NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่558 ผู้จัดการทั่วไปเป็นยาม?

บทที่558 ผู้จัดการทั่วไปเป็นยาม?

หลี่ฝางรู้อยู่แล้วว่าหลินชิงชิงล้อเล่น เธอเอาความกล้ามากไหนที่จะเอาบัตรเอทีเอ็มนี้ส่งให้ตำรวจ

เงินพวกนี้มาได้ยังไง ในใจของหลินชิงชิงรู้ดี ห้าร้อยล้านนี้ บอกได้ว่าเป็นหลักฐานกระทำผิดของลูกพี่หลิน

หลี่ฝางหัวเราะเหอะเหอะ:“ทำไม คุณจะเอาพ่อคุณเข้าคุก ทำลายความเป็นครอบครัวอย่างมีคุณธรรมน่ะเหรอ?”

หลินชิงชิงไม่ปล่อยให้อธิบายก็เอาบัตรเอทีเอ็มยัดใส่กระเป๋าของหลี่ฝาง:“พูดเหลวไหลอะไรน่ะ เงินนี่คุณรับไว้เถอะ เรื่องที่ผ่านมา ฉันรู้หมดแล้ว คุณเกือบเสียผับไป เพื่อช่วยพ่อฉัน”

“ต่อมา คนของพวกคุณ ก็ฆ่าป๋ายหม่า”

สีหน้าหลินชิงชิงหม่นลง พูดว่า:“พ่อฉันหลอกใช้คุณ จุดประสงค์ของเขา น่าจะยืมมือของพวกคุณ กำจัดป๋ายหม่า”

หน้าของหลี่ฝางหม่นหมองลง:“ถ้าจริง ผมก็สร้างปัญหาให้พ่อผมแล้ว”

ใบหน้าของหลินชิงชิงปรากฏความรู้สึกผิด เธอถอนหายใจ:“เห้อ ฉันก็รู้ว่าพ่อฉันแย่มาก แต่ยังไงเขาก็พ่อฉัน”

“อย่าว่าแต่ลูกเขยในอนาคตเขาเลย แม้แต่ฉัน ก็ยังถูกเขาวางแผนใส่”

หลินชิงชิงพูด:“คืนนี้พ่อฉันจะหนี แต่ฉันว่าเขาโกหก”

หลี่ฝางพยักหน้า,เงยหน้ามองหลินชิงชิง:“เรื่องที่สามล่ะ?”

“เขาบอกว่าเขาไปหาแม่ฉันมา แล้วยังบอกว่าวันที่พวกเราแต่งงานกัน จะพาแม่มาอยู่ข้างกายฉัน ฉันคิดถึงแม่มาตลอด สิบกว่าปีนี้ ไม่หยุดที่จะหาเธอเลย แต่ หาไม่เจอมาตลอด”

หลินชิงชิงเม้มปาก มองหลี่ฝาง หลี่ฝางพยักหน้าทันที:“ไม่มีปัญหาอะไร”

“ฉันยังไม่บอกเลยว่า……”

“ไม่ต้องพูดผมก็รู้ คุณอยากเจอแม่คุณ ดังนั้น จึงอยากแต่งงานกับผม ใช่ไหม?”หลี่ฝางพูดขำๆ

“พวกเราแต่งงานหลอกๆได้ ไม่ต้องประกาศออกไป แค่หลอกพ่อฉันก็พอ”หลินชิงชิงพูด

หลี่ฝางพยักหน้า แต่คิดในใจ ลูกพี่หลินหลอกง่ายตรงไหน

ไม่ถูกตาเฆ่านี่หลอกก็พอแล้ว ยังจะหลอกเขาอีก?

“ไว้ค่อยพูดละกัน คุณกับลู่หลุ่ยเพิ่งคืนดีกัน ฉันไม่อยากสร้างความร้าวฉานให้ ไม่แน่ว่าพวกคุณสองคนอาจจะมีปากเสียงเลิกกัน ……ฉันไม่ได้แช่งพวกคุณนะ ฉันพูดว่าอาจจะเป็นไปได้ ถ้ามีวันนั้นจริง คุณก็ช่วยฉันหน่อย แต่งงานปลอมๆ หลอกให้แม่ฉันมา”หลินชิงชิงพูดอย่างน่าสงสาร

“ถ้าผมเลิกกับลู่หลุ่ยอีกครั้ง งั้นงานแต่งของพวกเรา ก็ต้องเป็นของจริง ไม่ใช่เพียงแต่งให้ดู”

หลี่ฝางตบหน้าอกรับประกันให้หลินชิงชิงเสร็จ จากนั้นก็พูดคุยอีกหน่อย แล้วไปส่งหลินชิงชิงที่ห้องนอนของเธอ

ตอนลงมา หลี่ฝางเห็นพวกพิธีกรสาวสวย ก็เดินเข้าไป

ที่จริงพิธีกรส่วนมาก ไม่ใส่ใจเท่าไหร่นัก เอาแต่แทะเมล็ดแตงโม เล่นโทรศัพท์ หลี่ฝางเดินเข้าไป แล้วพูด:“อย่ามัวแต่ทำตัวว่าง ข้างบนมีห้องเต้น ไม่มีอะไรทำ ก็ไปฝึกเต้นซะ ส่ายแขนส่ายขาให้ผู้ชมดูช่วงถ่ายทอดสด เต้นสุดเร่าร้อนสักหน่อยบ้าง จะได้ดึงดูดคนได้ไม่น้อย”

“ถ่ายทอดสดไม่ใช่แค่หน้าตาสวย ต้องมีความสามารถด้วย”หลี่ฝางสั่งสอนไป

แต่ละคนเริ่มทำตัวแพรวพราวประจบใส่หลี่ฝาง หลี่ฝางจึงหัวเราะเหอะเหอะ พูดว่า:“พวกคุณเอาวีแชทมาให้ผม ผมคิดจะสมัครบัญชี ว่างก็จะมาดูถ่ายทอดสดของพวกคุณ แน่นอนว่า ก็จะให้ของขวัญพวกคุณเล็กน้อย”

ได้ยินว่าจะให้ของขวัญ พวกพิธีกรสาวถลากันเข้ามาทันที เกือบจะทำเอาหลี่ฝางล้ม

เพิ่มเพื่อนเสร็จ ทันใดนั้นหลี่ฝางก็คิดได้เรื่องหนึ่ง จึงพูดเตือน:“ช่วงนี้ทุกคนระวังตัวหน่อยนะ ถ้ามีคนรวยที่น่าสงสัยมาเพิ่มเพื่อนพวกคุณ เสนอความต้องการพิเศษกับพวกคุณเป็นการส่วนตัว พยายามอย่ารับปากไป เข้าใจไหม?”

พวกพิธีกรสาวสวยรีบพยักหน้า ตอนที่หลี่ฝางลุกขึ้นออกไปจากคฤหาสน์ เพื่อนที่สนิทกันไม่กี่คน ก็เดินเข้ามา

“คุณชายหลี่ ไม่เจอกันนานเลยนะ”ส้งเคอเดินขึ้นมา พูดด้วยรอยยิ้ม

“หลายวันก่อนไม่ใช่เพิ่งเจอเหรอ?ผมว่าพวกคุณนี่ไร้คุณธรรมเสียจริง หยูเถิงเกิดเรื่อง โทรศัพท์ของพวกคุณก็โทรไม่ติด”หลี่ฝางบ่นออกไป

“คุณชายหลี่ พวกเรากำลังจะอธิบายเรื่องนี้กับคุณพอดี พวกเราเพิ่งกลับบ้าน ก็ได้ยินว่าหยูเถิงเกิดเรื่อง จากนั้นก็ได้ยินว่าคุณฆ่า ตอนนั้นพวกเราอยากหาหลักฐานพิสูจน์ความบริสุทธิ์ให้คุณ อย่างเที่ยงตรงโปร่งใส แต่ครอบครัวไม่เห็นด้วย แล้วยังยึดโทรศัพท์ของพวกเราด้วย”ส้งเคอพูด

ได้ยินคำนี้ หลี่ฝางก็มองหวงเจ๋ เฝิงจื่อหลินและคนอื่น:“พวกคุณก็ด้วย?”

“อือ ได้รับการปฏิบัติเหมือนกันหมด คุณชายหลี่ มีคนกำลังเล่นงานคุณ ผมไม่ต้องพูดแล้วนะว่าใคร?”ส้งเคอเลิกคิ้วขึ้น ส่งสายตาที่คุณเข้าใจให้หลี่ฝาง

“มู่เสี่ยวไป๋”หลี่ฝางพูดอย่างเย็นชา

“เหอะเหอะ คุณชายหลี่ ผมพาหนุ่มๆมา พวกเขาอยากรู้จักคุณ”

ส้งเคอพูด:“ถึงแม้ไม่มีเงินเท่าคุณชายหลี่ แต่ที่บ้านต่างมีธุรกิจของตัวเองหมด”

“ผมได้ยินว่าวันนี้คุณจะกลับมาที่คฤหาสน์ ก็เลยพาพวกเขามารู้จักคุณสักหน่อย”ส้งเคอหัวเราะหึหึ

มองคนพวกนี้ที่อยู่ด้านหลังส้งเคอ หลี่ฝางก็พยักหน้า:“ผมชอบสร้างมิตรภาพที่สุด”

“ครอบครัวของคนพวกนี้ มีหน้ามีตาในเมืองเอกทั้งนั้น รู้จักพวกเขาแล้ว ต่อไปทำอะไร ก็จะไม่มีอุปสรรคมากขึ้น และพวกเด็กนี่ก็มือเปิบมาก สุรุยสุร่ายสุดๆ”

ส้งเคอพูดเสียงทุ้ม พูดไปที่ข้างหูของหลี่ฝาง:“พวกเขาลามกมาก ให้พวกเขารู้จักพิธีกรพวกนั้นของคุณหน่อย รับรองว่าพวกพิธีกรของคุณ รายได้เพิ่มอีกเท่าแน่”

หลี่ฝางตบไหล่ของส้งเคอ พูดว่า:“ไม่ขอบคุณแล้ว มีอะไรก็เรียกผม ถ้าช่วยได้ ผมช่วยแน่ ไว้เจอกัน”

หลี่ฝางถอยกลับไป ทักทายคุณชายพวกนี้เข้าไปคฤหาสน์

แต่เข้าไปคฤหาสน์ สีหน้าของพวกคุณชายก็เปลี่ยนไป และก็เริ่มซุบซิบกันขึ้นมา แม้แต่สีหน้าของส้งเคอ ก็ดูแย่มาก

“ทำไมเหรอ?พวกคุณแต่ละคน ทำไมเหมือนเห็นผีเลยล่ะ”หลี่ฝางขมวดคิ้ว ถามอย่างสงสัย

“คุณชายหลี่ ยามเมื่อกี๊……”

ส้งเคอขมวดคิ้ว มองหลี่ฝาง กลืนน้ำลายแล้วจึงพูด:“เขานามสกุลจ้าวหรือเปล่า?”

“คุณรู้จักเขา?”หลี่ฝางหัวเราะเหอะเหอะ ในที่สุดก็เข้าใจสาเหตุที่คุณชายพวกนี้หน้าหม่นหมองลง

“นามสกุลจ้าวจริงๆ พระเจ้า คุณชายหลี่นะคุณชายหลี่ เขาไม่ใช่พ่อของจ้าวเสี่ยวตาวเหรอ?ผู้จัดการทั่วไปของบริษัทจ้าวซื่อ หลายวันก่อนได้ยินว่า เขาออกไปทำงานที่อื่นแล้ว คิดไม่ถึงว่า จะมาเป็นยามให้คุณที่นี่?”ส้งเคออดไม่ได้ที่จูดหายใจเข้า

หลี่ฝางพยักหน้าเบาๆ ตอบอืมไป แล้วพูด:“ทำไมล่ะ?”

“คุณชายหลี่ พี่หลี่ คุณอย่าล้อเล่นได้ไหม คุณให้ผู้จัดการทั่วไปของบริษัทมาเป็นยามให้คุณ?คุณ……คุณเจ๋งเกินไปแล้ว?”ที่จริงส้งเคออยากบอกว่าเกินไป แต่พอคิดดูแล้ว อยากเอาคำว่าเกินไปเปลี่ยนเป็นเจ๋ง

หลี่ฝางหัวเราะเหอะเหอะ:“ก่อนหน้านี้จ้าวเสี่ยวตาวพนันกับผม แล้วแพ้ ดังนั้นพ่อเขาจึงมาเป็นยามให้ผมที่นี่ ไม่กี่วันผมก็ให้เขากลับไปแล้ว”

ส้งเคอยกนิ้วโป้งให้หลี่ฝาง พวกคุณชายคนอื่นๆ สายตาที่มองหลี่ฝาง ก็เต็มไปด้วยความนับถือ

หลี่ฝางเดินเข้ามา พูดกับพวกพิธีกรสาวสวย:“มา สาวๆ รับแขกหน่อย”

พวกพิธีกรสาวสวยมองไป ก็มีคนพุ่งเข้ามา แล้วก็มีคนบางส่วนที่หนีขึ้นข้างบนไป

เฝิงจื่อหลินพูดอย่างไม่พอใจ:“พวกเขาจะหนีไปไหน พวกเราไม่ใช่ผีซะหน่อย”

“พวกเธอไปแต่งหน้า ฮ่าฮ่า สาวๆกลัวว่าหน้าสดจะทำให้พวกคุณตกใจ”พิธีกรคนหนึ่งลุกขึ้นพูด

เฝิงจื่อหลินหัวเราะเหอะเหอะ:“ที่แท้ก็แบบนี้ แต่ทุกคนหน้าสดก็ดูดีหมด”

“ใช่ เน็ตไอดอลที่แต่งหน้าผมเห็นมาเยอะแล้ว แต่เน็ตไอดอลที่หน้าสด เห็นไม่เท่าไหร่ คุณชายหลี่ พิธีกรสาวสวยของคุณ แต่จะคนนี่เป็นสินค้าชั้นเยี่ยมเลย”คุณชายหนึ่งในนั้นพูด

ทันใดนั้นหลี่ฝางก็ไม่ค่อยพอใจ:“พูดอะไรน่ะ พวกเธอไม่ใช่สินค้า พวกเธอคือคน”

“ขอโทษ คุณชายหลี่ ผมปากพล่อย พูดผิดไป”คุณชายคนนี้ก้มหน้าทันที เหมือนเด็กทำผิด

“เสี่ยวไหล เดี๋ยวจะทำโทษให้คุณดื่มสองแก้ว”

เฝิงจื่อหลินไกล่เกลี่ยให้

“ไม่มีปัญหา”คุณชายที่ชื่อเสี่ยวไหลพูด

แป๊บเดียว คุณชายกลุ่มนี้ก็คุยกับพิธีกรสาวสวยกลุ่มนี้ ส่วนหลี่ฝางก็อยู่ต่อ

บรรดาคุณชายในนี้ หวงเจ๋ได้รับความนิยมที่สุด เพราะว่าบ้านเขาทำสื่อมีเดีย ถือว่ามีความร่วมมือกับพวกพิธีกร

ที่หลี่ฝางทำให้พิธีกรพวกนี้เป็นที่นิยมขึ้นมาได้ หวงเจ๋ลงแรงไปเยอะเลย

ส้งเคอพูด:“คุณชายหลี่ พวกเราก็มากันแล้ว เที่ยงนี้ก็เลี้ยงข้าวต้อนรับแขกดีๆหน่อยนะ?”

“ไม่มีปัญหา โรงแรมว่างโก๋ เป็นไง?”หลี่ฝางถาม

“ไปโรงแรมทำไม กินที่บ้านคุณนี่แหละ ปกติพวกคุณกินอะไร พวกเราก็กินอย่างนั้น ทุกคนเหมือนกันหมด โอเคไหม?ส่วนเบียร์ พวกเรากลัวว่าคุณจะไม่มี เลยเอามากันเอง”ส้งเคอพูด

หลี่ฝางพยักหน้าอย่างทำอะไรไม่ได้ จึงพูดกับโจวหยาง

ที่จริงส้งเคอนั้นฉลาดมาก ก่อนหน้านี้ที่คบหาสมาคมกับหลี่ฝาง ต่างเป็นการแลกเปลี่ยนทางผลประโยชน์ แต่ตอนนี้ทำแบบนี้ กลับเป็นการเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างแท้จริง

ไม่นานนัก ในครัวก็ยุ่งขึ้นมา พวกพิธีกรสาวสวยแต่ละคนก็โชว์ทักษะทำอาหาร ส่วนพวกคุณชายพวกนี้ ก็เล่นไพ่

เล่นด้วยเงิน ส้งเคอมือไม่มีดวงเท่าไหร่ แป๊บเดียวก็แพ้ไปหลายแสน

หลังจากยุ่งเสร็จ หลี่ฝางก็เรียกส้งเคอไปข้างๆ พูดเบาๆ:“ผมรู้ว่าคุณจงใจแพ้ วางใจเถอะ เงินนี้ ผมจะชดเชยให้คุณ”

“คุณชายหลี่ คุณอย่าทำให้ผมสั่นด้วยความกลัวเลย โชคร้ายก็โชคร้ายสิ ไม่ต้องให้คุณมาชดเชยให้ แค่ไม่กี่แสนผมแพ้ได้น่ะ ถ้าจะดูแลผมจริงๆ ต่อไปมีธุรกิจอะไร ก็คิดถึงครอบครัวผมหน่อย”ส้งเคอส่งสายตาให้หลี่ฝาง

หลี่ฝางตอบรับอืมไป แล้วก็จำไว้ในใจ

เก็บให้เรียบร้อยแบบธรรมดาๆเสร็จ ทุกคนก็จัดโต๊ะกลมใหญ่ๆหลายตัว แล้วก็นั่งอยู่ด้วยกัน ส่วนแม่บ้านก็เริ่มเสิร์ฟอาหาร

หลังจากอาหารแต่ละอย่างมาเสิร์ฟ ส้งเคอก็หายใจไม่ออกหน่อยๆ

“คุณชายหลี่ คุณอย่าบอกผมนะ แม่ของจ้าวเสี่ยวตาว มาเป็นแม่บ้านให้คุณที่นี่?”ส้งเคอพูดด้วยสีหน้าซีดขาว

“ใช่ ทำไมเหรอ?”หลี่ฝางพยักหน้าเบาๆ

คุยไปเล็กน้อย พิธีกรที่ชื่อหงหงก็เริ่มถาม:“พวกคุณกำลังพูดถึงน้าเฉินเหรอ?”

“ใช่ พวกคุณรู้จักตัวตนที่แท้จริงของน้าเฉินไหม?”หวงเจ๋หัวเราะเหอะเหอะ

“ไม่ใช่แม่บ้านเหรอ?”พวกพิธีกรตะลึงหน่อยๆ แล้วพูด

หวงเจ๋หัวเราะหึหึ:“อยู่กับพวกคุณที่นี่เป็นแม่บ้านน่ะถูก แต่อยู่ข้างนอก เป็นถึงหนึ่งในกรรมการของบริษัทจ้าวซื่อ”

“จ้าวเสี่ยวตาวหรือคุณชายจ้าวคงรู้จักสินะ?นั่นคือลูกชายเธอ”

หวงเจ๋พูดคำนี้ไป พิธีกรสาวสวยทุกคน ต่างตะลึงงัน

“ยามหน้าประตูนั่น?”พวกพิธีกรสาวสวยถามด้วยสีหน้าซีดขาว

“พ่อของจ้าวเสี่ยวตาว เป็นผู้รักษาการประธานกรรมการของบริษัทจ้าวซื่อ บวกกับผู้จัดการทั่วไป”หวงเจ๋ก็หัวเราะขึ้นมา

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท