NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่618 ผมไม่มีทางหักหลังพวกคุณเพราะเงิน

บทที่618 ผมไม่มีทางหักหลังพวกคุณเพราะเงิน

ประโยคเดียวของหลี่ฝาง ทำเอาเฉินฝูเซิงจุก

หลังจากเงียบไปสักพัก เฉินฝูเซิงจึงพูด:“นั่นไม่ใช่มู่เสี่ยวไป๋ที่ทำ ที่ทำนั่น ผมโชคร้ายที่แพ้ให้กับพี่หวางต้อง ไม่ใช่เขามู่เสี่ยวไป๋”

“ตอนนี้พี่หวางต้องถูกผมฆ่าตายแล้ว ผมก็ถือว่าแก้แค้นแล้ว”น้ำเสียงของเฉินฝูเซิง เหมือนจะภูมิใจหน่อยๆ

หลี่ฝางจุดบุหรี่ให้ตัวเอง จากนั้นก็กลอกตาใส่เฉินฝูเซิง:“เฉินฝูเซิง ผมว่าคุณยอมรับความจริงหน่อยได้ไหมแม่เอ๊ย อย่างแรก พี่หวางต้องไม่ใช่คนที่คุณฆ่าตาย คุณแค่ทำให้เขาพิการ เป็นมู่เสี่ยวไป๋ที่ฆ่าเขา จากนั้นก็โยนความผิดให้พวกเรา อย่างที่สอง คุณแพ้ในเงื้อมมือของพี่หวางต้อง เท่ากับว่าแพ้ในมือของมู่เสี่ยวไป๋ พี่หวางต้องคือคนของมู่เสี่ยวไป๋ เรื่องจริงที่เด็ดเดี่ยว”

“คุณต้องยอมรับพวกนี้ ไม่ใช่แค่คุณต้องยอมรับ ผมก็ต้องยอมรับ พูดถึงความสามารถของคนแล้ว มู่เสี่ยวไป๋ไม่ใช่แค่อยู่เหนือคุณ แต่ยังอยู่เหนือผมด้วย”

หลี่ฝางพูดโน้มน้าวเฉินฝูเซิง ให้เขาเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้โดยตรง ยังไงประเมินศัตรูต่ำเกินไปก็ไม่ใช่เรื่องที่ดี

และหลี่ฝางก็คิดว่า การประลองฝีมือก่อนหน้านี้ของตัวเองกับมู่เสี่ยวไป๋ที่ชนะมากกว่าแพ้ ไม่ใช่เพราะว่าตัวเองเจ๋งกว่ามู่เสี่ยวไป๋ แต่ภายใต้สถานการณ์ส่วนมากนั้น ตัวเองใช้อำนาจและทรัพยากรอย่างสุดกำลัง

“ผมว่าเจ้านาย คุณชายหลี่ มู่เสี่ยวไป๋ก็แค่คนป่วยที่ผอมกะหร่องกระแหร่ง เขาสู้คุณยังไม่ได้เลย ทำไมคุณต้องกลัวเขาล่ะ?”

“เขาไม่ใช่คนฉลาดหลักแหลมหรือไง?ก็ยิงใส่เขาสักนัดก็จบแล้วไม่ใช่เหรอ?”เฉินฝูเซิงหัวเราะเหอะเหอะ ใบหน้ายังคงเต็มไปด้วยความดูถูก

“คำพูดพูดได้เรียบง่ายดี รู้ไหมทำไมบนยุทธภพถึงมีคำพูดที่ว่าทำอะไรอย่าดึงครอบครัวไปเกี่ยวข้องด้วย?”

“ไม่ว่าจะเป็นคนหรือทำอะไร ต้องเผื่อเอาไว้บ้าง”

“คุณคิดว่ามู่เสี่ยวไป๋ไม่มีโอกาสฆ่าผมเหรอ?เขามี แต่เขาไม่กล้า เหมือนกัน ผมก็ไม่กล้า ถ้าเป็นอย่างที่คุณบอก ถ้าไม่ถูกชะตานัก ก็ยิงใส่เขาก็จบ ดูเหมือนจะง่าย ที่จริงแล้วกลับสร้างปัญหาให้ตัวเองอันใหญ่หลวง ทายาททั้งสองของตระกูลมู่ คนหนึ่งคือมู่เหวินตง มู่เหวินตงพิการไปแล้วคนหนึ่ง ดังนั้นทายาทของตระกูลมู่ ก็เป็นได้แค่มู่เสี่ยวไป๋เองแล้ว”

“ฆ่ามู่เสี่ยวไป๋ ก็เป็นการตัดอนาคตของตระกูลมู่ ตัดต้นกำเนิดของตระกูลมู่ แค่คิดก็รู้แล้ว ถึงตอนนั้นมู่เจิ้งถังตาแก่นั่นจะบ้าคลั่งแค่ไหน”

“คนๆหนึ่งบ้าระห่ำขึ้นมา น่ากลัวมาก มากไปกว่านั้นยังเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงแห่งเมืองเอก”

“ตอนนี้ตระกูลมู่ก็จะสนใจความสัมพันธ์ของพวกคุณสองตระกูล ไม่ลงมือฆ่าคุณ ถ้ามู่เสี่ยวไป๋ตายแล้ว งั้นตระกูลมู่จะออมมือเหรอ?กลัวว่าถึงตอนนั้นแค่คุณเข้าห้องน้ำ ในห้องน้ำก็จะมีฆาตกรออกมา”

เฉินฝูเซิงเบะปาก ใบหน้าเต็มไปด้วยความหดหู่

“พูดแบบนี้แล้ว มู่เสี่ยวไป๋มีค่ามากจริงๆ พวกเราแตะต้องไม่ได้?”เฉินฝูเซิงพูดอย่างไม่พอใจ

“ก็ไม่ใช่ แต่แค่ค่อยๆเป็นค่อยๆไป ตระกูลมู่เป็นอาหารจานหนึ่ง ไม่ใช่อาหารคำหนึ่ง รอถึงตอนนั้นตระกูลมู่ถูกพวกเราจัดการได้พอประมาณ วันตายของมู่เสี่ยวไป๋ ก็ถึงแล้ว”

หลี่ฝางพูด:“ผมมามีอยู่สองเรื่อง พรุ่งนี้ผมจะไปหามู่เสี่ยวไป๋เพื่อทำการค้าขาย คุณไปกับผมหน่อย แต่ว่าคุณต้องรับปากผมเรื่องหนึ่ง”

“เรื่องอะไร?”เฉินฝูเซิงถามต่อ

“พอไปแล้ว ห้ามพูดเลย”หลี่ฝางพูด

เฉินฝูเซิงก็อารมณ์ขึ้นมาทันที:“ผมไม่ได้เป็นใบ้ ทำไมไม่ให้ผมพูดล่ะ?อีกอย่าง คุณชายหลี่ คุณไม่ให้ผมพูด ผมจะไปทำไม?หรือจะต้องให้ผมลงมือ ทุบใส่มู่เสี่ยวไป๋ไปเลยตรงๆ?”

“พูดไม่ได้ แล้วก็ลงมือไม่ได้ด้วย”

หลี่ฝางพูดเบาๆ:“ถ้าคุณยังเห็นผมเป็นเจ้านาย อันหลังนี้ คุณต้องจำไว้”

ไม่รอให้เฉินฝูเซิงระเบิดใส่ หลี่ฝางก็หันหน้ามา หมุนตัวไปที่โรงพยาบาล

ตอนที่ถึงห้องคนไข้ หลี่ฝางได้ยินเสียงดังเจี๊ยวจ๊าว ประตูเปิดอยู่ ไม่ได้ปิดไว้ พอเข้าไป หลี่ฝางก็มองเห็นพวกกลุ่มคนของจูเปิ่น กำลังนั่งเล่นไพ่ที่โต๊ะกลมใหญ่

บนหัวของทุกคน วางเงินไว้ก้อนหนึ่ง ส่วนหรุ่ยเหวินเจ๋ที่อยู่ข้างๆ กลับยืนอยู่ตรงนั้น เสิร์ฟชายื่นน้ำ และทำหน้าที่เป็นพ่อบ้านให้พวกเขา

พวกเขาล้วนแต่ไม่มีหู ใบหน้ากลับดูไม่แคร์อย่างเห็นได้ชัด หลี่ฝางเดินเข้าไป หัวเราะ แล้วพูดว่า:“เล่นไพ่อยู่เหรอ?”

“คุณชายหลี่……”

จูเปิ่นเห็นหลี่ฝาง สายตาก็มีความตกใจ:“คุณมาได้ไง?”

“ผมาดูพวกคุณ……”หลี่ฝางไม่ได้พูดอะไรมาก ก็เอาบัตรใบหนึ่งวางไว้ที่โต๊ะ:“เงินนี้พวกคุณแบ่งด้วยกันนะ ทำงานให้ผม ผมไม่ให้พวกคุณขาดทุนแน่”

“คุณชายหลี่ บัตรนี้พวกเรารับไว้ไม่ได้”

จูเปิ่นพูดว่า:“พวกรทำหน้าที่ไม่สำเร็จ ยังถูกเป็นนักโทษให้อีกฝ่ายอีก เหอะเหอะ พวกเราจะมีหน้ารับเงินได้ไง”

“เมื่อก่อนที่พวกเราติดตามพ่อของเฉินฝูเซิง ก็เป็นแบบนี้ ถ้าทำอะไรสำเร็จ พวกเราก็จะรับส่วนนั้นที่พวกเราควรได้รับ ถ้าไม่สำเร็จ นั่นก็คือความสามารถของพวกเรามีปัญหา เงินสักหยวน พวกเราก็ไม่เอา”

“พวกเรามีกฎทำงานของตัวเอง คุณชายหลี่ กรุณาเอาบัตรกลับไปเถอะ”จูเปิ่นพูดไปหัวเราะเหอะเหอะไป

หลังจากหลี่ฝางลังเลไม่กี่วินาที ก็เอาบัตรเก็บไป

“ทำไมบนเตียงยังมีอีกคนนอนอยู่ล่ะ?”

หลี่ฝางเห็นที่มุมกำแพง นอนอยู่คนหนึ่ง หลี่ฝางจะเดินเข้าไป สีหน้าของจูเปิ่น ก็หม่นลงทันที:“คุณชายหลี่ เขาตายแล้ว”

หลี่ฝางจึงคิดขึ้นได้ ตอนอยู่ที่ป่า ตายไปทั้งหมดสองคน นอกจากเฉิงหยุนแล้ว ยังมีอีกคน เป็นลูกน้องของเฉินฝูเซิง

ไม่รู้ว่าทำไม ระบบประสาทของหลี่ฝาง พังทลายลงทันที

“ที่นั่นของพวกเรา มีธรรมเนียมหนึ่ง ก็คือหลังจากคนตายแล้ว คืนวันนั้น คนที่สนิทที่สุด จะอยู่กับเขา เล่นไพ่ตรงนั้น หรือว่าเล่นไพ่นกกระจอก แบบนี้ตอนที่ยมทูตมา ก็จะถูกหมากรุกและไพ่ดึงดูด จนลืมจนใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว”

รอจูเปิ่นพูดจบ หลี่ฝางจึงเข้าใจขึ้นมา

หลี่ฝางได้แต่พูด:“อย่าดื่มเหล้าเลย ระวังแผลอักเสบ นี่เพิ่งพันแผลไป แล้วยังเป็นวันที่อากาศร้อนจัด”

“อือ”จูเปิ่นพยักหน้า นำเอาขวดเหล้าทิ้งไปข้างๆ

พวกจูเปิ่น ล้วนแต่อยู่ยุทธภพนานแล้ว กลับเป็นหรุ่ยเหวินเจ๋ที่ทำให้หลี่ฝางแปลกใจหน่อยๆ

หลี่ฝางมองหรุ่ยเหวินเจ๋ แล้วเรียกเขาออกมา:“คุณไม่เป็นไรใช่ไหม?หูหายไปข้างหนึ่ง ครอบครัวคุณ ……”

ไม่รอให้หลี่ฝางพูดจบ หรุ่ยเหวินเจ๋ก็พูด:“คุณชายหลี่คิดมากไปแล้ว ครอบครัวผมไม่สนใจเรื่องพวกนี้ พวกเขาสนแค่ว่าผมหาเงินได้หรือไม่ เมื่อกี๊ ผมโอนไปให้ที่บ้านไปแสนหนึ่ง พวกเขาไม่ได้ถามผมว่าเอาเงินนี้มาจากไหน จากปลายสาย ผมได้ยินพ่อกับแม่ผมมีความสุขสุดๆ เหอะเหอะ”

หรุ่ยเหวินเจ๋หัวเราะแห้งๆ:“ดังนั้น แค่มีเงินให้หา ก็พอแล้ว”

หลี่ฝางมองออกว่า ใบหน้าของหรุ่ยเหวินเจ๋ มีความเจ็บปวดหน่อยๆ

หลี่ฝางไม่รู้จะพูดอะไร ได้แต่พูดว่า:“คุณเอาเลขบัญชีมาให้เถอะ ผมจะโอนเงินให้คุณ คุณต่างจากพวกเขา คุณเพิ่งเข้ามา ไม่จำเป็นต้องยึดกฎของพวกเขา”

“นั่นไม่ได้ คุณชายหลี่ ตอนนี้ผมติดตามคุณชายเฉิน ดังนั้น กฎของพวกเขา ก็คือกฎของผม พวกเขาไม่เอา ผมก็ไม่เอา อีกอย่าง คุณชายหลี่ เรื่องนี้ เป็นพวกเราที่ทำไม่ดีจริงๆ ถ้าระหว่างทางพวกเราไม่ชักช้า ก็คงไม่ถูกพวกเขาบล็อกไว้”

“บวกกับ พวกเราประเมินศัตรูต่ำไป คิดไม่ถึงเลยว่าอีกฝ่ายจะมีปรมาจารย์ตั้งหลายคนขนาดนั้นปรากฏตัว”

หรุ่ยเหวินเจ๋พูด:“โดยเฉพาะอย่างยิ่งผม ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ ก็กลัวหน่อยๆ เป็นตัวถ่วงให้ทุกคน วันที่ต่อสู้เป็นไปอย่างดุเดือดแบบนี้ เมื่อก่อนเห็นแต่ในทีวี คิดไม่ถึงจริงๆว่า จะเกิดที่ข้างกายของตัวเองจริงๆ พูดแล้วก็ไม่กลัวคุณชายหลี่ขำหรอก ผมในตอนนั้น ตกใจจนฉี่ราดกางเกงจริงๆ ผมไม่หยุดปลอบให้ตัวเองใจเย็นลง ไม่ต้องกลัว แต่เสียงของกระสุน ทำให้ตัวของผมอดสั่นไม่ได้”

“ผมไม่กลัวตาย ก็แค่ต้องค่อยๆปรับตัว ค่อยๆชิน เมื่อกี๊เสี่ยวซานจื่อเพิ่งให้บทเรียนผมไป บอกว่าท่าทางของผมนั้นไม่เลวเลย เขาบอกว่าคนทั่วไปเจอสถานการณ์แบบนี้ ต้องตกใจแน่ๆ อย่างน้อยผมก็ไม่ตกใจ”

หรุ่ยเหวินเจ๋หัวเราะเหอะเหอะ พูดว่า:“ก็ไม่รู้ว่าเขากำลังปลอบผมอยู่หรือเปล่า”

“คุณโดดเด่นกว่าคนทั่วไปจริงๆ”หลี่ฝางพยักหน้า แล้วพูด

“เหอะเหอะ คุณชายหลี่ก็ชมผมมากเกินไปแล้ว”

“น่าจะเป็นเพราะผมเกิดในครอบครัวที่ยากจน กระหายเงินสุดๆ ถึงต้องตายในเส้นทางนี้ ผมก็ยอม หาเงินได้ก็พอ”

พูดไป หรุ่ยเหวินเจ๋ก็เงยหน้าขึ้น มองหลี่ฝางแล้วพูด:“แต่ว่าคุณชายหลี่วางใจเถอะ ผมมีศักดิ์ศรี ไม่หักหลังพวกคุณเพราะเงินแน่

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท