิดว่า ตู้เฟยต้องการชีวิตฉัน”

หลี่ฝางขมวดคิ้วแล้วถาม:“โจวเสี่ยวชิงหรือว่าซูนเสี่ยวเฟิ่ง?”

เพื่อนสนิทของลู่หลุ่ย มีไม่กี่คน หลี่ฝางตัดเหมิงเหมิงออกแล้ว

ที่จริง หลี่ฝางก็ไม่อยากถามลู่หลุ่ย เดิมทีเขาอยากไปสอบถามเอง แล้วเรียกเหมิงเหมิงออกมา ถามเป็นการส่วนตัว

เหมิงเหมิงบอกหลี่ฝางว่า ตู้เฟยเคยมาหาเธอจริง แล้วให้เธอตั้งหนึ่งหมื่น ให้เธอนัดลู่หลุ่ยออกมา แต่เหมิงเหมิงปฏิเสธ

เหมิงเหมิงคิดว่าเบื้องหลังของเงินจำนวนมากขนาดนี้ จะต้องมีการสมรู้ร่วมคิดอะไรซ่อนอยู่แน่

ตอนนั้นเหมิงเหมิงคิดแค่ว่าตู้เฟยคือลูกคนรวย อยากจะจีบลู่หลุ่ย จึงไม่ได้คิดอะไร และก็ไม่ได้บอกลู่หลุ่ย แต่ใครจะไปคิดว่า ……

เกือบจะเป็นหายนะ

หลี่ฝางพูด:“ถ้าคุณไม่พูด ผมก็จะไปถาม แบบนั้นจะยิ่งอึดอัด”

“อย่า หลี่ฝาง นี่คุณจะทำอะไร คุณจะไปคิดบัญชีกับเธอเหรอ?แบบนั้น ต่อไปฉันจะอยู่ที่หอยังไงล่ะ”ลู่หลุ่ยขมวดคิ้วแน่น

จากนั้นไม่นาน ลู่หลุ่ยก็คว้าแขนของหลี่ฝาง พูดด้วยใบหน้าอ่อนโยน:“ช่างเถอะ ฉันรับปากคุณ ต่อไปฉันจะไปไม่ไหนมั่วๆแล้ว”

หลี่ฝางส่ายหน้า พูดด้วยสีหน้าดื้อรั้น:“ไม่ได้”

“เขาเกือบจะทำคุณตาย บัญชีนี้ ผมไม่ปล่อยไปแบบนี้แน่”หลี่ฝางพูดด้วยใบหน้าเด็ดเดี่ยว

ตอนนี้เอง โจวเสี่ยวชิง เพื่อนสาวของลู่หลุ่ยคนหนึ่ง ก็มาทางนี้

ข้างกายของโจวเสี่ยวชิง ตามมาด้วยชายผมดัดฟอยล์คนหนึ่ง ที่แขนของชายผมดัดฟอยล์นี้ ยังสักด้วย

“ใช่เธอไหม?”หลี่ฝางชี้ไปที่โจวเสี่ยวชิง แล้วถาม

“อือ”ในที่สุดลู่หลุ่ยก็พยักหน้า

หลี่ฝางยืนขึ้นมา เดินมาที่ตรงหน้าของโจวเสี่ยวชิง:“ทำไมต้องขายลู่หลุ่ยด้วย?”

หลี่ฝางถามไปตรงๆ ไม่มีการอ้อมค้อม โจวเสี่ยวชิงตะลึงก่อน จากนั้นก็พูดอย่างประหม่า:“คุณพูดอะไรน่ะ?ฉันไม่เข้าใจ”

“แล้วก็ คุณไม่ใช่แฟนเก่าของลู่หลุ่ยเหรอ?คุณสองคนคืนดีกันแล้วเหรอ ดีใจด้วยนะ”

โจวเสี่ยวชิงร้อนตัวหน่อยๆ หลังจากพูดจบ ก็ลากชายผมดัดฟอยล์แฟนของตัวเองไป แล้วพูด:“ไป ที่รัก พวกเราไปกินอีกฝั่งดีกว่า อย่าเป็นก้างขวางคอตรงนี้เลย”

โจวเสี่ยวชิงหมุนตัวไป หลี่ฝางก็คว้าแขนของโจวเสี่ยวชิงไว้ทันที แล้วพูด:“ทำไมกินปูนร้อนท้องเหรอ?”

“ตู้เฟยให้เงินคุณไม่น้อยล่ะสิ?”

“เหอะเหอะ เขาให้คุณตั้งมากขนาดนั้น คุณก็ไม่คิดเลยเหรอว่า เขาจะทำอะไรกันแน่?มีเจตนาอะไร?”

หลี่ฝางหรี่ตาลง พูดอย่างเย็นชา:“คุณนัดลู่หลุ่ยออกมาดึกๆดื่นๆ ไม่กลัวลู่หลุ่ยจะเป็นอะไรเหรอ?”

โจวเสี่ยวชิงขมวดคิ้ว พูดว่า:“จะเกิดอะไรได้ล่ะ ตู้เฟยเป็นนักเรียนของมหาวิทยาลัยพวกเรา เขาจะทำอะไรลู่หลุ่ยได้ล่ะ”

“เขาก็แค่ชอบลู่หลุ่ย อยากนัดลู่หลุ่ยออกมาเที่ยวก็เท่านั้น”

“คุณต้องโกรธขนาดนี้เลยเหรอไง?”โจวเสี่ยวชิงมองไปที่หลี่ฝาง ดิ้นรนตอบโต้ไป พร้อมกับพูดไปอย่างโกรธๆ

ส่วนชายผมดัดฟอยล์ที่อยู่ข้างกายของโจวเสี่ยวชิง ก็เอนไปที่หน้าอกของหลี่ฝางโดยตรง:“น้องชาย รีบปล่อยแฟนผมซะ ไม่งั้นผมจะไม่เกรงใจแล้วนะ”

“ไม่เกรงใจ?”หลี่ฝางหัวเราะเหอะเหอะ:“คุณจะไม่เกรงใจยังไง?”

ชายผมดัดฟอยล์นี้มองดูแล้วถึงแม้จะสูงกว่าหลี่ฝางหน่อย แต่หลี่ฝางไม่กลัวเขาสักนิด

พูดถึงเรื่องตบตี ถึงแม้หลี่ฝางสู้พวกที่เล่นกังฟูพวกนั้นไม่ได้ แต่นักเลงธรรมดาๆ หลี่ฝางคิดว่าตัวเองสู้ได้

“ที่รัก คุณเล่นยูโดเป็นไม่ใช่เหรอ ตีเขาสิ”โจวเสี่ยวชิงส่งสายตาให้ชายผมดัดฟอยล์

ชายผมดัดฟอยล์ลังเลหน่อยๆ ยังไงที่นี่ก็คือโรงอาหาร ตบตีที่นี่ จะต้องถูกลงโทษอย่างแน่นอน

“ทางที่ดีคุณหลบไปข้างๆเถอะ”หลี่ฝางกลอกตาใส่ชายผมดัดฟอยล์ แล้วพูด

“ห่า ดูสิว่าคุณบ้าแค่ไหน จะสู้กับผมใช่ไหม?”

ชายผมดัดฟอยล์โมโหทันที จึงลงมือ ปล่อยหมัดไปที่ตัวของหลี่ฝาง

หลี่ฝางถอยไปหนึ่งก้าว แล้วมองชายผมดัดฟอยล์:“ผมพูดอีกรอบนะ ไสหัวไปซะ”

“แม่เอ๊ย ผมไม่ไป แล้วจะทำไม?”

“ผมเตือนคุณนะ ถ้าคุณแตะต้องแฟนผมอีก ผมจะจัดการไอ้ระยำอย่างคุณให้ตาย”

หลังจากชายผมดัดฟอยล์ชี้ใส่จมูกของหลี่ฝาง ด่าไป แล้วจากนั้นก็หันหน้าไปพูดกับโจวเสี่ยวชิง:“พวกเราไปเถอะ”

“อือ”โจวเสี่ยวชิงตอบอือไป แล้วก็หันหลังกลับไปพร้อมกับชายผมดัดฟอยล์ จะออกไป

ลู่หลุ่ยก็ดึงมือของหลี่ฝาง แล้วพูด:“ช่างเถอะ แฟนของโจวเสี่ยวชิงสู้ได้เก่งมาก คุณไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา”

“ผมรู้”

หลี่ฝางพยักหน้า จากนั้นก็หยิบถาดข้าวสเตนเลสขึ้นมา

หลี่ฝางคว้าถาดข้าวไว้ แล้วเดินเข้าไป:“เฮ้ย พี่ชาย”

“ทำไม!”ชายผมดัดฟอยล์หันหน้าไป:“ยังอยากจะสู้เหรอ?”

หลี่ฝางหัวเราะ เอาถาดข้าว ทุบใส่หน้าของชายผมดัดฟอยล์ไปตรงๆ บนถาดข้าวนี้ ยังมีพวกมะเขือเทศผัดไข่อะไรพวกนั้นที่ลู่หลุ่ยกินเหลือด้วย

ทันใดนั้น ชายผมดัดฟอยล์ก็ดูโหดเหี้ยมขึ้นมา

“แม่เอ๊ย!”ชายผมดัดฟอยล์โมโหทันที มองที่หลี่ฝางด้วยสีหน้าน่ากลัว

“แม่เอ๊ยผมจะเอาคุณให้ตายเลย!”ชายผมดัดฟอยล์จะลงมือนั่นเอง จู่ๆ ด้านหลังเขาก็มีคนกลุ่มหนึ่งพุ่งเข้ามา ล้อมรอบชายผมดัดฟอยล์ไว้

ทั้งหมดล้วนแต่เป็นลูกน้องของถังจิ้น

หลังจากถังจิ้นตาบอด คนพวกนี้ก็ติดตามหลี่ฝาง แน่นอนว่า นี่คือความต้องการของถังจิ้น

“เพื่อนรัก อยากจะทำร้ายพี่ใหญ่ผม ถามพวกเราหรือยัง?”

“จัดการให้ผม”

ทั้งห้าคนล้อมรอบชายผมดัดฟอยล์ไว้ แล้วพุ่งเข้าไป ถึงแม้ชายผมดัดฟอยล์จะเล่นยูโดได้ แต่ไม่ได้เรียนจนเก่งมากอะไรนัก มากไปกว่านั้นระยะห่างที่ใกล้มาก ยูโดของเขาก็แสดงออกมาไม่ได้

ไม่ถึงหนึ่งนาที ชายผมดัดฟอยล์ก็ล้มทั้งห้าคนนี้ไปที่พื้น

เวลานี้หลี่ฝางเดินไปตรงหน้าของโจวเสี่ยวชิง แล้วพูด:“คุณจะไปกับผมดีๆ หรือว่าให้ผมบังคับคุณไป?”

สีหน้าของโจวเสี่ยวชิง เข้าสู่สภาวะซีดขาวทันที

“คุณหนีไม่พ้นหรอก”หลี่ฝางพูด

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท