NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – บทที่ 797 แก้แค้นให้ไอ้หน้าหนวด

บทที่ 797 แก้แค้นให้ไอ้หน้าหนวด

“ไม่ถูก พูดให้ถูกก็คือ ควรจะเป็นตงฟางชู่ว ฉันเองก็สืบมานานแล้ว ถึงได้รู้เบาะแสเหล่านี้ ไม่พูดไม่ได้จริงๆ ท่านจวนคนนี้เก็บซ่อนเอาไว้ ได้ดีมาก ไม่เพียงเป็นคนของสี่ตระกูลใหญ่ อีกทั้ง ยังเป็นคนสร้างสี่ตระกูลใหญ่ขึ้นมา”

“คนนี้ ไม่สามารถคาดเดาได้ อย่าเป็นศัตรูกับเขาเด็กขาด นี่เป็นสิ่งที่เบื้องบน บอกกับฉัน” หูเฟยพูด

หลังจากหลี่ฝางได้ฟังอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเย้ยหยัน มองหูเฟยแล้วพูด:“ถ้าเป็นศัตรูกับเขา แล้วยังไง?”

“จะตายอนาถมาก” หูเฟยพูด

“พอได้แล้ว ที่ฉันยังมีเรื่องไม่น้อย ฉันไม่พูดกับนายแล้ว” หูเฟยพูด

หลี่ฝางหัวเราะหึๆ บอกกับหูเฟย:“นายกำลังตีตัวออกห่างจากฉันเหรอ?”

“หึๆ หรือรู้สึกว่าฉันมีปัญหากับท่านจวน นายก็เลยกลัว? ไม่กล้าสนิทสนมกับฉัน ก่อนหน้านี้ นายอยากจะหลุดพ้นจากการควบคุมของสี่ตระกูลใหญ่มาโดยตลอดไม่ใช่เหรอ? วันนี้ หลังจากที่นายรู้ถึงความน่ากลัวของตงฟางชู่ว เปลี่ยนใจแล้ว?” หลี่ฝางยิ้มเย้ยหยัน

ทางด้นหูเฟยเงียบอยู่นานครู่หนึ่ง สุดท้ายพูดคำว่าขอโทษ แล้ววางสายไป

เห็นได้จัด หูเฟยย้ายข้างแล้ว เขาเหมือนต้นหญ้าบนกำแพง วันนี้ หลังจากดูแล้วไม่ได้รับผลประโยชน์จากหลี่ฝาง เขาก็เตรียมที่จะขีดเส้นกั้นระหว่างตนกับหลี่ฝาง กลัวว่าตนจะเดือดร้อนเพราะหลี่ฝาง

หลี่ฝางส่ายหน้า ถือว่ามองคนออกแล้ว

หลี่ฝางหันไปมองไอ้หน้าหนวด แล้วพูด:“ฉันออกไปแปปนึง เดี๋ยวค่ำๆกลับมาเยี่ยมนาย”

“คุณชาย อย่ากลับมาเลยครับ กลับเมืองเอกเถอะ ข้างกายคุณชายไม่มีใครคอยคุ้มกัน ที่อำเภอหลินนี้ สำหรับคุณชายแล้วไม่ปลอดภัย” ไอ้หน้าหนวดพูดด้วยความเป็นห่วง

หลี่ฝางยิ้มบางๆ เต็มไปด้วยความเย้ยหยัน:“ขยะพวกนั้นทำอะไรฉันไม่ได้ เรื่องนี้นายวางใจเถอะ”

หลังจากหลี่ฝางพูดจบ ก็เตรียมเดินออกไปจากห้องผู้ป่วย

และในเวลานี้เอง ด้านนอกห้อง มีคนหลายคนเดินเข้ามา

นำโดย ผู้ชายผมเหลืองในมือถือมีดบาตังกัสเอาไว้ เล่นไปด้วย และเดินเข้าไปในห้องของไอ้หน้าหนวด

“ฉันว่าน้องชาย ยังไม่ออกไปจากอำเภอหลิน ฉันจำได้ว่าลูกพี่ของฉันพูดไปแล้ว ภายในสามวัน ถ้านายยังไม่ไปจากอำเภอหลิน ชีวิตน้อยๆ ของนาย……”

ชายผมเหลืองมองไอ้หน้าหนวดด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความร้ายกาจ หัวเราะเยือกเย็น

“พี่ผมเหลือง ผมไปคืนนี้เลยครับ ไปคืนนี้เลย”

เห็นพวกผมเหลือง ภายในใจของไอ้หน้าหนวด รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาสุดขีดทันที

ไอ้หน้าหนวดไม่ใช่คนปอดแหก ที่เขากลัวมากขนาดนี้ เป็นเพราะหลี่ฝางอยู่ด้วย

ถ้าให้พวกหัวเหลืองรู้ว่า ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้า คือคุณชายหลี่ของสถานตากอากาศ พวกเขาต้องรายงานแมงป่องอย่างแน่นอน

ดังนั้น ไอ้หน้าหนวดทำได้เพียงปิดบังไอ้หัวเหลือง

หัวเหลืองเดินไปด้านหน้าสองสามก้าว มองไปที่ไอ้หน้าหนวด:“สายไปแล้ว พี่ใหญ่ของฉันสั่งให้ฉันมาบอกนาย คืนนี้ เป็นวันตายของ ถ้าแกเชื่อฟัง ฆ่าตัวตาย พวกพ้องของแกที่อยู่ห้องพักผู้ป่วยข้างๆพวกนั้น พวกเราสามารถปล่อยพวกเขาไปได้ แต่ถ้าแกไม่ให้ความร่วมมือ ฉันทำได้แค่ใช้ไม้แข็ง ถึงแม้การฆ่าคนในโรงพยาบาลจะไม่ดี แต่ว่า ฉันมีวิธีฆ่าพวกแก เพราะถึงอย่างไร ที่นี่ก็เป็นถิ่นของพวกฉัน”

ผมเหลืองพูดด้วยใบหน้ายิ้มเยือกเย็น:“ให้เวลาแกห้านาทีในการคิด ฉันยืนรออยู่ตรงหน้าประตู หลังจากผ่านไปห้านาที ฉันจะมาถามว่าแกเลือก”

พูดจบ ผมเหลืองเดินออกไป เห็นหลี่ฝาง:“เด็กเปรตที่ไหนเนี่ย แกเข้ามาทำไม มาเยี่ยมไอ้นี่เหรอ?”

ผมเหลืองชี้ไปที่เตียงของไอ้หน้าหนวด:“พวกแกสองคนเป็นอะไรกัน แกเป็นลูกของมัน? หรือว่าเป็นญาติของมัน? ฉันขอเตือนแกว่าทางที่ดีที่สุดให้ทำเหมือนไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น แล้วรีบไสหัวไป เข้าใจไหม?”

พูดจบ หัวเหลือยกเท้าขึ้น เตะไปที่หลี่ฝาง

ทว่า เท้าของหัวเหลือง กลับเตะโดนอากาศ

หัวเหลืองขมวดคิ้วเป็นปม จ้องมองไปที่หลี่ฝาง คล้ายว่าเห็นผี

เมื่อกี้ หัวเหลืองเห็นชัดว่า หลี่ฝางยืนอยู่ตรงหน้าเขา ขาของเขา ก็เตะไปที่หลี่ฝาง

แต่หลี่ฝางไม่หลบ ลูกเตะนี้ ทำไมถึงเตะโดนอากาศ?

หัวเหลืองไม่เข้าใจ

เขานึกว่าเป็นปัญหาของตนเอง ชี้ไปที่หลี่ฝางแล้วพูด:“รีบไสหัวออกไป ได้ยินไหม ไม่อย่างนั้น กูจะฆ่ามึงให้ตาย”

หัวของหลี่ฝาง หน้าตาของเขา อย่างมากก็อายุแค่ยี่สิบกว่าๆ

คนแบบนี้ เป็นธรรมดาที่หัวเหลืองจะดูถูก

หลี่ฝางหัวเราะหึๆ มองไปที่หัวเหลือง:“ถ้าฉันบอกว่า ฉันไม่อยากไสหัวไปล่ะ?”

“หึ ให้ตายสิ เจ้าเด็กอย่างแกนี่มันสุดยอดจริงๆ” หัวเหลืองกำหมัด เดินไปตรงหน้าหลี่ฝาง อาศัยตอนที่หลี่ฝางไม่ทันได้ตั้งตัว ต่อยไปที่เขา

แต่หลี่ฝางเพียงแค่หันหน้า ก็หลบได้แล้ว

“ให้ตายสิ เป็นคนที่ฝึกศิลปะการต่อสู้มาหนิ ไม่แปลกที่พูดจาสามหาว” หัวเหลืองขมวดคิ้วเป็นปม เห็นถึงสิ่งปิดปกติ

“ทุกคน จัดการมันพร้อมกัน เอาให้เจ้าเด็กนี่ขาหักไปเลย คืนนี้ฉันเลี้ยงเหล้าเอง” หัวเหลืองพูดจบ คนที่อยู่ด้านหลังของเขา ก็เดินเข้ามาพร้อมกัน

แต่ว่า หลังจากที่พวกเขาลงมือ กลับรู้สึกเหมือนเห็นผี

หลี่ฝางใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาที ก็ทำให้พวกเขาล้มลงบนพื้น ทำให้พวกเขายืนไม่ขึ้น

“พี่หัวเหลือง เหมือนว่าแขนของผมจะหักไปแล้ว”

“แม่เจ้าโว้ย ขาของกู……”

พวกอันธพาลนอนอยู่บนพื้น ร้องโอดครวญดังระงม

ไอ้หน้าหนวดที่นอนอยู่บนเตียง อึ้งทึ่งทันที ถึงแม้อันธพาลพวกนี้ไม่ได้เก่งเท่าไหร่ ถ้าเขาไม่เป็นอะไร ก็สามารถจัดการได้

แต่ว่า เมื่อกี้หลี่ฝางลงมือ เร็วเกินไปแล้ว

อีกทั้ง เหี้ยมโหดอย่างมาก

เวลาเพียงไม่กี่วินาที ทำให้พวกเขาพิการกันหมด……

นี่มันยอดฝีมือ

ไอ้หน้าหนวดกลืนน้ำลาย มองไปที่หลี่ฝาง ร้องเรียกเสียงเบา:“คุณชาย คุณ……”

“ฉันบอกแล้ว แค่ขยะพวกนี้ ไม่สามารถทำอะไรฉันได้”

หลี่ฝางพูดด้วยความนิ่งสงบ

จากนั้น หลี่ฝางก็คว้าคอขอผมเหลืองขึ้นมา แล้วพูด:“เมื่อกี้ นายบอกให้ไอ้หน้าหนวดฆ่าตัวตาย นี่เป็นความคิดของใคร?”

“ของพี่ใหญ่” ผมเหลืองพูดด้วยสีหน้าหวาดกลัว:“พี่ใหญ่ของฉันชื่อเหล่าจิ่ง เป็นน้องชายของแมงป่อง”

“หึๆๆ เหล่าจิ่งใช่ไหม? ถ้าฉันเดาไม่ผิด มาโรงพยาบาลครั้งนี้ ไม่ได้มีแค่พวกแก น่าจะมีคนอีกหลายกลุ่ม แยกย้ายกันไปคนละห้อง พูดประโยคเดียวกัน” หลี่ฝางถามด้วยน้ำเสียงลองเชิง

ผมเหลืองพยักหน้า หลี่ฝางขมวดคิ้วเป็นผม แววตาแสดงออร่าสังหาร จากนั้นลุกขึ้น แล้วเดินไปที่ห้องอื่นๆ

โชคดีที่หลี่ฝางลงมือทันเวลา พวกพ้องของตน จึงไม่หลงกล

ตอนที่กลับมาอีกครั้ง หลี่ฝางใช้เวลาไปแค่สองนาทีเท่านั้น

ถ้าที่นี่ไม่ใช่โรงพยาบาล มีความเป็นไปได้ที่หลี่ฝางจะฆ่าคนไปแล้ว

เหล่าจิ่งคนนี้ ร้ายกาจอย่างมาก ใช้วิธีแบบนี้ ทำให้ไอ้พวกหน้าหนวดฆ่าตัวตาย

คนที่เลวทรามแบบนี้ หลี่ฝางไม่มีวันปล่อยพวกเขาไปแน่นอน

หลี่ฝางคว้าตัวผมเหลืองขึ้นมา แล้วพูด:“พาฉันไปหาพี่ใหญ่ของนาย”

“พี่ใหญ่เขา……เขาไปที่วิลล่าตระกูลหยิ่นแล้ว” ผมเหลืองพูดด้วยน้ำเสียงอ้ำๆอึ้งๆ

แววตาที่ผมเหลืองมองหลี่ฝาง เต็มไปด้วยความหวาดกลัว เพราะตอนที่เขาเดินออกไปจากห้องไอ้หน้าหนวด เห็นพวกพ้องของตนนอนอยู่หน้าห้องผู้ป่วย

เวลาแค่หนึ่งถึงสองนาที ล้มคนได้มากขนาดนี้

นี่เป็นคนแบบไหนกัน?

“ถ้าอย่างนั้นก็ไปวิลล่าตระกูลหยิ่น” หลี่ฝางพูด

หลี่ฝางขับรถ พาหัวเหลือง ตรงไปที่วิลล่าตระกูลหยิ่น ตลอดทาง หลี่ฝางขับรถด้วยความเร็วสูง

ตั้งแต่ฝึกฝนกำลังภายใน ตาของหลี่ฝาง ความรู้สึกด้านทิศทาง ก็ดีขึ้นไม่น้อย

ดังนั้น ทักษะในการขับรถของเขาก็สูงขึ้น ตอนที่มาถึงวิลล่าตระกูลหยิ่น หยิ่นเจิ้งและหยิ่นเหล่ย พ่อลูกที่ชะตาชีวิตอาภัพ เพิ่งถูกคนกลุ่มหนึ่ง ลากตัวออกมาจากวิลล่า

บอดี้การ์ดที่อยู่นอกวิลล่า หายไปหมดแล้ว

หลี่ฝางหัวเราะหึในลำคอ:“ดูเหมือนว่าตอนนี้อำเภอหลิน กลายเป็นของแมงป่องคนเดียวไปแล้ว”

“กล้าจับคนอย่างโจ่งแจ้งแบบนี้” หลี่ฝางหัวเราะเย้ยหยัน ส่องไฟไปที่หยิ่นเจิ้ง

เจ้าหมอนั่นเห็นแสงไฟ วิ่งออกมาพร้อมกับด่าทอ

“ให้ตายสิ ขับรถหรูแล้วแน่นักเหรอ รู้ไหมว่าพวกฉันเป็นใคร?”

“ไสหัวลงมา!”

ทั้งยังมีอีกหลายคน ถึงขั้นลงไม่ลงมือ พวกเขาติดตามรับใช้แมงป่อง จึงไม่กลัวพวกลูกเศรษฐี

ในเวลานี้ หลี่ฝางจับผมเหลือง เดินออกมา

“ผมเหลือง เป็นแกได้ยังไง?”

เห็นพวกพ้องของตน คนพวกนี้ตกใจกันหมด

“คุณชายหลี่……”

หยิ่นเจิ้งและหยิ่นเหล่ย ก็ตกใจอย่างมาก

ในสถานการณ์อันตรายแบบนี้ หลี่ฝางกลับมาแล้ว

ในใจของพวกเขา แน่นอนว่าเริ่มรู้สึกดีใจ คิดว่าขอแค่หลี่ฝางมา ก็รอดแล้ว แต่ว่า พวกเขามองอยู่นาน หลังจากที่เห็นว่าหลี่ฝางมาคนเดียว ความหวังที่เพิ่งก่อตัวขึ้น ก็หายไป

เพราะถึงอย่างไร ความสามารถของหลี่ฝาง พวกเขารู้ดี

หลี่ฝางมาคนเดียว จะช่วยพวกเขาได้ยังไง

ช่วยยังไง?

หรือว่าอาศัยแค่คุณเป็นคุณชายหลี่อย่างนั้นเหรอ?

คนของแมงป่อง ไม่กลัวแม้แต่นิดเข้าใจไหม?

เหล่าจิ่งขมวดคิ้วเป็นปม มองไปที่หลี่ฝาง ถามด้วยสีหน้าตกใจ:“แกเป็นใคร ทำไมต้องจับตัวคนของฉัน?”

หลี่ฝางหัวเราะ โยนหัวเหลืองลงไปบนพื้น จากนั้นเอามือไว้ในกระเป๋ากางเกง เดินไปหาเหล่าจิ่งด้วยความกล้าหาญ

“แกคือเหล่าจิ่งใช่ไหม?” หลี่ฝางเอ่ยถาม

เหล่าจิ่งพยักหน้า พูด:“ถูกต้อง แล้วแกเป็นใคร ฉันไม่เคยเจอแกมาก่อน แกเป็นเพื่อนของตระกูลหยิ่น?”

“นับว่าใช่ แต่ว่า ฉันมาครั้งนี้ ไม่ได้มาช่วยพวกเขา แต่ว่า มาคิดบัญชีกับแก” หลี่ฝางพูด

“หึ เราสองคนมีบัญชีอะไร แกพูดมาสิ” เหล่าจิ่งหัวเราะ

หลี่ฝางพูด :“เมื่อกี้ พวกหัวเหลือง ไปโรงพยาบาล อยากจะฆ่าพวกพ้องของฉัน ฉันได้หัวเหลืองบอกว่า เรื่องนี้ แกเป็นคนสั่ง”

เหล่าจิ่งพยักหน้า พูดอย่างไม่ยอม:“ฉันเอง ทำไม?”

“แกมันเหี้ยมโหดจริงๆ ใช้ชีวิตของพวกพ้องคนอื่นๆ มาข่มขู่อีกคน ให้พวกเขาฆ่าตัวตาย แบบนี้ ต่อให้สืบมา ก็สาวไปไม่ถึงแก”

หลี่ฝางมองเหล่าจิ่งด้วยความชื่นชมเล็กน้อย:“แกฉลาดมาก แต่น่าเสียดาย ความฉลาดของแก จะเอาชีวิตของแก”

หลี่ฝางพูด:“แกฆ่าพ่อลูกตระกูลหยิ่น ฉันไม่คิดบัญชีกับแก แต่แกกล้ามายุ่งกับพวกพ้องของฉัน ฉันจะทำให้แกได้เห็น”

“ที่แท้แกก็เป็นพวกพ้องของไอ้หน้าหนวดนี่เอง เพียงแต่ไม่รู้ นายจะคิดบัญชีกับฉันยังไง?”

เหล่าจิ่งหัวเราะด้วยความเย้ยหยัน:“ดูจากสภาพของแกแล้ว อย่างมากก็แค่เด็กเมื่อวานซืน ขับรถหรู ประมาณล้านกว่าหยวน ไม่ก็สองล้านหยวน? ที่บ้านฐานะดี แต่รวยแล้วยังไง ตระกูลหยิ่นรวยขนาดนี้ ก็ถูกพวกฉันจับตัวมาอยู่ดีไม่ใช่เหรอ?”

“แกน่าจะรู้จักพี่ใหญ่แมงป่องใช่ไหม?”

มองหลี่ฝาง เหล่าจิ่งเอ่ยถาม:“มีปัญหากับพี่ใหญ่แมงป่องของพวกเรา แกมีกี่ชีวิตที่สู้ได้?”

“ชีวิตเดียว ก็เพียงพอแล้ว”

หลี่ฝางพูด เพียงแค่ขยับตัวหนึ่งครั้ง ก็มาอยู่ตรงหน้าเหล่าจิ่งแล้ว

เหล่าจิ่งตกใจจนตาแทบถลน ความเร็วระดับนี้ นี่มันผีชัดๆ

เหล่าจิ่งถอยหลังหลายก้าว บอกกับพวกพ้องของตน:“ทุกคนจัดการ เอาเจ้าเด็กนี่ให้ตาย”

ลูกน้องของเหล่าจิ่ง พุ่งเข้าหาหลี่ฝางทันที คนพวกนี้ ไม่เพียงพอที่จะมอง เพียงแค่สองสามครั้ง ก็ถูกหลี่ฝางจัดการจนล้มลงบนพื้น ยืนแทบไม่ขึ้น

ท่ามกลางความกระวนกระวายของเหล่าจิ่ง เริ่มหยิบปืนออกมา แต่เขายังไม่ทันหยิบออกมา ก็ถูกหลี่ฝางคว้าแขนเอาไว้

“สายไปแล้ว”

หลี่ฝางหัวเราะในลำคอ จากนั้น ลมปราณหนึ่ง พุ่งออกมา ไปที่แขนของเหล่าจิ่ง บีบแน่น

เหล่าจิ่งร้องโอดครวญ ปืนในมือ ตกลงบนพื้น

หลี่ฝางเก็บปืนขึ้นมา เล็งไปที่ขาของเหล่าจิ่ง แล้วยิง จากนั้น หลี่ฝางมองเหล่าจิ่งพร้อมกับพูด:“ฉันบอกแล้ว ฉันจะทำให้แกเห็น”

“แกเป็นใครกันแน่”

มองหลี่ฝาง เหล่าจิ่งกัดฟันแน่นแล้วถาม

“ฉัน? ฉันชื่อหลี่ฝาง ฉันคิดว่าแกน่าจะรู้จักชื่อฉัน”

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

ยามค่ำคืนดึกๆ ในหอพักแห่งหนึ่งที่ตงไห่

“หลี่ฝาง รีบเอาน้ำล้างเท้ามาให้ฉันเร็วๆ ”

ได้ยินเสียงตะโกนเรียก หลี่ฝางไม่รีรอเลยสักนิด รีบไปยกน้ำล้างเท้าของเจ้าอ้วนมาให้

“รอเดี๋ยว ถุงเท้าก็ช่วยซักด้วยเลย ไม่ซักมาหลายวันแล้ว เหม็นตายห่า” หลี่ฝางยกกะละมังล้างเท้าขึ้นมา เจ้าอ้วนก็พูดขึ้นมาอีกทันที

หยิบถุงเท้าที่เหม็นเน่าของเจ้าอ้วนแล้ว หลี่ฝางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำของหอพัก จากนั้นเริ่มยุ่งๆ

เขาไม่เพียงแค่ซักถุงเท้าของเจ้าอ้วน ยังต้องซักเสื้อนักเรียนของเพื่อนร่วมห้องคนอื่นอีกด้วย รองเท้า กางเกงใน……

“เกาเสิ้ง ช่วงนี้นายยิ่งอยู่ยิ่งเกินไปแล้วนะ นายเห็นหลี่ฝางเป็นอะไร เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของนาย ไม่ใช่คนใช้นะ”

หัวหน้าห้องโจวหยางทนดูต่อไปไม่ไหว จึงว่าเจ้าอ้วนสองสามคำ

“หัวหน้า ผมกำลังช่วยเขา เขาขาดเงินไม่ใช่เหรอ? ผมจ่ายเงินให้เขาอยู่” เจ้าอ้วนยิ้มๆ ไม่สนใจ

“ใช่ไหม หลี่ฝาง? ” เจ้าอ้วนตะโกนถามหลี่ฝางไปทางห้องน้ำ

“ใช่ ขอบใจนายที่ช่วยอุดหนุนธุรกิจของผม เกาเสิ้ง” หลี่ฝางหันหน้ามายิ้ม ตอบหนึ่งคำด้วยความทราบซึ้งน้ำใจ

เห็นเป็นเช่นนี้ โจวหยางได้แต่ส่ายหัวและถอนหายใจ

หลังจากที่พ่อแม่หายตัวไป หลี่ฝางได้แค่พึ่งการซักเสื้อผ้าให้คนอื่น ทำการบ้าน ช่วยวิ่งซื้อของเป็นต้น เพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายและจ่ายค่าเทอม

ไม่นาน โจวหยางเดินเข้าไปในห้องน้ำ: “หลี่ฝาง ถ้านายไม่มีเงินจริงๆ ผมยืมให้นายได้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณนะ” หลี่ฝางไม่อยากใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาความช่วยเหลือจากคนอื่น อีกอย่าง เงินที่ยืมมา สุดท้ายก็ต้องคืนอยู่ดีไม่ใช่หรือ?

โจวหยางมองความคิดของหลี่ฝางออก: “ไม่เป็นไร ไม่ต้องรียคืนครับ รอให้นายเรียนจบก่อนค่อยคืนก็ได้ครับ”

หลี่ฝางหัวเราะขมขื่น: “หัวหน้า อีกนานกว่าจะเรียนจบเลยนะ”

โจวหยางส่ายหัวอีกครั้ง แล้วกลับไปบนที่นอนของตนเอง

“ผมว่านะ หัวหน้าอย่ากังวลไปเลย ไม่ใช่ไม่รู้ว่าหลี่ฝางตอนนี้มีสถานการณ์อย่างไร นายช่วยไหวเหรอ? ” จางเสี่ยวเฟิงคนที่อายุโตกว่าทุกคนในห้องยิ้มและพูด

“ใช่ ถ้าไม่มีพวกเรา เรื่องกินของเขายังมีปัญหาเลย” เกาเสิ้งพูดด้วยความภูมิใจ

พอหลี่ฝางทำงานเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว กำลังเตรียมจะเข้านอน จางเสี่ยวเฟิงก็พูดขึ้นมา: “หลี่ฝาง อาการอยากสูบบุหรี่กำเริบอีกแล้ว นายไปซื้อให้ฉันซองหนึ่งสิ เหมือนเดิม”

สีหน้าของหลี่ฝางรู้สึกลำบากใจ: “ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วนะ ประตูมหาวิทยาลัยก็ปิดแล้ว”

“อย่าพูดมาก กูเพิ่มเงินให้นายสิบหยวน ไปไม่ไป? ” จางเสี่ยวเฟิงโยนเงินลงบนพื้น พูดด้วยความโมโห

“งั้นผมปีนกำแพงออกไปซื้อให้”

หลี่ฝางเก็บเงินบนพื้นขึ้นมา แล้วเดินออกจากหอ

“หลี่ฝางคนนี้นี่ ขอแค่ให้เงินเท่านั้น แม้แต่ขี้ก็ยอมกิน” เพิ่งเดินออกจากห้อง หลี่ฝางก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเกาเสิ้ง

“ก็นั่นสิ? ถ้าผมเป็นเขา ไปตายเสียดีกว่า จะอยู่ให้อายคนอีกทำไม” จางเสี่ยวเฟิงก็พูดเห็นด้วย

หลี่ฝางได้ยินแล้วกำมือแน่นๆ ด้วยความโมโหอย่างมาก

แต่หลังจากนั้นสักพัก หลี่ฝางก็ค่อยๆ ปล่อยวาง คนอื่นเค้าก็พูดไม่ผิดอะไรนี่ ตนเองก็เป็นแค่คนจนๆ ที่ไม่มีศักดิ์ศรีอยู่แล้ว

ปีนกำแพงไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่เปิดตลอด24ชั่วโมง หลี่ฝางซื้อบุหรี่เสร็จและเตรียมตัวจะกลับหอ มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาในซูเปอร์มาร์เก็ต

หญิงคนนี้เหลือบไปมองหน้าหลี่ฝางหนึ่งครั้ง สายตาเหมือนมีอะไรบางอย่าง ลำคอของเธอขยับ จากนั้นก็หันหน้าไปอีกข้าง แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นหลี่ฝางอย่างนั้น

ผู้หญิงคนนี้ชื่อเซี่ยลู่ เป็นเพื่อนบ้านของหลี่ฝาง ยังเป็นหนึ่งในดาวในโรงเรียนอีกด้วย

เมื่อก่อนสถานะทางบ้านของหลี่ฝางรวยมาก การเรียนก็ดี ตอนนั้นเซี่ยลู่วันๆ คอยตามหลังของเขาอยู่ทุกวัน ทั้งสองตระกูลเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ยังมีการสัญญาหมั้นให้ทั้งสองคนตั้งแต่เด็กอีกด้วย

ส่วนชายที่อยู่ข้างๆ เซี่ยลู่ คือเพื่อนนักเรียนในห้องของหลี่ฝาง ชื่อตู้เฟย เป็นลูกเศรษฐี หน้าประตูซูเปอร์มาร์เก็ตมีรถBMWจอดอยู่ นั่นก็คือรถของเขา

“เถ้าแก่ เอาถุงยางให้ผมหนึ่งกล่อง” ตู้เฟยตะโกนบอก

เซี่ยลู่หน้าแดงขึ้นมาทันที ต่อหน้าหลี่ฝางมีความรู้สึกอาย: “พี่เฟย ท้องของฉันไม่ค่อยสบายหน่อย เราเอาไว้วันหลังละกันนะ”

“วันหลังห่าอะไร เป็นเพราะนายคนนี้ใช่ไหม? ” ตู้เฟยหันหน้าไปชี้หลี่ฝางแล้วถาม

“อย่าคิดว่าผมไม่รู้เรื่องระหว่างเธอสองคนนะ แต่นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว” ตู้เฟยสีหน้าเข้มขรึม ซักถามเซี่ยลู่ตรงๆ : “ทำไม คุณยังไม่ลืมเขาเหรอ? ”

เซี่ยลู่ส่ายหัวและรีบปฏิเสธ: “หนุ่มจนๆ แบบนี้ ฉันจะลืมเขาไม่ลงได้ไง? ”

“ฉันไม่สบายท้องจริงๆ ”

“พูดแล้วก็น่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่ คงจะเป็นเพราะเจอใครบางคน ท้องถึงได้สะอิดสะเอียน” เพื่อที่จะเอาใจตู้เฟย เซี่ยลู่พูดอย่างโหดร้าย

“ฮาฮา ผมเห็นเขาแล้วก็รู้สึกอยากอ้วกเหมือนกัน”

ตู้เฟยหัวเราะดังๆ ยื่นมือไปตบหน้าหลี่ฝางหนึ่งที: “ยังไม่รีบไสหัวไปอีก ไม่ได้ยินเหรอ? ว่าแฟนฉันเห็นแกแล้วรู้สึกสะอิดสะเอียน? ”

หลี่ฝางกัดฟันแน่นๆ จ้องหน้าตู้เฟยอย่างเย็นชา

สีหน้าของตู้เฟยตะลึงสักพัก จากนั้นก็ถีบที่ท้องของหลี่ฝางอีกครั้ง: “ยังกล้าจ้องฉันอีกเหรอ? แกไม่พอใจอะไร? ”

“พี่เฟย อย่าตีอีกเลย” เซี่ยลู่เข้าไปห้าม

“ทำไม? เห็นอกเห็นใจมัน? ”

“ไม่หรอก? ฉันแค่รู้สึกว่าเราไม่ควรไปถือสาและยุ่งเกี่ยวกับคนจนๆ แบบนี้หรอก” เซี่ยลู่รีบส่ายหัว

ตู้เฟยทำเสียงฮึ่ม แล้วยื่นมือไปรับกล่องถุงยางจากเถ้าแก่ร้าน และพูดว่า: “เซี่ยลู่ คืนนี้ฉันไม่สนว่าเธอจะประจำเดือนมาหรือว่าปวดท้อง แต่ว่าเธอปลุกไฟราคะของฉัน อย่าคิดหนีนะ? ”

“หลี่ฝาง แกจำไว้ หลังจากวันนี้อยู่ห่างๆ เซี่ยลู่ไว้ ไม่อย่างนั้นเห็นนายครั้งหนึ่ง เตะครั้งหนึ่ง” ก่อนจะไป ตู้เฟยเตือนหลี่ฝางด้วยถ้อยคำที่โหดเหี้ยม

เช็ดๆ รอยเท้าบนเสื้อ หลี่ฝางปีนกำแพงกลับไปถึงหอพัก

หลี่ฝางกลับมาดึกเกิน ยังถูกจางเสี่ยวเฟิงด่าอีกชุดใหญ่

หลี่ฝางทนไม่ไหว กัดฟันและแอบร้องไห้อยู่ใต้ผ้าห่มทั้งคืน

เช้าวันถัดมาตื่นมา หมอนของหลี่ฝางยังเปียกชื้นอยู่เลย ขณะนั้น เขาสังเกตเห็นในมือถือมีสายที่ไม่ได้รับสามสิบกว่าสาย

“ทำไมเป็นสายจากต่างประเทศทั้งหมดเลย? ”

หลี่ฝางเปิดดูสักพัก สงสัยว่าเป็นพวกนักต้มตุ๋นมืออาชีพโทรมา

“ยังมีข้อความ เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 1,000,000.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,325.00 หยวน” หลี่ฝางอ่านหนึ่งรอบ คิดว่าต้องเจอพวกนักต้มตุ๋นแน่ๆ

ในตอนนี้ หลี่ฝางรีบถอนเงินในวีแชทที่ได้ออกมา

มือถือดังขึ้นตึ้ดหนึ่งเสียง หลี่ฝางรู้สึกมึนงง

“ธนาคารABC วันที่ 12 เดือน 11 ปี x เวลา 07:14 น. เลขที่บัญชีลงท้ายด้วย 911มีเงินโอนเข้าจำนวน 300.00 หยวน ยอดเงินคงเหลือ 1,000,625.00 หยวน”

ข้อความที่มีเงินโอนเข้าหนึ่งล้าน กับข้อความที่มีเงินโอนเข้าสามร้อย เลขเหมือนกัน?

ถ้าเป็นนักต้มตุ๋น เขาจะรู้ยอดเงินคงเหลือของหลี่ฝางได้ไง

นั่นก็คือ เงินหนึ่งล้านที่โอนเข้ามานี้เป็นเรื่องจริง

นึกถึงตรงนี้แล้ว หลี่ฝางรีบลุกขึ้นมาเหมือนคนบ้าและวิ่งออกจากโรงเรียน

ไปถึงตู้เอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง หลี่ฝางใส่บัตรเอทีเอ็มของตนเองเข้าไป นิ้วมือกดรหัสเอทีเอ็ม

“ผมกำลังฝันไปแน่ๆ ” เห็นมียอดเงินในบัญชีหนึ่งล้านกว่า หลี่ฝางส่ายหัว เขาไม่กล้าเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

เบอร์โทรแปลกๆ นั่นโทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้หลี่ฝางไม่ลังเลเลยสักนิด รีบรับสายโทรศัพท์นั้น

“เสี่ยวฝาง……” ในสายโทรศัพท์ทางโน้นเป็นเสียงที่คุ้นหูดังขึ้นมา

“พ่อ? ใช่พ่อ…..ใช่พ่อไหม? ” สองมือของหลี่ฝางสั่นแรงขึ้น

“ใช่ พ่อเอง ฉันกับแม่แกไม่อยู่ หลายปีมานี้แกสบายดีไหม? ต้องลำบากมากแน่ๆ ใช่ไหม? เมื่อกี้พ่อโอนเงินหนึ่งล้านเข้าบัญชีให้แล้ว ใช้ไปก่อนนะ ถ้าไม่พอพ่อจะโอนให้อีก ใช่สิ ไม่ได้เจอกันมาหลายปี แกคงคิดถึงพวกเรามากใช่ไหม? ” พ่อของหลี่ฝางถามไถ่ติดกันหลายประโยค

หลี่ฝางแน่ใจว่าเขาคือพ่อตนเองแล้ว น้ำตาก็ไหลและนั่งร้องไห้ลงกับพื้นทันที เขาพิงตู้เอทีเอ็มไว้ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์ มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

“ผม……คิดถึง…..พวกท่านจะตายอยู่แล้ว”

“ดี ดีแล้วลูก หลายปีมานี้ลำบากแกมากพอแล้ว แต่ว่าอย่าเกลียดพ่อนะ ถ้าจะเกลียด ก็ไปเกลียดปู่ของแกโน่น เขาเป็นคนวางแผน……”

หลี่ฝางพูดแทรกขึ้นมา: “เดี๋ยว ปู่ของผมตายไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ”

“ตายที่ไหน ตาเฒ่านั่น พ่อก็อยากให้ตายตั้งนานแล้ว พ่อแค่หลอกแกมาสามปี ตาเฒ่านั่นหลอกพ่อมานานสิบกว่าปี……สามปีก่อนตาเฒ่ามารับพ่อกลับบ้าน แล้วมาบอกพ่อว่าเขายังไม่ตาย ยังบอกกับพ่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด แกว่าตาเฒ่าบ้านี่ยังมีคุณธรรมอยู่รึเปล่า หลอกว่าตัวเองตายแบบนี้ยังทำออกมาได้”

“มหาเศรษฐีที่รวยที่สุด? ”

“ไอ้ลูกอกตัญญู ว่าใครตาเฒ่า เดี๋ยวตีให้ตายเลย” ในโทรศัพท์ทางนั้นมีเสียงสั่นตะโกนมา แต่เสียงในนั้น หลี่ฝางได้ยินพ่อตนเองพูดคุยอยู่: หลี่เจียเฉิน ถ้าท่านยังกล้าตีผมอีก ผมจะตัดขาดความเป็นพ่อลูกกับท่าน

หลี่เจียเฉิน? เขาเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียไม่ใช่เหรอ?

เดี๋ยว! ปู่ของผมเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุด

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท