NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 658 เข้าใจผิด?

บทที่ 658 เข้าใจผิด?

“หมายความว่าไง?”สีหน้าของหลี่ฝาง เย็นชาขึ้นมาทันที

“แกขู่ฉันงั้นเหรอ?” หลี่ฝางพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาใส่ท่านลู่ พร้อมกับถามไปหนึ่งประโยค

น้ำเสียงของท่านลู่ไม่มีการหวั่นไหว “ฮ่าๆ เสี่ยวฝาง อย่าเพิ่งวู่วาม ถ้าเกิดแกวู่วาม ก็จะเป็นการบอกว่าแกใส่ใจพวกเขา”

“ตอนนี้ หลอซ่าไม่อยู่ สถานตากอากาศแห่งนี้ แกก็คงจะเป็นคนที่มีอำนาจสั่งการถูกไหม?”

ท่านลู่มองหน้าหลี่ฝาง แล้วถามไปหนึ่งประโยค

หลี่ฝางหัวเราะ แล้วพูดว่า “ท่านลู่ แกคิดว่าฉันที่เป็นแค่เด็กน้อย จะสามารถเป็นคนสั่งการได้งั้นเหรอ? พ่อของฉันไม่อยู่ สถานตากอากาศแห่งนี้ แน่นอนคนที่สั่งการต้องเป็นลุงเฉียนอยู่แล้ว”

“แกหมายถึงเจ้ารองเฉียนเหรอ? เขา……สุดท้ายก็เป็นแค่คนนอก เขาก็แค่ค่อยช่วยจัดการปัญหาของหลอซ่าก็เท่านั้นเอง”

ท่านลู่พูดจบด้วยเสียงหัวเราะ ทันใดนั้นก็เปลี่ยนหัวข้อ “ฉันขอพูดอะไรที่มันไม่น่าฟังหน่อย แกอย่าโกรธล่ะ ถ้าเกิดครั้งนี้พ่อแกไม่สามารถกลับมาได้ งั้นสถานตากอากาศแห่งนี้ แกก็คงจะต้องเป็นคนดูแลต่อ”

“ลูกต้องรับธุรกิจต่อจากพ่อ แกว่างั้นไหม?”

“แกคงจะปล่อยให้คนนอกมารับช่วงสถานตากอากาศไม่ได้ใช่ไหมล่ะ?” ท่านลู่ถามหลี่ฝาง พร้อมกับยักคิ้ว

ใบหน้าของหลี่ฝาง เปลี่ยนเป็นใบหน้าที่ดูแย่ขึ้นมาทันที “พ่อของฉันจะต้องกลับมาอย่างแน่นอน”

“มันก็ไม่แน่หรอกนะ ทางด้านเขตสามเหลี่ยม ไม่ใช่สถานที่ดีเท่าไหร่ ถ้าเกิดสามารถจัดการได้ง่ายขนาดนั้น ก็คงอยู่ไม่ได้จนถึงทุกวันนี้ ความจริง ความหวังที่พ่อแกจะกลับมาได้ มีไม่มาก”

ท่านลู่มองไปยังหลี่ฝาง แล้วพูดขึ้นมาว่า “อีกอย่างน่ะ ลองคิดตอนที่พ่อแกทิ้งแกไปอย่างไร้เยื่อใย ไม่ว่าแกจะเป็นตายร้ายดียังไงเขาก็ไม่สนไม่ถาม แล้วแกจะสนใจทำไมว่าเขาจะอยู่หรือตาย?”

“เขาเป็นพ่อของฉัน” หลี่ฝางจ้องมองไปที่ท่านลู่ ท่าทางดูโมโหเป็นอย่างมาก

“ฉันรู้ว่าเขาเป็นพ่อของแก แต่พ่อของแก เป็นคนที่โหดเหี้ยมมาก หรือว่า แกคิดว่าเขาจะรักและเอ็นดูแกจริงงั้นเหรอ? ความจริง เขารักเงินมากกว่า แกลองคิดดูดีๆ สามปีมานี้ ทำไมเขาถึงไม่กลับมาพาแกกลับไปล่ะ? ทำไมถึงต้องให้แกต้องทนทุกข์ยากอยู่คนเดียวตั้งสามปีล่ะ?”

“หรือว่า เขาไม่มีอำนาจที่จะพาแกกลับไปรึไง? ฮ่าๆ ลูกน้องของเขา มีแต่ยอดฝีมือ แถมความสามารถของเขา แกเองก็น่าจะรู้ดี ถ้าเกิดเขาอยากจะกลับมาพาแกไปด้วย มันเป็นเรื่องที่ง่ายราวกับพริบฝ่ามือ แถมสถานที่อย่างดูไบ ก็เป็นสถานที่ที่สะดวกสบาย มีราชาแห่งน้ำมันค่อยหนุนหลัง เขาจะต้องมีชีวิตความเป็นอยู่อย่างสุขสบาย และชีวิตความเป็นอยู่ของแกล่ะ ใช้ชีวิตกันยังไง กินไม่อิ่ม เสื้อที่ใส่ก็ไม่อุ่น ไม่เพียงแค่ถูกเพื่อนในโรงเรียนหัวเราะเยาะ ถูกรังแก แถม แกยังต้องเผชิญกับอันตรายขนาดนั้น แต่ว่า เรื่องพวกนี้ พ่อของแกหลอซ่ากลับทำเหมือนกับว่ามองไม่เห็น”

“แกคิดจริงๆเหรอว่า เขาปฏิบัติการแกเหมือนเป็นลูกแท้ๆน่ะ?” ท่านลู่หันไปพูดกับหลี่ฝาง

สีหน้าของหลี่ฝางอึ้งไปพักนึง

แม้ว่าท่านลู่ต้องการจะให้แตกคอกันอย่างชัดเจน แต่สิ่งที่ท่านลู่พูดออกมา ก็ใช้ว่าจะไม่มีเหตุผล

ถ้าเกิดในตอนแรก พ่อแม่ของตัวเอง ใช้ชีวิตด้วยการหลบหนี พาตัวเองหนีไปด้วย ก็เป็นแค่ตัวถ่วง

แต่หลังจากที่พวกเขามั่นคงแล้วล่ะ?

พวกเขามีทรัพย์สมบัติมากมาย แต่ละคนต่างก็กลายเป็นคนที่มีชื่อเสียง แต่มีเพียงแค่ตัวเอง ที่ต้องอยู่ในสถานที่ไม่มีอะไรเลยอย่างตงไห่ ต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก

เด็กคนนึงที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ พอห่างจากพ่อแม่ จะไปเผชิญกับคนแปลกหน้ายังไง?

ถ้าเกิดไม่ใช่เพราะหลี่ฝางยอมทิ้งศักดิ์ศรี กลายเป็นเบ้ให้กับเพื่อนร่วมชั้นของตัวเอง ค่อยล้างถุงเท้า ทำการบ้าน ทำงานกลางคืนเพื่อเก็บเงินส่งค่าเทอม ตัวเองคอยหาค่าเทอมของตัวเองแล้วล่ะก็

งั้นตัวเองก็คงจะเดินไปในอีกสายทางนึง นั้นก็คือกลายเป็นแรงงานเด็ก แล้วก้าวเท้าเข้าไปอยู่ในสังคม

ตัวเองบางทีอาจจะเดินไปยังเส้นทางที่ไม่ดี บางทีอาจจะไปเป็นนักเลง บางที อาจจะเป็นขโมยก็ได้ และอาจจะขายผงขาวก็ได้

เอาเป็นว่า ไม่ว่าแบบไหนก็เป็นไปได้ทั้งนั้น

อีกอย่าง ในสังคม มีอันตรายอยู่รอบตัว ที่สามารถเจอได้ทุกเมื่อ

โชคดีที่หลี่ฝางเลือกที่จะเรียนต่อ แม้ว่าจะใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก แต่ก็ไม่เคยเจอกับความอันตรายที่อยู่ในสังคม

“แกพูดถูกแล้ว สามปีมานี้ จริงอยู่ที่ว่าเขาไม่ได้เป็นพ่อที่ดีอะไร” หลี่ฝางเงยหน้ามองท่านลู่แวบนึง แล้วพูดว่า “แต่ว่า เขาเป็นพ่อของฉัน นี่เป็นความจริง ที่แกมาเล่าเรื่องพวกนี้ให้ฉันฟัง ก็เพื่อที่จะให้หัวใจของฉันเกิดความแค้นต่อพ่อของตัวเองถูกไหม?”

ท่านลู่หัวเราะ ไม่ได้ปิดบังแต่อย่างใด “เมื่อก่อน องค์รัชทายาทล้วนคาดหวังให้พ่อของตัวเองสิ้นพชนไว้ๆ จากนั้นตัวเองก็สามารถขึ้นครองราชย์ได้ เสี่ยงฝาง แกไม่คิดมาก่อนรึไง?”

หลี่ฝางส่ายหัว

“ฮ่าๆ อุบัติเหตุมันเกิดขึ้นได้เสมอ ถ้าเกิดมีอะไรเกิดขึ้นหลอซ่าจริงๆ งั้นแก ก็ต้องใช้โอกาสนี้ให้ดีๆ เอาสถานตากอากาศ แล้วก็ยังมีสถานบันเทิง สิ่งที่พ่อของแกเหลือเอาไว้ เอามาไว้บนมือของแกให้หมด อย่าให้เจ้ารองเฉียนแย่งไปได้ล่ะ”

ท่านลู่พูดต่อ “ถึงเวลานั้น แกก็จะเป็นเจ้าบ้านของตระกูลหลี่ และพวกเรา เมื่อถึงเวลานั้นก็จะสามารถร่วมมือกันได้ แกว่าถูกหรือเปล่า?”

“พ่อฉันไม่ตายหรอก” หลี่ฝางยังคงยืนยันคำเดิม

“สมองของเด็กอย่างแก ทำไมถึงไม่รู้จักคิดเผื่อเอาไว้ ฉันหมายถึงว่าถ้าเกิด ถ้าเกิดน่ะแกเข้าใจไหม? พ่อของแกไม่ใช่เทพสักหน่อย เขาเป็นคน ขอแค่เป็นคน ก็ตายได้ทั้งนั้น อีกอย่าง พวกแกจับฉันมา ทำให้ไปกระตุ้นหนวดหลายคน แม้จะไม่ตั้งใจ แต่ก็เพิ่มอันตราย ให้กับพ่อของแกไม่น้อย”

ท่านลู่หัวเราะอย่างเย็นชา “เอาเป็นว่า ฉันแค่ต้องการมาทำความรู้จักกับแกก่อน อยากจะเป็นมิตรกับแกก่อน”

“ต้องขอโทษด้วย ฉันไม่สนใจสัตว์เดรัจฉาน โดยเฉพาะสัตว์เดรัจฉานเฒ่าแบบแก” หลี่ฝางพูด

ท่านลู่ปิดตาลงเล็กน้อย “สัตว์เดรัจฉานเฒ่า? ฉันคนนี้ทำความดีมามากขนาดนั้น แค่เงินที่บริจาคให้กับโรงเรียน ก็มีมากกว่าสิบแห่งแล้ว อีกอย่าง และยังมีบ้านพักคนชราอะไรพวกนั้นอีก แกบอกว่าฉันเป็นสัตว์เดรัจฉานเฒ่า? มีสัตว์เดรัจฉานที่ใจดีขนาดนี้ด้วยเหรอ?”

“แกล้งโง่งั้นเหรอ? แกคิดว่าฉันไม่รู้รึไง ว่าชั้นใต้ดินของสโมสรเจียงหนาน เป็นสถานที่แบบไหน? พวกแกเพื่อที่จะสนองตัณหาของตัวเอง ทำให้หญิงสาววัยรุ่นตายไปแล้วตั้งกี่คน”

“ท่านลู่ แกว่าแกอายุปูนนี้แล้ว ไม่กลัวรึไงว่าหลังจากที่ตายไป จะต้องรับกรรมอะไรบ้าง?” หลี่ฝางถาม

ท่านลู่ส่ายหัว แล้วก็หัวเราะ

“แกทำลายชีวิตคนไปมากขนาดนั้น ยังหัวเราะออกมาได้อีกเหรอ?” หลี่ฝางมองท่านลู่ด้วยหางตา ข้างในดวงตาเต็มไปดูความดูถูก

“ทั้งชีวิตของฉัน จริงอยู่ที่ทำลายชีวิตคนไปไม่น้อย แต่ชีวิตของคนๆนึง การที่มายืนอยู่ในจุดที่ฉันอยู่ได้ ใครกล้าพูดว่า มือของตัวเอง ไม่เคยเปื้อนเลือดมาก่อนล่ะ? ตอนที่ฉันยังหนุ่มยังแน่น เคยใช้ธุรกิจที่สกปรก บีบบังคับให้อีกฝ่ายโดดตึกฆ่าตัวตาย และเคยทำลายชีวิตของพวกเขาจนเสียการเสียงาน เรื่องพวกนี้ ฉันยอมรับ”

“ธุรกิจ เป็นสถานที่ที่เมื่อเอาอาหารเข้าปากแล้วต้องกินให้หมดอย่าให้เหลือแม้แต่กระดูก”

“ฉันก็เป็นนักธุรกิจก็เท่านั้นเอง คนที่ฉันทำลาย ล้วนเป็นเพราะการแย่งชิงทางด้านธุรกิจ นอกเหนือจากนั้น ฉันก็ไม่เคยทำอะไรที่มันไม่ดี ส่วนเรื่องที่แกบอกว่าฉันเป็นสัตว์เดรัจฉานเฒ่า คงจะเป็นเพราะความเข้าใจผิดในตัวฉัน”

“เข้าใจผิด?” หลี่ฝางหัวเราะ “งั้นหญิงสาววัยรุ่นพวกนั้น ตายได้ยังไง?”

“รึว่าไม่ใช่เพราะบริบาลแก แล้วถูกแกฆ่าตายเหรอ?” หลี่ฝางซักถาม

ท่านลู่ส่ายหัว แล้วพูดว่า “แน่นอนว่าต้องไม่ใช่ เป็นเพราะพวกเขาทนการทรมานไม่ไหว แล้วฆ่าตัวตายเอง”

“แล้วไม่ใช่เพราะแกเหรอ” หลี่ฝางพูด

“แต่ว่า ตอนที่พวกเขาเลือกที่จะมาบริบาลฉัน ก็มาเพราะความตั้งใจของตัวเอง อีกอย่าง ฉันเองก็ใช้เงินเป็นจำนวนมาก เพื่อซื้อพวกเขามา เป็นพวกเขาเองที่ทนรับไม่ไหวกับชีวิตที่ไม่มีอิสระ จะโทษใครได้ล่ะ? ก่อนที่จะรับเงินจากฉัน ฉันก็อธิบายอย่างชัดเจนแล้ว”

“ฉันไม่ได้เป็นอย่างที่พวกแกเข้าใจรหรอกนะ เล่นสนุกกับพวกเธอ แกก็ไม่ลองดูหน่อยล่ะ ว่าฉันอายุปูนนี้แล้ว จะไปลงไม้ลงมือกับหญิงสาววัยรุ่นพวกนั้นได้ยังไง?”

“ตรงชั้นใต้ดินของสโมสรเจียงหนาน หญิงสาวพวกนั้น ไม่มีอิสระแม้แต่น้อย แม้แต่อิสระในการพูดคุย ก็ไม่มี มีหญิงสาวมากมาย รับชีวิตแบบนี้ไม่ไหว เพราะงั้นจึงกลายเป็นคนบ้า มีบางคน มาขอร้องฉัน ขอให้ฉันปล่อยพวกเธอไป คืนอิสรภาพให้กับพวกเธอ ฮ่าๆ การทำธุรกิจ ต้องรู้จักรักษาคำพูด ในเมื่อเซ็นสัญญาแล้ว งั้นก็ไม่ควรผิดสัญญา เพราะงั้น ฉันจึงไม่ตกลง สิ่งที่พวกเธอมี ก็คือเอาความตายมาขู่ฉัน”

“ยังจะบอกว่าต่อให้ตายเป็นผีก็ไม่ยอมปล่อยฉัน น่าขำซะจริง พูดกันตามตรง การตายของพวกเธอ ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับฉันสักหน่อย?” ท่านลู่พูด

หลังจากที่หลี่ฝางได้ยินเรื่องพวกนี้ ก็ตกใจจนอึ้งไปพักนึง

สิ่งที่ท่านพูดมา กับสิ่งที่คนอื่นพูด ไม่เหมือนกันสักนิด หลี่ฝางเองก็พูดไม่ถูกว่าจริงหรือปลอมกันแน่

แต่ว่า หลี่ฝางก็ถามไปด้วยความสงสัย “ในเมื่อเรื่องที่พวกแกทำ เป็นเรื่องที่ดี ทำไมถึงต้องไปหลบซ่อนตัวอยู่ในสถานที่ที่ไม่เห็นแสงเดือนแสงตะวันด้วยล่ะ?”

“ฮ่าๆ เกี่ยวกับจุดเรื่องต้นในก่อสร้างสถานที่นั่น คงต้องย้อนกลับไปเมื่อห้าปีก่อน”

ท่านลู่ยิ้ม แล้วพูดว่า “ฉันสามารถเล่าให้แกฟังได้”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท