NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 680 เพื่อนเก่าแก่ของหลี่ฝาง

บทที่ 680 เพื่อนเก่าแก่ของหลี่ฝาง

หลี่ฝางออกแรงส่ายหัวไปมา หลังจากที่สมองตัวเองตื่นตัวดีขึ้นบ้างแล้ว ก็รับโทรศัพท์ของเฉินฝูเซิง

“โทรมาบ่อยขนาดนี้ มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า?” หลี่ฝางรับโทรศัพท์แล้วรีบถามขึ้น

“แมงป่องมาจากอำเภอหลินแล้ว ตอนนี้อยู่ในระหว่างการเดินทาง แต่ว่ากำลังจะมาถึงแล้ว อย่างช้าก็ประมาณครึ่งชั่วโมง อย่างเร็วก็ 10นาทีก็มาถึงแล้ว เจ้านาย เจ้านายอยู่ไหนล่ะ? แมงป่องมาแล้ว สงสัยจะรั้งคนไว้ไม่อยู่แล้วล่ะ”

“พ่อฉันทางนั้นออกคำสั่งเด็ดขาด สั่งฉันห้ามไปยุ่งกับแมงป่องเด็ดขาด ยังบอกให้ฉันกลับบ้านไปด้วย ฟังที่พ่อฉันพูดแล้ว แมงป่องคนนี้ รับมือได้ยากลำบากมาก แม้กระทั่งพ่อฉัน ก็ยังต้องไว้หน้าเขาเลย”

“นอกจากพ่อฉันทางนั้นแล้ว ถนนสายอินเทอร์เน็ตคาร์เฟ่ ถนนสายไนต์คลับ ก็ปรากฏมีคนแปลกหน้าจำนวนไม่น้อยเลย พวกเขาก็ไม่ได้ใช้บริการอะไร ได้แต่เดินเล่นอยู่แถวนั้น พอสืบดูแล้ว ดูเหมือนจะเป็นคนทางอำเภอหลินทางนั้น”

“น่าจะเป็นคนของแมงป่อง”

เฉินฝูเซิงพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

หลี่ฝางพยักหน้าแล้วพูดว่า “หารถมาหลายๆคัน ไปขวางรถของแมงป่องไว้ ถ่วงเวลาให้เขามาช้าลงกว่านี้”

หลี่ฝางนวดศีรษะตัวเองเบาๆ แล้วเงยหน้าพูดกับถังหยู่ซวนว่า “ขับเร็วหน่อยสิ”

ถังหยู่ซวนตอนนี้ไม่ได้สนใจไฟเขียวไฟแดงแล้ว ได้แต่เหยียบคันเร่ง ให้ได้ความเร็วสูงที่สุด ด้วยความเร็วขนาดนั้นทำให้หลี่ฝางสร่างเมาทันที

“ก็ไม่ต้องเร็วขนาดนั้นก็ได้” หลี่ฝางเป็นห่วงความปลอดภัยของทุกคน ก็เลยพูดกับถังหยู่ซวน แต่ว่าถังหยู่ซวนดูเหมือนไม่ได้ยินอะไรเลย ได้แต่เดินหน้าขับไปตามความเร็วเดิมต่อไป

ประมาณ 20 นาที หลี่ฝางก็มาถึงเขตคุ้มครองของเฉินฝูเซิง

เดินผ่านซอยเล็กๆ แล้วเข้าไปถึงตรงหน้าบ้านหลังเล็กหลังหนึ่ง

หรุ่ยเหวินเจ๋กอดหญิงสาวคนหนึ่งไว้ในอ้อมอก ปากก็คาบบุหรี่ไว้มวนหนึ่ง หลังก็พิงกำแพงอยู่ เมื่อเห็นหลี่ฝางแล้ว ก็รีบยืนตัวตรงขึ้น ทักทายด้วยความนอบน้อมว่า “สวัสดีครับเจ้านาย”

ส่วนหญิงสาวในอ้อมกอดเขานั้น รูปร่างเซ็กซี่ หน้าตาสะสวย แต่ว่า ค่อนข้างเย้ายวนไปหน่อย

หลี่ฝางมองเธอเพียงแวบเดียว ก็ละสายตาไปที่อื่น

ส่วนเธอนั้นกลับมองสำรวจหลี่ฝางอย่างถี่ถ้วน พูดด้วยท่าทางที่แตกตื่น “หลี่ฝางเหรอ?”

“คุณคือ?” หลี่ฝางหันหน้ากลับไปมองอีกครั้ง มองดูหญิงสาวคนนี้ แล้วหัวเราะขึ้นมาว่า “คุณรู้จักฉันด้วยเหรอ?”

“พูดเหลวไหล จะไม่รู้จักได้ยังไงล่ะ เราสองคนยังนั่งเรียนโต๊ะเดียวกันเลย ไอ้เวรเอ๊ย อะไรกันเนี่ย ทำไมกลายเป็นเจ้านายแล้วล่ะ ฉันจำได้ว่าบ้านแกอยากจนมากไม่ใช่เหรอ”

“ถงถง?” หลี่ฝางขมวดคิ้ว มองดูหญิงสาวคนนี้ นึกอยู่นานก็นึกไม่ออกว่าเธอเป็นใครกันแน่

“เราสองคนเรียนประถม1 ถึงประถม3 นั่งเรียนโต๊ะเดียวกันมาตลอดเลย แกยังจำได้ไหม ตอนเด็กๆเรายังนอนห่มผ้าผืนเดียวกันด้วย” ถงถงหัวเราะ

เมื่อได้ยินคำพูดนี้แล้ว สีหน้าลู่หลุ่ยก็บูดบึ้งทันที เธอใช้มือหยิกเอวของหลี่ฝางแล้วพูดว่า “เออดีนะ เจ้าชู้ตั้งแต่เด็กเลย”

หลี่ฝางทำตาเหลือกใส่ถงถง แล้วพูดว่า “ฉันไม่เคยรู้จักกับคุณเลยนะ คุณจำคนผิดหรือเปล่า?”

“ไอ้เวรตะไล หลี่ฝาง แกนี้ร่ำรวยแล้วใช่ไหม? เชื่อไหมว่าฉันจะแฉเรื่องที่แกฉี่รดที่นอนตอนเด็กๆเอามั๊ยล่ะ? ยังมีอีกนะ เมื่อตอนเด็กๆแกชอบเซี่ยลู่ไม่ใช่เหรอ? แกยังเขียนจดหมายรักถึงเซี่ยลู่เลยตอนนั้นแกเกี่ยงว่าลายมือตัวเองเขียนไม่สวย ยังให้ฉันช่วยเขียนให้อีกด้วย แต่ว่าจดหมายรักนั้นตอนหลังถูกไอ้อ้วนนักเลงในโรงเรียนแย่งไป แล้วเอาของแกไปอ่านต่อหน้าทุกคน………”

“ตอนนั้นไอ้อ้วนนั้นก็ชอบเซี่ยลู่เหมือนกัน เพราะอย่างนี้เอง ฉันก็เลยถูกไอ้อ้วนกระทืบพร้อมกับแกด้วย”

สมองของหลี่ฝาง รู้สึกขาดออกซีเจนขึ้นมาทันที

คนที่ถงถงพูดถึงพวกนั้น ถ้าเป็นคนอื่นก็จะไม่มีใครรู้เรื่องเลย ส่วนหลี่ฝางก็ค่อยๆรำลึกขึ้นมาว่า ตอนนั้นตัวเองก็มีเพื่อนร่วมเรียนโต๊ะเดียวกันจริงอยู่ ก็ชื่อว่าถงถงเหมือนกัน แต่ว่าเขาเป็นเด็กผู้ชายนะ

“เพื่อนที่นั่งเรียนโต๊ะเดียวกันตั้งแต่อยู่ประถม1ถึงประถม3 ถงถง? ถงที่แปลว่าเด็กใช่มั๊ย?” หลี่ฝางมองหน้าหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อ

ถงถงหัวเราะ “ตอนนี้เปลี่ยนไปแล้ว แต่ก็ชื่อถงถงเหมือนกัน เพียงแต่ไม่ใช่ถงที่แปลว่าเด็กแล้ว”

“แม้งเอ๊ย แกไม่ใช่ผู้ชายเหรอวะ? แล้วทำไมตอนนี้……”

หลี่ฝางไม่ทันจะพูดจบ ถงถงก็รีบพูดขึ้นว่า “ไม่ใช่นานแล้ว หกปีที่แล้วก็ไม่ใช่แล้ว แกยังไม่รู้อีกเหรอ พูดขึ้นมาแล้ว ฉันก็คิดถึงแกมากเลยนะ ตอนนั้นกลับมาที่ตงไห่ ฉันก็ตามหาแกแต่ว่าก็ไม่มีข่าวคราวของแกเลย……..”

“นึกไม่ถึงเลยว่าบังเอิญอย่างนี้ ได้มาพบกับแกที่นี่…..” สายตาที่ถงถงมองหลี่ฝางนั้น แสดงความรู้สึกกรุ้มกริ่มอย่างชัดเจน

หลี่ฝางรู้สึกสะดุ้งขึ้นมาทันที มองดูถงถงแล้วพูดว่า “ฉันจะเป็นลม นับถือแกจริงๆเลย”

หรุ่ยเหวินเจ๋ที่กอดถงถงอยู่ ก็ผลักถงถงออกไปทันที มองดูถงถงด้วยสายตาที่รังเกียจแล้วพูดว่า “โคตรแม้ง แม้งแกเป็นผู้ชายหรือวะ?”

“ไอ้เวรตะไล ถุยๆๆ!”

หรุ่ยเหวินเจ๋ก็รีบเช็ดปากตัวเอง จากนั้นก็ยกขาขึ้น ถีบไปยังถงถงจนตกลงไปกับพื้น

“แม้ง แกแม้งเป็นผู้ชาย แล้วแกมายั่วฉันทำไม? แกป่วยหรือเปล่าเนี่ย!” หรุ่ยเหวินเจ๋รู้สึกว่าตัวเองเหมือนกินขี้แมลงวันเข้าไป ท้องไส้ปั่นป่วนอย่างรุนแรง

อย่างน้อย ตอนที่หลี่ฝางยังมาไม่ถึงนั้น หรุ่ยเหวินเจ๋ก็ได้จูบไปทั้งครึ่งค่อนวันแล้ว

ยังโชคดีที่รู้ตัวเสียก่อน ไม่เช่นนั้นถ้าพาถงถงกลับไปบ้าน แล้วมีอะไรกัน นั้นมันก็คง….

หรุ่ยเหวินเจ๋ไม่กล้าที่คิดต่อไป ความจริงเช่นนี้ เขาก็ยากที่จะทำใจยอมรับได้

หรุ่ยเหวินเจ๋ยิ่งคิดยิ่งโมโห เข้าไปทั้งต่อยทั้งเตะถงถง หลี่ฝางก็รีบลากหรุ่ยเหวินเจ๋ไว้ “ทำอะไรเนี่ย นี่มันเพื่อนฉันนะ!”

“เพื่อนซี้ตอนเด็กๆ”

หลี่ฝางขมวดคิ้ว “แกขืนทำร้ายเธออีกที เชื่อไหมว่าฉันจะสับมือแกทิ้งเลย!”

ตอนสมัยเด็กนั้น ถงถงคนนี้ เคยปกป้องหลี่ฝางมาโดยตลอด

กว่าจะได้พบหน้ากันก็แสนยากลำบาก ไม่ว่าถงถงจะเปลี่ยนเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงก็ตาม หลี่ฝางก็ไม่อยากเห็นเธอถูกรังแก

หลี่ฝางดึงตัวถงถงขึ้นมา ใบหน้าของถงถงก็เปรอะเปื้อนไปด้วยเครื่องสำอาง หันหน้ากลับไปด่าหรุ่ยเหวินเจ๋ว่าผู้ชายเฮงซวย แต่ก็ไม่ได้ถือสาหาความอะไร

“หลี่ฝาง แกเป็นเจ้านายของเขาจริงเหรอ?” ถงถงถามอย่างไม่ค่อยเชื่อใจ

ตอนที่ถงถงจากไปนั้น หลี่ฝางยังเป็นคนธรรมดาคนหนึ่งอยู่เลย แล้วคนธรรมดาคนนี้ เป็นไปได้อย่างไรที่อายุเพียงแค่20กว่าก็เป็นลูกพี่ใหญ่แล้ว?

มันก็แน่นอนที่ถงถงย่อมต้องสงสัยเป็นธรรมดา

หลี่ฝางหัวเราะแล้วพูดว่า “ใช่สิ แล้วแกตอนนี้ทำไมกลายเป็นแบบนี้ไปได้ล่ะ ยังแปลงเพศอีกด้วยเหรอ?”

“ชีวิตความเป็นอยู่มันบีบคั้น ชีวิตความเป็นอยู่มันบีบคั้น อย่าไปพูดถึงมันเลย” ถงถงเม้มปากแล้วพูดว่า “แกก็รู้ไม่ใช่เหรอ ตอนเด็ก ฉันก็ท่าทางตุ้งติ้งอยู่แล้ว ตอนนั้นที่ฉันยอมเล่นเป็นเพื่อนแก ก็เพราะว่าฉันชอบแกไง……”

“แกอยากได้มีความคิดอย่างนี้เชียวนะ มันอันตรายมาก รู้ไหม? อย่าว่าแต่ฉันมีแฟนสาวเลย ต่อให้ไม่มี แกก็รีบหยุดคิดเลย ไม่อย่างนั้นละก็ หรุ่ยเหวินเจ๋ไม่อัดแก ฉันก็จะตีแกให้ตายเลย รู้หรือเปล่า?” หลี่ฝางพูดพลางทำตาถลนใส่

“พวกแกผู้ชายแต่ละคน ไม่มีจิตใจเมตตาเอาเลย”

ระหว่างที่กำลังพูดคุยกันอยู่นั้น เฉินฝูเซิงก็เดินออกมาจากบ้าน เขามองหลี่ฝางแล้วพูดว่า “เจ้านาย รีบเข้าไปเถอะ แมงป่องอีก 10 นาทีก็จะถึงแล้ว”

“เร็วอย่างนี้เหรอ?” ฉันก็ให้แกหาคนไปขวางเขาไว้แล้วไม่ใช่เหรอ?”

หลี่ฝางขมวดคิ้วถามด้วยความสงสัย

“ไม่สำเร็จ ฉันส่งคนไปหลายคน ตอนนี้ก็ถูกส่งไปโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว แต่ว่าคนที่ลงมือทำร้ายไม่ใช่แมงป่อง แต่เป็นลูกน้องของแมงป่องอีกที ถึงแม้รถของแมงป่องจะถูกชน แต่ก็หารถใหม่มาเปลี่ยนได้อย่างรวดเร็ว”

เฉินฝูเซิงพูดกับหลี่ฝาง

“ดูเหมือนว่า หวางซีกางไอ้หมอนี่ มีความสำคัญต่อแมงป่องมากเลยนะ” เฉินฝูเซิงพูด

หลี่ฝางพยักหน้าแล้วพูดว่า “หวางซีกางเคยช่วยชีวิตแมงป่องเอาไว้”

“มิน่าล่ะ หวางซีกางคนนี้ ก็เป็นแค่เศษสวะ…..ฉันว่าแล้วทำไมเขาถึงได้เป็นพี่น้องกับคนแบบแมงป่องอย่างนี้ได้” เฉินฝูเซิงยิ้มแล้วก็พูดว่า “เจ้านายเข้าไปถามด้วยตัวเองดีกว่านะ”

“เขาถูกพวกเราจัดการไม่เบาเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นเขาหรือว่าเป็นพวกพี่น้องเขาทั้งหมด ต่างก็ถูกอัดจนอาเจียนออกมา เพียงแต่ว่า ฉันยังไม่ได้ถามอะไรเลย”

หลี่ฝางพยักหน้า แล้วเดินเข้าไป ส่วนลู่หลุ่ยและถงถง ก็เดินตามหลังเข้าไป

ถงถงมองหน้าลู่หลุ่ย แล้วทำตาค้อนใส่ ยืดตัวตรงขึ้น ดูเหมือนว่าภูมิใจกับรูปร่างของตัวเองเหลือเกิน

จะว่าไปแล้ว การผ่าตัดแปลงเพศของถงถงนั้น ประสบความสำเร็จอย่างดีเยี่ยม ถ้าไม่ใช่เพราะว่าถงถงเล่าเรื่องในสมัยตอนเด็กแล้ว ยังไงหลี่ฝางก็จำไม่ได้ว่าเธอก็คือเพื่อนสนิทที่เล่นมาด้วยกันตอนสมัยเด็กนั่นอง

หลี่ฝางเดินมาตรงหน้าหวางซีกาง หวางซีกางตอนนี้ มือทั้งสองข้างถูกมัดเอาไว้ แล้วถูกแขวนห้อยลงมา ร่างกายถูกแส้หวดไปไม่น้อยเลย หลังจากหลี่ฝางเดินเข้าไปแล้ว ส่งสัญญาณมือให้วางเขาลงมา จากนั้นก็ดึงถุงเท้าที่อุดปากไว้ออกไป หลี่ฝางก็ถามอย่างไม่อ้อมค้อมว่า “ฉันถามแกหน่อย หยิ่นเหล่ยเป็นคนที่ส่งแกมาใช่ไหม?”

หวางซีกางพยักหน้าแล้วพูดว่า “ถูกต้อง ก็คือคุณชายหยิ่นนั่นเอง”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน