NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 823 การบงการของมู่หรงฉางเฟิง

บทที่ 823 การบงการของมู่หรงฉางเฟิง

หลี่ฝางลากคุณชายหยางขึ้นมาจากพื้น “เพี๊ยะเพี๊ยะ” และตบไปหลายที ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงทำให้คุณชายหยางฟื้นคืนสติกลับมาอย่างมึนงง

เมื่อเห็นคนตรงหน้า ดวงตาของคุณชายหยางเต็มไปด้วยความหวาดกลัว เห็นได้ชัดมาก ว่าเขา รู้ถึงฐานะของหลี่ฝาง

คุณชายตระกูลหลี่ ที่สู้กับสี่ตระกูลใหญ่อย่างไม่เลิกรา เขาจะไม่รู้จักชื่อเสียงของหลี่ฝางได้ยังไง? เขาถึงกับรู้ว่าคือหลี่ฝาง และก็รู้เรื่องของหลี่ฝางกับลู่หลุ่ยเมื่อก่อน แถมยังกลับกล้าทำเรื่องในวันนี้ เป็นคงจะให้หลี่ฝางไม่คิดมากไม่ได้

ดังนั้นหลี่ฝางไม่อ้อมค้อม ถามขึ้นมาตรงๆ : “บอกมา ใครใช้ให้นายเข้ามาใกล้ชิดลู่หลุ่ย?”

คุณชายหยางกะพริบตา ความหวาดกลัวและกังวลในดวงตาชัดเจนมากยิ่งขึ้น ถ้าหากเขาพูด คนที่บงการเขาอยู่เบื้องหลังต้องไม่ปล่อยเขาไปแน่ แต่ถ้าเขาไม่พูด หลี่ฝางที่อยู่ตรงหน้าเขาคงจะไม่ให้เขาได้เจอผลลัพธ์ที่ดีแน่

“ฉัน……ฉัน……” คุณชายหยางตัวสั่นพลางอยากจะพูดอะไร แต่หลี่ฝางกลับหมดความอดทน ยื่นมือออกไปคว้ามือของเขาต่อหน้าเขา “กร๊อบ” เสียงดังขึ้นพร้อมกับนิ้วที่หักของเขา

อย่างที่มีคนเคยพูดว่าสิบนิ้วเชื่อมกับหัวใจ ความเจ็บปวดที่ทะลุทะลวงทำให้คุณชายหยางร้องโอดครวญออกมาเสียงดังอย่างกลั้นไม่อยู่ เสียงนั้นราวกับหมูที่โดนเชือด สุดท้ายคุณชายหยางก็เป็นแค่คุณชายที่เกิดมาในสภาพแวดล้อมที่มั่งคั่งสูงส่งเท่านั้น จะไปทนรับความเจ็บปวดแบบนี้ได้ยังไง เขาร้องไห้จนน้ำหูน้ำตาไหลเต็มหน้า

“จะพูดมั้ย?” หลี่ฝางทำหน้าเย็นชา และคว้านิ้วอีกข้างของคุณชายหยางไว้

“ฉันพูด ฉันพูด!” คุณชายหยางไม่กล้าปิดบังแล้ว ความเจ็บปวดทำให้ความกล้าในการดิ้นรนของเขาหายไปทั้งหมด เขากลัวว่าถ้าตนพูดช้าจะถูกหลี่ฝางหักนิ้วไปอีกนิ้วนึง ดังนั้นจึงพูดออกไปรัวๆ อย่างไม่ปิดบัง

“คือ คือมู่หรงฉางเฟิง เป็นเขาที่บอกผม……” คุณชายหยางแบบขาดๆ หายๆ

“มู่หรงฉางเฟิง?” หลี่ฝางขมวดคิ้ว: “เขายังให้นายทำอะไรอีก?”

“ไม่มีครับไม่มี ไม่มีอย่างอื่นแล้ว” คุณชายหยางส่ายหน้ารัวๆ “เขาแค่ให้ผมจีบลู่หลุ่ย แถมยังบอกเป็นนัยๆ ว่าถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นเขาจะรับผิดชอบเอง ผมก็ได้ยินมาว่าคุณชายหลี่คุณไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกับผู้หญิงคนนั้นแล้ว ดังนั้นผมจึงหน้ามืดไปชั่วขณะ คุณชายหลี่ ได้โปรดปล่อยผมไปสักครั้งเถอะนะ ผมมีเงินเยอะนะ ผมสามารถจ่ายเงินไถ่โทษได้……”

“รวย? เหอะๆ รวยกว่าฉันเหรอ?” หลี่ฝางหรี่ตา จู่ๆ ก็พูดอย่างเย็นชา

น้ำเสียงของคุณชายหยางนิ่งไป ถึงเขาจะรวยยังไงก็ไม่มีทางรวยไปกว่าหลี่ฝาง หลังจากที่เขาคบค้าสมาคมกับมู่หรงฉางเฟิงแล้วเขาก็รู้เรื่องหลี่ฝางมาไม่น้อย แน่นอนว่าต้องรู้เรื่องราวของหลี่ฝางที่ผลาญเงินเหมือนผลาญดินมาไม่น้อย

หลี่ฝางมองคุณชายหยางที่พูดไม่ออก แล้วพูดขึ้นอย่างช้าๆ : “อยากให้ฉันปล่อยนายไปไม่ใช่ว่าไม่ได้ ขอแค่นายสามารถนัดมู่หรงฉางเฟิงออกมาได้ก็โอเคแล้ว”

คุณชายหยางหัวเราะแหะๆ : “คุณชายหลี่ล้อเล่นแล้ว ผมจะไปสามารถนัดมู่หรงฉางเฟิงออกมาได้ยังไงกัน นี่ ฐานะของพวกเราสองคน……”

“งั้นฉันจะเอานายไว้ทำไม?” หลี่ฝางยื่นมือออกไปบีบคอคุณชายหยางแล้วบิดเบาๆ และก็ได้ยินแค่เสียง “กร๊อบ” ดังขึ้น คอของคุณชายหยางเอียงไปอีกฝั่ง ไม่ได้หายใจแล้ว

หลี่ฝางค่อยๆ ปล่อยมือออก ปล่อยให้ศพของคุณชายหยางล้มลงไปกองกับพื้นจนเกิดเสียงตุบหนักๆ

เมื่อพลังที่แกร่งขึ้นเรื่อยๆ เขาก็ยิ่งฆ่าคนได้ง่ายยิ่งขึ้น ยิ่งไม่สนใจแล้ว หลี่ฝางไม่รู้ว่ามันเป็นเรื่องดีหรือว่าเรื่องไม่ดี อาจจะเป็นอย่างที่ลุงเฉียนพูด รู้แค่ว่าคนแบบไหนควรฆ่าคนแบบไหนไม่ควรฆ่าก็พอ

“มู่หรงฉางเฟิง นายอยากทำอะไรกันแน่……” ในใจของหลี่ฝางคิดถึงข้อสงสัยนี้ สุดท้ายเขาก็เหลือบมองไปที่คุณชายหยางที่นอนอยู่บนพื้น และหันหลังเดินออกไป

อุปกรณ์ทางการแพทย์บนเรือนั้นธรรมดา ทำได้แค่ให้ลู่หลุ่ยในตอนนี้อาการทุเลาลง แต่ทางที่ดีที่สุดก็ต้องไปตรวจที่โรงพยาบาลสักหน่อย นี่เป็นคำแนะนำของแพทย์บนเรือ

หลี่ฝางก็คิดว่าคำแนะนำนี้ถูกต้องมากๆ ก็เลยเดินไปที่ห้องของลู่หลุ่ย ลู่หลุ่ยยังไม่ฟื้น เขาพูดคุยกับเหมิงเหมิงอยู่ครู่ และโทรเรียกคนมา เตรียมพาลู่หลุ่ยออกไป

ผ่านไปครู่นึง ลู่หลุ่ยก็ฟื้นขึ้นมา เมื่อลืมตาก็เห็นหลี่ฝางนั่งอยู่ด้านข้างเธอ ลู่หลุ่ยจึงดีใจขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ แต่หลังจากยิ้มแล้ว เธอก็กลับอดไม่ได้ที่จะเจ็บปวดขึ้นมา จนมีน้ำตาค่อยๆ ไหลลงมา

“เธอเป็นอะไรไป? ร้องทำไม?” หลี่ฝางถอนหายใจ แล้วยื่นมือไปเช็ดน้ำตาที่หางตาของลู่หลุ่ย เขารู้ว่าเขาถามแบบนี้ที่จริงมันก็คือการแกล้งทำเป็นไม่รู้เท่านั้นเอง

“หลี่ฝาง ทำไมนายต้องมาช่วยฉัน?” ลู่หลุ่ยถามเสียงต่ำ: “นายก็จากไปแล้ว แล้วนายยัง……”

หลี่ฝางเงียบอยู่ครู่ ในที่สุดก็เอ่ยปากพูด: “ขอโทษ ฉันไม่สามารถมองดูเธอเกิดเรื่องแล้วไม่ยุ่งไม่ได้”

“งั้นทำไมนายไม่รับสายฉัน?” ลู่หลุ่ยถามต่อ หลี่ฝางที่เผชิญหน้ากับคำถามนี้ ก็ไม่รู้ว่าควรจะตอบกลับไปว่าอะไร

เรื่องของความรู้สึก มันพูดออกมาให้ชัดเจนไม่ได้ หลี่ฝางในตอนนี้ยินดีที่จะไปหามู่หรงฉางเฟิงแล้วสู้กับเขาด้วยมีดจริงปืนจริงสักยก แต่ไม่ยินดีที่จะต้องมาเผชิญหน้ากับสถานการณ์แบบนี้

แต่เขาก็ไม่สามารถหันหน้าเดินออกไปแบบนี้ ทำได้แค่แบบเงียบอยู่ครู่แล้วจึงพูด: “ฉันจะพาเธอไปโรงพยาบาล ไปตรวจร่างกายสักครั้ง ดูว่ามีสารพิษหลงเหลืออยู่หรือเปล่า”

ลู่หลุ่ยจ้องไปที่หลี่ฝาง ผิดหวังกับคำตอบที่เขาให้มาเล็กน้อย แต่เธอก็ยังคงไม่พูดอะไร แค่ก้มหน้าและพูดแค่คำเดียว: “โอเค”

ไม่นาน คนที่หลี่ฝางเรียกก็มา หลี่ฝางพาลู่หลุ่ยและเหมิงเหมิงออกจากเรือสำราญ คนในปาร์ตี้ที่ถูกหลี่ฝางขัดจนงานพัง ก็กลับกันไปจนไม่เหลือตั้งนานแล้ว ไม่มีใครอยากหาเหาใส่หัว ส่วนศพของคุณชายหยางก็ถูกนำไปด้วย เตรียมที่จะหาที่กำจัดทิ้ง

สำหรับเรื่องตระกูลภูมิหลังของคุณชายหยาง หลี่ฝางในตอนนี้ไม่อยากไปยุ่ง เขาไม่สนใจ ถ้าหากอีกฝ่ายอยากล้างแค้น งั้นก็จะทำลายพวกเขาไปด้วยเลย

ในกลุ่มรถของหลี่ฝาง รถHummerสองคันขับนำเปิดทาง สองคันขับตามระวังหลัง รถปอร์เช่ที่หลี่ฝางขับมาไม่ได้ขับ เปลี่ยนเป็นรถLincolnคันนึงขับอยู่ตรงกลาง รีบขับไปทางโรงพยาบาลอย่างเร็ว

บนรถนั้นเงียบสุดๆ ด้านหน้ามีแค่คนขับรถที่นั่งอยู่ตรงที่นั่งคนขับ ที่นั่งด้านคนขับว่างอยู่ ด้านหลังมีหลี่ฝาง ลู่หลุ่ยกับเหมิงเหมิงนั่งอยู่ ดีที่เบาะหลังของรถLincolnนั้นกว้างกว่าปกติ สามคนนั่งจึงไม่เบียดนัก

เอี๊ยด——

ระยะห่างจากโรงพยาบาลยังต้องผ่านถนนอีกสาย จู่ๆ รถHammerสองคันหน้าก็หยุดลง จนเกือบจะทำให้รถลายคันชนกันไปตามๆ กันเป็นอุบัติเหตุ

“เกิดอะไรขึ้น?”

รถHummerคันที่สองด้านหน้าลูกน้องคนนึงเดินขึ้นไปถาม

หลี่ฝางขมวดคิ้ว มองดูลูกน้องเจรจากับคนด้านหน้านั้น อยู่ตรงนี้สามารถได้ยินพวกเขาพูดเบาๆ ดูเหมือนว่ารถจะเสีย ดังนั้นตอนนี้จึงแออัดเล็กน้อย

ในตอนนี้ โทรศัพท์ของหลี่ฝางก็ดังขึ้น เขาหยิบขึ้นมาก็เห็นว่าเป็นฉินเสี่ยวหู่ที่โทรมา

ฉินเสี่ยวหู่ เป็นคนที่หลี่ฝางส่งเข้าไปแทรกแซงอยู่ข้างกายมู่หรงฉางเฟิงเป็นไส้ศึกก่อนหน้านี้ช่วงนึงเพิ่งจะเปิดเผยกับหลี่ฝางว่าเขาอยากจะออกไปจากข้างกายมู่หรงฉางเฟิง

แต่ปกติเขาคงไม่ติดต่อตนถึงจะถูก โดยเฉพาะเบอร์นี้ กรณีแค่เรื่องสำคัญเท่านั้น เขาถึงจะโทรมาเบอร์นี้

ถึงยังไง ฉินเสี่ยวหู่ทำแบบนี้ มันจะมีความเสี่ยงต่อชีวิตได้

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท