NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 734 พ่อลูกเห็นต่าง

บทที่ 734 พ่อลูกเห็นต่าง

ติดกับเองหรือว่าทำตัวบ้าบอ?

หลี่ฝางแค่ยิ้มอ่อน: “ลูกพี่หลิน นายคิดว่าฉันจะมาเสี่ยงอันตรายคนเดียวเหรอ?”

“ฉันก็รู้แล้วว่านายเป็นคนที่บงการคนมาทำร้ายฉันอยู่เบื้องหลัง นายคิดว่าในสถานการณ์ที่ไม่มีหลักประกันใดๆ ฉันจะเอาตัวมาถวายให้นายงั้นเหรอ?” หลี่ฝางถามกลับ

“พูดแบบนี้ ลูกเขยเตรียมตัวมาเหรอ?”

ลูกพี่หลินหัวเราะเหอะๆ : “ก็แค่ ภูเขาลูกนี้ของฉันป้องกันอย่างแน่นหนา นายคิดว่า ตระกูลหลี่ของพวกนายจะบุกเข้ามาได้เหรอ?”

ตอนที่หลี่ฝางมา ก็เห็นแล้ว

รอบๆ หมู่บ้านนี้ มีแต่เวรยามที่แบกปืนไว้อยู่

แล้วก็ขอแค่มีคนเข้ามาในหมูบ้าน ก็จะถูกจับได้ทันที

ไม่ต้องพูดถึงบุกเข้ามา อยากจะแอบเข้ามา ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

ไม่พูดก็ไม่ได้ ลูกพี่หลินเมื่อเทียบกับสิ่งที่หลี่ฝางคิด นั้นแข็งแกร่งกว่ามาก

“ลูกพี่หลินอยากลองความสามารถที่แท้จริงของตระกูลหลี่มั้ยล่ะ?” หลี่ฝางหัวเราะเหอะๆ และเดินไปยังหน้าโต๊ะสุกี้ด้วยตัวเอง

“คุณพ่อตา นายเอาแต่เรียกผมว่าลูกเขย แต่กลับมัดมือมัดขากันแบบนี้ เหมาะสมแล้วเหรอ?”

“หมาจื่อ นายก็ไม่รู้ความเลย ถึงแม้นายไม่รู้ว่าเขาคือลูกเขยของฉัน ก็ควรจะรู้ว่าเขาคือคุณชายหลี่นะ? ยังไม่รีบไปแก้มัดลูกเขยฉันอีก?”

ลูกพี่หลินแกล้งจ้องหมาจื่ออย่างโมโห

หมาจื่อพยักหน้าทันที แล้วพูด: “ครับ ลูกพี่”

พูดจบ ก็เข้าไปแก้มัดให้หลี่ฝาง หลี่ฝางหัวเราะเหอะๆ : “เหมือนว่าจะขาดตะเกียบกับชามไปชุดนึงนะ?”

ไม่รอให้หมาจื่อลงมือ ฉางเหมาก็นำชุดชามตะเกียบมาให้หลี่ฝาง: “คุณชายหลี่ ผมตักเนื้อให้ นี่เป็นเนื้อแกะที่เพิ่งเชือดเลยนะ”

“งั้นขอบใจแล้ว” หลี่ฝางยิ้มพลางพยักหน้า

หมาจื่อมองบนใส่หลี่ฝาง แล้วพูด: “นายนี่นะไม่กลัวมีพิษไง”

“กลัวอะไร ฉันเชื่อว่าพวกนายไม่โง่ วางยาฉันจนตาย พวกนายได้ประโยชน์อะไร?” หลี่ฝางยิ้มพลางพูด: “พวกนายอยากฆ่าฉัน ก็ทำได้แค่ลอบฆ่า จะฆ่าฉันอย่างเปิดเผย พวกนายมีความกล้านั้นเหรอ?”

“ถ้าหากหมู่บ้านนี้เกิดเรื่องอะไร ผลลัพธ์ที่ได้ ฉันคิดว่าพวกนายคงรู้ดีกว่าฉัน”

หลี่ฝางพูดอย่างนิ่งๆ : “กำลังทั้งหมดของตระกูลหลี่ จะทำลายหมู่บ้านนี้ให้ราบ ก็ไม่ยากเท่าไหร่”

“นายขู่พวกเราเหรอ?” หมาจื่อพูดอย่างโมโหเล็กน้อย

หลี่ฝางหัวเราะเหอะๆ : “จำขู่ได้ยังไง แค่แนะนำเฉยๆ”

หลี่ฝางกินสุกี้ไป พูดไป: “ใช่แล้ว ฉันยังมีเพื่อนนะ เขาก็ยังไม่ได้กินข้าว”

โหจื่อยิ้ม บนหน้าเต็มไปด้วยสีหน้าดูถูก: “ใช่แล้ว ฉันก็ยังไม่ได้กินข้าวนะ ลูกพี่ฉันเดินทางมาตั้งไกล ลูกพี่หลินอย่าบอกนะว่าข้าวสักคำก็ไม่ให้กินอ่ะ?”

สำหรับลูกพี่หลิน ประโยคของโหจื่อเป็นคำขู่

แต่หลี่ฝางไม่เหมือนกัน ถึงจะแก้มัดหลี่ฝางแล้ว ก็คงจะทำร้ายอะไรใครไม่ได้

แต่โหจื่อ ทำได้

ลูกพี่หลินไม่ได้สนใจโหจื่อ โหจื่อจึงพูดต่อ: “ลูกพี่หลิน นายนี่ไม่รู้จักบุญคุณเลยนะ? ฉันฆ่าป๋ายหม่าแทนนาย ก็ถือได้ว่าจำกัดตัวปัญหาใหญ่ไปให้ปัญหานึงเลยนะ?”

“ถ้าหากฉันเดาไม่ผิด หมู่บ้านนี้ ที่จริงเป็นของป๋ายหม่าใช่มั้ย?”

“ถ้าไม่เพราะฉัน นายจะกำจัดป๋ายหม่า แล้วขึ้นมาเป็นราชาแทนได้มั้ย?” โหจื่อถาม

ลูกพี่หลินหัวเราะเหอะๆ : “นี่นายกำลังทวงบุญคุณกับฉันเหรอ?”

“เพราะว่านายเป็นคนฆ่าป๋ายหม่า ดังนั้นฉันยิ่งปล่อยนายไม่ได้ ฝีมือของป๋ายหม่า ฉันรู้ดี ลูกน้องของฉัน ไม่มีใครสู้ป๋ายหม่าได้ แต่ไม่กี่นาที เขากลับตายในมือของนาย นายว่า ฉันควรปล่อยนายมั้ย?”

ลูกพี่หลินถาม

โหจื่อพยักหน้า แล้วพูด: “จากที่ฟังนายพูด นายคงกลัวฉันสินะ?”

“น่าขำจริงๆ ทั้งหมู่บ้านนี่ ล้วนแต่เป็นคนของนาย ถึงแม้ฉันจะเก่งยังไง หรือว่าฉันจะต้องสู้กับคนทั้งหมู่บ้านนี้เลยเหรอ?” โหจื่อพูด

“นายจะพูดว่านล้อมยังไงก็ไม่มีประโยชน์ ไม่ว่านายจะชักแม่น้ำยังไง ฉันก็ไม่ปล่อยนายหรอก” ลูกพี่หลินมองโหจื่อ พลางพูดกับหมาจื่อ: “มัดให้แน่นกว่านี้อีก”

หลี่ฝางกินสุกี้อย่างนิ่งๆ จนเสร็จ ตอนนี้ หลินชิงชิงร้อนรนจะตายแล้ว

หล่อนไม่รู้ว่าจะส่งหลี่ฝางให้ออกไปอย่างปลอดภัยได้ยังไง

หลินชิงชิงรู้จักพ่อเธอดี เขาเป็นคนทะเยอทะยาน เพื่อที่จะบรรลุเป้าหมาย ก็ดื้อรั้นไม่เลือกวิธีการ

พ่อของตนไม่ปล่อยหลี่ฝางไปแน่ๆ

บางที ตนไม่ควรมาที่นี่แต่แรก

เมื่อเห็นตัวตนที่แท้จริงของพ่ออย่างชัดเจน ในขณะเดียวกัน ก็ต้องแลกกับความเจ็บปวดและทรมานสุดๆ

เมื่อหลี่ฝางกินสุกี้เสร็จ ก็เช็ดปาก ก็เดินมายังด้านหน้าของหลินชิงชิง แล้วพูด: “พี่ชิงชิง เธอก็เห็นแล้ว ไม่ใช่ฉันอยากจะเป็นศัตรูกับพ่อของเธอ เป็นพ่อของเธอ ที่ต้องการจะฆ่าฉันให้ตาย”

“ฉันรู้ ขอโทษนะ เสี่ยวฝาง เป็นฉันที่ทำร้ายนาย” หลินชิงชิงพูดด้วยสีหน้าโทษตัวเอง

หลี่ฝางส่ายหน้า แล้วพูด: “คนที่ควรขอโทษไม่ใช่เธอ ควรเป็นพ่อของเธอ เป็นเขาที่ทำร้ายฉัน ไม่ใช่เธอ”

“วางใจเถอะ เสี่ยวฝาง ฉันจะส่งนายออกไปอย่างปลอดภัยให้ได้”

หลินชิงชิงพูดพลาง ควักมีดสั้น ออกมาจากกระเป๋าของตัวเอง มีดเล่มนี้ เป็นหลี่ฝางให้เธอก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน ให้เธอเอาไว้ป้องกันตัว

แต่วันนี้ เธอกลับใช้มันจ่อไปที่คอของตัวเอง เพื่อขู่พ่อของเธอ ลูกพี่หลิน

“พ่อ หลายปีที่ผ่านมา หนูไม่เคยขออะไรพ่อเลย ตอนนี้หนูขอพ่อเรื่องเดียว ปล่อยหลี่ฝางกับโหจื่อไป”

หลินชิงชิงมองพ่อของตนอย่างอ้อนวอน

ลูกพี่หลินไม่มีสีหน้าอะไรเลย ไม่ได้มีผลกระทบใดๆ ทั้งสิ้น

“ลูกสาวโตแล้ว เริ่มช่วยคนนอกแล้ว” ลูกพี่หลินพูดอย่างนิ่งๆ

ส่วนแม่หลินในตอนนี้ก็ตกใจแทบตาย หล่อนยืนอยู่ข้างหน้าหลินชิงชิง แล้วพูดอย่างเลิ่กลั่ก: “ชิงชิง มีอะไรก็คุยกับพ่อดีๆ ทำไมถึงต้องใช้อาวุธด้วย รีบวางมีดลง ถ้าโดนตัวเองจนบาดเจ็บขึ้นมาจะทำยังไง?”

หลินชิงชิงทำหน้าเย็นชา มีดยังคงอยู่ที่คอตน พลางมองลูกพี่หลินแล้วพูด: “พ่อ พ่อเห็นลูกตัวเองตายต่อหน้าต่อตาได้จริงๆ ใช่มั้ย?”

“พ่อน่าจะรู้จักหนูดี หนูไม่ได้ขู่” หลินชิงชิงพูด

“แกเป็นลูกสาวฉัน แน่นอนว่าฉันรู้จักแกดีที่สุด ฉันเชื่อว่าแกทำได้ แต่ว่า แกก็ไม่ควรจะมาขู่พ่อแบบนี้ เมื่อกี้พ่อก็บอกแล้ว ลูกเขยอยู่ที่นี่ จะมีชีวิตอย่างดี พ่อจะไม่ทำร้ายเขาสักนิดเลย”

ลูกพี่หลินพูด แล้วเดินไปหาฉางเหมา แล้วควักปืน ออกมาจากอกเสื้อของฉางเหมา และจ่อไปที่หัวของหลี่ฝาง พลางพูด: “ชิงชิง วางมีดลง แล้วลูกเขยจะไม่เป็นอะไร”

“แต่ถ้าแกฆ่าตัวตาย พ่อจะให้มันตายเป็นเพื่อนแก” ลูกพี่หลินพูดอย่างโหดเหี้ยม

หลี่ฝางหัวเราะเหอะๆ แล้วพูดอย่างไม่สนใจ: “ลูกพี่หลิน จะฆ่าฉัน นายคิดดีแล้วเหรอ?”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท