NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่790 นี่สิถึงจะเป็นปรมาจารย์

บทที่790 นี่สิถึงจะเป็นปรมาจารย์

สมาชิกนักฆ่าเซราฟิมที่เพิ่งรู้สึกโมโห ทันใดนั้นก็ตะลึง พูดไม่ออกสักประโยคเดียว

นี่เป็นถึงเจ้าสำนักของตัวเองเชียว

ข้างในเซราฟิมหนึ่งในกองกำลังทั้งสามที่อยู่อันดับต้นๆ ก็ถูกฆ่าแบบนี้เลย?

อีกอย่างฝ่ายตรงข้าม ก็ใช้แค่เวลาสั้นๆหนึ่งวินาที

มองไปแล้ว ส้าวส้วยได้แต่ยกแขนขึ้นมา บีบไปที่คอของโพ่จุน แล้วบิด

แต่ที่จริง ส้าวส้วยตระหนักถึงความเป็นศัตรูของโพ่จุนได้นานแล้ว ตอนที่ส้าวส้วยสวมหน้ากากให้ตัวเอง โพ่จุนคิดว่าโอกาสแอบโจมตีของตัวเองมาแล้ว แต่เขาไม่รู้ว่า นี่คือกับดักที่ส้าวส้วยจัดไว้ให้เขา จงใจทำให้เขาคิดเช่นนั้น

วินาทีที่โพ่จุนพุ่งเข้ามา ส้าวส้วยก็เตรียมตัวไว้ดีแล้ว และคิดดีแล้วว่าจะฆ่าเขา

หักคอของเขา เหมือนว่าจะเป็นวิธีการฆ่าที่ดีที่สุด

ง่ายที่สุด ได้ผลที่สุด

และทำให้คนตกใจจนกลัว

หัวใจคนแตกสลาย ทีมแข็งแกร่งแค่ไหน ก็ไม่มีอะไรให้ต้องกลัว

หลังจากเสียงฉับ ชีวิตของโพ่จุน ก็จบสิ้น และเวลานี้ หมาป่าละโมบกับชีซา ก็รู้สึกโมโหข้างในใจ ถึงขีดสุด

ถึงแม้ความแข็งแกร่งของส้าวส้วย แข็งแกร่งจนทำให้พวกเขารู้สึกถึงความน่ากลัว

แต่ว่า ความเป็นพี่น้องของพวกเขา ให้พวกเขามีความกล้าที่จะก้าวผ่านความเป็นและความตาย

ชีซากับหมาป่าละโมบมองตากัน แล้วพูด:“ลุยไปพร้อมกัน”

คนๆเดียว ถูกฆ่าอย่างง่ายดาย

ทั้งสองโจมตีทั้งซ้ายขวา บางทีอาจจะมีโอกาสหน่อยๆ

“คนด้านหลังฟังนะ ถ้าใครแทงคนๆนี้ได้ ให้รางวัลสิบล้าน ฆ่าทิ้งคนนี้ได้ จะให้รางวัลร้อยล้าน ……”

“สรุปคือ ใครทำร้ายคนนี้ได้ หรือว่าฆ่าคนนี้ได้ ก็จะเป็นผู้มีพระคุณของพวกเราเซราฟิม วันข้างหน้า ไม่ว่าต้องการอะไร แค่พวกเราเซราฟิมทำได้ เราจะทำให้แน่”

ชีซาพูดเสียงดัง

โพ่จุนถูกฆ่าในพริบตา!

ชีซารู้ดี ถึงแม้ตัวเองกับหมาป่าละโมบร่วมมือกัน โจมตีด้วยกัน ร่วมมือกันอย่างไร้อุปสรรค โอกาสชนะ ก็ยังน้อยมาก

กระทั่งว่า ความหวังอันน้อยนิด ก็ยังแทบจะเป็นไปได้ยาก

ดังนั้น เขาได้แต่ใช้กำลังของคนกลุ่มด้านหลังนี้

ยังไงคนเยอะ ก็สามารถใช้ความซับซ้อนไม่อาจแยกออกได้อย่างแน่นอน

แค่ส้าวส้วยไม่มีร่างกาย​ถึกแบบหุ่นยนต์ กริชนั้น ก็สามารถแทงเขาไปในร่างกายของเขาได้

แค่ได้รับบาดเจ็บ ก็ดีแล้ว

อีกอย่างนักฆ่าเซราฟิมพวกนี้ ต่างรู้ส่วนนั้นของร่างกายดี เลือดไหลออกมากสุด มีอันตรายถึงชีวิตที่สุด

แค่แทงไปได้ ก็ไม่บาดเจ็บเบาๆแน่

สมากชิกเซราฟิมกลุ่มนี้ แต่ละคนล้วนแต่เป็นนักปฏิบัตินิยม หากไม่มีผลประโยชน์ที่แน่นอน พวกเขาไม่ยอมสละชีวิตอยู่แล้ว

มากไปกว่านั้น คู่ต่อสู้ยังเป็นปรมาจารย์ระดับสูงขนาดนี้อีก!

วินาทีเมื่อกี๊ นักฆ่าพวกนี้ ต่างมีความคิดที่จะหลบหนี

แน่นอนว่า พวกเขาไม่หนีในทันที แต่ว่า พวกเขาไม่พุ่งไปตรงหน้าของส้าวส้วย เพื่อตายแน่

แต่ถ้าหมาป่าละโมบกับชีซาเกิดอะไรไม่คาดคิดอีกล่ะก็ งั้นพวกเขา ก็จะหนีแน่

แต่ตอนนี้ต่างกัน แค่แทงส้าวส้วยได้ ก็จะมีรางวัลสิบล้าน และถ้าสามารถฆ่าส้าวส้วยตายได้ ก็จะได้ร้อยล้าน

คำพูดที่ว่าต้องมีผู้กล้าภายใต้รางวัลอันหนักอึ้งนั้นไม่ใช่เพื่ออะไร คำพูดที่ว่าถ้ามีรางวัลอย่างงามต้องมีผู้กล้าทำงานให้ คำพูดนี้ไม่ได้พูดโดยเปล่าประโยชน์

แป๊บเดียว อารมณ์ของคนพวกนี้ ก็พากันตื่นเต้นขึ้นมา ภายใต้สิ่งล่อลวงขนาดใหญ่ คนพวกนี้ก็ลืมความน่ากลัวของส้าวส้วย

ชีซากับหมาป่าละโมบ ก็เข้าใจธรรมชาติของคนในจุดนี้ดี

เซราฟิมพัฒนาถึงวันนี้ได้ ก็ทำเงินได้มากมาย สะสมความมั่งคั่งไว้มาก

ฆ่าส้าวส้วยทิ้งได้ แค่หนึ่งร้อยล้าน จะมีประโยชน์อะไรล่ะ?

แน่นอนว่า มีพวกขี้ขลาดไม่กี่คน ที่ยังคิดจะหนี

ยังไง ก็ไม่มีอะไรสำคัญกว่าชีวิตแล้ว

โพ่จุน คนที่สุดยอดขนาดนั้น ก็ยังถูกส้าวส้วยหักคอ คนแบบนี้ น่ากลัวถึงขีดสุดมาก

สู้กับคนพวกนี้แล้ว ไม่มีคำว่าชัยชนะเลย

นี่เป็นการพนันชีวิตความเป็นความตายของคน

มีบางคนเต็มใจที่จะพนัน บางคนก็ไม่เต็มใจที่จะพนัน

ส้าวส้วยมองหมาป่าละโมบกับชีซา แล้วพูด:“ฆ่าแล้ว เงินทองของผม ก็จะเป็นของพวกคุณ”

“บัตรนี้ รหัสคือหกทั้งหมดหกตัว ข้างในมีอยู่สามพันล้าน”

ส้าวส้วยหยิบบัตรออกมา วางไว้ในมือ มุมปากพูดอย่างดูถูก:“พวกคุณนักฆ่าที่ฆ่าคน ที่ต้องการไม่ใช่เงินรางวัลเหรอ?ตอนนี้ ผมให้รางวัลตัวเองสามพันล้านแล้ว แลกกับหัวของผม ถ้าพวกคุณมีความสามารถ ก็มาเอา”

มุมปากของส้าวส้วย เต็มไปด้วยความดูถูก

ที่เขาทำแบบนั้น เพราะกลัวว่าจะมีคนแอบหนีไป

อีกอย่าง ส้าวส้วยก็อยากบอกนักฆ่าทุกคนว่า สมาชิกเซราฟิมที่ไม่ว่าตรงนี้ หรือว่าไม่อยู่ตรงนี้ ชีวิตของเขา มีค่าถึงสามพันล้าน หากมีความสามารถ ก็มาเอา

ส้าวส้วยจะฆ่าสมาชิกทุกคนของเซราฟิม ไม่ใช่แค่พูดเท่านั้น

เขาจะฆ่าจริง ไม่อย่างนั้น เขาก็ไม่มีทางเอาสามพันล้าน มาเสนอเป็นรางวัล

รางวัลที่สูงขนาดนี้ แม้ทั้งโลกนี้ ก็น้อยที่จะเจอ

แต่ว่า ส้าวส้วยในตอนนี้ คุ้มค่ากับราคานี้

อาจจะบอกได้ว่า ในสายตาของคนวงในที่แท้จริง หัวของส้าวส้วย ไม่ใช่มีค่าแค่สามพันล้านธรรมดาๆ

อย่างเช่นเจ้าสำนักของสำนักหยิ่งซา มีคนเคยเสนอห้าพันล้าน ไปยันหมื่นล้าน เพื่อเอาหัวของเขา แต่ว่า มีคนรับภารกิจนี้ไหม?

ไม่มี

อย่างแรก เจ้าสำนักของสำนักหยิ่งซา คือคนที่รู้จักซ่อนตัวเองเป็นอย่างดี ไม่มีใครรู้ว่าเขาอยู่ไหน

บางทีเขาอาจจะซ่อนอยู่ในสำนักงานใหญ่ของสำนักหยิ่งซา แต่ว่าสำนักหยิ่งซาเป็นองค์กรทหารรับจ้างอันดับหนึ่งของโลก คนทั่วไป จะบุกเข้าไปได้ไงล่ะ?

อย่างที่สอง เจ้าสำนักของสำนักหยิ่งซา เคยได้รับการยกย่องในฐานะปรมาจารย์อันดับหนึ่งของโลก ไม่เคยได้ลิ้มรสของความพ่ายแพ้มาก่อน จุดนี้ ทำให้หลายๆคนหยุดความคิดนี้ไป

กลับมีผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้อย่างบ้าคลั่งบางส่วนนั้น ที่อยากจะท้าทายเจ้าสำนักของสำนักหยิ่งซา แต่ก็ถูกตัวละครเล็กๆฆ่าทิ้งหมด

เจ้าสำนักของสำนักหยิ่งซา ถูกเรียกว่าเป็นหนึ่งในคนที่ลึกลับที่สุดในโลก

ส้าวส้วยหัวเราะเหอะเหอะ:“รางวัลนี้ สำหรับพวกคุณสมาชิกทุกคนของเซราฟิม นั้นได้หมด”

“ไม่ต้องสงสัยความจริงของเงินเก็บในบัตรนี้ ที่ตระกูลหลี่มีเยอะสุด ก็คือเงิน สถานตากอากาศนี้ ลงทุนไปทั้งหมดสองหมื่นกว่าล้าน แล้วยังมีสวนสนุกตรงขอบหน้าผาที่ด้านหลัง ก็ตั้งหลายหมื่นล้าน ข้างในนี้ ก็มีหุ้นของผม สรุปคือ ใครฆ่าผม ทรัพย์สินทุกอย่างของผม ก็เป็นของคนนั้น”

ส้าวส้วยหัวเราะอย่างเย่อหยิ่ง:“บอกก่อนนะ ถ้าพวกคุณมีความสามารถนี้จึงจะได้”

คำพูดของส้าวส้วย ไม่ใช่แค่ทำให้นักฆ่าธรรมดาๆพวกนี้รู้สึกสนใจ แม้แต่หมาป่าละโมบกับชีซา เจ้าสำนักทั้งสอง ก็ยังมีท่าทางกระปรี้กระเปร่ามีชีวิตชีวา

พวกเขาก่อตั้งสำนักหยิ่งซามากลายปี ไม่มีเงินเก็บขนาดนี้

และเวลานี้ ส้าวส้วยกลับเอาสามพันล้าน มาเป็นเงินรางวัลเลย เหมือนว่า นี่ยังไม่รวมหุ้นของตระกูลหลี่อีก?

ชีซากับหมาป่าละโมบพยักหน้าให้กัน ตัดสินใจที่จะลงมือพร้อมกัน

การลงมือของพวกเขาสองคน นั้นดำเนินการพร้อมกัน ส่วนส้าวส้วย กลับเดินก้าวไปอย่างสบายๆ เข้าไปหา

เปลวไฟสองอันปรากฏขึ้นมา มีดของพวกเขา ปาดผ่านไปที่ข้างกายของส้าวส้วย

ก็แค่ พวกเขาไม่เห็นร่องรอยของส้าวส้วย

ส้าวส้วยเข้าไปท่ามกลางฝูงคน แล้วหัวเราะ:“พวกคุณอยากฆ่าผม ใช่ไหม?”

“ดีเลย ผมก็อยากฆ่าพวกคุณมาก!”

ส้าวส้วยหัวเราะ แล้วยกแขนขึ้นมา ตบลอยออกไปคนหนึ่ง ฝูงคนถือมีดไว้ แล้วเข้ามาทางส้าวส้วย ดวงตาของพวกเขา เห็นกริชนี้แทงไปในร่างกายของส้าวส้วย แต่ว่า หลังจากที่กริชแทงไป กลับพบว่าแทงผ่านอากาศ

เกิดอะไรขึ้น?

พวกเขาไม่เข้าใจ ที่จริงแล้ว เป็นความเร็วของส้าวส้วย ที่ไวมาก

ฝีเท้าคนพวกนี้วุ่นวายไปหมด อีกอย่าง พวกเขาตื่นตระหนกสุดๆ จากที่ล้มลงไปทีละคนๆ ในใจของคนพวกนี้ ก็เต็มไปด้วยความกลัว

พวกเขากลายเป็นไร้สติอีกครั้ง

เหมือนว่า ส้าวส้วยเหมือนกับปีศาจ

ไม่ใช่คนอีกต่อไป

ถ้าเป็นคน ทำไมถึงได้สุดยอดถึงระดับนี้ได้?

คนตั้งมากมาย ก็ยังสู้เขาไม่ได้!

อีกอย่าง เขาก็อยู่ตรงกลางด้วย

ถึงจะตีไปมั่วๆ ก็ควรจะตีโดนถึงจะถูก

ชีซากับหมาป่าละโมบ ก็ไม่รู้แล้วว่าควรทำอย่างไรดี ส้าวส้วยเข้าไปอยู่ท่ามกลางฝูงชน และถ้าพวกเขาเข้าไปโจมตี การร่วมมือกันของสองคน จะต้องถูกนักเลงธรรมดาๆพวกนี้ตีมั่วแน่

ถ้าตีมั่ว พวกเขาก็จะเป็นอันตรายได้

ส้าวส้วยในเวลานี้ ไม่รีบร้อน แทบจะทุกหมัดที่ตบไป หรือว่าหมัดที่ปล่อยออกไป ล้วนแต่ทำให้คนลอยออกไป และคนพวกนี้ที่ถูกตบลอยออกไปนั้น ก็แทบจะไม่ได้ดิ้นรนใดๆ ก็ตายไปเลย

“นี่สิถึงจะเป็นปรมาจารย์!”

ชีซาขมวดคิ้ว แล้วถอนหายใจอย่างหมดหนทางหน่อยๆ

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน