NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่531 ผู้ชายคนนั้นที่ลูกพี่หลินพูดถึง

บทที่531 ผู้ชายคนนั้นที่ลูกพี่หลินพูดถึง

บทที่531 ผู้ชายคนนั้นที่ลูกพี่หลินพูดถึง

ลูกพี่หลินหัวเราะฮ่าฮ่าออกมา ในมือถือโทรศัพท์ของหลี่ฝาง หลี่ฝางจึงคิดขึ้นได้ว่า โทรศัพท์ยังอยู่ในมือของลูกพี่หลิน

เห็นฉากนี้ หลี่ฝางก็ยื่นมือออกไป พูดกับลูกพี่หลิน:“ผมว่านะพ่อตา คุณอายุมากขนาดนี้แล้ว ทำไมยังเล่นอย่างกับเด็กอีก”

ถึงถูกวางแผนร้ายไปที แต่หลี่ฝางก็ไม่ได้ดูไม่พอใจ ยังไงคำพูดเมื่อกี๊ ถ้าหลินชิงชิงได้ยิน ก็เป็นการเพิ่มคะแนนสำหรับตัวเอง

“ผมกำลังสอนคุณอยู่ ตอนที่คุยกับคนอื่น ต้องป้องกันจากอีกฝ่ายด้วย ถ้ามือของฝ่ายตรงข้ามละสายตาคุณไป คุณต้องระวัง เขาอาจจะคลำปืนหรือคลำมีด เข้าใจไหม?”ลูกพี่หลินพูดด้วยสีหน้าจริงจัง

หลี่ฝางหัวเราะตาม:“ติดตามพ่อตาไป ได้เรียนรู้อยู่ตลอดเวลาจริงๆ”

รับโทรศัพท์มาจากมือของลูกพี่หลิน หลี่ฝางก็พบว่าด้านบนยังมีข้อความเสียงอันหนึ่งด้วย หลี่ฝางจึงเปิดฟัง เป็นพ่อตาพ่อตา……

หลี่ฝางมองลูกพี่หลินอย่างบึ้งตึง:“พ่อตา ผมกับพี่ชิงชิง ยังก้าวหน้าไม่ถึงจุดนั้นเลย ถ้าพรุ่งนี้เธอเจอ ต้องด่าผมหน้าไม่อายแน่”

“ทำไม ยังไม่จัดการลูกสาวผมเหรอ?เห้อ ก็ใช่ ลูกสาวผมสายตาเฉียบคม คุณต้องขยันหน่อย ผมมองคุณในแง่ดี”

“เสี่ยวฝาง จำไว้นะ สำหรับหนุ่มสาวอย่างพวกคุณ หน้าไม่อายก็เป็นเรื่องดี ไม่ใช่ข้อเสียอะไร เข้าใจไหม?”ลูกพี่หลินมองหลี่ฝาง พูดอย่างจริงจัง

“หนุ่มสาวน่ะ อย่าเห็นแก่หน้ามากไป ไม่ว่าจะพวกนักเลง หรือว่าในเรื่องความรัก ก็ต้องเสนอหน้าออกไปถึงจะดี แน่นอนว่า ต่อหน้าลูกน้องตัวเอง คุณต้องวางท่า เรียกพรรคพวกจะต้องมีขอบเขต แต่อย่าไปลดตัวอยู่กับพวกเขา แบบนั้น คนที่อยู่ใต้เงื้อมมือคุณก็จะลอยหายไป ทำอะไรขึ้นมา ก็จะไม่มีกฎเกณฑ์”ลูกพี่หลินพูด

หลี่ฝางฟังทีละคำๆเข้าไปในหู แล้วจำไว้อย่างดี

ตอนนี้ หลี่ฝางแทบอยากจะหาสมุดเล็กๆ มาจดบันทึกคาบเรียนนี้

หลี่ฝางหัวเราะหึหึ พูดว่า:“ฟังพ่อตาพูด ดีกว่าอ่านหนังสือไหนๆซะอีกจริงๆเลย”

“คนเราถนัดไม่เหมือนกันหรอก ครูของพวกคุณสอนคุณ ไม่เหมือนกับที่ผมสอนคุณ ผมสรุปมาจากการล้มลุกคลุกคลานมานับไม่ถ้วน พูดตรงๆนะ ผมพูดพวกนี้ มีค่ากว่าพวกนั้น ที่คุณฟังจากห้องเรียนเยอะเลย”

หลี่ฝางพยักหน้าตอบไป แล้วถามต่อ:“พ่อตา หวางเห้ากับเฉินฝูเซิงคุณวิเคราะห์ให้ผมไปแล้ว งั้นหวางเสี่ยวหยวนล่ะ?คุณเข้าใจเขาไหม?”

ถึงแม้ก่อนหน้านี้ลุงเฉียนก็รวบรวมข้อมูลของหวางเสี่ยวหยวนและคนอื่นๆมาไม่น้อยให้หลี่ฝาง แต่ไม่ได้ลึกซึ้งนัก แค่ผิวเผินเท่านั้น

หลี่ฝางอยากได้ข้อมูลเพิ่มขึ้น จากปากของลูกพี่หลิน

แน่นอน หลี่ฝางก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมาก ใครจะไปรู้ว่า ลูกพี่หลินกลับสร้างความแปลกใจให้หลี่ฝาง

“ผมกับหวางเสี่ยวหยวน เคยร่วมมือกันอยู่ช่วงหนึ่ง ในตัวของคนนี้ มีความชอบธรรม ในเมื่อเขาบอกจะอยู่กับคุณแล้ว ก็จะไม่ทรยศคุณ”

“เฉินเจียโล่ และพวกหวงว่างโก๋ ลูกน้องของเขา ยิ่งไม่มีทางทรยศหวางเสี่ยวหยวน”

“มิตรภาพของทั้งสามคนนี้ แน่นแฟ้นมาก”

“หวางเสี่ยวหยวนพูดอะไร เขาสองคน ก็จะทำตาม ถึงแม้หวางเสี่ยวหยวนจะให้พวกเขายิงตัวเอง พวกเขาสองคนก็ไม่ถามว่าทำไม”

หลี่ฝางได้ยินพวกนี้ ก็ดูไม่ค่อยอยากจะเชื่อ:“แน่นแฟ้นขนาดนี้เชียว?”

“ใช่ พวกเราเคยไปเขตสามเหลี่ยมด้วยกัน”

“ตอนนั้น ผมกับพวกเขาเป็นคู่แข่งกัน เขาเล่นมากกว่าผม ฉลาดกว่าผม แต่ไม่ชั่วช้าเท่าผม ดังนั้นตอนที่สู้กัน ผมจึงเล่นวิธีการที่ไม่สะอาดไปหน่อย เสี่ยวฝาง คุณรู้ไหมว่าพวกนักเลงให้ค่าสิ่งไหนที่สุด?ที่จริงสิ่งที่นักเลงให้ค่าที่สุด ไม่ใช่ความภักดีของพรรคพวก และก็ไม่ใช่ชื่อเสียงและเงินทอง แต่เป็นครอบครัว”

“ตอนที่ผมจับตัวเฉินเจียโล่กับหวงว่างโก๋ไป หวางเสี่ยวหยวนก็ยอมจำนนกับผมโดยตรง ตอนนั้นผมไม่ได้เสนอเงื่อนไขใดๆเลย แน่นอนว่า เขาคือคนฉลาด รู้ว่าผมต้องการอะไร ไม่ใช่แค่เอาของที่ผมต้องการให้ผม แต่ยังแบ่งปันข้อมูลของครอบครัวตัวเองให้ผมด้วย เพื่อที่จะช่วยเพื่อนรักของเขาสองคนนั้น”

“สามคนนี้โตมาด้วยกัน แข็งแกร่งมาก”

“เขาไปจากเขตสามเหลี่ยม ก็ไม่แย่งอะไรผมไปเลย จากนั้นก็ไม่แก้แค้นผม ผมรู้สึกกับคนนี้ มีแต่ความชื่นชม”

“ตอนนั้นเส้นทางเขตสามเหลี่ยมนี้ ไม่ง่ายเลยที่จะหาได้ ผมกับเขา ต่างหมดแรงไปเยอะกับมันมาก พูดกับคุณอย่างนี้ละกันถ้าตอนนั้นเราสองคนสู้กันอย่างยุติธรรม หวงว่างโก๋จะต้องคว้าโควตาตัวแทนนี้ไปแน่ และตอนนั้น เขาก็มีผู้สนับสนุนที่แข็งแกร่ง ก็แค่ต่อมาเขาถูกสี่ตระกูลใหญ่รังแก บีบให้เขาต้องวางมือ”

“ผมรู้ว่าสี่ตระกูลใหญ่นั้นมีอยู่ มาจากมู่เสี่ยวไป๋ จึงถอยจากเมืองเอกมาที่ตงไห่ อยู่ในที่อยู่ห่างไกลอำนาจ คอยแอบทำกิจกรรมอื่นๆลับๆที่คนไม่รู้”

“ถึงแม้คนตงไห่ต่างคิดว่าลูกพี่หลี่กับผมนั้นเท่าเทียมกัน ที่จริงแล้ว ลูกพี่หลี่ก็ถือว่าทำงานให้ผม ไม่อย่างนั้น ผมคงไม่สามารถคอยแต่กดให้จางกงหมิง ไปแย่งถิ่นของลูกพี่หลี่ได้หรอก”ลูกพี่หลินพูดไปหัวเราะอย่างภาคภูมิใจ

“พ่อตาคุณซ่อนความแข็งแกร่งของตัวเองไว้ได้จริงๆ”

หลี่ฝางยกนิ้วโป้งให้ เลียแข้งเลียขาอย่างเข้าใจดี

“นี่สิต้องเรียกคุณว่าคนจริงไม่ต้องโชว์”หลี่ฝางพูดชม

“เอาน่ะ อย่ามาประจบผมเลย เทียบกับผมแล้ว ตัวตนของคุณนั้นเจ๋งมาก สไตล์ชีวิตของคุณ ไม่ใช่ว่าถ่อมตัวกว่าผมอีกเหรอ?วันๆเอาแต่ทำเป็นแกะน้อยไม่เปิดเผยตัวตน ความจริงแล้ว คุณเป็นคนโหดร้ายอำมหิตมาก คุณทำตัวอ่อนแอ เป็นหมาป่าสวมหนังแกะทั้งวัน ลูกพี่หลี่ถูกคนข้างกายคุณจัดการใช่ไหม?”

“ลูกพี่หลี่บอกว่าจะจับตัวคุณ แต่คืนนั้นกลับตายลง ตอนนั้นผมตกใจมาก”

“ต่อมาผมถึงรู้ว่า ที่แท้หลอซ่าก็กลับมาแล้ว”

“พูดถึงแล้ว คุณเหมือนกับพ่อคุณมาก พ่อคุณ ก็คือหัวหน้าที่ถ่อมตัว”

ลูกพี่หลินพูดถึงหลอซ่า ก็ถอนหายใจเบาๆ:“น่าเสียดายมาก”

“พ่อตา นี่เรียกว่าคนที่ต่างกัน ไม่มีทางเดินทางเดียวกันได้ คุณว่าไหม?”หลี่ฝางหัวเราะ

“คำนี้ผมชอบจัง”

“จุดบุหรี่ให้ผมอีกสิ บอกให้นะ ไอ้หมอนี่ คุณได้หวางเสี่ยวหยวนมาเป็นลูกมือข้างกายคุณ เป็นความโชคดีของคุณ”

“ในบรรดาทำนาจทั้งสามนี้ ผมชอบฝั่งหวางเสี่ยวหยวน”

“เขาทำอะไรใจเย็น มิดชิดไม่มีช่อง​โหว่ และก็เป็นคนที่ทำให้มู่เสี่ยวไป๋ปวดหัวที่สุด ได้ยินว่ามู่เสี่ยวไป๋กำลังหาคนมากำจัดหวางเสี่ยวหยวน ก็หามาไม่ได้ตลอด”

“ลูกน้องของมู่เสี่ยวไป๋ ไม่มีคนที่ใช้ได้ คนเดียวที่ใช้ได้ ก็คือจางกงหมิง”

“แต่ในใจของจางกงหมิงเด็กคนนี้ ไม่อยู่ที่มู่เสี่ยวไป๋ ทำอะไรขึ้นมา ก็ไม่ทุ่มเทมากไป”ลูกพี่หลินหัวเราะเหอะเหอะ:“ถ้ามู่เสี่ยวไป๋ ไม่ไปหาตัวช่วยที่ต่างประเทศ เขาสู้คุณไม่ได้แน่”

“เขาไปหามู่หรงฉางเฟิงกับซือถูเฟยแล้ว”

หลี่ฝางพูดด้วยสีหน้าหนักอึ้ง:“คนพวกนี้รวมตัวกันแล้ว ผมไม่กล้าดูถูกเลย”

“อือ ไม่ว่าตอนไหนก็อย่าประมาทศัตรู นี่คือเรื่องดี”

ลูกพี่หลินเพิ่งพูดจบ ชายผมยาวก็เดินออกมาจากห้องเล็กๆ:“ลูกพี่ ติดต่อเรียบร้อยแล้ว เดินทางคืนมะรืนนี้”

ลูกพี่หลินขมวดคิ้ว ท่าทางก็ดูไม่พอใจ:“เร็วกว่านี้ได้ไหม มะรืนช้าไป พอพระอาทิตย์ขึ้น หมาจื่อก็จะตามหาผม เขาต้องพลิกแผ่นดินหาตงไห่แน่”

“อีกอย่าง ผู้ชายคนนั้น ก็จะช่วยหมาจื่อหา”ลูกพี่หลินขมวดคิ้วพูด

หลี่ฝางรู้ว่า ผู้ชายคนนั้นที่ลูกพี่หลินพูดถึง น่าจะเป็นที่เขตสามเหลี่ยม

ของบางอย่าง เป็นทั้งพรและคำแช่ง ตอนนั้นลูกพี่หลินแย่งเขตสามเหลี่ยมเส้นทางนั้นมาได้ มีชื่อเสียงและเงินทอง ตอนนี้ เส้นทางนั้น กลับต้องการชีวิตเขา

มันง่ายที่จะอยู่กับพวกคนเลว แต่ยากที่ละทิ้งความชั่วร้ายออกไปจริงๆ ถึงคุณไม่อยากลงไป แต่พอคุณแก่ คนพวกนั้นก็จะถีบคุณลง

“ยังมีอีกทาง คืนพรุ่งนี้เที่ยงคืน แต่มันจะหนาวเกินไป ถ้าลูกพี่ไม่คิดว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมเกินไป พวกเราสามารถซ่อนอยู่ที่ตู้บรรทุกถ่านหิน หนีออกไปได้”

ชายผมยาวพูดจบ ลูกพี่หลินก็พยักหน้า พูดอย่างพอใจ:“เส้นทางนี้ เที่ยงคืนพรุ่งนี้ใช่ไหม?”

“ไปไหน ออกจากเมืองเหรอ?”

ชายผมยาวพยักหน้าพูด:“ออกจากเมือง จะต้องหาหลายเมือง แค่ปรากฏมาเมืองแรก พวกเราอยากจะลงที่นั่นก็ลงไป”

“เส้นทางนี้ปลอดภัยมาก แต่แค่หนาวหน่อย”

“เทียบกับชีวิตแล้ว หนาวสักหน่อยก็ไม่เป็นไร”ลูกพี่หลินพูดด้วยใบหน้าซับซ้อน:“พรุ่งนี้จะไปแล้ว ทำใจไม่ได้จริงๆ”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท