NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 743 นายไม่มีความสามารถเหมือนลูกพี่ใหญ่

บทที่ 743 นายไม่มีความสามารถเหมือนลูกพี่ใหญ่

ลูกพี่หลินตายแล้ว คนที่แอบยิงลูกศรใส่หลี่ฝางอยู่เบื้องหลัง ก็ถือว่าไม่มีแล้ว

หลังจากกลับมาถึงบ้านพักตากอากาศ โหจื่อจึงยื่นรายชื่อที่ลูกพี่หลินทิ้งไว้ ให้กับหลี่ฝาง: “นายตัดสินใจเอานะ”

หลี่ฝางไม่ค่อยเข้าใจ แล้วถาม: “หมายความว่าไง”

โหจื่อยิ้มเหอะๆ : “สองทางเลือก ทางเลือกแรกคือ ทำลายกระดาษแผ่นนี้ทิ้ง คิดว่าไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น แน่นอน นายยังมีทางเลือกที่สอง นั่นก็คือส่งให้ลุงเฉียน แต่นายจำไว้ ทางเลือกที่สอง จะนำปัญหามากมาย มาให้บ้านพักตากอากาศของเรา ส่วนทางเลือกแรก ก็คือปลอดภัยไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น”

หลี่ฝางขมวดคิ้ว: “แต่ว่าถ้าไม่กำจัดคนพวกนั้น คนพวกนั้น ก็ยังคงจะทำร้ายสังคมต่อไปนะ ถึงแม้ลูกพี่หลินจะตายแล้ว ไร่ทั้งสองที่ของพวกเขา ก็ไหม้ไปแล้ว แต่ว่า ขอแค่ลูกค้าต้องการ พวกนั้นก็สามารถคิดหาทุกวิถีทาง เพื่อหาของมา ธุรกิจลูกโซ่นี้ จำเป็นต้องถูกกำจัดทิ้ง”

“พูดแบบนี้ นายก็เอารายชื่อนี้ ให้ลุงเฉียนไป ลุงเฉียนก็เหมือนกับลูกพี่ใหญ่ รังเกียจคนพวกนั้น เอามากๆ ให้ลุงเฉียนไป คนพวกนั้นต้องไม่เจอเรื่องดีแน่ๆ ลุงเฉียนคงคิดหาทางจัดการพวกมัน” โหจื่อพูดอยากไม่ค่อยแฮปปี้

จากน้ำเสียงของโหจื่อ หลี่ฝางก็รู้ว่า ความหมายของโหจื่อ คือไม่อยากใบรายชื่อนี้ ตกอยู่ในมือของลุงเฉียน

ถ้าหากลุงเฉียนได้รายชื่อนี้ไป ต้องไม่อยู่เฉยแน่ๆ ถ้าเกิดลงมือ จะต้องมีศัตรูเพิ่มขึ้นไม่น้อยแน่ๆ

วันนี้ ศัตรูของบ้านพักตากอากาศ ก็มากพอแล้ว……

หลี่ฝางเอาใบรายชื่อยัดใส่กระเป๋ากางเกง ถึงจะไม่ทำลายทิ้ง แต่ก็ไม่ได้จะให้ลุงเฉียน หลี่ฝางพูดอย่างนิ่งๆ : “รอพ่อฉันกลับมา ฉันจะเอาใบรายชื่อนี้ ให้กับเขา”

โหจื่อยิ้ม แล้วพูด: “นี่เป็นทางเลือกที่ปลอดภัยมาก”

ไม่นาน หลี่ฝางก็มาถึงออฟฟิศของลุงเฉียน ไม่เจอกันหลายวัน ดูเหมือนลุงเฉียนจะแก่ลงไปมาก หลี่ฝางมองลุงเฉียน และเข้าไปทักทาย

ลุงเฉียนยิ้มอย่างหาดูได้ยาก พลางมองหลี่ฝาง: “กลับมาแล้วเหรอ?”

หลี่ฝางพยักหน้า แล้วพูด: “ลูกพี่หลินตายแล้ว ลุงเฉียน ลุงรู้หรือยัง?”

“ก็เพิ่งได้ข่าวมา” ลุงเฉียนพยักหน้า

“พูดแบบนั้น ลุงเฉียนก็ไม่รู้ใช่มั้ยว่าใครเป็นคนฆ่าลูกพี่หลิน?” หลี่ฝางขมวดคิ้ว

“คนที่อยากฆ่าลูกพี่หลิน มีเยอะแยะ ทุกคนล้วนเป็นไปได้ ดังนั้น อยากหาคนลงมือจริงๆ นั้นยากมากๆ ขโมยที่ฆ่าลูกพี่หลินตาย คนในครอบครัวก็หายสาบสูญ ตอนที่พวกนายกลับมา ขโมยนั่นกัดลิ้นตัวเองตายไปแล้ว เรื่องนี้ ไม่ต้องตรวจสอบแล้ว”

ลุงเฉียนเลิกคิ้ว แล้วพูด: “ฉันได้ยินมาว่า ตอนที่ลูกพี่หลินตาย ได้ทิ้งรายชื่อเอาไว้”

ในใจของหลี่ฝางเลิ่กลั่ก แต่สีหน้ายังคงนิ่งเฉย

ลุงเฉียนหัวเราะเหอะๆ แล้วพูด: “ฉันส่งคนไปแอบไปหามาแล้ว แต่ใบรายชื่อนั้นถูกคนเอาไปแล้ว ส่วนคนที่เข้าใกล้ลูกพี่หลิน ก็มีไม่กี่คน คิดดู ใบรายชื่อนั้น น่าจะอยู่ในมือหลินชิงชิงใช่มั้ย?”

“เสี่ยวฝาง ตอนที่หลินชิงชิงจากไป เหมือนว่าหล่อนจะจงใจเรียกนายออกไป” ลุงเฉียนมองหลี่ฝางอย่างลึกซึ้ง แล้วพูด: “ใบรายชื่อนั้น ได้อยู่กับนายมั้ย?”

หลี่ฝางลังเลเล็กน้อย ลุงเฉียนหัวเราะเหอะๆ : “ใบรายชื่อนั่น เก็บซ่อนไว้ที่ตัวนาย จะนำพาเรื่องอันตรายมาให้นะ”

“ส่งมาให้ฉันดูแลเถอะ” ลุงเฉียนยื่นมือ ไปหาหลี่ฝาง

หลี่ฝางลังเลอยู่ครู่ ก่อนจะล้วงกระดาษแผ่นนั้นออกมา แล้วยื่นให้กับลุงเฉียน

หลี่ฝางถอนหายใจ และพูดความคิดที่อยู่ในใจ: “ลุงเฉียน รอให้พ่อของผมกลับมาก่อน และค่อยจัดการพวกนั้นเถอะ”

“ไม่ต้อง” ลุงเฉียนส่ายหน้า แล้วพูด: “ในวันนี้ ทุกที่ในเมืองเอก สำหรับพวกเราแล้ว ไม่มีอะไรที่จะมาคุกคามพวกเราได้ ไม่ว่าจะเป็นสี่ตระกูลใหญ่ หรือแม้แต่คนที่อยู่เบื้องหลังสี่ตระกูลใหญ่ ทุกคนก็ไปจากเมืองเอกกันแล้ว”

หลี่ฝางขมวดคิ้ว แล้วถาม: “พวกเขาไปจากเมืองเอกแล้ว?”

แน่นอนว่าหลี่ฝางรู้ ว่าคนพวกนั้นไปไหน พวกเขาคงไปไล่ตามฆ่าพ่อของตน

ลุงเฉียนพยักหน้า แล้วพูด: “คนมีฝีมือทั้งหมด ไปกันหมดแล้ว ที่เหลืออยู่ ก็แค่เปลือกกลวงๆ เท่านั้น ช่วงนี้ ที่บ้านพักตากอากาศสงบเงียบ ที่มาหาเรื่อง มีแต่พวกลูกกระจ๊อกที่ไม่เกรงใจ ดังนั้น จึงไม่ต้องระแวงขนาดนั้น”

“ถือโอกาสที่ไม่มีอะไรทำ มาจำกัดพวกขยะสังคมพวกนี้ ให้หายไปดีกว่า” จู่ๆ บนใบหน้าของลุงเฉียน ก็มีความอาฆาตเกิดขึ้น

ไม่นาน ลุงเฉียนก็ได้รายชื่อที่อยู่ในมือหลี่ฝางมา

ต่อมา ลุงเฉียนก็โทรหาสองสาย โหจื่อกับแม่มดและคนอื่นๆ ทั้งหมดมายังออฟฟิศของลุงเฉียน

ลุงเฉียนเรียกโหจื่อมา แล้วพูด: “อันนี้ แล้วก็อันนี้ อันนี้ ทั้งสามอันนี้ มอบให้นายแล้ว”

โหจื่อพยักหน้า ไม่ได้พูดอะไร หลังจากจำรายชื่อ ก็หันหลังจากไป

ต่อมาก็แม่มด แม่มดก็ได้รายชื่อไปสามคนเหมือนกัน จากนั้นก็จากไป

พอมาถึงชุนเซิง ลุงเฉียนก็มองเขาอยู่ครู่ และยิ้ม: “นายกำจัดได้กี่คน?”

“เวลาเท่าไหร่?” ชุนเซิงถาม

“เวลาคืนนึง” ลุงเฉียนพูดอย่างนิ่งๆ

ชุนเซิงคิดอยู่ครู่ จึงพูด: “สองคน”

“อืม งั้นฉันให้นายสองคน หน้าที่จำเป็นต้องลุล่วงวันนี้ ลอบฆ่าให้สำเร็จ ตอนนี้ไปดูลู่ทางเถอะ” ลุงเฉียนให้รายชื่อชุนเซิงไปสองคน

ต่อมา คนในห้อง ก็ได้รับรายชื่อกันหมด

สุดท้าย รายชื่อใบนั้น ก็ถูกลุงเฉียนเก็บเข้าลิ้นชัก หลี่ฝางมองลุงเฉียน และถามอย่างกังวล: “ลุงเฉียน ฆ่าพวกเขาหมด แบบนี้มัน……”

“มันอะไร?” ลุงเฉียนพูดแทรกหลี่ฝาง แล้วถาม: “หรือว่าพวกเขาไม่ควรถูกฆ่าเหรอ?”

หลี่ฝางหัวเราะเหอะๆ แล้วพูดขึ้นทันที: “ที่ควรฆ่า ก็ต้องฆ่า แม้ว่าพวกเขาจะถูกสับเป็นพันเป็นหมื่นครั้ง ก็ไม่มีทางลบล้างเวรกรรมที่พวกเขาก่อไว้ แต่แค่คนพวกนั้น ไม่ได้กระจอกกัน แต่ละคนเป็นเจ้าของเบื้องหลังร้านผับร้านบาร์ หรือไม่ก็คนมีเงินมีอำนาจ ฆ่าพวกเขาทั้งหมดทิ้งในคืนเดียวแบบนี้ จะนำปัญหาใหญ่มาสู่เรามั้ย?”

หลี่ฝางพูดอย่างเป็นห่วง: “ลุงเฉียน ระวังด้วยนะครับ”

“ผมรู้ว่าลุงทำเพื่อไม่ให้ผู้คนได้รับอันตราย แต่ถ้าเรื่องแดงไปเกรงว่าพวกเราจะเป็นศัตรูต่อคนทั้งเมืองเอกนะ” หลี่ฝางพูด

“เสี่ยวฝาง นายกลัวเหรอ?” ลุงเฉียนมองหลี่ฝาง แล้วถาม

หลี่ฝางไม่ได้ปิดบัง พยักหน้าอย่างซื่อสัตย์ แล้วพูด: “นิดนึง”

“ผู้รักษาความยุติธรรม ไม่มีวันกลัวพวกผู้ร้ายจะมาล้างแค้นหรอก เข้าใจมั้ย?” ลุงเฉียนพูดด้วยสีหน้าเย็นชา: “รู้มั้ยว่าทำไมฉันถึงได้ติดตามพ่อของนาย?”

“นั้นก็เพราะว่าเขาเกลียดคนเลวและพร้อมเป็นศัตรูกับพวกคนชั่ว” ลุงเฉียนพูด

หลี่ฝางพยักหน้า แล้วพูด: “ลุงเฉียน ผมผิดไปแล้ว”

“นายไม่ผิดหรอก นายกลัวก็เป็นเรื่องธรรมดา” ลุงเฉียนพูดอย่างนิ่งๆ : “เพราะว่านาย ไม่ได้มีความสามารถเหมือนลูกพี่ใหญ่”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน