NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่691 คนโลภ

บทที่691 คนโลภ

“ไม่ต้องถามแล้ว รู้มากไปก็ไม่ดีกับคุณ ไม่เคยดูละครเหรอ คนที่รู้มากเสมอ มักจะตายก่อนตลอด ”หลี่ฝางหัวเราะหึหึ เยาะเย้ยไป

“เถอะน่า วันๆก็เอาแต่ยุ่งไม่รู้อะไร ไม่รู้ว่าคุณกำลังทำอะไร”เหยนเสี่ยวน่ากลอกตาใส่หลี่ฝาง พูดว่า:“โอเค ฉันเรียกรถกลับละนะ จำไว้ว่า ไม่ว่าจะทำอะไร ต้องระวังตัวด้วย”

เข้าไปในรถออดี้a4คันนั้น หลี่ฝางก็พูดกับโจวต้าเหนียน:“ที่ถนนฉางหง มีร้านชาซินซิน รู้จักไหม?”

“รู้จัก”โจวต้าเหนียนพยักหน้า พูดว่า:“ความเป็นมาของร้านชาซินซินนั้น ใหญ่นะ”

“อ้อ?ใหญ่แค่ไหน?”หลี่ฝางถามไปงั้นๆ

“นั่นคือถิ่นของแมงป่อง ถึงแม้จะแขวนป้ายร้านน้ำชาไว้ แต่ที่จริงแล้ว กลับเป็นบ่อนขนาดใหญ่ หลายๆคน ต่างชอบไปเล่นที่นั่น ผมรู้จักบรรดาพี่ชายคนหนึ่ง ก็ชนะไปแสนกว่า จากที่นั่น”โจวต้าเหนียนพูดพร้อมหัวเราะเหอะเหอะ

“จากนั้นล่ะ?ไม่พนันอีก?”หลี่ฝางถามต่อ

“จากนั้นก็ไม่เห็นอีกเลย เหมือนว่าเคยไปพนันอีกไม่กี่ครั้ง แต่น่าจะแพ้ให้มั้ง?เพราะว่าแค่เขาชนะมา ก็จะเลี้ยงเหล้าพวกเราที่ผับ จากนั้นก็จะเรียกสาวๆกลุ่มใหญ่ ที่สดใสเป็นพิเศษ”

พูดคุยกับโจวต้าเหนียนไป ทั้งสองคนก็มาถึงร้านชาซินซิน

ยังไงก็เป็นถิ่นของแมงป่อง หลี่ฝางไม่ได้เข้าไป แต่มาที่หน้าประตูที่ไม่ไกล โทรหาหัวหน้าของว่างต้าต้า

คนนี้ ชื่อว่าหวางเหมียว

ไม่นานหวางเหมียว ก็เดินออกมาพร้อมกับพุงใหญ่ๆ หน้าของเขา มีไฝใหญ่ๆสีดำ หน้าตาน่าเกลียดมาก มองเห็นออดี้a4 ก็รีบวิ่งไม่กี่ก้าว เข้ามา

“ผมว่านะ คุณคือคนที่ว่างต้าต้าแนะนำใช่ไหม?”

มองหลี่ฝางกับโจวต้าเหนียน ใบหน้าของหวางเหมียว ก็เผยให้เห็นความไม่พอใจ

เขารู้สึกว่าตัวเองถูกว่างต้าต้าเล่นงาน หลี่ฝางหน้าเด็ก มองไปแล้วอย่างมากก็ยี่สิบ ส่วนว่างต้าต้าถึงแม้อายุมองไปจะไม่น้อยแล้ว แต่เสื้อผ้าที่สวมใส่ ล้วนแต่เป็นสินค้าแผงลอย

ดีที่ ขับเป็นออดี้ ไม่อย่างนั้น หวางเหมียวก็หมุนตัว ออกไปนานแล้ว

หลี่ฝางพยักหน้า พูดว่า:“ขึ้นรถ คุยกันหน่อยสิ”

หวางเหมียวหัวเราะเหอะเหอะอย่างเย็นชา:“ไม่ต้องหรอก ผมจะถามพวกคุณ เอาเงินมาไหม ถ้าเอาเงินมา พวกเราก็คุย ถ้าไม่เอามา ผมว่าพวกคุณอย่าถ่วงเวลาผมเลย ยังไงมือของผมนี้ ก็เฮงอยู่ ช้าไปหนึ่งนาที ก็เป็นเงินหลายแสนเลย”

หลี่ฝางไม่ชอบใจนักกับคำโม้ของหวางเหมียว จึงแดกดันเขาไป:“ในเมื่อมือคุณเฮงขนาดนั้น ได้ งั้นคุณก็เข้าไปเล่นพนันสิ ยังไงซะก็ไม่รีบหรอกที่เราจะเจรจากัน”

สีหน้าของหวางเหมียว เขินหน่อยๆ ที่จริง เขาเสียจนไม่มีเงินสักหยวนแล้ว ส่วนคนของแมงป่อง ก็ไม่ให้เงินเขายืมอีก

อย่างละเอียดแล้ว หวางเหมียวนี้เสียไปรวมหนึ่งล้านได้

นอกจากเงินออมของตัวเองกับที่ยืมเพื่อนร่วมงานแล้ว เขายังติดเงินทุนแมงป่องกว่าห้าแสน รวมกับดอกเบี้ยแสนห้าแล้ว

หกแสนกว่า ตอนนี้หวางเหมียวแทบจะบ้าคลั่งแล้ว

“ผมว่านะน้องชาย คุณมีเงินแน่หรือเปล่า จริงใจหรือเปล่า”หวางเหมียวขมวดคิ้ว

หลี่ฝางพูดอีกครั้ง:“ขึ้นรถไป พวกเราเปลี่ยนที่คุย”

หวางเหมียวลังเลหน่อยๆ และตอนนี้เอง คนของแมงป่อง ก็เดินออกมาจากร้านชา เห็นหวางเหมียว ก็ตามออกมา

“สารเลว คืนนี้จะมาเล่นลูกไม้อย่างหน้าด้านๆอีกแล้วใช่ไหม!”

หลังจากเห็นคนพวกนี้ หวางเหมียวก็เปิดประตูรถ เข้าไปในรถ พูดกับโจวต้าเหนียน:“พี่ชาย เร็วหน่อย ถ้าถูกพวกเขาจับไป ผมตายแน่”

โจวต้าเหนียนเหยียบคันเร่งอย่างไม่อยู่สุก จากนั้นก็ออกไป

ไปถึงร้านเคเอฟซี หลี่ฝางจึงให้โจวต้าเหนียนหยุดรถลง หลี่ฝางพูดกับหวางเหมียว:“คุยในรถ หรือว่าข้างใน?”

“เข้าไปคุยข้างในดีกว่า กระหายพอดี เลี้ยงโค้กผมสักแก้ว”

พอเข้าไป หลี่ฝางก็ให้โจวต้าเหนียนหนึ่งร้อย ให้เขาไปซื้อโค้กมา

“ใบมรณบัตร ผมออกให้คุณได้ แต่คุณต้องรับประกันผมเรื่องหนึ่ง เรื่องแรก พอจบเรื่องนี้ คุณต้องพาคนตายไปศัลยกรรมหน่อย เรื่องที่สอง อย่าให้เขาปรากฏตัวที่อำเภอหลิน อย่ากลับมาอีกเลย ผมไปถามคนมาแล้ว เด็กนั่น แม่เป็นคนอำเภอหลิน ส่วนพ่อ ตายไปนานแล้ว ไม่มีญาติที่ไหน”หวางเหมียวพูดเบาๆ

หลี่ฝางตกใจหน่อยๆ ดูเหมือนหวางเหมียวจะไม่จริงจัง แต่คิดไม่ถึงว่า เขากลับเอาข้อมูลของเสี่ยวโจว ขุดออกมาหมด ในเวลาสั้นๆ

“สุดยอดเลยนี่คุณ”หลี่ฝางหัวเราะเหอะเหอะ พูด

หวางเหมียวก็หัวเราะตาม:“ก็ไม่หรอก ผมแค่มีเพื่อนเยอะ อีกอย่างผมก็สืบมาแล้ว ที่ตัวเขาไม่มีคดีอะไร ที่จริงผมคิดไม่ถึงว่าทำไมคุณถึงออกใบมรณบัตรให้เขา แต่ผมได้ยินว่างต้าต้าบอกว่า เหมือนเขาจะเกือบถูกคนฆ่าตาย ดังนั้นผมจึงเดาว่า ตัวผู้ชายคนนี้ น่าจะมีความแค้นสินะ?ถูกคนจับตามอง อยากทำใบมรณบัตร จากนั้นก็พิสูจน์ว่าคนๆนี้ไม่มีอีกแล้ว คิดจะหนีไป ใช่ไหม?”

หลี่ฝางพยักหน้า ไม่ปฏิเสธ:“คุณฉลาดมาก ผ่านเบาะแส ก็เดาทุกอย่างออกมาหมด”

หวางเหมียวหัวเราะเหอะเหอะ:“ไม่ต้องชมผม เดี๋ยวคุณก็จะเกลียดผมแล้ว”

“ผมต้องการหนึ่งล้าน ไม่น้อยไปกว่านี้”

หวางเหมียวหัวเราะเหอะเหอะ ยื่นนิ้วออกไป ส่ายตรงหน้าของหลี่ฝาง

จากการเสนอราคาของว่างต้าต้า ใบมรณบัตร อย่างมากก็สามแสน แต่คิดไม่ถึงว่า จู่ๆหวางเหมียวกลับเรียกข้อเสนอเยอะ เอากับหลี่ฝางหนึ่งล้านเลย

ทันใดนั้น สีหน้าของหลี่ฝางก็หม่นลง:“ห้าแสน มากที่สุดแล้ว ผมมีแค่นั้น”

“น้องชาย เห็นผมเป็นตลาดขายผักเหรอ ผมบอกให้นะ ทางที่ดีคุณอย่าต่อราคากับผมเลย ไม่งั้น จะมีตอนที่คุณเสียใจ”

หวางเหมียวหัวเราะอย่างเย็นชาแล้วพูด

หวางเหมียวมีนัยแอบแฝงอย่างชัดเจน หลี่ฝางขมวดคิ้วมองหวางเหมียว ถามว่า:“หมายความว่าไง?ขู่ผม?ผมมีอะไรให้เสียใจ อย่างมาก ผมก็เปลี่ยนโรงพยาบาล หาคนอื่นมาทำใบมรณบัตร”

“ห้าแสน ผมเชื่อว่าจะต้องมีหลายคนที่ใจเต้น”หลี่ฝางพูดอย่างเย็นชา

ตอนนี้เอง โจวต้าเหนียนก็ถือโค้กเข้ามาพอดี หลี่ฝางยืนขึ้น พูดว่า:“เอาโค้กให้เขา พวกเราไปเถอะ”

หลี่ฝางรู้ หวางเหมียวก็แค่นักพนันคนหนึ่ง เขาก็แค่กำลังเดิมพันกับตัวเอง

เงินที่เขาเป็นหนี ก็แค่สามถึงห้าแสน

ดังนั้น ตัวเองให้เขาไปห้าแสน เพียงพอที่จะแก้ไขความลำบากตรงหน้าเขา

และล้านหนึ่ง ก็มากไปหน่อย

หลี่ฝางมีเงินตรงนี้ แต่ไม่อยากเป็นคนที่โดนหลอกง่าย ดังนั้น ตอนที่หลี่ฝางลุกขึ้นแน่ใจหวางเหมียวแล้ว คิดในใจว่าหวางเหมียว จะต้องห้ามตัวเอง เห็นด้วยกับข้อตกลงที่จะเอาห้าแสนแลกกับใบมรณบัตร

อย่างที่หลี่ฝางคิดไว้ ตอนที่หลี่ฝางลุกขึ้น หวางเหมียวก็ลุกขึ้นด้วย

เขาถือโค้กแก้วหนึ่ง กรอกเข้าปากของตัวเอง พูดว่า:“น้องชาย ผมยังพูดไม่จบเลย ทำไมต้องรีบไปขนาดนั้น”

“ผมไม่ให้ล้านหนึ่ง”หลี่ฝางพูดด้วยใบหน้าเด็ดขาด:“ดังนั้นต่อไปไม่ว่าคุณจะพูดอะไร ก็เหลวไหลทั้งนั้น”

“ไม่ใช่สักหน่อย นั่งฟังก่อนไหมล่ะ?ยังไงซะ คุณก็มาหาผมตั้งไกลแล้ว นี่แค่ไม่กี่นาทีไม่เป็นไรมั้ง?”

หวางเหมียวหัวเราะอย่างร้ายกาจ พูดไป

“คำพูดของผม ยังพูดไม่จบเลย พูดไปได้ครึ่งหนึ่งคุณก็จะไป น้องชาย คุณไม่ให้เกียรติกันเลย?”หวางเหมียวหัวเราะไปพูดไป

หลี่ฝางนั่งลงไปใหม่ มองที่หวางเหมียวแล้วถาม:“คุณจะพูดอะไรกันแน่?”

“ต่อไปที่ผมจะพูด ต้องเป็นเรื่องที่คุณกลัวอยู่แล้ว ผมกล้าเอาล้านหนึ่งกับคุณ ก็ต้องมีความมั่นใจอย่างแน่นอน อย่างแรก คนนั้นในโรงพยาบาล สำคัญสำหรับคุณสินะ?ชีวิตของเขา น่าจะไม่ใช่แค่หนึ่งล้านในใจของคุณสินะ?”

หลี่ฝางพยักหน้า พูดว่า:“ก็พูดตรงๆนะ ชีวิตของเขา ข้างในใจผมนั้น ไม่ใช่แค่หนึ่งล้านจริงๆ”

หลี่ฝางไม่ได้โกหก เพราะว่าโกหกไปก็ถูกมองออก ไม่มีความหมาย

หวางเหมียวดูแล้วถึงจะธรรมดามาก แต่ที่จริง คือคนหนึ่งที่ชั่วช้า

หวางเหมียวพูดทันที:“ตอนที่เขาถูกส่งไปที่โรงพยาบาล ในเล็บมือ คือเลือดหมดเลย นอกจากเลือดแล้ว ก็มีผิวหนังหนึ่งชั้น ผมหาคนมาสอบถามแล้ว นั่นเป็นผิวหนังบนคอ และพอดีเลย คืนนี้ โรงพยาบาลพวกเรารับผู้บาดเจ็บคนหนึ่ง คอของเขา ก็ถูกคนฉีกขาดพอดี ใช้นิ้วฉีก”

“แล้วผมเพิ่งหาคนชันสูตรไป เลือดที่นิ้วเพื่อนคุณ กับเลือดผู้บาดเจ็บคนนั้น เข้ากันพอดี ดังนั้น……”หวางเหมียวหัวเราะหึหึ พูดว่า:“เป็นเพื่อนคุณ ที่ทำร้ายอีกฝ่าย”

สีหน้าของหลี่ฝาง เปลี่ยนทันที ขณะเดียวกันหัวใจก็เต้น และสั่นตาม

หวางเหมียวนี้ แค่ในเวลาสั้นๆ ก็วิเคราะห์ทุกอย่างออกมาหมด

ไอ้อ้วนที่ดูปลิ้นปล้อนและน่าเกลียดนี่ ไม่ไปเป็นนักสืบ ก็ไม่ได้ใช้ความสามารถอย่างเต็มที่

หลี่ฝางขมวดคิ้ว มองหวางเหมียว พูดว่า:“คุณอยากพูดอะไรกันแน่?”

“เหอะเหอะ ตอนแรกที่นั่งไป ผมก็บอกแล้ว ที่คุณทำใบมรณบัตรให้เพื่อนคุณ ไม่มีอะไรไปมากกว่าให้เพื่อนคุณหนีศัตรู และคุณก็ยอมรับจุดนี้แล้ว ดังนั้น ศัตรูคนนี้ ก็คือผู้บาดเจ็บที่ถูกส่งมาที่โรงพยาบาลคืนนี้สินะ?”

“ผู้บาดเจ็บคนนั้น ตอนนี้พักฟื้นเสร็จแล้ว ถ้าคุณไม่รับปากผม ตอนนี้ผมจะโทรไป แล้วก็จะมีคนบอกอีกฝ่าย ข่าวที่เพื่อนคุณรอดชีวิต ถึงตอนนั้น คุณว่าเพื่อนคุณ จะโชคดีอย่างนั้นไหม?ถูกช่วยขึ้นมาอีกครั้ง?”

หวางเหมียวหรี่ตา มองหลี่ฝางแล้วถาม

หลี่ฝางขมวดคิ้ว มองหวางเหมียว:“คุณรู้ไหม คุณทำแบบนี้ จะขัดใจผม?”

“คุณรู้ไหม ผมคือใคร?”

“คุณรู้ตั้งเยอะขนาดนี้ หรือว่าไม่กลัว……”

หวางเหมียวหัวเราะเหอะเหอะ มองหลี่ฝาง:“คุณจะฆ่าปิดปากเหรอ?มาสิ ตอนนี้ผมก็เป็นหนี้ก่อนหนึ่งอยู่ ยังไงซะถึงคุณไม่ตามฆ่าผม คนของแมงป่อง ก็จะตามฆ่าผม น้องชาย ผมไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว ได้แต่รีดไถคุณนี่แหละ หนึ่งล้าน จ่ายมาหนึ่งล้าน รับประกันชีวิตของเพื่อนคุณ ถึงจะแพงหน่อย แต่คุ้มค่า”

“คุณไม่ได้เพิ่งบอกเหรอ ชีวิตของเพื่อนคุณ อยู่ในมือของคุณ คุ้มค่ากับหนึ่งล้าน”หวางเหมียวพูด

หลี่ฝางรู้ว่าตัวเองซวยแล้ว ถ้าไม่รับปาก ความปลอดภัยของเสี่ยวโจว ก็ไม่อาจรับประกัน ถ้าหวางเหมียวเอาข่าวที่เสี่ยวโจวรอดชีวิตบอกชางสู่ ชางสู่จะต้องไปฆ่าเสี่ยวโจวอีกแน่

เทพีแห่งความโชคดีไม่มีทางที่จะดูแลเสี่ยวโจวถึงสองครั้งแน่ ดังนั้น ตอนนี้ หลี่ฝางได้แต่เลือกการประนีประนอม

หลี่ฝางพยักหน้า มองหวางเหมียวแล้วพูด:“โอเค งั้นก็ล้านหนึ่ง คุณจะช่วยผมทำใบมรณบัตรเมื่อไหร่?”

“เหอะเหอะ สิ่งนี้ง่ายมาก แค่ผมเขียนให้ดี ทุกคนลงชื่อด้วยกันก็จบแล้ว แต่ว่า เพื่อนผมต้องรีบไปจากโรงพยาบาล จากนั้นคุณก็ทำตัวตนใหม่ให้เขา ให้เขาใช้ชีวิตอีกคน”

“ถ้าออกใบมรณบัตรนี้แล้ว ก็หมายความว่าคนๆนี้ตายแล้ว”

หวางเหมียวมองหลี่ฝางแล้วพูด:“คุณน่าจะเข้าใจความหมายของผมนะ?”

หลี่ฝางพยักหน้า พูดว่า:“วางใจเถอะ”

หวางเหมียวส่ายหน้า:“ผมไม่วางใจเลย แต่ผมไม่มีทางอื่น ผมไม่มีเงิน ได้แต่เลือกที่จะเสี่ยง”

“ต่อไปอย่าพนันอีก ไม่มีใครหาเงินได้จากกาสิโนหรอก”หลี่ฝางมองหวางเหมียวแล้วพูด

ในใจของหวางเหมียวเสียใจสุดๆ ตอนนี้เขาแทบอยากจะตัดมือของตัวเอง หวางเหมียวพยักหน้า พูด:“ไม่พนันแล้ว ให้ตายก็ไม่เล่นพนันอีก”

ในตอนนี้เอง ด้านนอกก็ปรากฏรถสองสามคัน จอดที่หน้าร้านเคเอฟซี กลุ่มคนลงมาชี้ไปที่ออดี้a4คันนั้น พูดว่า:“พวกเขาอยู่ข้างใน”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท