NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 821 แผนร้ายของคุณชายหยาง

บทที่ 821 แผนร้ายของคุณชายหยาง

“นาย นายจะทำอะไร รีบปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้ นายรู้มั้ยว่าฉันเป็นใคร!” โดนหลี่ฝางทำแบบนี้ ลูกเศรษฐีคนนั้นก็สร่างขึ้นไม่น้อย แต่สถานการณ์ในตอนนี้ทำให้เขาหวาดกลัวยิ่งกว่าเดิม จึงดิ้นพลางตะโกนโหวกเหวกโวยวาย

“ฉันไม่สนว่านายเป็นใคร ฉันแค่อยากรู้ว่าลู่หลุ่ยไปไหน หรือไม่ก็ไอ้คนที่จัดงานนี้ขึ้นมามันอยู่ไหน”

หลี่ฝางไม่อยากพูดพร่ำทำเพลงกับลูกเศรษฐี เห็นว่าเขายังไม่สนใจ จึงผ่อนแรงที่มือเล็กน้อย ในตอนนั้นลูกเศรษฐีคนนั้นก็มีความรู้สึกว่าจะตกลงไปในทะเล จึงร้องออกมาเสียงดังอย่างตกใจ: “ฉันพูด! ฉันพูดแล้ว!”

มือของหลี่ฝางออกแรง แล้วคว้าลูกเศรษฐีคนนั้นไว้แน่น

“คุณชายหยาง คุณชายหยางอยู่ด้านในห้องส่วนตัว ผู้หญิงที่นายหาก็น่าจะอยู่ด้วยกันกับเขา”

“ห้องส่วนตัวห้องไหน?”

“อันนี้ ฉัน ฉันไม่รู้จริงๆ ฉัน ฉันขอร้องและ……”

ลูกเศรษฐีคนนี้มองหลี่ฝางด้วยสายตาอ้อนวอนทันที เขารู้มามากเท่านี้จริงๆ อย่างอื่นถึงแม้เขาอยากจะถาม คุณชายหยางก็คงไม่บอกเขา

แต่ว่าเป็นสีหน้าของหลี่ฝาง ถึงแม้จะไม่รู้ว่าผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าทำไมจู่ๆ ถึงได้พุ่งเข้ามา แต่เขาก็รู้ว่าถ้าไม่สามารถทำให้เขาพอใจได้ผลลัพธ์ของตนคงจบไม่สวยแน่ๆ

“คุณชายอู๋คุณชายอู๋ต้องรู้แน่นอน!วันธรรมดาพวกเขาสองคนก็สนิทตัวติดกันตลอด ถามเขาเขาต้องรู้แน่ๆ !” เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง เขาโยนขี้ให้คนอื่นอย่างไม่สนใจ เพื่อให้ตัวเองรอดก็ไม่สนใจเพื่อนแล้ว มันไม่สมเหตุสมผลเลยที่จะให้เขามารับเคราะห์แทนพวกเขา

“ใครคือคุณชายอู๋?” หลี่ฝางลากคอเขากลับมา สายตากวาดมองไปทั่วดาดฟ้าเรือ

“คนที่กำลังจะหนีคนนั้น นั่นแหละเขา!” คนผู้นั้นยื่นมือชี้ไปที่คนที่ปะปนอยู่ในกลุ่มคนที่กำลังจะแอบหนีออกไป พลางร้องเสียงดัง

คนผู้นั้นเห็นว่าตนถูกจับได้แล้ว จู่ๆ ก็ตะโกนด่าออกมาด้วยความโมโหและหงุดหงิด: “เฉินเห้าไอ้เวรนี่ นายคอยดูนะ!”

ในใจของเฉินเห้าก็รู้สึกน้อยใจ เขาแค่มาร่วมงานปาร์ตี้อยู่ดีๆ ดื่มไวน์พลางร้องเพลง จู่ๆ ก็เกือบถูกคนจับโยนลงไปในทะเล นี่มันอะไรกัน

หลี่ฝางปล่อยเฉินเห้า แล้วไล่ตามคุณชายอู๋ไป นั้นตอนนั้นคุณชายอู๋ก็ตกใจไม่น้อย จากที่เขาดูอยู่ด้านข้างเมื่อครู่ก็รู้ว่าไม่ควรยั่วโมโหหลี่ฝาง

ถ้าเกิดตนถูกโยนลงทะเลไปหลังจากนี้คงไม่มีหน้าไปเจอคนแล้ว

อย่างไรก็ตามการดิ้นรนของเขานั้นไม่มีประโยชน์เลย เขาถูกคว้าไว้ในมือและยกชูขึ้น

“บอกฉันมา ไอ้คุณชายหยางนั่นอยู่ที่ไหน?” หลี่ฝางแทบจะหมดความอดทนแล้ว ในใจราวกับมีเปลวไฟจะปะทุออกมา

“อยู่ อยู่ที่……” ขณะที่คุณชายอู๋จะพูด ในตอนนั้นก็เห็นคนใส่ชุดบอดี้การ์ดพบว่ามีเรื่องผิดปกติจึงพุ่งเข้ามา จึงพูดอย่างดีใจทันที: “รีบมาช่วยฉันเร็วๆ !เล่นไอ้หมอนี่ให้ลงไปกองเลย!”

ขณะเดียวกันบอดี้การ์ดสองสามคนก็วิ่งเข้ามาตะโกนเสียงดัง: “คุณผู้ชายท่านนี้ รีบวางคุณชายอู่ลงซะ!”

“ไม่ว่าพวกคุณจะมีความแค้นอะไร ก็อย่าทำร้ายเขา!”

“อยากตาย!” รังสีจิตสังหารปรากฏขึ้นมาในดวงตาของหลี่ฝางทั้งสองข้าง มือนึงยกคุณชายอู๋ขึ้น มืออีกข้างก็ลงไม้ลงมือแล้ว!

ปกติบอดี้การ์ดพวกนี้รับหน้าที่แค่ดูแลความปลอดภัยต่างๆ พวกนั้น ในด้านฝีมือและความดุดันนั้นเทียบไม่ได้กับลูกน้องนักเลงของแมงป่องพวกนั้นเลย มันจะโอเคถ้าพวกเขาต้องจัดการต่อสู้กับคนธรรมดา แต่เมื่อเจอกับหลี่ฝาง พวกเขาทุกคนดูด้อยไปเลย

แค่ได้ยินเสียงโอดครวญและเสียงกระดูกหักดังกร๊อบ วินาทีที่หันไปมอง บอดี้การ์ดทุกคนก็ถูกจัดการจนลงไม่กองกับพื้นทั้งหมด เป็นเพราะอารมณ์ไม่ดี หลี่ฝางจึงลงมือรุนแรงไปบ้าง ไม่ถึงตาย แต่กระดูกหักไปหลายซีกคงจะต้องนอนโรงพยาบาลสองสามเดือนอย่างเลี่ยงไม่ได้

เมื่อเห็นหลี่ฝางใช้แค่มือข้างเดียวต่อสู้จนบอดี้การ์ดมากมายหมดสภาพขนาดนี้ คุณชายอู๋ก็ตกใจจนตาค้าง ร่างกายสั่นเทาไม่หยุด แล้วถามอย่างไม่ได้สติ: “นาย นายเป็นใครกันแน่!”

“หลี่ฝาง!” หลี่ฝางพูดอย่างไม่ลังเล แถมคำพูดของเขา ก็ทำให้คุณชายอู๋ถึงกับช็อกไปเลย

……

ในตอนนั้น ลู่หลุ่ยที่อยู่ในห้องหรูหราใต้ส่วนกลางของดาดฟ้าเรือในห้องมีชายสวมชุดสูทยืนอยู่หนึ่งคน ในมือถือแก้วไวน์หนึ่งแก้ว หันหลังให้ประตู หันหน้าเข้าหาลู่หลุ่ย

“หลุ่ยหลุ่ย ความรู้สึกที่ฉันมีให้เธอ นานขนาดนี้แล้วหรือว่าเธอจะยังไม่เข้าใจอีกเหรอ?” คุณชายหยางพูดอย่างช้าๆ

“ฉัน……ขอโทษ……” ดวงตาของลู่หลุ่ยมัวเล็กน้อย ดูเหมือนว่าจะดื่มเหล้าไปไม่น้อย แต่เธอส่ายหัว แล้วพูดว่า: “เมื่อกี้ฉันคิดทบทวนดูดีๆแล้ว ฉันยังไม่สามารถตอบรับความรู้สึกนายได้ ขอโทษด้วยจริงๆ”

วันเวลาตั้งแต่แยกจากหลี่ฝางมา ลู่หลุ่ยผ่านมาอย่างเจ็บปวดมากๆ เคยเกิดความคิดที่จะลืมเรื่องหลี่ฝางทั้งหมดแล้วเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง แต่ทุกครั้งเธอก็ทำไม่ได้

ภาพของหลี่ฝางฝังลึกไว้ในจิตใจของเธอมาตลอด แม้วันเวลาจะผ่านไปก็ไม่จางหายไปตามกาลเวลา มีแต่จะยิ่งชัดเจนมากขึ้น

มันทำให้ในใจของเธอยิ่งเจ็บปวดขึ้นไปอีก แล้วที่ตอบตกลงมาร่วมงานปาร์ตี้ที่คุณชายหยางเป็นคนจัดงาน พยายามใช้วิธีนี้ทำให้ตนเองตัดขาดจากความคิดถึงหลี่ฝาง

เธอต้องการใช้แอลกอฮอล์เพื่อให้ตัวเองชินชา ด้วยวิธีทำทำร้ายตัวเองแบบนี้ แต่เมื่อเธอนั่งอยู่ตรงนี้ดื่มไปนึกไป ก็พบว่าตัวเองลืมหลี่ฝางไม่ได้มาตลอด ปล่อยวางความรู้สึกครั้งนี้ไม่ได้จริงๆ

ในช่วงเวลาสั้นๆ นี้ ในที่สุดเธอก็มองเห็นความรู้สึกที่แท้จริงของเธอเอง และก็เข้าใจตัวเองด้วยว่ามันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเลิกรักหลี่ฝาง และก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะยอมรับความรู้สึกของคนอื่น

แม้กระทั่งเธอยังตัดสินใจแล้ว แม้ว่าหลังจากนี้จะไม่ได้เจอหลี่ฝางอีกแล้ว ชีวิตนี้ใช้ชีวิตคนเดียวจนบั้นปลาย บางทีอาจจะดีก็ได้

ไม่ใช่เพื่อหลี่ฝาง แต่เพื่อตัวเธอเอง เธอไม่สามารถบังคับตัวเองให้แต่งงานกับผู้ชายที่เธอไม่ได้รักได้

“หลุ่ยหลุ่ย!”

คุณชายหยางรีบพุ่งเข้ามาคว้าแขนของลู่หลุ่ยไว้ แล้วอ้อนวอน: “ไอ้แซ่หลี่นั่นมันมีอะไรดี? มันทำให้เธอเจ็บปวดมาตั้งมากยังลืมมันไม่ได้อีกเหรอ? สัญญากับฉัน ลืมเขาไปเถอะ ให้โอกาสฉันสักครั้ง ขอแค่เธอพูดมาคำเดียว ฉันจะขอเธอแต่งงาน ฉันเคยพูด ว่าฉันจะดูแลเธอไปตลอดชีวิต……”

“ขอโทษ” เมื่อเธอคิดออกถึงเรื่องที่อยู่ในใจ ลู่หลุ่ยก็กลับรู้สึกโล่งขึ้นไม่น้อย เธอส่ายหัวอย่างหนักแน่น และปฏิเสธไปอย่างไม่เกรงใจ: “ไม่ใช่เพราะว่าหลี่ฝาง แต่เพราะว่าตัวฉันเอง ฉันไม่ได้รู้สึกอะไรกับนายจริงๆ ถึงแม้จะบังคับให้แต่งงานก็ไม่มีความสุข”

คุณชายหยางก้มหน้า แล้วก็กำหมัดแน่น ราวกับเจ็บปวดสุดๆ

“ได้ ฉันสัญญา!” คุณชายหยางกำมือของลู่หลุ่ยไว้ แล้วพูดอย่างเจ็บปวดอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ “ดื่มเหล้าแก้วนี้ หลังจากวันนี้ ฉันจะไม่ยื้อเธอไว้แล้ว”

เขาพูดพลางยกแก้วขึ้นจากโต๊ะมาสองแก้ว เงยหน้าขึ้น แล้วกระดกดื่มเองไปหนึ่งแก้ว หลับตาลง น้ำตาก็ไหลออกมา เป็นการแสดงออกที่ดูเจ็บปวดมากๆ

ลู่หลุ่ยเห็นคุณชายหยางเป็นแบบนี้ ในใจก็รู้สึกผิดเล็กน้อย ถึงแม้จะดื่มเหล้ามาไม่น้อยแล้ว ตอนนี้ก็รู้สึกไม่ได้มีจะปฏิเสธ ทำได้แค่รับแก้วเหล้ามา และเงยหน้ากระดกดื่ม และพูดกับคุณชายหยางอย่างเต็มไปด้วยความขอโทษ: “ขอโทษ ฉันไปก่อนนะ ลาก่อน”

แล้วเธอก็เดินหันหลังออกไป แต่เมื่อเดินไปได้ไม่กี่ก้าว จู่ๆ ก็ขาอ่อน และล้มพับไปกองกับพื้น ร่างกายไม่มีแรงหลงเหลืออยู่เลย จะดิ้นรนยังไงก็ลุกไม่ขึ้น

และก็พบว่าร่างกายของตนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกร้อนเล็กน้อย ลมหายใจก็หอบขึ้นมา

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท