NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่607ชายตุ้มหูที่คาดไม่ถึง

บทที่607ชายตุ้มหูที่คาดไม่ถึง

ท่าทางของหลี่ฝาง เลือดเย็นสุดๆ

เพราะว่าหลี่ฝางรู้ว่า ถ้าตัวเองแสดงความกลัว หรือว่าใจดีออกมา จูเฟิ่งปินจะต้องไม่ตกใจตัวเองแน่

หลี่ฝางหัวเราะเหอะเหอะ หัวเราะอย่างร้ายกาจ:“ไม่ช้าก็เร็วผมก็ต้องล้มมู่เสี่ยวไป๋”

“ถึงไม่มีการช่วยของคุณ ผมก็ทำได้เหมือนกัน”

หลี่ฝางมองจูเฟิ่งปิน แล้วส่ายหน้า:“แต่วันนี้ คุณมองไม่เห็น”

“คุณกับน้องสาวคุณ ไปตายซะ ในเมื่อชอบเก็บความลับขนาดนี้ งั้นผมก็จะเติมเต็มให้คุณเอง”หลี่ฝางพูดอย่างเย็นชา

หลี่ฝางเปิดประตู เตรียมจะผลักประตูออกไป ในตอนนี้เอง จูเฟิ่งปินก็ทนความเจ็บ คลานขึ้นมาจากพื้น คว้าแขนของหลี่ฝางไว้ ในปากก็รีบพูดขอร้อง:“ปล่อยน้องสาวผม ผมจะพูด ทุกอย่าง”

หลี่ฝางหัวเราะเหอะเหอะ มองจูเฟิ่งปินแล้วพูด:“แบบนี้ตั้งแต่แรก ก็คงดีแล้ว”

หลี่ฝางหยิบโทรศัพท์ออกมา โทรหาส้าวส้วยอีกครั้ง พูดว่า:“อย่าทำร้ายผู้หญิงคนนั้น จูเฟิ่งปินจะบอกแล้ว ใช่สิ ช่วยเตรียมเงินสิบล้านให้ผมด้วย”

หลี่ฝางวางสาย แล้วมองจูเฟิ่งปิน พูดอย่างใจเย็น:“เมื่อกี๊คุณเดาไม่ผิด เฉิงหยุนตายแล้ว ถูกคนของมู่เสี่ยวไป๋ฆ่า”

“ผมอยากรู้มากกว่าว่า มู่เสี่ยวไป๋ฆ่าพวกคุณโดยไม่คำนึงใดๆนั้น เพื่ออะไรกันแน่?ในมือคุณ มีสินค้าอะไรกันแน่?”

หลี่ฝางมองจูเฟิ่งปิน แล้วถาม

จูเฟิ่งปินไม่ปิดบังอีกต่อไป มองหลี่ฝางแล้วพูด:“หลายปีนี้ พี่หวางต้องช่วยมู่เสี่ยวไป๋สร้างโรงงานหนึ่งมาตลอด โรงงานนั้น ผลิตเงินเป็นการเฉพาะ”

“แผนการนี้ พวกเราเตรียมมาหลายปี เมื่อหลายวันก่อน พวกเราทำสำเร็จแล้ว แต่ พี่หวางต้องยังไม่ทันบอกมู่เสี่ยวไป๋ บอกว่าจะเซอร์ไพรซ์เขา”

“เหลืออีกสามวัน ก็จะวันเกิดมู่เสี่ยวไป๋ พี่หวางต้องเตรียมว่าวันเกิดนั้น จะให้เงินปลอม มู่เสี่ยวไป๋หนึ่งกล่อง แล้วก็แม่แบบสองอัน”

หลี่ฝางมองจูเฟิ่งปิน แล้วถาม:“แม่แบบอยู่ในมือของพวกคุณ?”

“ใช่ แม่แบบอยู่ในมือของผมกับเฉิงหยุน รวมทั้งโรงงานที่ผลิตเงินนั่น ก็มีพวกเราไม่กี่คนที่รู้เท่านั้น”

“แผนการนี้ ดำเนินการอย่างซ่อนเร้นสุดๆ คนที่รู้ มีไม่เยอะ”

“แม่แบบมีผมกับพี่เฉิงหยุนคนละอัน พี่หวางกลัวว่าตัวเองจะเกิดอะไรที่คาดไม่ถึง เขาบอกพวกเราว่า ถ้าเขาเกิดเรื่องอะไร ก็ให้พวกเราเอาแม่แบบแล้วก็ที่อยู่ของโรงงาน มอบให้มู่เสี่ยวไป๋ไปหมด”

“แต่ผมกับพี่เฉิงหยุนคิดไม่ถึงว่า จะเป็นมู่เสี่ยวไป๋ที่ฆ่าพี่หวางต้อง ดังนั้น ตอนผมเห็นพี่เฉิงหยุนจากไป ผมก็เลือกที่จะจากไปด้วยกัน พวกเราฝ่าฝืนสิ่งที่พี่หวางต้องกำชับไว้”

“งั้นเฉิงหยุนตายแล้ว แม่แบบในมือเขาล่ะ?”หลี่ฝางขมวดคิ้ว แล้วถาม

“ถ้าผมเดาไม่ผิด แม่แบบน่าจะอยู่ในห้องเช่าของพี่เฉิงหยุน ……”

“ไม่ต้องห่วง ห้องเช่านั้น พี่เฉิงหยุนใช้บัตรประชาชนปลอมเช่น ถึงมู่เสี่ยวไป๋เจ๋งแค่ไหน ก็หาไม่เจอ สถานที่นั้น มีแค่ผมกับพี่หวางต้องรู้ ทางหนีทีไล่น่ะ คุณน่าจะเข้าใจนะ คุณชายหลี่ พวกเราที่ทำอะไรได้ทุกอย่างโดยไม่สนกฎหมายอย่างนี้ ต่างมีที่ให้ตัวเองไว้ทั้งนั้น วันข้างหน้าจะได้หลบหนีได้”

หลี่ฝางพยักหน้า ถามว่า:“สถานที่นั้นอยู่ไหน?”

“ตอนนี้ยังบอกคุณไม่ได้ แต่ว่า ผมเอาแม่แบบในมือผมบอกคุณได้ แล้วก็ที่อยู่ของโกดัง ที่อยู่ที่โกดังนี้ นอกจากผมกับเฉิงหยุนแล้ว ก็มีไม่กี่คนที่รู้ พวกเขาต่างเป็นเพื่อนๆของพวกเรา แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า พวกเขาน่าจะขายผมกับพี่เฉิงหยุนแล้ว ไม่อย่างนั้นมู่เสี่ยวไป๋ไม่มีทางตามไล่ฆ่าพวกเราอย่างบ้าคลั่งแบบนี้แน่”

“ข้างในโกดัง มีผู้เชี่ยวชานในการวาดรูปคนหนึ่ง แล้วก็เครื่องจักรบางอย่าง วัสดุที่ทำเงินเป็นต้น”

จูเฟิ่งปินพูดว่า:“โกดังน่าจะถูกมู่เสี่ยวไป๋ควบคุมไปแล้ว คุณส่งคนไปดูที่เขาหมาป่าได้ เขาหมาป่ามีถ้ำสิบกว่าอัน ล้วนแต่ไม่มีอะไร ส่วนโกดัง จะอยู่ข้างในถ้ำอันหนึ่ง ผมจะวาดเส้นทางให้คุณ”

“เขาหมาป่ามีหมาป่า ที่พวกเราเลี้ยงไว้”จูเฟิ่งปินพูด:“จุดประสงค์เพราะจะห้ามให้คนทั่วไปขึ้นเขามา พบร่องรอยของพวกเรา”

“ถึงโกดังถูกทำลายก็ไม่เป็นไร ที่สำคัญคือแม่แบบในมือของพวกเรา เครื่องจักรกับวัสดุ ไปซื้อได้หมด ผมจะบอกคุณให้ว่า ไปซื้อที่ไหน ไปซื้อกับใคร ได้มาผ่านช่องทางไหน แน่นอนว่า น้ำหมึกเป็นพวกเราเองที่ผสมออกมา ส่วนสูตร ผมแอบจำมาแล้ว อีกเดี๋ยว ผมจะบอกคุณ”

“เชื่อผม จ่ายสิบล้าน ซื้อของสิ่งนี้ คุณคุ้มค่าแน่นอน เทคโนโลยีนี้ สามารถทำให้สินทรัพย์ของพวกคุณตระกูลหลี่ มากขึ้นอีกเท่า ทั้งโลกใบนี้ มีผู้ซื้อจำนวนมาก”

หลังจากจูเฟิ่งปินพูดจบ ใบหน้าก็ปรากฏความพอใจหน่อยๆ

หลี่ฝางมองจูเฟิ่งปิน แล้วถาม:“แม่แบบในมือคุณล่ะ?”

“ถนนชุนเจียง มีศูนย์อาบน้ำแห่งหนึ่ง มีคนหนึ่งในศูนย์อาบน้ำนั้น ชื่อว่าหม่าจ่าย คุณเจอเขา ก็เอากุญแจนี้ไปให้เขา เขาก็จะเอาแม่แบบให้คุณ”

จูเฟิ่งปินพูดว่า:“สถานที่นั้นอยู่ห่างไกลความเจริญมาก แต่ของที่เก็บไว้ กลับปลอดภัยสุดๆ”

“หม่าจ่ายคือคนของผม พวกเราคือพี่น้องร่วมทุกข์ร่วมสุขกัน”จูเฟิ่งปินพูด

หลี่ฝางมองจูเฟิ่งปินแวบหนึ่ง ถามว่า:“เขาหน้าตาอย่างไร?”

“โทรศัพท์ของผม มีรูปถ่ายของเขา รหัสโทรศัพท์ของผม คือ1314 คุณเปิดโทรศัพท์ผมได้เลย แล้วหาเบอร์โทรของหม่าจ่าย จากนั้นก็ติดต่อเขา”

จูเฟิ่งปินพูดว่า:“รอหลังจากพวกคุณได้แม่แบบอันแรก ผมหวังว่าคุณชายหลี่คุณจะรักษาสัญญา ปล่อยน้องสาวผม”

“จากนั้นรอพวกคุณได้รับแม่แบบอันที่สอง ก็ให้ผมสิบล้าน ให้ผมไปจากนี่”

จูเฟิ่งปินพูดว่า:“หลังจากผมปลอดภัย ผมจะเอาทุกอย่างที่ผมรู้ บอกคุณหมด”

“โอเค”หลี่ฝางพยักหน้าตอบตกลง

หลี่ฝางคิดไม่ถึงเลยว่า มู่เสี่ยวไป๋จะแอบเล่นใหญ่โตขนาดนี้ คุณชายแห่งตระกูลมู่ที่สง่างาม จะทำธุรกิจอย่างนี้ได้

ตระกูลมู่เป็นตระกูลอันดับหนึ่งของเมืองเอกแล้ว ธุรกิจของพวกเรา ทำใหญ่โตมาก ถึงแม้ช่วงนี้เพราะว่าสาเหตุของตระกูลหลี่ ทำให้พวกเขาขาดทุนจำนวนมาก แต่สินทรัพย์ของตระกูล ก็มีหลายพันล้าน

แต่มู่เสี่ยวไป๋ ก็ยังต้องแอบเสี่ยงอันตรายเพราะเข้าตาจนขนาดนั้น

หลี่ฝางเดินออกไป ก็เรียกหมอมา แล้วพูดกับจูเฟิ่งปิน:“รักษาตัวดีๆ อย่าเคลื่อนไหวมั่วๆ ไม่อย่างนั้น เทวดาก็ช่วยคุณไม่ได้”

จูเฟิ่งปินตอบรับอืมไป แล้วนอนบนเตียง ให้หมอพันแผลให้เขาใหม่

หลี่ฝางเดินไปข้างนอก มาตรงหน้าของส้าวส้วย ส้าวส้วยมองไปที่หลี่ฝาง แล้วหัวเราะเหอะเหอะ:“น่าจะสำเร็จแล้วสินะ?”

“สำเร็จแล้ว เขาบอกหมดแล้ว”

หลี่ฝางกลับสูดหายใจ แล้วพูดว่า:“มู่เสี่ยวไป๋ไอ้ระยำนี่ แอบผลิตเงินได้ แม่เอ๊ยโหดจริงๆ”

ส้าวส้วยก็ตะลึงเล็กน้อย แต่ก็กลับไปสงบนิ่งเหมือนเดิม:“เรื่องแบบนี้ เป็นเรื่องปกติที่ต่างประเทศ แค่เทคโนโลยีเจ๋งพอ เมื่อถึงมาตรฐานแล้ว ก็จะร่ำรวยมหาศาล ผมเคยรู้จักคนๆหนึ่ง ผลิตเงินดอลลาร์ ไปถึงขั้นที่เอาของปลอมมาให้จริงๆได้เลย แต่น่าเสียดาย สุดท้ายถูกจับตาดู แล้วฆ่าตาย”

ส้าวส้วยมองหลี่ฝาง แล้วถาม:“ต่อไปพวกเราจะทำยังไง?เจ้านาย จูเฟิ่งปินพูดอะไรกับคุณ?”

“ที่อยู่ของโกดัง ข้างในถ้ำแห่งหนึ่งของเขาหมาป่า เขาเอาตำแหน่งของถ้ำ วาดมาให้ผมแล้ว คุณพากลุ่มคน ไปเขาหมาป่าหน่อย มู่เสี่ยวไป๋ก็รู้ตำแหน่งของโกดังแล้ว ผมว่าเขาน่าจะไปแล้ว แต่เครื่องจักรใหญ่ขนาดนั้น เอาไปไม่ได้ในทันทีแน่ พวกเรารีบไป น่าจะขวางพวกเขาได้อยู่”หลี่ฝางพูด

ส้าวส้วยพยักหน้า พูดว่า:“ขวางพวกเขาไว้?”

หลี่ฝางส่ายหน้า:“ทำลายพวกมันซะ”

ส้าวส้วยตะลึงเล็กน้อย มองหลี่ฝางอย่างไม่อยากจะเชื่อ:“เอ่อ……”

“พวกเราตระกูลหลี่ไม่ได้จน ไม่จำเป็นต้องแตะต้องสิ่งนี้”หลี่ฝางพูดว่า:“แม้ว่าจะสำเร็จแล้ว พวกเราก็อย่าหารายได้กับมันเลย”

ส้าวส้วยหัวเราะเหอะเหอะ พูดว่า:“โอเค ผมไม่ไปแล้ว ผมส่งให้ไอ้หน้าหนวดไป”

“ทำไม?”หลี่ฝางถาม

“เพราะตั้งแต่นี้ไป ผมต้องอยู่ข้างกายคุณตลอดเวลา ปกป้องคุณ นี่คือคำสั่งของลูกพี่”ส้าวส้วยพูด

หลี่ฝางเกือบจะลืมไปว่า พวกกากเดนของตระกูลจูเก่อ ยังจับตาดูตัวเองอยู่

คิดๆดูแล้ว หลี่ฝางก็รู้สึกปวดหัวหน่อยๆ

หลี่ฝางมองส้าวส้วยแล้วถาม:“โทรศัพท์ของจูเฟิ่งปินล่ะ?”

ส้าวส้วยหยิบออกมา ยื่นให้หลี่ฝาง หลี่ฝางเปิดโทรศัพท์ด้วยรหัส จากนั้นก็หาคนที่ชื่อหม่าจ่าย โทรออกไป ครึ่งชั่วโมงถัดมา หลี่ฝางก็เจอหม่าจ่ายนี่

หม่าจ่ายนี้หน้าตาดูเหมือนพวกตัวโกง ดูไม่ใช่คนดีอะไร

“นี่คือกุญแจ ช่วยผมเอาของที่จูเฟิ่งปินฝากไว้ในที่นี้ของคุณหน่อย”หลี่ฝางมองหม่าจ่าย แล้วพูด

หม่าจ่ายมองหลี่ฝาง รับกุญแจในมือ แล้วพูด:“รอผมแป๊บหนึ่ง”

พอหม่าจ่ายไป ส้าวส้วยก็ขมวดคิ้ว พูดว่า:“ผู้ชายคนนี้ ไม่ใช่คนดีอะไร”

“ผมก็รู้สึกเหมือนกัน ต้องระวังตัวหน่อย”หลี่ฝางพยักหน้าแล้วพูด

ผ่านไปครึ่งชั่วโมงแล้ว หม่าจ่ายยังไม่กลับมา ทันใดนั้นหลี่ฝางก็นั่งอยู่ไม่สุข มองส้าวส้วยแล้วพูด:“พวกเรากลับไปเถอะ เจ้าหม่าจ่ายนี่ ไม่กลับมาแน่”

“ครับ”ส้าวส้วยพยักหน้า ยืนขึ้น

ตอนที่ทั้งสองออกไปจากศูนย์อาบน้ำ หน้าประตูก็มีรถอยู่หลายคันปรากฏ รถพวกนี้จอดลง แล้วทันใดนั้นก็มีคนหลายสิบคนลงมา

หม่าจ่ายวิ่งออกมา มาอยู่ตรงหน้าคนที่นำคนมา:“พี่เฟย สองคนนี้แหละ สองคนนี้ผิดปกติ พวกเขาเอากุญแจของจูเฟิ่งปิน มาเอาสิ่งของของจูเฟิ่งปิน”

“จูเฟิ่งปินเคยบอกผมว่า ของสิ่งนี้มีค่ามาก ให้ผมเก็บไว้ดีๆ”

“จูเฟิ่งปินเพื่อนรักผมคือคนที่ระมัดระวังและขี้ระแวงมาก ถ้าเขาไม่ได้เกิดเรื่องล่ะก็ ไม่ให้สองคนนอกนี้ มาเอาสิ่งของของเขาหรอก”

มองใบหน้าที่แปลกหน้าสองใบนี้ หม่าจ่ายก็พูด:“ผมสงสัยว่า พวกเขาคงควบคุมจูเฟิ่งปินอยู่”

หลี่ฝางมองคนที่อยู่ข้างกายหม่าจ่าย ขมวดคิ้ว พูดว่า:“ชายตุ้มหู?”

อู๋เฟยมองหลี่ฝาง สีหน้าตกใจหน่อยๆ:“เสี่ยวฝาง?ทำไมถึงเป็นคุณได้?”

“หม่าจ่าย จูเฟิ่งปินหักหลังคุณชายมู่แล้ว คุณไม่รู้เหรอ?” ชายตุ้มหูหันหน้าไป แล้วมองหม่าจ่าย หัวเราะหึหึ จากนั้นก็ลงมือ บีบคอของเขา ออกแรงไปกระแทกใส่กระจกรถแรงๆ

หม่าจ่ายนี้ เดิมทีก็ผอมแห้งตัวเล็กอยู่แล้ว

“ของในมือจูเฟิ่งปิน?”ชายตุ้มหูถามอย่างเย็นชา:“เอามันมาให้ผม ผมก็จะไม่ฆ่าคุณ”

“พี่เฟย อย่าฆ่าผม พวกเราคือพวกเดียวกัน ของอยู่ที่ผม”หม่าจ่ายกลัวตายมาก ถูกชายตุ้มหูขู่อย่างนี้ ก็ต้องเอาแม่แบบให้อู๋เฟย

อู๋เฟยถือแม่แบบไว้ มองหลี่ฝางแวบหนึ่ง พูดว่า:“เสี่ยวฝาง แม่แบบนี้ ผมต้องการ”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท