NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่785 คนแรกในสมัยก่อนและปัจจุบัน

บทที่785 คนแรกในสมัยก่อนและปัจจุบัน

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง
บทที่785 คนแรกในสมัยก่อนและปัจจุบัน
ชีซานั้นสุดยอดจริงๆ แต่ตอนที่เผชิญหน้ากับลุงเฉียน โหจื่อ หลี่ฝางทั้งสามคน ก็เผยให้เห็นความหงุดหงิด

โหจื่อนั้นเก่งด้านการโจมตี ลุงเฉียนก็เป็นผู้ช่วย……

ส่วนหลี่ฝาง กำลังหาโอกาสแอบโจมตี

หลี่ฝางเป็นปรมาจารย์กำลังภายใน ถ้าถูกเขาแอบโจมตีอย่างสำเร็จ งั้นผลลัพธ์ จะต้องเลวร้ายจนไม่กล้าคิดแน่

ตรงนี้ ชีซารับรู้ได้เอง

หมัดเดียวทำให้หมาป่าขาวเกือบตายได้ หมัดแบบนี้ ถ้าตัวเองโดน นั่นก็จะเป็นเรื่องที่น่ากลัวสุดๆ

ดังนั้นชีซาเอาความคิดส่วนใหญ่ของตัวเอง ไปไว้ที่เด็กน้อยที่ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม ที่ตัวของหลี่ฝาง……

ใครให้เขาฝึกกำลังภายในล่ะ?

คนโบราณบอกไว้ว่า เมื่อใช้กำลังภายใน ในโลกนี้ใครจะไปสู้ด้วย?

อยู่ตรงหน้าของปรมาจารย์กำลังภายใน คนที่ฝึกยุทธหลายๆคน ไม่คู่ควรที่จะพูดถึงเลย

ถึงแม้หลี่ฝางไม่มีประสบการณ์การต่อสู้ใดๆ ชีซา ก็ยังคงไม่กล้าประเมินเขาต่ำ

ชีซาต้องถอยทัพ อยากจะหนีไปจากการล้อมรอบของหลี่ฝาง โหจื่อและคนอื่นๆ

แต่โหจื่อตามไปติดๆ หลี่ฝางก็อยู่หลังสุด……

“ชีซาเพื่อนรัก ไม่ต้องตื่นตระหนก”ท่านจวนมองดูคนสองสามคนที่เดินออกมาจากสถานตากอากาศ ใบหน้าปรากฏความตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัดเจน

คนสองสามคนที่เดินออกมาจากสถานตากอากาศ ไม่ใช่คนอื่น แต่เป็นโพ่จุนกับหมาป่าละโมบ

ในมือของโพ่จุน จับผู้หญิงคนหนึ่ง เธอถูกตีจนหายใจรวยริน ตอนนี้ แม้แต่แรงจะพูดยังไม่มี

และด้านหลังของหมาป่าละโมบ ที่ตามมานั้น ก็คือท่านลู่

ท่านลู่ถูกช่วยออกมา ก็หมายความว่า การป้องกันของสถานตากอากาศ ถูกคนพวกนี้ จัดการเรียบร้อยแล้ว

หลี่ฝางอดไม่ได้ที่จะตื่นตระหนก ข้าวในถ้ำนี้ ยังมีชายสวมหน้ากากทั้งสี่ซ่อนอยู่ ตอนนี้ ชายสวมหน้ากากทั้งสี่ไปไหนแล้วล่ะ?

หรือว่า ถูกผู้ชายสองคนนี้ฆ่าแล้ว?

หลังจากสองคนนี้เดินออกมา ด้านหลังก็มีคนจำนวนหนึ่งตามมาด้วย ที่ตัวของคนพวกนี้ มีที่ได้รับบาดเจ็บ และก็มีที่ถูกคนประคองไว้

และก็มีอีกหลายคน ที่ถูกคนแบกออกมา ไม่รู้ว่าตายหรือรอด

และคนพวกนี้ ล้วนแต่เป็นคนที่มีหน้ามีตาและชื่อเสียง ด้านในเซราฟิม

ครั้งนี้ เพื่อช่วยชีวิตท่านลู่ เซราฟิมนั่นเรียกได้ว่าขนมาหมดทั้งกองทัพ

หนึ่งคือตัวตนของท่านลู่ใหญ่พอ สองนั้นเพราะว่าคนที่อยากช่วยท่านลู่ เยอะมาก ยังไงท่านลู่ก็ถือความลับไว้ในมือมากมาย ถ้าเปิดโปงออกมา จะเชื่อมโยงไปถึงคนจำนวนมาก

แน่นอนว่า ดีที่ชักใยอยู่เบื้องหลังของท่านจวน

ไม่อย่างนั้น ถึงแม้จ่ายเงินมากแค่ไหน เซราฟิมก็ไม่ทำเรื่องไม่ดีตามคนอื่นแน่

หลังจากเห็นฉากนี้ โหจื่อก็บ้าคลั่งขึ้นมา ระเบิดออกมาทันที ทั้งตัวนั้นเหมือนจะเปลี่ยนไปเป็นคนอีกคน ส่วนลุงเฉียนก็ตาแดงเหมือนกัน

ผู้หญิงที่ถูกโพ่จุนจับไว้ ก็คือหลิงหลง

ตอนนี้หลิงหลงถูกโพ่จุนจับไว้ ไม่รู้ว่าเป็นหรือตาย

เวลานี้ ลุงเฉียนกับโหจื่อ จะไม่ร้อนใจได้ไง?

“น้องสามมีอันตราย”

หลังจากโพ่จุนมองเห็นสถานการณ์ทางนี้ ก็ทิ้งหลิงหลงไว้ที่พื้น แล้วพุ่งเข้ามาโดยตรง

ส่วนหมาป่าละโมบนั้นก็เอาท่านลู่ไปไว้ที่มือของลูกน้องตัวเอง พูดว่า:“หลังจากส่งท่านลู่ลงเขาอย่างปลอดภัย ก็ค่อยกลับมาร่วมสนับสนุนพวกเรา”

หมาป่าละโมบคือคนที่ระวังตัวมาก เขาเห็นชีซาอยู่ในสถานการณ์ลำบากอย่างนี้ ก็รู้ว่าครั้งนี้น่าจะเจอคู่ต่อสู้แล้ว

แต่ว่า ก่อนมา หมาป่าละโมบและคนอื่นๆก็ได้ยินแล้วว่า

หลอซ่า ส้าวส้วยและคนอื่นๆ ออกไปกันแล้ว

พูดตามเหตุผลแล้ว ข้างในสถานตากอากาศ ไม่มีใครที่จะสามารถข่มขู่พวกเขาได้

ความเร็วของหมาป่าละโมบกับโพ่จุนนั้นว่องไวมาก พุ่งเข้ามาในพริบตาเดียว ชีซาก็รีบเปิดช่องว่าง รวมตัวเข้ากับพี่ชายทั้งสองของตัวเองทันที

หลังจากเจ้าสำนักทั้งสามคนรวมตัวกัน ชีซาก็หัวเราะฮ่าฮ่าเสียงดัง

“ฮ่าฮ่า ดูเหมือนว่าครั้งนี้ ถึงเวลาที่ตระกูลหลี่จะพินาศแล้ว”ชีซาพูดอย่างตื่นเต้น

ท่านจวนก็ดีใจสุดๆ เขารู้ว่าครั้งนี้เซราฟิมจะต้องช่วย และรับปากว่าจะช่วยเอาท่านลู่ออกมา

แต่ว่า ท่านจวนกลับคิดไม่ถึงว่า เจ้าสำนักทั้งสามของเซราฟิม จะออกปฏิบัติการพร้อมกัน

นี่คือฉากที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน

ตั้งแต่ที่เซราฟิมก่อตั้งมา เจ้าสำนักทั้งสามคน ก็ปฏิบัติการน้อยมาก แทบจะหนึ่งปี ที่จะลงมือไม่กี่ครั้ง ยิ่งไปกว่านั้น ยังลงมือพร้อมกันด้วย?

ท่านจวนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกอิ่มอกอิ่มใจ หน้าของตัวเอง ก็จะใหญ่มากน่ะสิ?

“ท่านจวน ตามสัญญาแล้ว ช่วยท่านลู่ออกมาได้ ก็จะปกป้องดูแลส่งลงเขาไป”หมาป่าละโมบมองท่านจวน พูดอย่างนิ่งๆ

ที่จริงท่านจวนก็ส่งคนไปช่วยท่านลู่ พวกเขาปีนขึ้นไปจากหลังเขาเงียบๆ แต่ตอนนี้ดุแล้ว พวกเขาน่าจะล้มเหลวอย่างสมบูรณ์

ท่านจวนพยักหน้าแล้วหัวเราะ พูดอย่างพอใจสุดๆ:“ผมเห็นหมดแล้ว ฮ่าฮ่า ครั้งนี้ต้องขอบคุณพวกคุณสามคนพี่น้องจริงๆ ในโลกนี้ ยังมีเรื่องไหนอีก ที่พวกคุณสามคนพี่น้องทำไม่ได้?”

หมาป่าละโมบยิ้ม:“ตระกูลหลี่ในตำนาน ก็แค่นี้สินะ”

“บอกว่าสถานตากอากาศของตระกูลหลี่ นั้นปกป้องแข็งแกร่งมาก แม้แต่คนรับใช้ส่วนตัวของท่านลู่ ก็ยังแพ้ที่หน้าประตู ถูกคนทำร้ายบาดเจ็บกลับไป พวกเรายังคิดจริงๆซะอีกว่าสถานตากอากาศมีอะไรที่สุดยอด เห้อ”

หมาป่าละโมบส่ายหน้า เผยให้เห็นความผิดหวัง:“นอกจากหุ่นยนต์ทั้งสี่แล้ว ก็มีผู้หญิงคนนั้นที่พอจะสู้เป็น”

หมาป่าละโมบกับโพ่จุน ไม่มีใครบาดเจ็บทั้งนั้น

พละกำลังการต่อสู้ของชายสวมหน้ากากทั้งสี่คนนี้ ไม่สามารถมองข้ามได้

ตอนนั้นปรมาจารย์ที่อยู่ข้างกายของท่านลู่ ก็ถูกชายสวมหน้ากากสี่คนนี้ ทำร้ายอย่างหนักไปเต็มๆ

แต่นี่หมาป่าละโมบกับโพ่จุน ไม่ใช่แค่ชนะ แต่ยังไม่ได้รับอันตรายใดๆ เรียกได้ว่าชนะอย่างสมบูรณ์แบบ

โหจื่อกัดฟัน มองหมาป่าละโมบ:“วันนี้ ถึงผมโหจื่อจะตาย ก็จะดึงพวกคุณสามคนพี่น้อง ลงนรกไปด้วยกัน”

ลุงเฉียนกัดฟันเหมือนกัน ทนความเจ็บที่แขนไว้ จ้องสามคนนี้เขม็ง

ในตาของลุงเฉียน เต็มไปด้วยความอาฆาต ที่ตัวของเขา ก็เต็มไปด้วยความโหดร้ายพร้อมฆ่าอย่างเห็นได้ชัด

ถึงแม้ลุงเฉียนไม่พูด แต่ที่ตัวก็เผยแพร่ความโมโหที่ไม่อาจเทียบได้ออกมา

ถึงแม้หลี่ฝางจะโกรธด้วย แต่อารมณ์ เมื่อเทียบกันแล้ว ไม่ได้หนักเท่าโหจื่อกับลุงเฉียนขนาดนั้น

ชีซาชี้ไปที่หลี่ฝาง แล้วพูด:“พี่ใหญ่ พี่รอง บอกข่าวดีให้พวกพี่นะ เด็กคนนั้น เหมือนจะฝึกกำลังภายในได้”

“กำลังภายใน?น้องสาม คุณล้ออะไรเล่นน่ะ เด็กเมื่อวานซืนแบบนี้เนี่ยนะ เขาฝึกกำลังภายในได้?”โพ่จุนส่ายหน้า หัวเราะเหอะเหอะออกมา เห็นได้ชัดว่าไม่เชื่อที่ชีซาพูด

หมาป่าละโมบก็ขมวดคิ้วหน่อยๆ:“น้องสาม ถูกคนทุบตีจนสมองเบลอเหรอ คุณอายุเท่าไหร่กันแล้ว คนที่ฝึกกำลังภายในตามประวัติศาสตร์นี้ เด็กที่สุดก็น่าจะห้าสิบใช่ไหม?อีกอย่าง บันทึกประวัติศาสตร์นี้ ก็ไม่เพียงพอที่จะเชื่อหรอก พวกเราสามคนพี่น้อง สืบเสาะมานานแล้ว ทางด้านกำลังภายในนี้ พวกเราก็ยังหาไม่เจอ ผมว่านะ กำลังภายในนี้ เป็นเรื่องหลอกเด็กชัดๆ”

“พี่ชายทั้งสอง ช่วงที่ผ่านมานี้ ว่ากันว่าหลอซ่าฝึกกำลังภายในได้ และภายในคืนเดียว ก็เข่นฆ่าจูเก่อและก็ปรมาจารย์ด้านศิลปะการต่อสู้ไปหมด เรื่องนี้ ยังจำได้ไหม?”

ชีซาถาม

ที่หลอซ่าฆ่าปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้ไปมากมาย ไม่เคยเห็นมาก่อน ผู้ที่เห็นเหตุการณ์ ก็คือพวกหลี่ฝางนี้

ชีซาและคนอื่นๆ ก็คาดกันทั้งนั้น

ยังไง จากข่าวที่ยุทธภพแพร่ออกมานั้น คืนนั้น จูเก่อพาเพื่อนที่เป็นศิลปะการต่อสู้ของตัวเอง ไปแก้แค้นตระกูลหลี่ แต่ว่า ไม่กลับมาอีกเลย

มีคนบอกว่า พวกเขานี้ จะถูกหลอซ่าฆ่าหมด

และก็มีคนบอกว่า หลอซ่าสามารถฆ่าจูเก่อและคนอื่นๆทั้งหมดได้นั้น จะต้องฝึกกำลังภายในเป็นอย่างแน่

ไม่อย่างนั้น ปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้พวกนี้ ไม่มีทางที่จะตายเรียบแบบนี้แน่

ถึงแม้ฝ่ายตรงข้ามมีปืน พวกจูเก่อนี้ ก็น่าจะมีคนที่หนีออกมาได้ แต่ว่า กลับตายหมดทุกคน เรื่องนี้ เกิดกระแสในยุทธภพเป็นอย่างมาก

เกี่ยวกับเรื่องคืนนั้น ผู้คนต่างถกเถียงกันไป

กระทั่งว่า มีปรมาจารย์ไม่น้อยที่ยอมมาเมืองเอกทั้งที่ไกลแสนไกล อยากจะถามหลอซ่าว่า ฝึกกำลังภายในได้จริงหรือไม่?

คนแบบนี้ ไม่ใช่แค่คนเดียว

พวกเขาล้วนแต่เป็นคนที่บ้าเรียนศิลปะการต่อสู้ เรียนศิลปะการต่อสู้มาทั้งชีวิต แต่กลับไปหยุดที่ก่อนกำลังภายใน

ครั้งนี้ที่หลอซ่าออกไป ที่จริงก็มีอีกเหตุผล นั่นก็คือหลบคนพวกนี้

แต่ตอนนี้ การปรากฏตัวของหลี่ฝาง ทำให้ทันใดนั้นชีซาก็สนใจขึ้นมา

หมาป่าละโมบกับโพ่จุนไม่พูด สักพักจึงพึมพำเบาๆ:“หรือว่า หลอซ่าฝึกกำลังภายในได้จริงๆ?”

“ไม่ผิด หลอซ่าไม่ใช่แค่ฝึกกำลังภายในได้ แต่เป็นไปได้มากด้วยว่าจะเจอวิธีสืบทอดกำลังภายใน ไม่อย่างนั้นลูกชายของเขาก็ไม่มีทางที่เข้าใจการใช้ลมปราณ ทั้งที่อายุยังน้อย”

ชีซาหรี่ตาลงเล็กน้อย พูดว่า:“ดังนั้น ที่ตัวเด็กคนนี้ มีวิธีการฝึกกำลังภายใน ถ้าสามารถจับเขาได้เป็นๆ ……งั้นพวกเราสามคนพี่น้อง ก็สามารถกลายเป็นปรมาจารย์กำลังภายในได้”

“ถ้าเป็นจริง งั้นหลอซ่าก็เรียกได้ว่าเป็นคนแรกทั้งในสมัยก่อนและปัจจุบัน”

โพ่จุนพูดเสียงหม่น

เสียงนี้ มีความถอนหายใจอยู่หน่อยๆ ยังไง หลอซ่าก็อายุแค่สี่สิบเท่านั้น ที่บันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ ปรมาจารย์กำลังภายในที่อายุน้อยที่สุด ก็ใกล้จะห้าสิบแล้ว

ห่างกันสิบปี เรียกได้ว่าหลอซ่านั้นทำลายสถิติ

ถ้าการเดาของชีซานั้นเป็นจริง งั้นแบบนี้ หลอซ่าก็ไม่ใช่แค่ฝึกกำลังภายในได้ แต่ยังหาวิธีถ่ายทอดกำลังภายในได้ด้วย นี่ถือว่าเป็นปาฏิหาริย์อย่างหนึ่งของโลกศิลปะการต่อสู้

ทันใดนั้น โพ่จุนก็ชื่นชมหลอซ่าหน่อยๆ

หมาป่าละโมบนั้น กลับเอาตาไปจ้องไปที่หลี่ฝาง แต่ในใจนั้นหวาดกลัวหน่อยๆ

“น้องสาม ได้ยินว่าปรมาจารย์กำลังภายในนี้เรียกได้ว่าเป็นปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้ อยู่ต่อหน้าปรมาจารย์แล้ว งั้นพวกเราสามคน?”หมาป่าละโมบขมวดคิ้ว กังวลหน่อยๆ

ภายใต้ปรมาจารย์ ล้วนแต่เป็นคนที่อ่อนแอไม่มีค่า

ถึงแม้หมาป่าละโมบจะสุดยอด แต่ก็มีความมั่นใจต่อความแข็งแกร่งของตัวเองเล็กน้อย แต่ว่า เผชิญหน้ากับปรมาจารย์ฝีมือดีในตำนานนั้น กลับไม่มีความมั่นใจเลย

หมาป่าละโมบกลัวว่า จะตายในมือของหลี่ฝางปรมาจารย์ที่ยังหนุ่มคนนี้

แบบนั้น การตายของตัวเอง ก็ถือเป็นเรื่องผิดพลาดมากไป

เทียบกับเป็นปรมาจารย์กำลังภายในแล้ว หมาป่าละโมบหวงแหนชีวิตของตัวเองมากกว่า ยังไง เซราฟิมตอนนี้ ก็อยู่ในตำแหน่งขององค์กรนักฆ่าอันดับหนึ่งของประเทศแล้ว ความรวยและสถานะนั้น เขามีหมดแล้ว

บั้นปลายชีวิต หมาป่าละโมบจะเสวยสุขที่เหลืออยู่

ความโชคร้ายในวัยเด็ก ความลำบากในวัยกลางคน ไม่ง่ายเลยที่จะผ่านช่วงเวลาที่ลำบากมาได้ ตอนนี้ ถือได้ว่ามีชีวิตที่สดใสหลังจากมืดมิดมานาน ถ้าตายไปแบบนี้ ก็คงไม่คุ้มเท่าไหร่

ส่วนกำลังภายในไม่กำลังภายในนั้น มีประโยชน์อะไร?

หมาป่าละโมบไม่ใช่คนที่หมกมุ่นแต่กลับศิลปะการต่อสู้ กลับกัน เขาไม่ชอบฝึกยุทธอย่างมาก……

ชีซาหัวเราะเบาๆ:“ผมได้ทดลองเขาแล้ว เขาก็แค่มือใหม่คนหนึ่ง ไม่มีประสบการณ์การต่อสู้ใดๆ ฝึกกำลังภายในมา แต่กลับใช้ไม่ได้”

“แต่ว่า อย่าไปสู้กับเขาตัวต่อตัวเด็ดขาด กำลังภายในที่ตัวเขา สูงกว่ากังฟูของพวกเราเยอะมาก”

“เมื่อกี๊หมาป่าขาว ก็ถูกหมัดเดียวของเขาทำจนพิการ”ชีซาพูด

“อะไรนะ?”

หมาป่าละโมบขมวดคิ้ว:“หมาป่าขาวกลายเป็นคนพิการ?”

หมาป่าขาวเป็นถึงศิษย์ที่หมาป่าละโมบชุบเลี้ยงขึ้นมา ศิลปะป้องกันตัวในตัวเขา ก็เป็นเขาที่สั่งสอนออกมา

หมาป่าขาวโดนทำจนพิการ ในใจหมาป่าละโมบรับไม่ได้สุดๆ

ชีซาส่ายหน้า ใบหน้าดูแย่หน่อยๆ:“ไม่ใช่แค่กลายเป็นคนพิการธรรมดา แต่สิบนาทีก่อนหน้านี้ เหยโก่วกับหมาป่าขาว ถูกคนผอมที่ถือกระบี่นั่น ฆ่าแล้ว”

“ผิดที่ผมเอง ไม่ได้กำจัดเขาทิ้งได้ทันเวลา เป็นผมที่ทำให้หมาป่าขาวกับเหยโก่วตาย”

“พวกเราเซราฟิม สูญเสียหัวโจกไปอีกสองคน”

“ตายแล้ว?”

หมาป่าละโมบโกรธจนตัวสั่น เขาหาอยู่นาน ก็มองเห็นศพของหมาป่าขาวกับเหยโก่ว ที่อยู่ไม่ไกล

ศพบนพื้นนั้นเยอะมาก ล้วนแต่เป็นคนของพวกเขาเซราฟิม

แต่นักฆ่าธรรมดาพวกนั้น ล้วนแต่เป็นสมาชิกภายนอก ก็แค่รับเงินขายตัวให้กับเซราฟิมก็เท่านั้น ตายก็ตายไป ในใจของหมาป่าละโมบไม่รู้สึกไม่รู้สาอะไรทั้งนั้น

แต่หมาป่าขาวกับเหยโก่วไม่เหมือนกัน สองคนนี้ เป็นสมาชิกคนสนิทของเซราฟิม ความรู้สึกกับหมาป่าละโมบและคนอื่นๆนั้น เหมือนกับพี่น้อง

หมาป่าละโมบจ้องโหจื่อเขม็ง ถามอย่างเย็นชา:“เป็นคุณที่ฆ่าหมาป่าขาวกับเหยโก่ว?”

โหจื่ออ้าปากหัวเราะ:“ดูเหมือนผมจะฆ่าเร็วไป ผมควรจะรอให้พวกคุณมา แล้วค่อยฆ่าให้คุณดู”

“อยากตายเหรอ!”

หมาป่าละโมบขยับแล้ว เข้าไปทางที่โหจื่ออยู่

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน