NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่783 เปลี่ยนเป็นผมปกป้องพวกคุณบ้าง

บทที่783 เปลี่ยนเป็นผมปกป้องพวกคุณบ้าง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง
บทที่783 เปลี่ยนเป็นผมปกป้องพวกคุณบ้าง
หมาป่าขาวใช้มือกดไปที่หน้าอกของตัวเอง ดูเหมือนจะเจ็บปวดสุดๆ

สักพัก หมาป่าขาวก็ยังไม่ได้ยืนขึ้นมาจากพื้น เหยโก่วในตอนนี้ บ้าคลั่งขึ้นมาทันที อ้าปากแยกเขี้ยวออกมา เข้าไปกัดที่ลุงเฉียน ลุงเฉียนหลบได้ทัน แต่ก็ยังถูกเหยโก่วกัดผิวหนังขาด

“แม่เอ๊ย คุณนี่มันชิงหมาเกิดจริงๆ”

ลุงเฉียนมองเหยโก่ว ด่าไปด้วยความโมโห

“ผมจะฆ่าคุณ”

ที่จริงคู่ต่อสู้ของเหยโก่วคือลุงเฉียน แต่เวลานี้ เขากลับไม่สนใจลุงเฉียน เห็นหมาป่าขาวถูกหลี่ฝางทำร้ายแบบนี้ เหยโก่วก็เหมือนกับคนบ้า

ถึงแม้ปกติเหยโก่วกับหมาป่าขาวจะตีกันทะเลาะกัน แต่ความรู้สึกของทั้งสองคน ที่จริงแล้วกลับก้าวผ่านความเป็นความตายไปด้วยกันแล้ว

เหยโก่วรีบถลาเข้ามา หลี่ฝางไม่กล้าปล่อยไปอย่างง่ายดาย ยังไงพลังของเหยโก่ว หลี่ฝางก็เข้าใจเพียงเล็กน้อย

ส่วนชีซากับโหจื่อ ก็ยิ่งเข้าสู่สภาวะอันร้อนระอุ สู้กันอย่างแยกออกยาก

ชีซายิ่งต่อยไป ยิ่งโหจื่อก็ยิ่งตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัดมากขึ้น ส่วนชีซาก็ยิ้มออกมา:“คิดไม่ถึงว่า บนโลกนี้จะมีสมบัติอันล้ำค่าอย่างนี้ เมื่อกี้คุณไร้ประโยชน์อย่างเห็นได้ชัด แต่แป๊บเดียว ขวดยานั้นก็สามารถฟื้นฟูได้ถึงสภาวะสูงสุดของร่างกายมนุษย์ได้ในทันที นี่มันยาวิเศษชัดๆ”

วันนี้ชีซาดีใจมาก เขาได้รู้จักปาฏิหาริย์ทั้งหมดสองสิ่ง เป็นสิ่งที่เขาคิดว่าชีวิตนี้จะไม่ได้เห็น

อย่างแรก ก็คือหลี่ฝางฝึกกำลังภายในได้

สิ่งที่เป็นเรื่องเพ้อฝันอย่างกำลังภายใน เดิมทีชีซาคิดว่า นี่ก็แค่การมีอยู่ของตำนาน ไม่มีใครที่จะฝึกออกมาได้

แต่ว่า การปรากฏตัวของหลี่ฝาง ก็ล้มล้างความคิดนี้ของเขา

เมื่อกี๊ชีซายังไม่เชื่อ แต่ตอนที่เขาเห็นหลี่ฝางจัดการหมาป่าขาวจนกระอักเลือดออกมาอย่างง่ายดาย ชีซาก็เชื่อโดยสิ้นเชิง

ถึงแม้จะเป็นเขาชีซา ก็ไม่อาจใช้พลังหมัด ทำหมาป่าขาวเป็นสภาพนี้ได้

แต่ว่า หลี่ฝางกลับทำได้

อย่างที่สอง ก็คือโหจื่อดื่มยาไปขวดหนึ่ง แล้วทันใดนั้นก็กลายเป็นปรมาจารย์ ทำให้ชีซามีความสุขมาก ของล้ำค่าสองสิ่งนี้ ไม่ว่าจะได้อันไหนมา ชีซาก็รู้สึกว่าตัวเองจะสามารถอยู่ยงคงกระพันได้

ยังไง ชีซาก็เป็นคนในสามคนพี่น้อง อายุน้อยที่สุด แต่ทักษะนั้นสูงที่สุด

ชีซาค่อยๆโชว์พลังที่แท้จริงของตัวเอง ในฐานะหนึ่งในเจ้าสำนักขององค์กรนักฆ่าอันดับต้นๆของประเทศ ความแข็งแกร่งของชีซา ที่จริงแล้วอยู่ห่างไกลโหจื่อ

หลังจากชีซาโชว์ความแข็งแกร่งที่แท้จริงของตัวเอง ไม่ว่าโหจื่อจะพยายามแค่ไหน ก็ตามไม่ทัน

กระทั่งว่า สุดท้ายโหจื่อก็ถูกบีบจนหมดหนทาง อยากจะใช้ปืน

ถ้าใช้ปืน ชีซานี้ ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของโหจื่อเลย

แค่โหจื่อใช้ปืนแอบโจมตี ถึงแม้จะเป็นส้าวส้วยก็มีความเป็นไปได้ที่จะถูกฆ่า

แต่จากจุดนี้ ถ้าโหจื่อใช้ปืน งั้นมือปืนของฝ่ายตรงข้าม ก็ยิงปืนเป็น นอกจากมือปืนพวกนี้แล้ว ก็ยังมีพลซุ่มยิงที่อยู่บนเขา ถ้าพวกเขายิงปืนพร้อมกัน งั้น ไม่ว่าจะเป็นหลี่ฝางหรือว่าลุงเฉียน ใครจะมีชีวิตรอดล่ะ?

ถึงหลี่ฝางจะฝึกกำลังภายในได้ แล้วยังไงล่ะ สุดท้ายก็ยังเป็นมนุษย์

แค่เป็นมนุษย์ จะไปชนะลูกกระสุนได้ยังไงล่ะ?

“ผมจะสู้กับคุณ”

เหยโก่วไม่หยุดอ้าปากแยกเขี้ยวใส่ เข้ามากัดที่หลี่ฝาง บางทีนี่อาจจะเป็นเทคนิคพิเศษของเขา แค่ถูกเขากัด เนื้อจะต้องหลุดแน่

แต่ว่า หลังจากที่ลุงเฉียนเข้ามาช่วยหลี่ฝาง เหยโก่วถูกโจมตีทั้งด้านหน้าและด้านหลัง แล้วจะรับมือได้อย่างไร

ถึงแม้ความเร็วเหยโก่วจะไว ลงมือได้โหด แต่หลังจากที่ถูกโจมตีด้านหน้าและหลัง ก็ตื่นตระหนกขึ้นมาทันที

ลุงเฉียนปล่อยหมัดไปที่ตัวเหยโก่วแรงๆหลายหมัด จนเกือบจะทำให้เหยโก่วกระอักเลือด

และตอนที่หลี่ฝางถือโอกาสที่ลุงเฉียนโจมตีเหยโก่ว ก็แอบโจมตีไปด้วย เวลานี้ หมาป่าขาวที่เดิมทีถูกหลี่ฝางโจมตีจนยืนขึ้นมาไม่ได้ แต่ ตอนที่เขาเห็นเหยโก่วถูกรังแก เขาก็กระโดดขึ้นมาอย่างทันที ใช้กำลังสุดท้าย คว้าไปที่คอของลุงเฉียน รัดเขาไว้

“เหยโก่ว!”

หมาป่าขาวตะโกนไปทางเหยโก่ว

นี่คือหนึ่งในเทคนิคพิเศษของหมาป่าขาว นอกจากเขาจะปาลูกดอกได้แล้ว ก็ยังมีความสามารถพิเศษอีกอย่าง ก็คือล็อกคนไว้ ให้เขาอาจขยับได้

แน่นอนว่า ปรมาจารย์อย่างชีซา เขาล็อกไว้ไม่อยู่ แต่คนอย่างลุงเฉียนนี้ หมาป่าขาวสามารถทำได้

แค่เวลาเพียงชั่วขณะ เหยโก่วก็กระโดดเข้าไป กัดไปที่ผิวหนังที่ตัวลุงเฉียนส่วนหนึ่งโดยตรง

ทันใดนั้น หลี่ฝางก็ตาแดง วิ่งเข้ามา

หลี่ฝางในเวลานี้ ความเร็วนั้นว่องไวมาก ขายื่นมือข้างหนึ่ง เอามือคว้าเหยโก่วไว้ แล้วดึง จากนั้นมืออีกข้าง ตบไปที่หน้าอกของเขา

ทันใดนั้น เหยโก่วก็กระอักเลือดล้มไปที่พื้น

ส่วนลุงเฉียนก็หาโอกาส จับหมาป่าขาวล้มลงพื้น

ที่ตัวของลุงเฉียน เห็นถึงกระดูกขาว หลี่ฝางถามอย่างสงสาร:“ลุงเฉียน คุณไม่เป็นไรใช่ไหม?”

“ผมไม่เป็นไร รีบไปช่วยโหจื่อ ชีซา จะต้องฆ่าเขาแน่”ลุงเฉียนมองโหจื่อ แล้วจู่ๆก็แสดงความร้อนวิตกออกมา

“รีบไป”

ลุงเฉียนผลักไสหลี่ฝาง จากนั้น เขาก็ยืนขึ้นมา เดินไปที่หมาป่าขาวกับเหยโก่ว

ไม่ว่าจะเป็นหมาป่าขาวหรือว่าเหยโก่ว พวกเขาต่างได้รับบาดเจ็บหนัก ลุงเฉียนในตอนนี้ อยากจะฆ่าพวกเขา

เมื่อเขาล้ม เราก็ต้องถือโอกาสซ้ำเติม

นี่คือโอกาสที่จะฆ่าหมาป่าขาวกับเหยโก่วตาย ไม่อย่างนั้นถ้ารอพวกเขาฟื้นตัวได้ จะต้องกลายเป็นศัตรูที่แข็งแกร่งของตัวเองอีกครั้งอย่างแน่นอน

และตอนที่ลุงเฉียนจะลงมือนั้น พวกนักฆ่า ต่างพุ่งเข้ามากันหมด ล้อมรอบหมาป่าขาวกับเหยโก่วไว้

หมาป่าขาวกับเหยโก่ว มีตำแหน่งในเซราฟิมที่สูง พวกเขาลำบาก นักฆ่าพวกนั้น ไม่เอาแต่มองอยู่เฉยๆแน่นอน

“ฆ่าเขา”เหยโก่วมองลุงเฉียน พูดกับนักฆ่าที่อยู่ข้างๆ อย่างเย็นชา

“หลังจากฆ่าชายชราคนนี้แล้ว ผมมีรางวัลใหญ่ให้”

หลังจากเหยโก่วพูดจบ นักฆ่าพวกนั้น ต่างพุงเข้ามาทางลุงเฉียน

ลุงเฉียนได้รับบาดเจ็บแล้ว ที่ไหล่ มีเนื้อหลุดไปขนาดใหญ่ ภายใต้สภาพแบบนี้ เขายกแขนขึ้นมา ก็ยังลำบากหน่อยๆ นับประสาอะไรกับ รับมือกับศัตรูอีกล่ะ

นักฆ่าสิบกว่าคนพวกนี้ล้อมรอบเข้ามาพร้อมกัน เป็นเรื่องหนึ่งที่จัดการยากมาก และถึงแม้ลุงเฉียนไม่ได้รับบาดเจ็บ หากจะรับมือขึ้นมา ก็ถือว่าเป็นเรื่องยากอย่างแน่นอน

หลี่ฝางกัดฟัน เหมือนจะบ้าออกมา ทั้งสองฝ่ายต่างเป็นคนสำคัญ ตัวเองต้องช่วยใครกันแน่?

โหจื่อถูกชีซาโจมตีจนต้องถอย ถึงจะใช้ยานั่นไปแล้ว ก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของชีซา

ส่วนลุงเฉียนก็ได้รับบาดเจ็บแล้ว ถูกกลุ่มคนล้อมรอบไว้ หากไม่ระวัง ก็จะถูกฆ่าทิ้งได้

เวลานี้หลี่ฝางจะบ้าแล้วจริงๆ

“ฮ่าฮ่า เหล่าเฉียนวันนี้ในปีหน้า ดูเหมือนว่าจะเป็นวันครบรอบวันตายของคุณแล้ว”ท่านจวนมองลุงเฉียน พูดอย่างสะใจ

หลี่ฝางมาตรงหน้าของโหจื่อ เขาประคองโหจื่อที่เกือบล้มไป

“คุณอย่าสนผม รีบไปช่วยลุงเฉียน”โหจื่อผลักไสหลี่ฝางออกไปอีกครั้ง

ลุงเฉียนผลักไสหลี่ฝางไปให้โหจื่อ โหจื่อก็ผลักไสหลี่ฝางมาให้ลุงเฉียนอีก

ตอนนี้ หลี่ฝางยุ่งมากไม่อาจจะแยกร่างไปช่วยได้

หลี่ฝางมองชีซา พูดด้วยใบหน้าเย็นชา:“คนๆนี้ส่งต่อให้ผม คุณไปช่วยลุงเฉียนเถอะ”

โหจื่อไม่วางใจหน่อยๆ ยังไงความแข็งแกร่งของหลี่ฝาง โหจื่อก็รู้ดี ถึงแม้จะได้รับมรดกทางสายเลือดของหลอซ่าแล้ว แต่สุดท้ายหลี่ฝางก็ยังไม่ใช่หลอซ่า

จัดการพวกนักเลงธรรมดาๆ หรือฉวยโอกาสที่อีกฝ่ายไม่ทันระวัง แอบโจมตีไป ทำสำเร็จก็สามารถฆ่าปรมาจารย์ทิ้งได้

แต่คนอย่างชีซา ถือว่าเป็นปรมาจารย์อันดับต้นๆในประเทศแล้ว หลี่ฝางที่ยังขาดประสบการณ์ จะไปสู้ได้ไง?

ชีซานี้ ไม่ใช่แค่มีกังฟูที่เก่ง แต่ยังมีประสบการณ์ในการต่อสู้ ที่เยอะมากๆ แม้แต่โหจื่อที่สู้ด้วยแล้ว ก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร

ตอนนี้ โหจื่อถูกทำร้ายจนทั้งปากเต็มไปด้วยเลือด มีแผลที่ตัวไปทุกที่ แต่ชีซานั้น เสื้อผ้าที่ตัวยังคงขาวสะอาด เหมือนกับคนที่ผ่านการต่อสู้ที่ไหนกัน

ศึกครั้งนี้ของชีซากับโหจื่อ โหจื่อแพ้โดยสิ้นเชิง

“ผมไม่วางใจ คุณสู้กับเขา คุณจะตายได้”โหจื่อพูดไปตรงๆ

หลี่ฝางพูดกับโหจื่อ:“แล้วคุณล่ะ?ลุงเฉียน่ะ?ตอนนี้ ใครบ้างที่ไม่มีอันตรายถึงชีวิต?หรือเพราะว่าผมคือลูกชายของหลอซ่า ดังนั้นผมจึงรับคำขู่ใดๆไม่ได้เหรอ?”

“โหจื่อ พวกคุณปกป้องผมมานานแล้ว ครั้งนี้ เปลี่ยนเป็นผมปกป้องพวกคุณแทนเถอะ”

หลี่ฝางสูดลมหายใจลึกๆ พูดเบาๆ:“คุณไปช่วยลุงเฉียน ฆ่านักเลงนั่นทิ้ง จากนั้น พาลุงเฉียนไปรักษา ส่วนที่เหลือ ก็ส่งให้ผมจัดการก็พอ”

พอหลี่ฝางพูดคำนี้จบ สายตาของโหจื่อ จู่ๆก็ตกตะลึง เขานิ่งไปสักครู่ แล้วพูดกับหลี่ฝาง ด้วยเสียงซับซ้อน:“เมื่อกี๊คุณ เหมือนกับลูกพี่จริงๆ”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท