NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่557 คำขอร้องของหลินชิงชิง

บทที่557 คำขอร้องของหลินชิงชิง

“อะไรนะ?”

หลี่ฝางกับหลินชิงชิงตาเบิกโตขึ้นพร้อมกัน มองส้าวส้วยอย่างไม่อยากจะเชื่อ

“ฆ่าตัวตาย?นี่จะเป็นไปได้ไงล่ะ ร้านนั้นเพิ่งจะสี่สิบปี ลูกชายก็เพิ่งเข้ามหาวิทยาลัย และยังเป็นมหาวิทยาลัยชื่อดังอีก จิตใจเขาก็ดูร่าเริงมาตลอด จะฆ่าตัวตายได้ไงล่ะ?”

“ลุงคนนั้นก็ตลกมาก ทุกครั้งที่ฉันไม่มีความสุข เขามักจะหาทางหยอกให้ฉันมีความสุขเสมอ”

“แล้วก็ภรรยาของเขา ไม่ใช่แค่หน้าตาสวย แต่ยังจิตใจดี ความรู้สึกกับเจ้าของนั้นก็กลมเกลียวหันมาตลอด ไม่เคยทะเลาะกันเลย”

หลินชิงชิงเม้มปาก พูดว่า:“ฆ่าตัวตาย?จะเป็นไปได้ไง?”

ตามที่หลินชิงชิงเพิ่งพูดไป จริงๆแล้ว เจ้าของร้านแป้งทอดเนื้อลานี้ ไม่มีทางที่จะฆ่าตัวตายได้

“ฆ่าตัวตายจริงๆ ผมเพิ่งโทรหาโหจื่อ ให้เขาไปดูหน่อย ตอนที่โหจื่อเพิ่งไปถึงหน้าประตูหมู่บ้านพวกเขา ก็เห็นกลุ่มคนล้อมรอบเข้ามา และตรงกลางระหว่างฝูงชนนั้น ก็คือเจ้าของของร้านแป้งทอดเนื้อลา เขากระโดดตึกฆ่าตัวตาย ตายอย่างอนาถมาก ถ้าพวกคุณไม่เชื่อ ก็ไปเปิดกระดานข่าวของตงไห่ได้ ไปดู เชื่อว่าหลายๆคนกำลังพูดถึงเรื่องนี้อยู่ นอกจากนี้ ……”

“ภรรยาของเขาบ้าไปแล้ว ถูกพาไปที่โรงพยาบาลจิตเวช”เงียบไปเล็กน้อย ส้าวส้วยก็พูดต่อ

สีหน้าของหลินชิงชิง ตกใจไป

“ไม่มีทางเป็นไปได้ นี่ไม่มีทางเป็นไปได้เลย สองสามีภรรยาที่อยู่ด้วยกันดีๆ คนหนึ่งจะไปฆ่าตัวตาย อีกคนจู่ๆจะบ้าขึ้นมาได้ไง”สีหน้าหลินชิงชิงตะลึงงัน

สีหน้าของหลี่ฝาง ก็ค่อยๆหม่นลงไป

ถึงแม้ส้าวส้วยไม่พูดตรงๆ แต่หลี่ฝางรู้ว่า เจ้าของของร้านแป้งทอดเนื้อลา ไม่มีทางฆ่าตัวตายแน่

หลี่ฝางเห็นท่าทางของหลินชิงชิงนั้นไม่ค่อยดีเท่าไหร่ จึงพูด:“พี่ ผมประคองพี่ขึ้นไปพักผ่อนข้างบนดีกว่า”

หลินชิงชิงไม่ปฏิเสธ ตอนที่ขึ้นไป หลินชิงชิงก็มองหลี่ฝางแวบหนึ่ง ตากะพริบเล็กน้อย แล้วพูดว่า:“เสี่ยวฝาง ฉันเข้าใจความหมายของส้าวส้วย ส้าวส้วยพูดต่อหน้าฉัน น่าจะอยากบอกฉันว่า เจ้าของร้านแป้งทอดเนื้อลาถูกฆ่า เกี่ยวข้องกับฉัน”

“เขาไม่ได้ฆ่าตัวตาย แต่เขาถูกฆ่า และคนที่ฆ่า น่าจะเป็นพ่อฉัน ใช่ไหมของ?”

“ถึงแม้ฉันจะพยายามอย่างสุดชีวิตให้ตัวเองไม่ไปสงสัย แต่เรื่องบางเรื่อง ก็เป็นแบบนั้น ยิ่งฉันไม่ไปคิด ในหัวก็ยังมีเรื่องพวกนั้นวนเวียน”

“ตั้งแต่เมื่อกี๊จนตอนนี้ ที่ในหัวฉันคิด ต่างเป็นรอยยิ้มเป็นกันเองของคุณลุง”

“พอฉันคิดว่าเขาฆ่าตัวตาย ในใจก็เจ็บปวด”

หลินชิงชิงหยุดฝีเท้าลง มองหลี่ฝาง แล้วถามว่า:“ใช่พ่อฉัน ฆ่าเขาไหม?”

ประโยคของหลินชิงชิง ทำเอาหลี่ฝางตกตะลึง

ถ้าทุกอย่าง ล้วนแต่เป็นกับดักล่ะก็ งั้นคนที่วางกับดักนี้ ชัดเจนว่าเป็นลูกพี่หลินเองอย่างไม่ต้องสงสัย

และตอนนี้ดูแล้ว นี่ต้องเป็นกับดักแน่นอน

และที่ฆ่าเจ้าของของร้านแป้งทอดเนื้อลา ถึงไม่ใช่ตัวลูกพี่หลินเอง แต่ต้องเป็นอำนาจจากลูกพี่หลินแน่

หลี่ฝางไม่พูด หลินชิงชิงหัวเราะอย่างขมขื่น:“คุณกำลังกังวลอะไร?”

“กังวลว่าพูดความจริง ฉันจะรับไม่ได้เหรอ?หรือว่าเผชิญหน้าไม่ได้?”

หลินชิงชิงขมวดคิ้ว พูดว่า:“ที่จริง เรื่องนี้ชัดเจนอยู่แล้ว กว่าแปดสิบเปอร์เซ็นต์เป็นพ่อฉันทำ”

“เช้าวันนี้ ฉันเห็นแล้วจริงๆ ถึงแม้ต้นขาพ่อฉันจะถูกยิงสองนัด ดูเหมือนรุนแรงมาก แต่ไม่บาดเจ็บไปที่เส้นลือดใหญ่ ถ้าอีกฝ่ายต้องการให้พ่อฉันตายจริงๆ งั้น อีกฝ่ายคงไม่ยิงตำแหน่งนั้นแน่”

หลี่ฝางมองหลินชิงชิงอย่างแปลกใจ พูดว่า:“พี่ชิงชิง ความหมายของคุณคือ?”

“เป็นกลยุทธ์ทุกข์กาย เห็นได้ชัดมาก”หลินชิงชิงพูดหน้านิ่งๆ

“ที่จริงคุณก็คิด ใช่ไหม?”หลินชิงชิงมองหลี่ฝาง สายตานั้นซับซ้อน

“ไม่ว่าจะพูดยังไง เขาก็คือพ่อฉัน ไม่ว่าเขาจะทำเรื่องชั่วช้า ไร้คุณธรรมแค่ไหน ความจริงที่เขาคือพ่อฉันนี้ เปลี่ยนแปลงไม่ได้ พูดตรงๆนะ ความจริงนี้ ฉันก็รับไม่ได้ แต่พอคิดดีๆ ในเมื่อพ่อฉันทำได้แม้แต่ธุรกิจพวกนั้น ยังจะมีเรื่องอะไรอีกที่เขาทำไม่ได้ล่ะ?”

หลินชิงชิงส่ายหน้า พูดว่า:“ในรถ พ่อฉันกำชับฉันสองเรื่อง เรื่องแรก ก็คือให้ฉันแต่งงานกับคุณ ยิ่งเร็วยิ่งดี ฉันเชื่อว่ามีบางอย่างเขาไม่ได้หลอกคน ตอนนี้สถานการณ์ที่เขาเผชิญอยู่อันตรายมาก และการคุกคามนี้ ก็จะส่งมาที่ฉันด้วย น่าจะเป็นลุงป๋ายหม่าผู้ชายคนนั้น”

“เมื่อก่อนฉันรู้แค่ว่าลุงป๋ายหม่าช่วยพ่อฉันหาเงินได้ตั้งเยอะ พวกเขาพูดถึงเรื่องหุ้นอะไรนั่นตลอด ตอนนี้ดูแล้ว น่าจะเป็นการอำพราง ที่พ่อฉันทำกับลุงป๋ายหม่า ที่จริงแล้วคือสิ่งสกปรก”

“ของแบบนี้ ผิดศีลธรรม แต่กำไรสูง แทบจะพูดได้ว่ากำไรมหาศาล ถึงของสิ่งนี้จะสืบสวนเข้มงวดแค่ไหน ก็ยังมีคนขายในตลาดยังไงเพื่อเงินแล้ว ฆ่าคนวางเพลิงอะไรคนก็ยังทำกันได้ แล้วนับประสาอะไรกับขายสิ่งนี้ล่ะ?”

“คนจนไม่กลัวตาย แต่กลัวจน สังคมนี้มีคนหลายๆคนอยากอยู่ตำแหน่งสูงๆ ก็แค่รอโอกาสเท่านั้นแหละ ถึงแม้โอกาสนี้ทำให้เขาตายได้ พวกเขาก็ไม่มีความลังเลใดๆ”

“นานมาแล้ว พ่อฉันก็เป็นคนที่ทำทุกอย่างได้โดยไม่สนอะไร เมื่อก่อนมีสองแก๊งที่สู้กัน หนึ่งในนั้นบอกว่า แค่ฆ่าหัวหน้าที่มีชื่อเสียงของอีกฝ่ายได้ ก็จะได้รับหนึ่งล้าน”

หลินชิงชิงพูดไป ทันใดนั้นก็หัวเราะ:“พ่อฉันฆ่าคน จากนั้นก็ได้มาหนึ่งล้านจริงๆ”

หลี่ฝางตะลึง เขาคิดไม่ถึงว่า หลินชิงชิงจะบอกตัวเองเรื่องพวกนี้ ยังไงนี่ก็เป็นเรื่องลับส่วนตัว

ถ้าถูกหลี่ฝางอัดเสียงไว้ล่ะ สำหรับลูกพี่หลินแล้ว เป็นเรื่องอันตรายถึงชีวิตเลย

“ที่จริง พวกเราไม่ใช่คนตงไห่ พวกเรามีกันสามคนพ่อแม่ลูก เป็นคนนอกพื้นที่ ตอนนั้น ครอบครัวฉันจนมาก แทบจะไม่มีข้าวกินเลย พ่อฉันไม่ได้มีประวัติสะอาดนัก ตอนวัยรุ่นก็เข้าห้องขังเป็นประจำ ก่อนที่ยังไม่มีฉัน ทุกครั้งเขาจะเข้าคุกอยู่สองเดือน จากนั้นก็ออกมาสองเดือน เหอะเหอะ เขารู้สึกว่าชีวิตนั้นความกดดันสูง เมื่ออยู่ข้างนอก แต่ด้านในสำหรับเขานั้นถือว่าผ่อนคลายขึ้นมาหน่อย”

“แม่ฉันเคยคิดหย่า แต่ก็ยังอาลัยอาวรณ์พ่อฉัน หลังจากมีฉัน แม่ฉันก็ขู่พ่อฉัน ถ้าเขาไม่เป็นคนใหม่ล่ะก็ เข้าคุกอีก แม่ก็จะหนีไป และทำแท้งเอาฉันออก จากนั้นพ่อฉันก็เปลี่ยนใหม่ ไม่ทำเรื่องผิดกฎหมายอีก”

“แต่วางมือมันจะง่ายที่ไหนกัน เมื่อก่อนพ่อฉันเป็นหนี้หลายพันหยวน สุดท้ายดอกเบี้ยก็ทบไปเรื่อยๆ จนไปถึงเกือบแสน ตอนนั้นพ่อฉันขายพวกลูกชิ้นเสียบไม้ทอดที่ข้างถนน เงินหนึ่งแสน ต้องหาถึงสองปีแหนะ ครอบครัวเราไม่มีเงิน ถูกพวกเขารังแก ทรมานทุกวัน”

“สุดท้าย แก๊งสองแก๊งที่นั่นของพวกเราก็สู้กัน แล้วพ่อฉันก็ติดหนี้นอกระบบของคนนี้ ซึ่งก็คือหัวหน้าคนนั้นแหละ แล้วอีกฝ่ายก็เสนอเงินรางวัลให้ หัวของเขา กับเงินหนึ่งล้าน”

“เจ้านายคนนั้นเคยทุบตีแม่ฉัน คนอย่างพ่อฉัน ที่จริงแล้วแค้นใจมาก ถึงแม้เขาไม่พูดมาตลอด แต่ในใจก็อัดอั้นความโกรธไว้ คืนหนึ่งฝนตกหนัก พ่อฉันก็แอบหนีออกไป ตอนที่กลับมา มาพร้อมกับเงินหนึ่งล้าน”

“จากนั้น เราสามคนพ่อแม่ลูก ก็มาที่ตงไห่ในชั่วข้ามคืน”

“พ่อฉันจ่ายเงินไปนิดหน่อย เพื่อซื้อทะเบียนบ้านปลอม ที่จริงฉันไม่ได้นามสกุลหลิน ส่วนนามสกุลอะไรนั้น ฉันไม่รู้”

“น่าจะเพราะว่ากลัวจนสุดๆ พ่อฉันจึงกลายเป็นคนเห็นเงินสำคัญเท่าชีวิต บวกกับที่เขาเคยฆ่าคน ความกล้าก็มากกว่าคนทั่วไป ดังนั้นแป๊บเดียวเขาก็มีชื่อเสียงอย่างไว ครั้งแรกที่ฉันเจอลุงป๋ายหม่า ฉันยังเด็กมาก ฉันยังจำได้ว่าเขาให้ลูกอมกระต่ายขาวฉันเม็ดหนึ่ง แต่ลุงป๋ายหม่าไป พ่อฉันก็ให้ฉันเอาลูกอมในปากคายออก ฉันกลืนลงไป พ่อฉันก็พาฉันไปล้างท้องที่โรงพยาบาล”

“พ่อฉันรักฉันมาก เขาอ่อนโยนกับฉันมาตลอด แม้แต่พูดกับฉันยังพูดเสียงอ่อนหวาน แต่ครั้งนั้น ฉันเห็นพ่อที่ไม่เหมือนเดิม ฉันเริ่มกลัวเขา”

“หลังจากลุงป๋ายหม่าปรากฏตัว พ่อฉันกับแม่ฉันมักจะทะเลาะกัน จากนั้นแม่ฉันก็หนีไป ส่วนพ่อฉันไม่กี่วันก็พาผู้หญิงที่สวยกว่าสาวกว่ากลับมาบ้าน และชี้ไปที่เธอ และบอกให้ฉันเรียนเธอว่าแม่”

“ฉันไม่เรียก ก็จะถูกขังไว้”

หลินชิงชิงพูดไป ใบหน้าก็ปรากฏความเศร้า:“หลายครั้ง ฉันออกไปจากบ้าน อยากไปหาแม่แท้ๆ แต่ทุกครั้งก็จะถูกจับกลับมา พ่อฉันบอกฉันว่า ผู้หญิงสวยตรงหน้านี้ คือแม่แท้ๆของฉัน”

“ตอนนั้นฉันคิดว่าพ่อฉันไม่รักฉันแล้ว จากวันนั้นไปฉันก็ทำตัวต่อต้าน ตอนเข้าเรียน ก็กลายเป็นเจ๊ของโรงเรียน ทั้งโรงเรียน ไม่มีใครกล้ารังแกฉัน มีคุณชายไม่เข้าตาคนหนึ่งอยากจะได้ฉัน ฉันไม่ยอม ก็ด่าฉันว่าทำเป็นใสซื่อ แล้วตบฉัน หลังจากพ่อฉันรู้ ก็ตัดมือของคุณชายคนนั้น คุณชายคนนั้นที่บ้านรวยมาก ส่งคนมาหาพ่อฉัน สุดท้ายพ่อฉันชี้หน้าด่าพวกเขา ฉันคือลูกสาวของเขา แม้แต่เขายังไม่ตีฉัน ใครกล้าแตะต้อง เขาจะเอาถึงตาย”

“บ้านของคุณชายคนนั้นแน่นอนว่าไม่พอใจ แต่พวกเขาไม่ได้สู้กับพ่อฉัน สุดท้ายธุรกิจของครอบครัวก็ล้มละลาย เหมือนว่าจะเกี่ยวข้องกับพ่อฉัน”

“หลังจากเรื่องนั้น แม้แต่ครูใหญ่ของโรงเรียนก็ไม่กล้าตะคอกใส่ฉัน ไม่ว่าฉันทำอะไร พวกครูต่างไม่กล้าว่าฉัน”

“หลังจากเรื่องนั้น ฉันจึงเข้าใจว่า ที่จริงพ่อฉันรักฉัน”

หลินชิงชิงมองหลี่ฝาง แล้วพูด:“หลี่ฝาง ฉันรู้ว่าพ่อฉันไม่ใช่คนดี ทำร้ายคนอย่างไร้ศีลธรรมมามากมาย แต่เขาคือพ่อฉัน แต่เด็กจนโต เขาเลี้ยงฉันมาตลอด และก็เอาใจฉันมาก”

“เขาวางแผนใส่คุณ เขาผิดเอง แต่ก็ยังไม่ถึงจุดที่สมควรตาย ฉันหวังว่าต่อไปคุณจะอยู่ห่างเขาหน่อย ครั้งนี้ ปล่อยเขาไป โอเคไหม?”หลินชิงชิงถาม

“เดิมทีผมก็ไม่คิดจะทำร้ายเขา”หลี่ฝางพูดพร้อมหัวเราะเหอะเหอะ

“พ่อฉันเรียกฉันไป คุยกับฉันสามเรื่อง นอกจากเรื่องแต่งงานกับคุณแล้ว ก็ให้บัตรเอทีเอ็มนี้ ในบัตรมีห้าร้อยล้าน”

หลินชิงชิงเอาบัตรเอทีเอ็มยื่นให้หลี่ฝาง:“ถือว่าเป็นการชดเชยให้คุณละกัน”

“ผมไม่เอา”หลี่ฝางส่ายหน้า:“คุณเอาไปเถอะ”

“ถ้าคุณไม่เอาล่ะก็ งั้นฉันก็จะส่งให้ตำรวจ”หลินชิงชิงพูดด้วยใบหน้าหม่นๆ

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท